ตอนที่แล้วตอนที่ 2 งานแต่งงานและหมาป่าตาเดียวในตำนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 สมดุลของภายในและภายนอก

ตอนที่ 3 โลกที่น่าตื่นเต้น


หวัง เทียนเหล่ย กระโดดไปตรงหน้าโจว ฮัว ด้วยมีดคมที่ออกมาจากที่ไหนสักที่ และเผชิญหน้ากับหมาป่าตาเดียว

ในเวลานั้น แขกทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นเยาว์ที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ก็ได้คว้าอาวุธของพวกเขาเพื่อต่อสู้กับหมาป่าตาเดียว พวกเขาทั้งหมดคือนักล่าที่มีประสบการณ์และทักษะอันน่าอัศจรรย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หมาป่าตาเดียวมิอาจเมินเฉยได้

หมาป่าตาเดียวงอสองขาหลังมันลงเล็กน้อยและย่อร่างกายมันลง ทันใดนั้น มันก็ร้องคำถามและพุ่งทะยานไปทางหวัง เทียนเหล่ยราวกับลูกศร หวัง เทียน เหล่ย ไม่ได้แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาและป้องกันมันด้วยดาบในมือเขา

ทันทีทันใด หนึ่งหมาป่าและหนึ่งบุรุษก็ได้พัวพันกัน

หวัง เทียนเหล่ยได้สะบัดดาบของเขาไปทางหมาป่า ชิบะน้อยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าแสงสีแดงเข้มมันสั่นระริกอยู่รอบใบดาบหนา

นี่คืออะไร?พลังลมปราณ?

ฉากการต่อสู้ดูค่อนข้างลำบาก แม้ว่าจำนวนของฝูงชนจะโอบล้อมพวกเขามากขึ้น แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปช่วยหวัง เทียนเหล่ย เพราะการต่อสู้มันรุนแรงเกินไป

ทีละนิด ผู้คนสามารถได้ยินเสียงคำรามมาจากเงาสีดำ(หมาป่าตาเดียว)และเสียงกู่ร้องจากประกายสีแดง(หวัง เทียนเหล่ยในชุดแต่งงาน) ความเร็วและความแข็งแกร่งของพวกเขามันน่าเกรงขามจนมิมีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงได้

อย่างไรก็ตาม มันก็ทำให้ผู้คนมีโอกาสที่จะหยิบฉวยอาวุธขึ้นมา เมื่อนักล่ารุ่นเยาว์ทั้งหมดกลับมา พวกเขาก็ดึงคันธนูด้วยพลังอันมหาศาล และเล็งไปยังหมาป่าเพื่อรอโอกาส

การต่อสู้มันกินเวลาประมาณ15นาที ทันใดนั้น ทั้งสองก็แยกออกจากกัน

หวัง เทียนเหล่ย ได้กระโดดถอยมาแต่ก็ยังคงอยู่ด้านหน้าโจว ฮัว เพื่อปกป้องเธอ แม้ว่าชุดแต่งงานสีแดงของเขาจะขาดรุ่ย และกระดูกเขาจะสามารถมองเห็นได้ผ่านบาดแผลเหวอะก็ตาม เขายังคงตั้งท่าป้องกัน ขณะที่จับกุมดาบเอาไว้ มันยากที่จะแยกระหว่างเลือดกับชุดแต่งงานสีแดง ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าเขาเสียเลือดไปมากแค่ไหน

เมื่อทั้งสองแยกออกจากัน นักล่ารุ่นเยาว์ก็ใช้โอกาสนี้และยิงตรงไปทางหมาป่าตาเดียว

 

“หวืด หวืด!”ลูกศรหลายสิบดอกตรงดิ่งไปยังสัตว์ป่า

“ปึก ปึก ปึก!”

ทุกคนต่างประหลาดใจ ลูกศรนับสิบมิอาจทำร้ายหมาป่าตาเดียวได้ พวกมันล้วนถูกดีดกลับด้วยเสียงดัง

จากนั้นมันก็หอนราวกับอัสนีบาตได้ฟาดผ่าลงมา หมาป่าตาเดียวได้เหยียดตัวเล็กน้อย ทำให้ผู้คนถอยหนีด้วยความกลัว ด้วยขนาดตัวที่ราวกับเสือ มันได้กระโจนไปในภูเขาและหายไปในชั่วพริบตา

หวัง เทียนเหล่ย ใบหน้าซีดเซียวและมองไปยังทิศทางที่หมาป่าไปด้วยความตกใจ และพึมพำ“มันหาได้ยากที่จะเห็นสัตว์ป่าเหล่านี้ที่จะมีกระดูกและเส้นเอ็นที่แข็งราวกับเหล็กกล้า”

มันผ่านไปสักพักจนกระทั่งฝูงชนได้วิ่งมาหาเขาเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บ และมันก็โกลาหลไปทั่วหมู่บ้าน

แน่นอน ชิบะน้อยได้ถูกผลักดันออกไปนอกวงด้วยผู้ใหญ่

มีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาของข้า?ไม่มีทาง ข้าเห็นมันด้วยดวงตาของข้าหลายต่อหลายครั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันมีแสงกระพริบอยู่บนใบดาบเขาและเขาสามารถกระโดดได้ไกลหลายเมตร ไม่มีทางที่ข้าจะมองมันผิด ข้าสงสัยว่านี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะ

หลังจากที่พบเจอฉากสยองขวัญดังกล่าว ชิบะน้อยกลับรู้สึกตื่นเต้นมากกว่ากังวล เพราะเขาได้พบว่าโลกใบใหม่นั้นไม่น่าเบื่ออย่างที่เขาเคยคิด บางที มันอาจจะเป็นโลกของผู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อู้ ราวกับในนิยายที่เขาเคยอ่านมาก่อน

หากมันเป็นจริง มันก็มีโอกาสที่เขาจะเป็นอมตะ

หากไม่ได้เป็นอมตะ มันก็มีคนบอกว่าเหล่าคนที่มีพลังภายในจะสามารถมีชีวิตยืนยาวได้นานหลายร้อยปี “บางที ข้าอาจจะเป็นหนึ่งในพวกเขา”ชิบะน้อยคิด

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ มันไม่มีใครที่สนใจเกี่ยวกับความคิดของเด็กอายุ3ขวบ ความสนใจของผู้คนล้วนถูกดึงดูดโดยหวัง เทียนเหล่ย

มันควรจะเป็นงานแต่งงานที่รื่นเริงและมีความสุข แต่มันกลับเต็มไปด้วยความโชคร้ายและปั่นป่วน โชคดีที่ไม่มีใครตาย

ในไม่ช้า เจ้าบ่าว หวัง เทียนเหล่ยก็ได้สลบไปจากการเสียเลือดจำนวนมาก แต่ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง ไม่นาน เขาก็ตื่นมาหลังจากที่ดื่มสมุนไพรต้มไปหลายชาม

สิ่งที่เกิดขึ้นคือลางอัปมงคล แต่ชาวบ้านในภูเขากลับเริ่มหัวเราะกับตัวเองหลังจากความวุ่นวายก่อนหน้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โจว ซิง(น่าจะพ่อ) หัวหน้าหมู่บ้าน ผู้ที่ยืนข้างหวัง เทียนเหล่ยตลอดเวลาได้มองมาที่เขาด้วยท่าทางเอ็นดู วิธีการที่โจว ซิง มองไปยังหวัง เทียนเหล่ยนั้นมันเหมือนเขากำลังมองสมบัติหายากอยู่

ขณะที่ชิบะน้อยไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับมัน แม้ว่าเขาจะทำ เขาก็ไม่คิดว่ามันแปลก

ความแข็งแกร่งของ โจว ซิง นั้นไม่อาจเทียบได้กับหมาป่าตาเดียว ที่แข็งแกร่งเกินกว่านักล่า แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเล็กๆ แต่ยังไงเขาก็ยังคงเป็นหัวหน้า

นอกจากนี้ เขาเองก็มองเห็นแสงสีแดงจางๆรอบดาบของหวัง เทียนเหล่ย และเขาก็รู้ดีถึงความหมายเบื้องหลังมัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดและรากฐานเพื่อที่จะเอาตัวรอดก็คือร่างกายที่แข็งแกร่งและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ตลอดเวลา มันมีสัตว์ดุร้ายและน่ากลัวอยู่บนภูเขา เช่น งูยักษ์ เสือดำ เป็นต้น หมาป่าตาเดียวคือหนึ่งในตัวเลวร้ายที่สุด นักล่านั้นเหนือกว่าหมูบางตัวเพียงเท่านั้น ส่วนใหญ่ นักล่าจะต้องวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดเมื่อพวกเขาโชคไม่ดีพบเจอสัตว์ป่า เพราะชีวิตของพวกเขามีค่ามากกว่าเนื้อ ไม่มีเหตุผลที่จะแลกเปลี่ยนนักล่ากับสัตว์ร้าย

หวัง เทียนเหล่ย ได้ทำให้เขาเชื่อว่าชาวบ้านจะสามารถล่าเนื้อได้มากกว่าเดิม ด้วยความเป็นผู้นำและทักษะพิเศษของหวัง เทียนเหล่ย ในระยะยาว หมู่บ้านอาจจะกลายเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของป่าเก่า พร้อมกับเนื้อที่มากขึ้น

ในหลายๆโอกาส มีเพียงวีรบุรุษเท่านั้นที่จะนำพาหมู่บ้านไปสู่ความมั่งคั่ง ดังนั้น มันจึงไม่แปลกหากเขาจะมองไปยังหวัง เทียนเหล่ยด้วยสายตาอ่อนโยน

...

...

หลังจากนั้นหนึ่งเดือน ความวุ่นวายของงานแต่งงานก็ได้สงบลง เมื่อเวลาได้ล่วงผ่านไป ความกังวลในตัวหมาป่าตาเดียวก็จางหายไป

ผู้คนได้กลับไปยังตำแหน่งของพวกเขา รวมถึงการล่าสัตว์ ทำฟาร์ม อื่นๆ

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือเมื่อมีเวลาว่าง เหล่านักล่ารุ่นเยาว์ก็จะมารวมตัวกันที่ป่าทางเหนือของหมู่บ้านและฝึกฝนตามคำแนะนำของหวัง เทียนเหล่ย

ในสายตาของชิบะน้อย มันเหมือนกับฉากในหนังกังฟู แต่ผู้ฝึกมันไม่ใช่ หวง เฟยหง ที่เป็นรู้จักกันดีในฐานะปรมาจารย์กังฟู แต่มันกลับเป็นพี่เขยเขา หวัง เทียนเหล่ย

พี่เขยเขาจัดได้ว่าเป็นคนที่ดีมาก คนจีนนั้นมักจะมีประเพณีที่จะตำหนิความโชคร้ายทั้งหมดให้กับผู้หญิง แต่เขาไม่ได้ตำหนิเจ้าสาวเขาเลย โลกนี้ มันไม่ใช่ชีวิตดั้งเดิมของชิบะน้อยในจีน แต่ประเพณีมันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ดังนั้น สมาชิกในตระกูลโจวจึงกังวลว่าคนอื่นๆจะหันหนีจากโจว ฮัว และเธอจะถูกพ่อแม่ของสามีเธอปฏิเสธ

อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับกังวลมากเกินไป หวัง เทียนเหล่ยกลับคอยอยู่เคียงข้างและแลโจว ฮัว เสมอ ความรักของพวกเขานั้นหวานฉ่ำจนทำให้คนหลายคนต่างอิจฉา มันทำให้ผู้คนในตระกูลโจว รู้สึกโล่งใจ

แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส หวัง เทียนเหล่ย ก็กลับมามีชีวิตชีวาหลังจากพักผ่อนไปไม่กี่วัน ในไม่ช้า เขาก็กลายเป็นหัวหน้านักล่าภายใต้การสนับสนุนของ โจว ซิง หัวหน้าหมู่บ้าน

นอกจากนี้ เขายังแนะนำเหล่ารุ่นเยาว์ของหมู่บ้านว่าพวกเขาควรจะเรียนรู้วิชาจากหวัง เทียนเหล่ย และปรับปรุงตัวเองในเวลาว่างของฤดูหนาว ไม่ต้องสงสัย นักล่าทุกคนล้วนยอมรับคำแนะนำนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกรุ่นเยาว์ หลังจากที่ได้เห็นว่าหวัง เทียนเหล่ย มีความสามารถเช่นไร พวกเขาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้รับการฝึกฝน

ชิบะน้อยได้นั่งอยู่บนเก้าอี้เล็กๆด้วยกางเกงเป้าเปิด ขณะที่มองไปยังการเคลื่อนไหวที่หวัง เทียนเหล่ย ได้สอนอย่างตื่นเต้น

เขาใช้เวลาหนึ่งเดือนเพื่อให้แน่ใจว่า ศิลปะการต่อสู้ มันไม่ใช่แค่พลังภายนอกเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงพลังภายในอีกด้วย

แต่ทว่า เขากลับคาดไม่ถึงว่า ศิลปะการต่อสู้ของที่นี่ จะเป็นดั่งเช่น ศิลปะการต่อสู้ในนวนิยาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด