ตอนที่ 68 – ไอดอล?
กรีนมองไปรอบๆจนสังเกตุเห็นลอร่า “สวัสดี ตระกูลมาร์กี้ นายท่านต้องการที่จะพบกับคุณ” เขาเรียกเจ่าไห่ว่านายท่านเหมือนกับผู้ติดตามนักเวทย์คนอื่นๆที่ให้ความเคารพแก่นักเวทย์เพราะเขานั้นกำลังปลอมตัวอยู่
ลอร่านั้นเข้าใจสิ่งที่กรีนพูด แต่เธอนั้นก็ยังคงลังเล ตอนนี้เธอนั้นถือสมบัติที่มีค่าอย่างมาก ถ้าอีกฝ่ายต้องการมันล่ะก็ การจะไปกับกรีนนั้นมันไม่อันตรายเกินไปเช่นนั้นหรือ
กรีนนั้นเป็นคนที่มีประสบการณ์ ซึ่งเมื่อเห็นลอร่านั้นลังเลจึงเข้าใจและไม่โทษเธอในเรื่องนี้
แม้ว่าลอร่านั้นไม่ได้เตรียมตัวที่จะพบกับเจ่าไห่ แต่อีกฝ่ายก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตพวกเธอไว้ อย่างน้อยเธอก็ต้องแสดงการขอบคุณ จากนั้นลอร่าก็กระโดดลงจากรถม้าก่อนจะเดินไปหากรีนและโค้งคำนับ “ท่านนับรบ โปรดรับขอบคุณจาก ฉัน ลอร่า มาร์กี์ ข้าไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พบท่านนักเวทย์ที่ยิ่งใหญ่หรือไม่”
แม้ว่าลอร่านั้นจะพูดอย่างสุภาพ แต่ความหมายของเธอนั้นชัดเจนว่า ถ้าคุณต้องการจะพบฉัน คุณก็ต้องออกมาพบกับฉัน
กรีนมองลอร่าก่อนจะพยักหน้า เขานั้นคิดพวกเขาควรจะออกมาหาลอร่า แม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่รู้ว่าทำไมกองทัพอมตระถึงโจมตีพวกเธอ แต่นี้ก็เป็นโอกาสที่ดีจะสร้างสายสัมพันธ์กับลอร่าและตระกูลบูดา
ในอกของเอเลี่ยน เจ่าไห่,เมอร์ริน และเม็กที่ยืนรอกรีนอยู๋นั้น เจ่าไห่เดิมนั้นต้องการจะออกไปพบกับลอร่า แต่กรีนนั้นคิดว่ามันจะเป็นการลดเกียรติของนักเวทย์ จึงให้เจ่าไห่นั้นรอข้างในจนกว่าเขาจะกลับเข้าไป เมื่อกรีนกลับเข้ามา “นายน้อยครับ ข้างนอกนั้นคือลอร่าที่ซึ่งจัดว่าเป็นคนมีพรสวรรค์มากในตระกูลมาร์กี้ เมื่อคุณออกไปพบกับเธอ แล้วโดนถามเรื่องเกี่ยวกับกองทัพอมตะ ให้ตอบไปว่าพวกเราขับไล่พวกมันไปแล้ว ไม่ต้องพูดว่าพวกเขากลายเป็นพวกของเราไปแล้วนะครับ”
เจ่าไห่พยักหน้า “ไม่ต้องเป็นห่วงปู่กรีน ผมรู้ว่าจะต้องพูดยังไง” จากนั้นเขาก็เดินตามกรีนออกไปพร้อมกับเม็ก โดยให้เมอร์รินอยู่ข้างใน
ลอร่านั้นรู้สึกกังวล เธอนั้นไม่รู้ว่าท่านนักเวทย์นั้นจะให้คำตอบเธออย่างไรแม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าการพูดเช่นนั้นเป็นการหลบหลู่ก็ตาม แต่เธอก็ไม่อาจจะเสี่ยงกับสมบัติที่เธอมีอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม เธอรู้ดีว่านักเวทย์มนตร์ดำนั้นจะมีนิสัยที่ประหลาด ซึ่งเธอไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกระทบอย่างไร ถ้าหากว่านักเวทย์มนตร์ดำนั้นคิดจะจัดการกับเธอแล้วล่ะก็ เธอก็เกรงว่าวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเธอ ตอนนี้ในหัวของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเสียใจ ด้วยกำลังของเธอในตอนนี้นั้นไม่สามารถที่จะปกป้องเนโครออร์ปได้หากนักเวทย์มนตร์ดำต้องการมัน
ในขณะที่เธอนั้นตกอยู่ในห่วงความคิด และทันใดนั้นลอร่าก็เห็นคนสามคนเดินออกมาจากปากของอันเดต หนึ่งในนั้นเป็นนักเวทย์มนตร์ดำ แม้ว่าร่างกายของนักเวทย์นั้นจะไม่สูงมาก แต่เขาก็สวมเสื้อคลุมสีดำและถือไม้เท้าเวทย์
ด้วยประสบการณ์ทำธุรกิจของล่อร่า เธอสามารถบอกได้เลยว่าเสื้อคลุมและไม้เท้าเวทย์นั้นเป็นของราคาถูก แต่ด้วยอารมณ์ของนักเวทย์แล้วทำให้ลอร่านั้นมองข้ามสองสิ่งนี้ไปอย่างไรก็ตามลอร่านั้นรู้สึกประหลาดเพราะว่านักเวทย์คนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับคนธรรมดาซึ่งมันช่างขัดแย้งกันมาก
แต่ในขณะนั้นเองลอร่าก็สังเกตบางอย่าง นั้นก็คือนักเวทย์มนตร์ดำนี้นั้นสวมเสื้อคลุมทั้งตัว แต่เธอก็ยังเห็นมือที่จับไม้เท้าเวทย์ได้ เมื่อเธอเห็นมือแล้ว เธอก็ตกใจอย่างมาก เพราะมือนั้นยังไม่แก่และไม่มีรอยย่นเลย แต่มันเป็นมือของชายหนุ่มที่ขาวและละเอียดอ่อนอย่างมาก
ถ้ามือนี้สะท้อนถึงอายุของนักเวทย์แล้ว เธอก็สามารถบอกได้เลยว่าเขานั้นอายุยังไม่ถึงสามสิบปี
นักเวทย์มนตร์ดำขั้นสูงที่อายุไม่ถึงสามสิบปี นี้มันบ้าอะไรกันนี้? นี้เท่ากับว่าเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปและมีอนาคต สำหรับตระกูลใหญ่ๆแล้ว คนพวกนี้จะช่วยให้ตระกูลนั้นเติบโตได้อย่างมาก
แต่ด้วยการที่ลอร่านั้นทำธุรกิจมาหลายปี ทำให้เมื่อเธอนั้นเจอเหตุการณ์ที่ตกใจเช่นนี้แล้ว แต่เธอก็สามารถที่จะรวมสติกลับเป็นเหมือนเดิมได้
ต่างจากลอร่า ที่เจ่าไห่นั้นกำลังตื่นเต้นอย่างมาก เหตุผลก็เพราะว่าหน้าตาของลอร่า
แม้ว่าลอร่านั้นจะเป็นคนที่สวย แต่อย่างไรก็ตามเขาจะเคยเห็นคนที่สวยมามากมายที่โลกซึ่งสิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นนั้นก็เพราะหน้าตาของลอร่านั้นเหมือนกับคน คนหนึ่ง ชีวิตอดีตนั้นเขาเป็นเด็กเนิร์ดที่ชอบฟังเพลงด้วย แม้ว่าเพลงที่ฟังส่วนมากจะเป็นเพลงจีนและ เขาเองก็เคยฟังเพลงต่างชาติ
แต่ชื่อหนึ่งที่เขาจำได้ดีเลยคือ เทย์เลอร์ สวิฟต์
เทย์เลอร์ สวิฟต์นั้นเป็นนักรอ้งเพลงคันทรี่ ซึ่งตอนที่เจ่าไห่มีอายุเกือบครบยี่สิบปี ในตอนนั้นเทย์เลอร์ สวิฟต์มีอายุครบยี่สิบปี ด้วยหน้าตาที่ดูหวานและการร้องเพลงที่น่าสนใจ เขาก็ตกหลุมรักเธอ จนตั้งหน้าเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์เป็นรูปของเธอ
ซึ่งลอร่านั้นก็มีหน้าตาที่คล้ายกับเทย์เลอร์มาก ไม่ว่าจะเป็นส่วนสูงหรือผมสีบลอนด์ก็ตามซึ่งเรียกได้ว่าเกือบจะเป็นคนๆเดียวกัน แต่จะต่างกันตรงที่ลอร่านั้นได้ฝึกวรยุทธทำให้เธอนั้นน่าดึงดูด ตราบที่ชายใดมองเธอแล้ว พวกเขาก็อยากที่จะครอบครองเธอ
การได้พบกับไอดอลของเขายืนอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าเจ่าไห่ก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดาแม้ว่าเขานั้นจะรู้ว่าคนๆนี้นั้นไม่ใช่เทย์เลอร์ก็ตาม
โชคดีที่เขานั้นสวมเสื้อคลุมนักเวทย์จนปิดบังใบหน้าของเขา เพราะถ้าลอร่านั้นเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเจ่าไห่แล้ว มันคงทำลายความประทับใจของเธอที่มีต่อเขา
ลอร่าหายใจเข้าก่อนจะโค้งคำนับกับเจ่าไห่ “เรียนท่านนักเวทย์ ดิฉันขอขอบคุณที่ท่านได้ช่วยเหลือพวกเรา ได้โปรดยอมรับคำขอบคุณด้วยความจริงใจที่สุดของดิฉันด้วย”
เจ่าไห่นั้นดึงสติกลับมาได้หลังจากที่หายใจเข้า ต่อหน้าไอดอลเช่นนั้น เขาไม่ควรที่จะบ้าแต่ควรมีสติมากกว่าเดิม นอกจากนี้แล้วเขาก็รู้ดีว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่เทย์เลอร์แต่เป็นลอร่า
“คุณลอร่าให้เกียรติเกินไปแล้ว พวกเรานั้นแค่ผ่านมาและพบกับกองโจรที่ฉาวโฉ่นั้น แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่สามารถจัดการมันได้ แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหนีไป” เจ่าไห่กล่าวขึ้นมา
ลอร่านั้นรู้สึกตกใจ เธอนั้นเห็นกรีนนั้นแบกบางอย่างสีดำไปที่หลังเนินเขา แต่เธอก็ไม่คิดว่านั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอมตะ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว กองทัพอมตะก็คงถูกกำจัดไปแล้ว และลอร่านั้นยังยืนยันสันนิษฐานของเธอว่านักเวทย์มนตร์ดำนี้ยังมีอายุไม่มาก เนื่องจากเสียงที่ออกมา
ลอร่ายิ้มให้เจ่าไห่ “ท่านไม่ต้องเสียใจกับเรื่องนี้ ฉันจะไม่ยอมให้กองทัพอมตะนั้นมาบ้าคลั่งกับทวีปนี้อีกตอนนี้พวกเขาถึงเวลาที่จะได้สำนึก เพราะพวกคุณช่วยพวกเราต่อสู้กับคนเหล่านั้น ฉันกลัวว่ามันจะสร้างความลำบากให้แก่พวกท่าน แต่โปรดอย่าได้กังวล หลังจากที่ฉันกลับไปยังตระกูลแล้ว พวกเขาจะส่งทีมออกมากำจัดกองทัพอมตะอย่างแน่นอน โปรดวางใจเรื่องนี้ได้”
เจ่าไห่หัวเราะเล็กน้อย “คุณลอร่าช่างเป็นคนใจดีจริง กลุ่มทหารรับจ้างนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของข้า ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้”
เมื่อได้ยินเจ่าไห่พูดเช่นนั้น เธอก็ทำได้เพียงแค่พยักหน้า ถ้าเป็นคนอื่นพูดเธอก็คงจะไม่เชื่อ แต่มันเป็นเพราะเจ่าไห่ เธอจึงเชื่อคำพูดนี้ เธอเห็นแล้ว่าเจ่าไห่นั้นแข็งแกร่งแค่ไหนไม่เพียงแค่มีนักรบระดับแปดเท่านั้น แต่เขาสามารถเรียกอันเดตพวกนี้ได้อีก
กรีนมองไปบนท้องฟ้าและหันไปเจ่าไห่ “นายท่าน พวกเราสายแล้ว เกรงว่าพวกเราต้องรีบแล้ว”
เจ่าไห่รู้ว่ากรีนนั้นหมายถึงอะไร เพราะครั้งนี้พวกเขาแค่ต้องการจะพบกับตระกูลมาร์กี้ จึงทำให้พวกเขานั้นไม่ต้องการให้คนอื่นคิดว่าเขานั้นขู่ตระกูลมาร์กี้เรื่องผลตอบแทน
เมื่อเห็นเจ่าไห่กำลังจะจากไป ลอร่าก็พูดขึ้นมาว่า “เรียนท่านนักเวทย์ พวกเราเตรียมจะตั้งแคมป์กันที่นี้วันนี้ หากคุณไม่ว่าอะไร โปรดอยู่กับพวกเราด้วย ฉันอยากจะเชิญทานมารับประทานอาหารเพื่อแสดงการขอบคุณ”
เจ่าไห่ส่ายหัว “คุณลอร่านั้นเป็นคนที่แน่วแน่ แต่ข้าคิดว่าพวกเราคงมีโอกาสได้พบกันอีกในอนาคต” เมื่อพูดจบเขาก็เดินเข้าไปในตัวของอันเดต
ลอร่านั้นรีบที่จะก้าวออกไปและดึงเสื้อคลุมของเจ่าไห่ “ท่านนักเวทย์โปรดรอสักครู่” เมื่อเธอนั้นคว้าเจ่าไห่ เธอนั้นเหมือนตกอยู่ในภาพลวงตาเพราะเธอนั้นสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่สดชื่นจากเจ่าไห่