ตอนที่ 100 – บุก
ตอนนี้พวกเขานั้นรู้เรื่องวิธีการแก้ปัญหาน้ำแห่งความว่างเปล่าแล้ว พวกเขาจึงมีความสุข
จากนั้นกรีนก็ถามขึ้นมา “นายน้อยครับ ถ้าจะให้ Lv ของมิตินั้นเพิ่มขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้ พวกเราจำเป็นต้องหาพืชชนิดพิเศษใช่ไหมครับ?”
เจ่าไห่พยักหน้า “ดูเหมือนว่านั้นจะเป็นวิธีที่ทำให้ Lv นั้นเพิ่มเร็วที่สุดเท่าที่ผมรู้ ครั้งก่อนหน้านี้ ปู่กรีนได้นำพืชชนิดต่างๆเข้ามามากมายจนทำให้มิติ Lv เพิ่มขึ้นถึงระดับสิบ ซึ่งมันรวมของทั่วไปด้วย แต่การจะเพิ่มให้ Lv ให้สูงขึ้นนั้น ผมเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย”
สีหน้าของกรีนก็เครียดขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “พวกเราควรจะเน้นการพัฒนาของมิติมากกว่าเรื่องใดๆ การทำให้มิตินั้นมี Lv เพิ่มขึ้นถึงระดับ 20 คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้”
เมอร์รินพยักหน้ากับสิ่งที่กรีนพูด เดิมนั้นพวกเขาพยายามที่จะเพิ่ม Lv มิติเพื่อช่วยหาเงินให้ตระกูลบูดา แต่ครั้งนี้นั้นต่างออกไป เมื่อมิตินั้นแข็งแกร่งขึ้น มันสามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาร่างกายของเจ่าไห่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการหาทางรักษาผลของน้ำแห่งความว่างเปล่าได้
เจ่าไห่นั้นไม่ได้พูดอะไร เพราะจากที่เขาเห็นนั้น เจ่าไห่รู้ว่าทุกคนนั้นคิดเรื่องอะไร สำหรับคนเหล่านี้แล้ว ความปลอดภัยของเขานั้นสำคัญที่สุด ซึ่งเขาเองก็ไม่คัดค้านอะไร เขาเองก็อยากที่จะกำจัดผลของน้ำแห่งความว่างเปล่าออกไปจากร่างกายให้เร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะมีโอกาสในการเรียนเวทย์มนตร์และวรยุทธ
ชีวิตในอดีตนั้นเขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับนวนิยายบนเว็บไซต์ซึ่งเกือบจะทุกคนนั้นก็ฝันว่าจะได้เรียนวรยุทธที่แข็งแกร่งหรือไม่ก็เวทย์มนตร์ที่น่าทึ่ง พวกเขาฝันว่าจะได้ข้ามไปยังโลกลึกลับและได้ความสามารถที่ตื่นตาตื่นใจ
แม้ว่าเจ่าไห่นั้นจะข้ามมาที่โลกแห่งนี้ แต่ร่างกายของเขาก็ได้ดื่มน้ำแห่งความว่างเปล่าไป ดังนั้นจึงทำให้เขาไม่สามารถที่จะเรียนวรยุทธและเวทย์มนตร์ได้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย และรู้สึกเสียใจกับตัวเอง แต่ตอนนี้เขาก็พบหนทางที่จะแก้ปัญหาแล้ว แน่นอนว่าเจ่าไห่ก็รู้สึกดีใจ
เวลาผ่านไปกว่าสองชั่วโมง อารมณ์ของทุกคนก็สงบนิ่งลง แม้ว่าจะมีความตื่นเต้นอยู่บ้าง
แต่ตอนนี้ภาพบนหน้าจอก็จางลงแล้ว การ์รันยังติดตะเกียงเวทย์มนตร์และยังคงคุยกับคนในเต็นท์อยู่ ในขณะที่ทหารรับจ้างก็กำลังปรุงอาหารกันอยู่
เมื่อมองสิ่งที่ทหารรับจ้างนี้กำลังทำ เมอร์รินก็จำได้ว่านี้ถึงเวลาทำอาหารของเธอแล้ว ดังนั้นเดธจึงออกไปทำอาหร ส่วนเม็กก็ไปเตรียมอาหารให้พวกทาส
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว เจ่าไห่ก็ส่งชิฟนั้นออกไปจากมิติพร้อมกับไม้เท้าผี และบอกให้เขานั้นหาพวกนักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่
ชิฟนั้นเคลื่อนที่ไปรอบๆหุบเขา โชคดีที่เขานั้นเป็นอันเดตทำให้ด้วยตานั้นทำจากวิญญาณเพลิงซึ่งความมืดไม่มีผลกับเขา เขาจึงสามารถมองทางรอบๆตัวได้ ไม่เพียงแค่นั้น แต่ความมืดนั้นก็เป็นประโยชน์แก่เขามา
จากนั้นพวกนักฆ่าก็ปรากฎขึ้นบนหน้าจอขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นถูกฝึกมาให้ป้องกันเป็นคู่ๆ และเมื่อรวมพวกเขากันทั้งหมดก็จะได้เครือข่ายการป้องกันค่ายขนาดใหญ่ ถ้าหากมีใครลอบเข้ามาในค่าย พวกเขาก็จะถูกพบ
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถที่จะระบุตำแหน่งของนักฆ่าทั้งหมดได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงและตอนนี้พวกทหารรับจ้างก็เริ่มหลับกันแล้ว แม้แต่การ์รันและแฝดภูติหินผาก็พักผ่อนกันแล้ว มีเพียงแค่นักรบขั้นสูงทั้งสามคนที่ยังนั่งนิ่งๆอยู่
เมื่อมองทั้งสามคน สีหน้าก็กรีนก็เครียดขึ้นมา เขารู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่แข็งแกร่งและยังเชี่ยวชาญการสังหารอย่างมาก ซึ่งคนเหล่านี้คือคนที่รับมือได้ยากที่สุด
เมื่อเห็นว่าในค่ายนั้นสงบนิ่งแล้ว เจ่าไห่ก็หันไปหากรีนและพูดว่า “ปู่กรีน พวกเราควรจะพักผ่อนกันก่อน พววกเราจะไม่ลงมือจนกว่าจะถึงเที่ยงคืน เมื่อพวกเขาหลับสนิทแล้ว นั้นคือโอกาสที่เหมาะสมที่สุด”
เมื่อมองดูค่ายทหารแล้ว กรีนก็พยักหน้า “ครับ ผมจะพักผ่อนก่อนนะครับ”
จากนั้นพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนก่อนที่เจ่าไห่จะเรียกชิฟและบอกเขาให้เฝ้าดูหน้าจอไว้ เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้น หรือถึงเวลาเที่ยงคืนแล้วเขายังไม่ตื่น ก็ให้เรียกทันที จากนั้นเจ่าไห่ก็กลับไปในห้องของเขา
เจ่าไห่เอนตัวลงบนเตียงแต่เขาก็ยังนอนไม่หลับ วันนี้มิติสร้างความประหลาดใจให้แก่เขาเขานั้นมีความหวังที่จะได้เรียนเวทย์มนตร์และวรยุทธซึ่งทำให้เจ่าไห่ตื่นเต้น ในขณะที่อยู่บนเตียง เขานั้นพลิกตัวไปมาจนกระทั่งเขาเผลอหลับไป
เจ่าไห่นั้นหลับและตื่นขึ้นเมื่อมีเสียงแจ้งเตือนว่าหัวไชเท้านั้นโตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว เมื่อมองเวลาแล้ว มันยังไม่สายเกินเวลาที่วางไว้ เขาจึงลุกออกจากเตียงและทำการเก็บเกี่ยวผลผลิต ก่อนจะกลับมาที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งตอนนี้ก็เวลา 11.00 P.M. แล้ว
กรีนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับจ้องหน้าจอ แม้ว่ามันจะเริ่มมืดแล้ว แต่พวกเขาก็ยังเห็นสถานการณ์ภายในค่ายอยู่ ด้วยความสามารถของหน้าจอ ซึ่งแม้ว่าข้างนอกจะมืดขนาดไหน พวกเขาก็สามารถที่จะมองเห็นทุกอย่างในเส้นผ่าศูนย์กลางห้าร้อยเมตร
เมื่อกรีนเห็นเจ่าไห่ก็เข้ามาทัก “นายน้อยครับ นี้ก็ดึกมากแล้ว ผมคนว่านี้เป็นเวลาที่จะลงมือได้แล้ว”
เจ่าไห่พยักหน้า เขาหันไปมองรอบๆซึ่งกำลังรอคำสั่งของเขาอยู่ “ชิฟ เจ้าออกไปข้างนอกแล้วบุกเข้าไปในเต็นท์นักเวทย์ จำไว้ว่าเป้าหมายของเจ้าคือการ์รัน เจ้าไม่ต้องสนใจคนอื่นๆ”
ชิฟทำความเคารพจากนั้นเจ่าไห่ก็หันไปหานักเวทย์มนตร์ดำคนอื่นๆ “สเกล และบริกซ์ พวกเจ้าพาอันเดตห้าร้อยตนไปจัดการพวกนักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่ อย่าปล่อยให้หนีไปได้” จากนั้นสเกลและบริกซ์ก็ทำความเคารพ
เจ่าไห่หันไปหากรีน “ปู่กรีน ศัตรูที่เหลือในค่ายนั้นผมจะให้คุณเป็นคนจัดการ”
กรีนพยักหน้า “อันเดตและนักเวทย์มนตร์ดำคนอื่นๆ ควรใช้พวกเขาจัดการกับภูติหินผาด้วยการโจมตีพลังจิต น่าจะจัดการพวกเขาได้ไม่ยาก ส่วนนักรบขั้นสูงทั้งสามก็ให้เมอร์รินจัดการ สำหรับคุณ นายน้อย คุณควรจะรอที่นี้ไม่ออกไปจากมิติ”
เจ่าไห่นั้นไม่คัดค้านเรื่องนี้ เขานั้นมีอายุจิตใจมากว่าสามสิบปี จึงไม่ใช่คนที่หุนหันพลันแล่นเหมือนคนหนุ่มๆ เขารู้ดีว่าถ้าออกไปข้างนอกมิติ เขาอาจจะถูกฆ่าได้
เมื่อกรีนเห็นเจ่าไห่ตกลง เขาก็รู้สึกโล่งใจ เขานั้นกลัวว่าเจ่าไห่ต้องการที่จะเข้าต่อสู้ด้วยกรีนจึงหันไปหาบล๊อกและร๊อคพร้อมกับเม็ก และพูดว่า “พวกเจ้าทั้งสามก็ไปต่อสู้ด้วย ถ้าหากพวกเจ้าต้องการที่จะเป็นนักเวทย์หรือนักรบที่แข็งแกร่ง การต่อสู้คนสิ่งที่จะยกระดับของเจ้าได้ คืนนี้คือโอกาสที่ดี แต่พวกเจ้าจะต้องระมัดระวังตัว”
พวกเขาทั้งสามพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน
หลังจากพูดจบ กรีนก็หันไปหาเจ่าไห่ “นายน้อย พวกเราพร้อมแล้ว”
เจ่าไห่พยักหน้า ก่อนที่จะส่งชิฟออกไป หลังจากนั้นเขาก็ส่งกรีนและคนอื่นตามไปรวมถึงกองทัพอันเดตของเขาตามจุดต่างที่เขากำหนดไว้
มันเป็นความสามารถอย่างหนึ่งที่เจ่าไห่ค้นพบ ซึ่งตราบใดที่อยู่ในรัศมีการตรวจสอบของมิติ เขาสามารถที่จะส่งคนออกไปที่จุดไหนก็ได้ตามที่เขาต้องการ ซึ่งทำให้แผนการโจมตีของเขานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ชิฟปรากฎตัวขึ้นในค่ายและล่องหนเข้าไป มีเพียงเจ่าไห่ที่มองเห็นเขาเพราะจุดแดงนั้นปรากฎขึ้นบนหน้าจอ ล่องหนนั้นไม่ใช่ความสามารถทางเวทย์มนตร์ แต่เป็นการฝึกพิเศษของพวกนักฆ่า
แม้ว่าล่องหนนั้นจะเหมือนกับเวทย์มนตร์ แต่โดยทั่วไปแล้วสำหรับนักเวทย์และนักรบระดับสูง พวกเขาไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะแม้ว่าจะล่องหนร่ายกายของตัวเองได้ พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเข้าใกล้นักเวทย์หรอืนักรบระดับสูงได้ เพราะว่าเขาสามารถที่จะสัมผัสกับเวทย์มนตร์หรือพลังฉีได้
แต่ถ้าเป็นนักฆ่าที่สามารลบการหายใจได้ เมื่อถึงระดับนั้นแล้วก็เป็นการยากสำหรับนักรบและนักเวทย์ระดับสูง
ชิฟนั้นลงมือทันที่โดยบุกเข้าไปในเต็นท์นักเวทย์ แต่เมื่อเข้าไปก็มีแสงสีขาวเปล่งออกมาเหมือนกับระเบิด