ตอนที่ 72 ผมมีเพียงสองคำสำหรับคุณ
โดยไม่คำนึงถึงอเยชาผู้ซึ่งมีการเข้าสู่สถานะที่สับสน เจียงเฉินแปรงฟันแล้วไปนอนอย่างสบายๆบนเตียงนุ่มๆ
มันรู้สึกแตกต่างจากการนอนในคฤหาสน์
โคมระย้าที่สง่างามตกแต่งด้วยเครื่องตกแต่งและวอลล์เปเปอร์และเตียงนุ่มๆที่คุณเกือบจะจมลงไป
ในห้องนอนขนาด 10 ตารางเมตรที่เขาครอบครองอยู่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเขาจะกลิ้งไปทางไหนแล้วเขาก็จะชนกับกำแพง ต่บนเตียงขนาดมหึมานี้พลเมืองพิเศษสองคนสามารถพอดีกับมันได้อย่างง่ายดาย
เพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมที่หรูหราแล้วเขาคว้า iPhone 6 ใหม่ของเขาและคลิกที่ขาวน้อยที่น่ารักบนหน้าจอเพื่อเปิดวีแชท
เอาจริงๆแล้วเมื่อเป็นหน้าจอแนวนอนแล้วเขาจะสลับฟังก์ชันหน้าจอแบบเดิม
บางทีนี่อาจเป็นเรื่องที่ขาดของฟิวเจอร์ 1.0? ผู้คนสามารถดาวน์โหลดแอป 53 เมกะไบต์เพื่อความอยากรู้ แต่เมื่อความตื่นเต้นเริ่มต้นเย็นลงแล้วคนจะค้นพบความไม่สะดวกของคำสั่ง ตัวอย่างเช่นการพูดกับตัวเองในที่สาธารณะอาจเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจและเล่นกับโทรศัพท์ในชั้นเรียนก็ยาก
ตูยองคองไม่ได้อยู่ในยุคนี้ โปรแกรมที่เขาออกแบบอาจสมบูรณ์แบบแต่มันไม่ตรงกับวันและอายุนี้ เจียงเฉินพลาดจุดนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามีขอบด้านเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอแต่เขาลืมว่าซอฟต์แวร์ใดๆก็ตามต้องถูกรวมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ประสบความสำเร็จ Minecraft เป็นตัวอย่างที่ดีในการที่ว่าแม้เกมนี้จะมีรูปแบบภาพที่เรียบง่ายแต่ความสามารถในการเล่นก็เทียบเคียงได้กับเกม Triple-A มากที่สุด
มันเป็นความโชคดีที่ขาวน้อยจัดการเพื่อให้พอดีกับความต้องการอื่นโดยบังเอิญ
เพื่อนที่ไม่เคยทรยศคุณ อยู่เคียงข้างคุณเสมอเพื่อปลอบโยนและกระตุ้นคุณให้ใช้คอมพิวเตอร์ของคุณอยู่เสมอ
ในฐานะที่เป็นสัตว์เลี้ยงไฟฟ้า ขาวน้อยจะตอบสนองด้วยความสนใจอย่างเต็มที่ต่อสิ่งที่ได้พูดกับมัน ความลับใดๆก็ตามสามารถแชร์กับมันได้โดยไม่ต้องกังวลและในโลกของเทคโนโลยีนี้ที่คนเติมโตห่างๆกันเป็นภาระตามแรงกดดันของชีวิต พวกเขามักจะขาดผู้ฟัง
ถ้าเขาไม่รู้ว่าปัญญาประดิษฐ์ขาดอารมณ์ที่แท้จริงโดยมันตอบโต้ด้วยปฏิกิริยาตามฐานข้อมูลแล้วเจียงเฉินยินดีที่จะพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กนี้
แต่เนื่องจากเขารู้ความลับเบื้องลึกแล้วมันทำให้รู้สึกแปลกๆกับการพูดคุยกับสัตว์ที่ไม่มีชีวิต
มันยังรู้สึกอยากคุยจริงๆกับมนุษย์
ในขณะที่เขากำลังจะคุยกับหลิวเย้า โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
เบอร์ที่ไม่รู้จัก? มันก็ดึกแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นการตลาดทางโทรศัพท์อีกครั้ง
แต่เนื่องจากเขาไม่มีอะไรดีไปกว่านี้เขาจึงรับสายอย่างเฉื่อยชา
“สวัดดี นี่คือใครครับ?” เขาลุกขึ้นนั่งเพื่อเปลี่ยนเป็นตำแหน่งที่สะดวกสบายมากขึ้น
หลังจากเงียบสักครู่แล้วมีเสียงส่งมาจากด้านหนึ่งของผู้โทร
“…มันคือฉันเอง คุณยังจำฉันได้มั้ย?” เสียงขี้อายทำให้เจียงเฉินหยุดลงชั่วคราว
[ทำไมเสียงนี้จึงดูคุ้นเคย? มันคือใคร?]
ฝางหยวนหยวนหายใจลึกๆเพื่อพยายามทำให้ตัวเองดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เธอได้ลบเบอร์โทรของเจียงเฉินมาเป็นเวลานานแล้วแต่เมื่อรู้ว่าชายที่ยากจนที่พยายามจะเดทกับเธอได้กลายเป็นคนร่ำรวยและหล่อเหลาแม้กระทั่งอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ร้อยล้าน ฝางหยวนหยวนไม่สามารถนั่งรอบๆได้อีกต่อไป
ความเย่อหยิ่งของเสียวเมิงอิงทำให้เธอรู้สึกรังเกียจและอิจฉา
เมื่อใดก็ตามที่เธอคิดเกี่ยวกับเสียวเมิงอิง เธอจะกลายเป็นโกรธ โบนัสสองล้านหลุดออกจากมือของเธอไปอย่างนั้น! ผู้จัดการทั่วไปได้ยกย่องเธอหลายครั้งสำหรับยอดขายที่น่าประทับใจในที่ประชุมยอมรับ
[มันควรจะเป็นของฉัน...]
ความเป็นศัตรูของฝางหยวนหยวนทำให้เธอลืมไปว่าเธอคือคนที่ผลักดันเขาออกไป
มันไม่สายเกินไป จากคำพูดของเสียวเมิงอิง เธอสามารถบอกได้ว่ายัยผู้หญิงโสเภณีไม่สามารถ “กิน” เจียนเฉินได้อย่างสมบูรณ์ ตระหนักว่าเธอยังคงมีโอกาสแล้วเธอใช้ความพยายามทั้งหมดของเธอเพื่อให้ได้เบอร์โทรเจียงเฉินจากเพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัย
เธอยังเขียนบทไว้ด้วย
เธอวางแผนที่จะใช้การ์ดที่มีความสุขเพื่อเอาชนะความเห็นอกเห็นใจ จากนั้นเธอก็จะบอกใบ้ในสถานะโสดของเธอและทั้งหมดเป็นเพราะเขา...
รอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอขณะที่ฝางหยวนหยวนอดทนรอเจียงเฉินให้ติดเหยื่อ
“อืมมม ขอโทษนะ คุณเป็นใคร?”
คำพูดที่มาจากโทรศัพท์ทำให้เธอหงุดหงิดแล้วทำให้เธอสาปแช่งความโง่ของเจียงเฉิน เธอปรับความคิดของเธอเพื่อให้เสียงฟังดูราวกับว่าเธอถูกทำร้าย
“นี่ นี่คือฝางหยวนหยวน...คุณลืมฉันแล้วหรือยัง?”
[ฝางหยวนหยวน?] เจียงเฉินขมวดคิ้ว [ทำไมเธอถึงโทรมาหาฉัน? ฉันไม่ได้ทำให้เธออายเพียงพอหรือ?]
เขาต้องการที่จะวางสายทันทีจากความรำคาญแต่แล้วแสยะยิ้มเกิดขึ้นในความคิดของเขา
หลังจากใช้เวลากับซันเจียวมากเกินไปแล้วเขาก็กลายเป็นคนชั่วด้วยเช่นกัน
“โอ้ ฝางหยวนหวน มีอะไรหรอ?” เจียงเฉินตอบอย่างไม่เป็นทางการ
การใช้เสียงอ่อนโยนจะมีผลดีที่สุดและเขามั่นใจว่าเขามีทักษะการแสดงในการดึงมันออกมา แต่เขาไม่ต้องการเสียความพยายามมากเกินไปในผู้หญิงเลวชาเขียวนี้ เขาเพียงแค่ต้องการสนุก
“อืมม คุณกำลังนอนหลับอยู่หรือปล่าว?” ฝางหยวนหยวนได้ยินการตอบสนองของเจียงเฉินและไม่สามารถช่วยได้แต่รู้สึกยินดี
เธอรู้สึกได้ถึงโอกาส แต่แทนที่จะตัดตรงไปยังจุด เธอถามอย่างถี่ถ้วนว่าเจียงเฉินหลับอยู่หรือปล่าว
“ยังไม่ได้หลับ มีอะไรที่คุณต้องการไหม? ผมกำลังจะนอน” เสียงของเขาขาดความขุ่นมัวใดๆที่เขารู้สึก
“ครั้งสุดท้าย...ขอโทษ” ฝางหยวนหยวนกล่าวอย่างนุ่มนวล
“โอ้? คุณหมายถึงอะไร?” เจียงเฉินตอบ
“ครั้งสุดท้ายที่คุณมาซื้อบ้าน มันเป็นความผิดของฉันสำหรับการเข้าใจผิดคุณ” ฝางหยวนหยวนกล่าวอย่างสำนึกผิด
ขอโทษ? เจียงเฉินไม่มั่นใจอีกต่อไป
ถ้าเธออยากจะขอโทษสำหรับการกระทำของเธอก็ไม่มีอะไรที่เขาไม่สามารถยกโทษให้ได้เนื่องจากไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะเริ่มต้นด้วยแต่เมื่อเจียงเฉินกำลังจะแสดงความเข้าใจของเขาแล้วฝางหยวนหยวนพูดต่อ
“คุณรู้มั้ย? วินาทีที่คุณปรากฏตัวขึ้น หัวใจของฉันเต้นเร็วมาก...”
ประโยคนี้เกือบจะทำให้เจียงเฉินกลัวจนโยนโทรศัพท์ทิ้ง
[เหี้ยอะไรเนี้ย? คุณกำลังพยายามจะแสดงอะไร? ละครเกาหลี? ewww!]
เขาต่อต้านการกระตุ้นที่จะอ้วกแล้วบังคับให้ตัวเองไม่วางสายและแทนที่จะฟังเพื่อประโยชน์ในการได้ยินเรื่องราวทั้งหมด
“ฉันกลัวว่าคุณไม่ได้ลืมเกี่ยวกับฉัน คุณยังจำได้ไหม? เมื่อฉันปฏิเสธคุณแล้วคุณเสียใจมาก ฉันแอบดูคุณอยู่แล้วฉันรู้สึกเป็นทุกข์เช่นกันแต่ในขณะนั้น ฉันไม่สามรถอยู่กับคุณได้” ฝางหยวนหยวนควบคุมเสียงของเธอให้เศร้าขระที่เธอบอกเรื่องราว “ใสๆ”
“ฉันจริงๆอยากบอกคุณว่าตกลงแต่พ่อของฉันจะไม่ปล่อยให้ฉันเพราะเขาต้องการให้ฉันแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนที่สัญญากันไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย ฉันเคยรู้สึกไม่พอใจกับความคิดนี้และในตอนท้ายฉันก็ตระหนักว่าคนในใจของฉันคือ...”
“มันเป็นฉัน ใช่ไหม?” เจียงเฉินเยาะเย้ย
เขาทนไม่ได้อีกต่อไป
ทำไมเธอถึงต้องหาข้ออ้างที่จะเป็นผู้หญิงเลว? ถ้าเธอตรงไปตรงมาและยอมรับมันแล้วเจียงเฉินก็คงไม่รู้สึกถึงความรังเกียจนี้
“ใช่...” ฝางหยวนหยวนรู้สึกว่างเปล่า ปฏิกิริยาของเจียงเฉินไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดไว้ เสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ถูกปิดอยู่
“ไม่ใช่บทไม่ดี ถ้าคุณเพิ่มเสียงร้องไห้แล้วบางทีมันอาจจะตรงกับละครเกาหลีระดับสาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจ ใครบางคนไร้ยางอายอย่างมากได้อย่างไร?”
ใบหน้าของฝางหยวนหยวนกลายเป็นขี้เถ้า
“ตอนนี้ผมมีเงินแล้วคุณรู้สึกเสียใจกับการติดสินใจของคุณและอยากกลายเป็นนักขุดทอง ดึงเรื่องโง่ๆนี้ออกเถอะ คุณคิดว่าจริงๆแล้วผมจะหลงกลเรื่องนี้เหรอ?” เจียงเฉินเคร่งขรึมจ้องที่เพดานขณะที่เขาพูดอย่างไร้อารมณ์ในโทรศัพท์
“คุณคิดว่าฉันเพียงต้องการเงินของคุณ?” เสียงเกือบจะกระซิบกระซาบ
[มันไม่ใช่?] เจียงเฉินหัวเราะออกมา
“คุณปฏิเสธผม ผมไม่ตำหนิคุณ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดตกลงหรือขอโทษ ผมเพียงโทษตัวเองว่าเป็นคนไร้ความสามารถ ตาบอดจนมองไม่เห็นความจริง คุณใช้ผมเมื่อคุณต้องการผมและคุณไม่สนใจผมเมื่อคุณไม่ต้องการ ผมคิดว่าผมชอบคุณแต่ผมไร้เดียงสาเกินไป”
รอยยิ้มที่เยาะเย้ยโค้งขึ้นบนใบหน้าของเจียงเฉิน เขาจำได้ว่าในปีแรกเขาวิ่งผ่านฝนมาหลายกิโลเมตรเพื่อให้ร่มแก่เธอเพราะคิดว่ารอยยิ้มหวานของเธอมันคุ้มค่า
ความเป็นจริงก็คือทุกอย่างได้รับการแสดง
เพื่อนที่ดีที่สุดของเขาจากชั้นเดียวกันบอกกับเขาว่าฝางหยวนหยวนมีแฟนสองคนอยู่ระหว่างปีกแรกและปีสองแม้กระทั่งการทำแท้งเพื่อคนรวยและหล่อเหลา ทุกอย่างซ่อนตัวอยู่ห่างจากเจียงเฉินในขณะที่เพื่อนของเขาไม่ได้มีหัวใจที่จะบอกเขาเพราะกลัวที่จะทำลายมิตรภาพของพวกเขา แต่หลังจากที่ได้เห็นความเศร้าโศกของเจียงเฉินหลังจากที่เขาถูกปฏิเสธ ความจริงก็ถูกเปิดเผยออกมา
เจียงเฉินจำได้ว่าเขาเริ่มหัวเราะเมื่อเขาได้ยินมัน
ในขณะนั้นมันไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอีกต่อไป
ใครจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากหญิงเลวมาก่อน?
“และตอนนี้คุณยังคาดหวังว่าให้ผมยอมรับคุณ? เพื่อดูแลคุณอย่างที่ผมเคยทำมาก่อน? ผมมีเพียงแค่สองคำพูดสำหรับคุณ โง่เง่า!” เจียงเฉินวางสายอย่างรุนแรง
ความเศร้าโศกโยนลงบนใบหน้าของฝางหยวนหยวนขณะที่เธอกัดริมฝีปากของเธอถึงจุดที่เปลี่ยนเป็นสีขาว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอับอายอย่างท่วมท้น
[นี่เป็นคนโง่คนเดิมใช่มั้ย? เป็นไปไมได้ เขาปฏิเสธฉันแล้วทำให้ฉันอับอาย]
ความเกลียดชัง ความอับอายและไม่ทำให้เสียใจใดๆอีกต่อไป
อารมณ์เชิงลบเริ่มครอบงำจิตสำนึกของเธอราวกับว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเจียงเฉิน เธอเลือกไม่สนใจการกระทำที่น่ารังเกียจของเธอในอดีตและวิธีที่ร้ายกาจที่เธอทำในอสังหาริมทรัพย์หว่านฮั่ว
ความคิดบ้าเกิดขึ้นกับเธอ
นิ้วของฝางหยวนหยวนสั่นขณะที่เธอเปิดรายชื่อผู้ติดต่อและพบชื่อที่ทำให้เธอสั่นเพียงแค่มองไปที่มัน
อาจเป็นปิศาจลบจิตสำนึกของเธอ เธอตัดสินใจแล้วโทรหาเบอร์นั้น
“โอ้ สาวสวย คุณคิดถึงผมเหรอ?” น้ำเสียงทำให้ฝางหยวนหวนหงุดหงิดแต่เธอไม่สามารถแสดงความรังเกียจต่อผู้ชายคนนี้ได้
“คิดผิดๆ ฉันมีอะไรบางอย่างจะบอกคุณ ฉันมีเพื่อนที่ทำเงินบางอย่างได้...ไม่ ไม่ เขาสะอาดไม่มีพื้นหลังใดๆ ฉันรู้จักชายคนนี้ เขาเพียงแค่โชคดี”
ฝางหยวนหยวนใช้เสียงยั่วที่แม้เธอจะรังเกียจ เมื่อได้ยินคำยืนยันที่อีกด้านแล้วรอยยิ้มบานปรากฏบนใบหน้าของเธอ
หลังจากยกย่องเล็กน้อยแล้วฝางหยวนหยวนวางสายและโยนโทรศัพท์ออกไปไกลๆ ราวกับว่าเธอได้ระบายโดยโทรศัพย์แล้วเธอก็เอียงตัวติดกับโต๊ะที่เย็น
หลิวชีเชียงเป็นลูกชายของหัวหน้าแก๊งฮงอี้ในเมืองหวังไห่และยังเป็นเจ้าชายของแก๊งบังคับให้เธอเล่นกับคนห้าคน
รอยยิ้มฉีกขาดหลุดลุ่ยใบหน้าของฝางหยวนหยวนแล้วอย่างรวดเร็วบิดเป็นความชั่วร้าย
“เจียงเฉิน คุณเป็นหมูที่น่ารังเกียจ ฉันต้องการเห็นเงินทั้งหมดของคุณถูกกินไปโดยแก๊ง”