ตอนที่แล้วตอนที่ 35 – บุกโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 37 – เดินทางสู่มิติฟาร์ม

ตอนที่ 36 – กองทัพสัตว์อสูร


เจ่าไห่นั้นรู้ดีว่าทาสพวกนี้นั้นไม่เคยได้ไปโรงเรียนแน่ๆ แต่พวกเขาก็สามารถทำตามคำสั่งของเขาได้อย่างรวดเร็วเป็นสองแถว ซึ่งมันไม่ต่างกันเลยกับช่วงชีวิตอดีตของเขาในโรงเรียน

พวกทาสนั้นสามารถจัดแถวได้อย่างรวดเร็วจนทำเขานั้นงงงวยเลยทีเดียว พวกทาสนั้นจะถูกฝึกให้เข้าแถวกันตั้งแต่เด็กจนแทบเรียกได้ว่าเป็นสัญชาตญาณของพวกเขา เพราะโดยปกติแล้วเมื่อพวกทาสจะออกไปทำงานหรือกลับที่พัก พวกเขาจะต้องเข้าแถวเพื่อนับจำนวน ซึ่งมันเป็นวิธีในการป้องกันทาสหลบหนี

แต่เจ่าไห่นั้นไม่รู้เรื่องนี้จึงทำให้เขานั้นงงงวยกับความเร็วนี้จนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่ไม่นานเขาก็ได้สติ และสั่งให้พวกเขานับจำนวน

เมื่อเจ่าไห่เปล่งเสียงสั่งออกมา พวกทาสก็นับจำนวนกันอย่างรวดเร็วและจบลงที่จำนวน 35 โดยที่เป็นทาสหญิง 34 คน และหลินซึ่งเป็นทาสชายอีก 1 คน

เจ่าไห่พยักหน้า ก่อนจะประกาศว่า “ข้าได้รับข้อความจากภูเขาว่าตอนนี้มีซอมบี้สัตว์อสูรจำนวนมากนั้นได้เคลื่อนที่ออกมาจากบึงซากศพ ซึ่งข้าคิดว่าพวกมันน่าจะตกมายังปราสาทนี้ และอาจจะมีการปะทะกัน ดังนั้นข้าจะให้พวกเจ้านั้นอยู่ที่นี้

พวกทาสหญิงนั้นก็แสดงสีหน้าถึงความหวาดกลัว เพราะหากเป็นกองทัพของมนุษย์แล้วล่ะก็ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเช่นนี้ ตราบเท่าที่พวกเขานั้นไม่ขัดขืนอะไร พวกทาสก็จะไม่ถูกสังหารเพราะทหารสามารถนำพวกเขาไปขายได้ ดังนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วพวกทาสนั้นจะปลอดภัย

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นถูกโจมตีโดยซอมบี้สัตว์อสูร ในสายตาของพวกมันแล้วจะทาสหรือขุนนางก็ไม่ต่างกัน เพราะทุกคนล้วนเป็นอาหารของมัน

จากนั้นก็มีทาสกลุ่มหนึ่งกลับเข้ามาในปราสาทซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เดซี่ เจ่าไห่ก็สั่งให้พวกเขานับจำนวนซึ่ง เมื่อนับจำนวนทาสหญิงทั้งหมดแล้วได้ 50 คน ตอนนี้ทาสหญิงทุกคนนั้นกลับมาแล้ว

แม้ว่าเดซี่กลับทาสหญิงนั้นกลับมาแล้ว แต่เม็กก็ยังอยู่ข้างนอกช่วยบล๊อคอพยพคนอยู่

แม้ว่าจะกระวนกระวายใจแต่เจ่าไห่ก็ไม่ออกไปจากปราสาท เพราะเขารู้ดีว่ามันจะสร้างปัญหาให้เมอร์รินมากกว่าเดิมดังนั้นการรออยู่ที่นี้นั้นเป็นการตัดสินใจที่ดีกว่า

แต่ก้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้ เขาหันไปหาเดซี่ “เดซี่ ข้าจะให้เจ้ารับผิดชอบดูแลทาสพวกนี้” อย่าให้พวกเขานั้นเดินเพ่นพ่าน“จากนั้นเขาก็กำชับพวกทาส”ข้าจะไปเอาของบางอย่าง พวกเจ้าจงทำตามคำสั่งของเดซี่ อย่าวิ่งเพ่นพ่าน”

เจ่าไห่นั้นเดินทางไปในปราสาทและลงไปยังห้องเก็บของใต้ดิน ซึ่งกรีนใช้เก็บเสบียงและสิ่งของต่างๆ เขานั้นทำการเก็บเสบียงต่างๆเข้าไปในมิติเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากพวกซอมบี้สัตว์อสูร

ที่ห้องใต้ดินนั้นใหญ่มาก เจ่าไห่จึงต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการเก็บสิ่งของก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปยังห้องเรียน ซึ่งมีหนังสืออยู่

กรีนนั้นนำหนังสือเหล่านี้เพื่อพัฒนาพวกทาส ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมเขาต้องนำหนังสือเรื่องเวทย์มนตร์และวรยุทธมาด้วยละ หนังสือเหล่านี้มีความสำคัญมากเพราะมันเป็นกุญแจที่จะทำให้เจ่าไห่นั้นเขาใจเรื่องราวของโลกใบนี้มากขึ้น และยังสามารถพัฒนาคนของตระกูลบูดาได้อีกด้วย

เมื่อเขาไปถึงห้องเรียน เขาก็เก็บทุกอย่างเข้าไปในมิติแม้กระทั่งเก้าอี้ เพราะโรงนาในมิตินั้นสามารถเก็บของได้ไม่จำกัดชนิดและจำนวนชิ้น

เมื่อเจ่าไห่นั้นเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ซึ่งเสียงนั้นคือเสียงของเมอร์ริน เจ่าไห่จึงรีบวิ่งลงมาชั้นล่าง เมอร์รินกลับมาแล้วคนอื่นๆล่ะ

เมื่อคนในปราสาท เจ่าไห่ก็โล่งอกก่อนจะถามเมอร์รินว่า “เมอร์ริน ทาสทุกคนกลับมาแล้วใช่ไหม?”

เมอร์รินพยักหน้า “ทุกคนกลับมาแล้ว ตอนนี้พวกเราปิดประตูปราสาทแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่ามันจะสามารถหยุดสัตว์อสูรพวกนี้ได้หรือไม่ นายน้อยคุณควรที่จะกลับเข้าไปในมิติของคุณ”

เจ่าไห่ส่ายหัว “ไม่จำเป็น ยายเมอร์ริน ไปที่กำแพงปราสาทเพื่อดูสถานการณ์กันก่อน ผมนั้นไม่เคยเห็นซอมบี้สัตว์อสูรมาก่อนเลย”

เมอร์รินมองอย่างกังวล “นายน้อย ฉันว่ามันอันตรายเกินไป คุณวางแผนจะทำอะไรกันแน่?”

“ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่อยากจะรู้ว่าซอมบี้สัตว์อสูรที่มานั้นมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ ถ้าหากมีจำนวนไม่มาก พวกเราน่าจะสามารถป้องกันมันได้”

เมอร์รินนั้นรู้สึกประหลาดใจ แต่เธอก็ไม่พูดอะไรออกมา มันก็จริงอย่างที่เจ่าไห่พูด ถ้าหากว่าซอมบี้สัตว์อสูรที่ออกมานั้นมีจำนวนไม่มาก เธอมั่นใจว่าเธอนั้นสามารถที่จะสู้กับมันได้

เจ่าไห่เรียกเดซี่กับแอนมาหา “เจ้าสองคนดูแลพวกทาสไว้ อย่าปล่อยให้พวกเขาเดินเพ่นพ่าน” จากนั้นเจ่าไห่กับเมอร์รินไปยังกำแพงปราสาท ในขณะที่บล๊อค ร๊อคและเม็กก็เดินตามไป เจ่าไห่นั้นรู้ดีว่าเขานั้นไม่สามารถห้ามพวกเขาไม่ให้ตามมาได้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาคงจะห้ามเจ่าไห่ไม่ให้ไปยังกำแพงปราสาท

เมอร์รินนั้นตกใจมากเมื่อพวกเขานั้นไปถึงกำแพงปราสาทเพราะพวกเขานั้นเห็นว่าสัตว์อสูรนั้นเดินทางมาถึงตีนเขาแล้ว ซึ่งเธอไม่เคยคิดเลยว่าซอมบี้สัตว์อสูรนั้นจะเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนี้

กลุ่มแนวหน้าของมันนั้นเหมือนกับหนู แต่มันมีขนาดตัวสูงหนึ่งเมตร ยาวสามเมตร มีขนสีเขียวอ่อนและหางที่ยาว

ซึ่งหลังกลุ่มนั้นก็เป็นกองทัพงูขนาดใหญ่

ซึ่งมีงูจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งใหญ่และเล็ก บางตัวสีเขียวบางตัวสีแดงและบางตัวสีสันสวยงาม ซึ่งตัวที่สีสันสวยงามนั้นใหญ่ที่สุด ซึ่งดูเหมือนว่างานนี้พวกมันจะไม่ได้มาเล่นๆ

เพราะหลังจากกองทัพงูนี้แล้วยังมีแมลงขนิดต่างๆอีกมากมาย ทั้งที่มีขนาดใหญ่และแมงมุมขนาดเกือบสองเมตร แน่นอนว่ายังมีแมลงตัวเล็กๆซึ่งเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วด้วย

ส่วนแมลงที่มีสีสันสวยงามนั้นก็ดูเหมือนว่าจะมีพิษร้ายแรง เมื่อเห็นเช่นนั้นหัวใจของเจ่าไห่ก็แทบจะหยุดนิ่ง แค่จำนวนงูก็ยากจะรับมือแล้ว แต่พวกแมลงนั้นกลับมีจำนวนมากกว่าพวกงูอีก

และตอนนี้ทัพหน้าคือพวกหนูนั้นได้เดินทางมาถึงปราสาทแล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าพวกมันนั้นสามารถว่ายน้ำผ่านคูน้ำได้ และน้ำพวกนั้นก็กลายเป็นสีเขียวทันที

ในที่สุดเจ่าไห่ก็รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่มีปลาในคูน้ำเลยแม้แต่น้อย ก็เพราะพวกหนูนี้ปล่อยพิษลงในน้ำนั้นเอง

เมอร์รินเดินไปหาเจ่าไห่ “นายน้อย พวกเราควรจะกลับกันได้แล้ว มันมีสัตว์อสูรจำนวนมากเกินกว่าที่จะรับมือได้แล้ว”

เจ่าไห่พยักหน้าและมองไปยังกองทัพสัตว์อสูรที่อยู่ข้างนอกนั้น ซึ่งมีแม้กระทั่งจระเข้ที่มีสีสันสวยงามและเกิดจากโครงกระดูก

มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่มีขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาจากอะไร แต่กระดูกเคลื่อนย้ายได้และอื่น ๆ อีกมากมายของพวกเขาได้อย่างช้า ๆ ลงมาจากเนินเขา

“นายน้อยไปกันเถอะค่ะ” จากนั้นเมอร์รินก็พาเจ่าไห่ออกไป

แต่แล้วทันใดนั้นฟ้าก็มืดลง ด้วยความสงสัยเจ่าไห่จึงมองไปยังบนฟ้าและเห็นสัตว์อสูรจำนวนมากกำลังบินอยู่เหนือหัวเขา บางส่วนนั้นเป็นแมลงที่บินได้ แต่บางส่วนก็เป็นสัตว์อสูรประเภทนกบินอยู่สูง ดูเหมือนว่าปราสาทแห่งนี้จะไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้เลย

“เร็วเข้า กองทัพสัตว์อสูรมาแล้ว พวกเราต้องกลับเข้าไปในปราสาทปกป้องพวกทาส ไม่อย่างนั้นจะสายเกินไป” เจ่าไห่ตะโกนสั่ง

เมื่อเมอร์รินเห็นสัตว์อสูรพวกนั้น เธอก็ตะโกนทันทีว่า “บล๊อค รีบกลับไปข้างในปราสาทเร็ว และปกป้องพวกทาสด้วย”

บล๊อคพยักหน้า ทันใดนั้นตัวเขาก็ถูกปกคลุมด้วยออร่าสีเหลือง จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่ปราสาทด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติหลายเท่า ส่วนร๊อคนั้นแบกเจ่าไห่และวิ่งกลับไปยังปราสาทเช่นกัน แม้ว่าร๊อคนั้นจะเคลื่อนที่ไปอย่างรดวเร็วแต่เจ่าไห่ก็ไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกมากนักเพราะเขาเคลื่อนที่ไปอย่างนิ่มนวล

จากนั้นก็มีออร่าฟ้าปกคลุมตัวเมอร์ริน จากนั้นเธอก็วิ่งตามร๊อคมาซึ่งความเร็วของเธอนั้นก็ไม่ต่างจากร๊อคเลยแม้แต่น้อย ไม่ต้องพูดถึงเม็ก เธอนั้นกลายเป็นแสงสีฟ้าพุ่งทะยานนำหน้าร๊อคไป

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด