ตอนที่ 65 – ลอร่า
นี้คือยุทธวิถีการโจมตีของกองทัพอมตะ นั้นคือสังหารชาวบ้านแล้วเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นอันเดตเพื่อใช้โจมตีเป้าหมายของพวกเขา แม้ว่ามันจะเป็นอันเดตระดับต่ำ แต่พลังการโจมตีของพวกมันก็ไม่ด้อยเลย เพราะพวกมันไม่กลัวตายและไม่รู้สึกเจ็บ จึงไม่มีใครกล้าจะต่อกรกับคู่ต่อสู้เช่นนี้
ในทวีปนั้น ตระกูลมาร์กี้จัดได้ว่ามีเชื่อเสียงเพราะอำนาจของพวกเขา โดยปกติแล้วจึงไม่มีใครกล้าที่จะโจมตีขบวนสินค้าของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขานั้นหละหลวมกับการป้องกัน และส่งคนมาปกป้องขบวนสินค้านี้น้อยกว่าปกติ
ซึ่งครั้งนี้ตระกูลมาร์กี้นั้นส่งคนมาที่ป้อมมอนเตเนโกเพื่อทำการแลกเปลี่ยนอย่างลับๆกับบุคคลปริศนา ซึ่งการแลกเปลี่ยนที่ว่าคือเนโครออร์ป
เนโครออร์ปนั้นถูกค้นพบโดยโจรที่เข้าไปขโมยของในสุสานโบราณ มันเป็นลูกแก้วที่มีพลังวิญญาณคนตายมหาศาล ซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนอันเดตธรรมดาให้กลายเป็นอันเดตระดับกลางหรือระดับสูงได้
ตระกูลมาร์กี้นั้นชอบที่สะสมสมบัติเช่นนี้ไว้ในกำมือตระกูลของพวกเขา แต่ว่าชายปริศนานี้พร้อมที่จะยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อลูกแก้วชิ้นนี้ ตระกูลมาร์กี้นั้นไม่มีทางเลือกนอกจากตอบตกลงไป พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะทำการแลกเปลี่ยนกันที่ป้อมปราการมอนเตเนโกซึ่งเป็นสถานที่ไม่ค่อยมีใครให้สนใจ และไม่คิดว่าจะมีการแลกเปลี่ยนสมบัติกันที่นี้
พวกเขานั้นไม่รู้ว่าข่าวเช่นนี้รั่วไปถึงหูของกองทัพอมตระได้อย่างไร เพราะความสำคัญของเนโครออร์ปนั้นไม่มีใครรู้ดีไปกว่ากองทัพอมตะอย่างแน่นอน
ตระกูลมาร์กี้นั้นไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าจะไปทำการแลกเปลี่ยนบางอย่างที่ป้อมปราการมอนเตเนโก้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ส่งคนมาปกป้องมากนักและทำให้เหมือนว่าเป็นเพียงแค่ขบวนสินค้าธรรมดา ซึ่งพวกเขาเองก็ปล่อยข้อมูลการแลกเปลี่ยนนี้ที่อื่นแทน ซึ่งทำให้พวกเขานั้นรู้สึกปลอดภัยจนกระทั่งถูกกองทัพอมตะโจมตี
ไม่เพียงแค่นักเวทย์มนตร์ดำทั้งแปดของกองทัพอมตะจะสั่งให้กองทัพอันเดตเข้าโจมตีแล้ว พวกเขายังใช้เวทย์มนตร์ดำโจมตีขบวนสินค้าของตระกูลมาร์กี้ด้วย ซึ่งทำให้พวกเขานั้นถูกกดดันอย่างหนัก
แน่นอนว่าตระกูลมาร์กี้เองก็ไม่ส่งทหารรับจ้างทั่วไปมาปกป้องเนโครออร์ปเช่นกัน แต่พวกเขานั้นส่งกองกำลังระดับสูง แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่อาจต่อกรกับอันเดตที่มากมายขนาดนี้พร้อมกับการโจมตีจากเวทย์มนตร์ดำจากกองทัพอมตะด้วย ซึ่งทำให้พวกเขานั้นตกอยู่ในวิกฤต
ลอร่าที่กำลังยืนอยู่บนรถม้า ซึ่งมือของเธอนั้นถือกล่องไม้ไว้ กล่องไม้นี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เพราะมีขนาดเพียงแค่ 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร์และไม่ได้มีน้ำหนักมากจึงทำให้เธอนั้นถือไว้ได้อย่างสบายๆ
ลอร่า มาร์กี้ซึ่งเป็นรู้สาวคนที่สองของนักเวทย์เควิน มาร์กี้ ซึ่งเมื่ออายุได้40ปี นักเวทย์ชราคนนี้ก็อยู่ในระดับที่ 6 แม้ว่าความเร็วในการฝึกฝนของเขานั้นจะไม่ช้า แต่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเร็ว เขานั้นชอบที่จะศึกษาเรื่องเวทย์มนตร์มากกว่าเรื่องธุรกิจ ซึ่งตระกูลมาร์กี้นั้นมีเชื่อเสียงในเรื่องของการธุรกิจในทวีป ซึ่งพวกเขานั้นไม่เคยที่จะให้ความสนใจในการฝึกเวทย์มนตร์หรือวรยุทธ และมุ่งเน้นในเรื่องของการธุรกิจเป็นหลัก ซึ่งทำให้ตระกูลนั้นรู้สึกอับอายในตัวของเควิน
อย่างไรก็ตาม เควินนั้นมีลูกสาวที่น่ารักชื่อว่าลอร่า ลอร่านั้นมีอายุเพียงแค่ 17 ปีแต่เธอนั้นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะของทวีป ซึ่งเธอนั้นไม่เพียงแค่เป็นอัจฉริยะทางด้านการต่อสู้แล้ว ยังเชี่ยวชาญในเรื่องของธุรกิจด้วย นอกจากนี้แล้วเธอเองก็ไม่ได้เรียนแค่เรื่องของการวรยุทธทั่วไป แต่ยังรวมถึงทักษะของอัศวิน ซึ่งยากกว่าทักษะการต่อสู้ทั่วไปแล้วมีเงื่อนไขที่สูงกว่า
ลอร่านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่นักรบระดับที่ 6 ธรรมดาแต่เธอนั้นเชี่ยวชาญการใช้หอก ,โล่ยักษ์ ,การยิงธนูบนม้า ,มีดพร้าและอาวุธอื่นๆ ทำให้เธอนั้นแข็งแกร่งมากซึ่งคุณไม่สามารถที่จะบอกได้เมื่อมองจากหน้าตาของเธอ
ด้วยสีผิวที่ขาวดุจหิมะ และผมลอนสีทองพร้อมกับดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ด้วยภูมิหลังของครอบครัวที่มีชื่อเสียงและความสามารถทางวรยุทธ ทำให้เธอได้รับการยกย่องจากชายหลายๆคน
แต่สิ่งที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดคือความอัจฉริยะทางธุรกิจของเธอ ตั้งแต่เด็กๆนั้นเธอก็สามารถที่จะช่วยพ่อของเธอในการจัดการเรื่องธุรกิจบางอย่างได้แล้ว
ด้วยความอัจฉริยะเช่นนี้ ทำให้หลายคนนั้นอิจฉาเพราะเธอนั้นดีเกินไป ซึ่งแน่นอนว่าหากใครบางคนนั้นดีกว่าคุณ คุณยอมรู้สึกอิจฉาในตัวคนนั้น แต่หากว่าเขานั้นดีเกินกว่าที่คุณจะมีความสามารถไปถึงได้นั้น คุณก็จะไม่รู้สึกอิจฉาไปเอง
ในตระกูลมาร์กี้นั้น ทายาทของตระกูลจะดูแลธุรกิจต่างๆในคนละส่วนกัน ซึ่งหัวหน้าตระกูลนั้นนั้นต้องการที่จะบริหารจัดการธุรกิจให้ดีที่สุดเพื่อกำไรสูงที่สุด ทุกคนรู้ดีว่าเควินนั้นไม่มีความสามารถทางธุรกิจ ดังนั้นเขาจึงไม่จัดว่าเควินนั้นอยู่ในการแข่งขัน แต่เมื่อลอร่าเข้ามาช่วยเหลือเควินในการดูแลธุรกิจแล้ว กำไรแต่ละปีก็ค่อยๆเพื่อขึ้น และตอนนี้เองมันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าทายาทคนอื่นๆเลย
หุ้นของเควินในตระกูลนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตการปกครองตระกูลเพอร์เซลล์ จึงทำให้การแลกเปลี่ยนนี้อยู่ในความรับผิดชอบของเควิน ซึ่งแน่นอนว่าลอร่าจะเป็นคนปิดข้อตกลง
ลอร่านั้นไม่เคยรู้ว่าก่อนเลยว่าทุกอย่างจะต้องสูญเปล่าเมื่อพบกับกองทัพอมตะ แต่เธอนั้นรู้ดีว่าครั้งนี้นั้นน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ
แม้ว่าลอร่าจะเป็นนักรบระดับที่ 6 แต่เธอนั้นไม่รู้ต่อสู้จริงๆเลยซักครั้ง แม้ว่าเธอจะแข็งแกร่ง แต่เธอนั้นก็อาจจะต่อสู้ได้ไม่ดีเท่ากับทหารรับจ้างทั่วไป
นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังโดนล้อมด้วยอันเดต จนทำให้เธอนั้นไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย
นี้เป็นครั้งแรกที่ลอร่านั้นรู้สึกหมดหวัง ความตายกำลังคืบคลานเข้ามา เธอกัดริมฝึปากของเธอจนเลือกซึม แต่แล้วความหวังสุดท้ายก็แตกสลายเมื่อข้างหลังกองทัพอันเดตนั้นมีกลุ่มอันเดตจำนวนมากปรากฎตัวขึ้นมา อันเดตพวกนี้มีขนาดใหญ่และลำตัวเต็มไปด้วยสีเขียวแปลกๆ
ใบหน้าของลอร่าซีดเผือก เธอรู้ดีว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่เธอนั้นไม่ยอมแพ้และไฟแห่งการต่อสู้กับลุกโชนขึ้นมา
ในความสิ้นหวังนั้น ผู้คนจะมีปฏิกิริยาอยู่สองอย่าง คือการแตกสลายจนไม่มีเรียวแรงจะลุกขึ้นต่อสู้ หรือเปลี่ยนมันเป็นความโกรธที่จะต่อสู้ทุกอย่างที่เข้ามาแม้ว่าพวกเขาจะต้องตายก็ตาม ซึ่งลอร่านั้นเป็นอย่างหลัง
ลอร่าพร้อมที่จะสู้จนตัวตาย
แต่ทันใดนั้นเธอก็พบว่าอันเดตที่ปรากฎตัวขึ้นมาใหม่นั้น กำลังโจมตีอันเดตที่ล้อมพวกเธอไว้ ไม่เพียงแค่ลอร่า แต่ทุกคนในขบวนสินค้าก็ตกตะลึงจนพวกเขานั้นไร้การตอบสนองใดๆ และคิดว่ามีการต่อสู้กันระหว่างกองทัพอมตะอย่างงั้นเหรอ?
แต่ลอร่าไม่ได้คิดเช่นนั้น เธอฉลาดพอที่จะเห็นว่าอันเดตใหม่นั้นไม่ใช่ประเภทเดียวกัน ไม่เหมือนกับอันเดตมนุษย์ที่ล้อมพวกเขา แต่อันเดตที่ปรากฎตัวนั้นเหมือนกับสัตว์อสูรมากกว่า และนอกจากนี้แล้ว สัตว์อสูรพวกนั้นยังมีพลังรบที่แข็งแกร่ง และร่างกายที่มีกระดูกสีเขียวซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันมีพิษที่ไม่อาจจะล้อเล่นกับพวกมันได้
อันเดตสีเขียวนั้นหลั่งไหลเข้ามากว่าพันตัว โชคร้ายที่อันเดตกว่าครึ่งนั้นล้อมพวกเขาไว้แต่ลอร่าก็มองไปรอบๆเพราะเธอนั้นเชื่อว่าคนที่อัญเชิญอันเดตกลุ่มนี้นั้นมาเพื่อช่วยพวกเขา
ลอร่าสังเกตรอบๆจนเห็นคนสี่คนนั้นกำลังขี่อันเดตอยู่ ซึ่งสองคนกำลังยืน โดยที่คนหนึ่งนั้นสวมเกราะรบเต็มอัตรา ส่วนอีกคนนั้นสวมชุดนักเวทย์ ส่วนอีกสองคนก็นั่งอยู่บนหลังอันเดตซึ่งมีทางทีธรรมชาติ ซึ่งคนที่นักนั้นสวมชุดนักเวทย์มนตร์ดำและอีกคนที่อยู่ข้างๆก็สวมชุดสาวใช้
ทันใดนั้นก็มีแสงสีดำพุ่งเข้าหาทั้งสี่คน สีหน้าของลอร่าก็เปลี่ยนไป เธอรู้ดีว่ากองทัพอมตะนั้นโจมตีใส่คนทั้งสี่ ซึ่งเธอก็ตะโกนออกไปว่า “ระวัง!” แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตระหนักเลยว่าพวกเขานั้นอยู่ห่างกันจนทั้งสองนั้นไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเธอ