ตอนที่ 253: ช่วงวิกฤติ (2)
"มันเป็นแผนที่ที่ข้าครอบครอง" โค้ชยิ้ม "ดูเหมือนว่าข้าเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดที่นี่แต่ข้าก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำวิจัยเรื่องสมุนไพร ข้าเป็นสมาชิกของโรงเรียนในพื้นที่หกวงแหวน ข้าอาจจะช่วยไม่ได้มากนักในระหว่างการต่อสู้แต่ข้าก็ยังต้องการช่วยเหลือด้วยข้อมูลทั้งหมดที่ข้ารู้"
"ฟังดูดี ยังไงเจ้าก็สวยมาก ถ้าปราศจากเจ้าการเดินทางครั้งนี้คงน่าเบื่อมาก..." ดวงตาของเพอร์รี่มองที่ร่างกายของโค้ช
"ขอบคุณสำหรับคำชม" โค้ชปิดปากด้วยมือขวาและหัวเราะเบาๆ
โนเพิ้ลส่ายหัวเล็กน้อยและพูด "เราควรจะมุ่งความสนใจไปที่การเดินทาง ข้าคิดว่าเราจะพบกับผึ้งเมฆาในไม่ช้านี้"
แองเจเล่อยู่ด้านข้างฟังการสนทนาของทั้งสามด้วยรอยยิ้ม
โค้ชมองไปที่แองเจเล่ชั่วครู่และพูด "เราจะใช้เวลาประมาณสี่เดือนเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางของเราถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้" เธอชี้ไปที่จุดสีดำบนแผนที่
"นี่เป็นที่ราบสูงทางเหนือ ผึ้งเมฆาปราดเปรียวมากในภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ" จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่จุดสีขาวที่กำลังกะพริบ "นี่คือเรา มันจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนในการเดินทางไปถึงที่นั่น เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม"
"ต่อไปเป็นมนุษย์งูที่มีสายเลือดของไซเร็นโบราณ เราจะปะทะกับพวกมันข้างทะเลสาบแหง่การบิดเบือน ข้าจะบอกข้อมูลเรื่องพวกมันหลังจากที่รอดจากการโจมตีของผึ้งเมฆา" เธอหยุดชั่วครู่และพูดต่อ "ในหนึ่งฝูงจะมีผึ้งเมฆาประมาณ 500 ตัว เราต้องเตรียมตัวเต็มที่ ฆ่าพวกมันทั้งหมดเมื่อพวกมันเข้ามาในสายตาของเรามิฉะนั้นพวกมันจะเรียกฝูงที่ใหญ่ขึ้นมา"
แองเจเล่ไม่ได้กังวล ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดว่าพ่อมดคนอื่นๆจะช่วยปกป้องเธอถ้าพวกเขารู้ว่าเธอมีข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับภัยคุกคาม
เขาสังเกตเห็นพ่อมดสิบคนบนเรือได้สร้างกลุ่มเล็กๆสามกลุ่มโดยไม่รวมคนที่หายไป
แองเจเล่ เพอร์รี่ โค้ชและโนเพิ้ลก็เป็นหนึ่งในสามกลุ่ม
หัวหน้าชื่อบารอนและพ่อมดแสงอีกสองคนก็ตั้งกลุ่มคล้ายกัน
นอกจากนี้ยังมีคู่รักที่ตั้งกลุ่ม เพอร์รี่ได้พยายามที่จะเชิญเขาแต่พวกเขาก็ปฏิเสธ ตามคลื่นพลังจิตที่ปลดปล่อยพวกเขาแข็งแกร่งกว่าเพอร์รี่
แองเจเล่ยังปลอมตัวเป็นพ่อมดขั้นแก๊ส มันเป็นผลจากการบีบอัดพลังจิต เขาสามารถปลอมตัวเป็นพ่อมดฝึกหัดได้หากเขาต้องการ เขาไม่ไว้ใจใครในเรือเหาะและเขาไม่ต้องการให้คนอื่นปฏิบัติเขาเหมือนภัยคุกคาม
แองเจเล่ได้ทำการบ้านก่อนที่จะขึ้นเรือ
พ่อมดทุกคนบนเรือมีความชำนาญพิเศษของตัวเองแต่เรือไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของสามองค์กรใหญ่และภูมิหลังของพวกเขาก็ไม่ได้มีความสำคัญ
เพอร์รี่เชิญแองเจเล่เข้ากลุ่มของเขาเพราะเขารู้ว่าแองเจเล่เป็นพ่อมดที่แข็งแกร่ง
ตามธรรมชาติของพ่อมดพ่อมดมักจะเห็นแก่ตัว พวกเขาจะต่อสู้กันเพื่อให้พวกเขามีชีวิตแต่ตอนที่สงบสุขพวกเขาจะตัดสินใจว่าใครมีประโยชน์ต่อตัวเอง พลังจะทำให้พวกเขามีสิทธิสูงสุดบนเรือเหาะหลังจากที่พวกเขาออกจากโนล่า ประโยชน์ของโค้ชคือความรู้ของเธอและรายละเอียดของมอนสเตอร์ เธอไม่สามารถต่อสู้ได้เหมือนคนอื่นแต่ความรู้ของเธอก็มีค่าต่อทีม
ท้องฟ้าโล่งหลังจากที่ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง แสงแดดที่สดใสส่องลงบนดาดฟ้าและให้ความอบอุ่นแก่พ่อมดแต่สายลมก็ยังหนาวเย็น
แองเจเล่ยืนอยู่บนดาดฟ้า ร่างกายส่วนบนของเขาเย็นในขณะที่ส่วนล่างของเขาร้อนและนั่นเป็นความรู้สึกแปลกๆ
พวกเขาบอกลากันและกลับไปที่ห้องโดยสาร แองเจเล่เลือกห้องพักของเขาก่อนที่เขาจะขึ้นเรือ
เขาเดินลงบันไดสั้นๆและมาถึงทางเดินที่มืด มีประตูไม้สีน้ำตาลอยู่หกประตูทั้งสองด้านของผนังและแต่ละประตูมีป้ายชื่ออยู่
แองเจเล่เดินไปที่ห้องที่สองทางซ้าย
เขาสัมผัสที่ประตูด้วยมือขวาแล้วรูนรูปงูสีดำก็กะพริบบนผิวของมันและประตูก็เปิดด้วยตัวมันเอง
แองเจเล่เข้าไป ข้างในเป็นห้องนอนขนาดเล็ก มีเตียงไม้สีขาวตั้งอยู่ตรงมุม มีชุดหลายชุดถูกแขวนอยู่ข้างผนังที่ถูกตกแต่ง
นอกจากนี้ยังมีโต๊ะสีแดงและเก้าอี้ตรงกลาง มีกล่องสีดำขนาดใหญ่สองกล่องอยู่ข้างโต๊ะ
แองเจเล่สังเกตเห็นว่ามีหน้าต่างอยู่ที่ผนังฝั่งตรงข้ามกับเขา
กระจกของหน้าต่างถูกทำด้วยคริสตัลพิเศษและมันก็ไม่เสียหายง่ายๆ
แองเจเล่เดินไปที่หน้าต่างและมองลงไป
มีแม่น้ำเล็กๆอยู่กลางป่า
ไม่มีรถม้าเคลื่อนที่ระหว่างต้นไม้ พื้นที่นี้อาจจะไม่มีผู้อยู่อาศัยเนื่องจากมีสัตว์อสูรที่อันตรายอาศัยอยู่ในภูเขา
"ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ" เขาถอนหายใจ
มีกลุ่มของงูบินสีน้ำเงินผ่านหน้าต่าง พวกมันมีหางยาวและมีปีกมันเงาขนาดใหญ่
แองเจเล่สังเกตเห็นสิงโตทองคำขนาดเท่าช้างกำลังดื่มน้ำข้างแม่น้ำและมีสิงโตตัวเล็กสองตัวกำลังวิ่งอยู่ข้างหลังมัน
นอกจากนี้ยังมีฝูงกวางเหลืองกำลังเคลื่อนที่ผ่านต้นไม้ กวางตัวผู้มีหลังสีเทาและมีขนขนาดใหญ่ที่มีขนาดใกล้เคียงกับร่างกายของพวกมัน
ปู้นนนนนน
มีเสียงที่ดูเหมือนมีเขาเป่าแตรเขาสัตว์
มันเป็นอสูรที่คำรามในป่า เสียงของมันทุ้มแต่นุ่มนวล
แองเจเล่ยืนอยู่หน้าต่างคริสตัลสักพักและหันกลับไป เขาเริ่มตรวจสอบกล่องขนาดใหญ่ข้างโต๊ะ
คลิ๊ก
กล่องแรกเปิดออกอย่างช้าๆ
มีเงาดำเหวี่ยงปีกของมันและกระโดดออกจากกล่อง เงาบินไปรอบๆห้องและไปลงบนไหล่ขวาของแองเจเล่
มันเป็นนกกระจอกราตรีสี่ปีก นกมีดวงตาสีแดงเข้ม มันทำความสะอาดขนด้วยปากของมัน
นอกจากนี้ยังมีขวดโลหะสีดำหลายสิบขวดอยู่ภายในกล่องและขนาดของพวกมันก็แตกต่างกันไป มีฉลากสีขาวติดอยู่บนผิวของขวด
แองเจเล่ปิดกล่องแรกและไปเปิดกล่องที่สอง
กล่องนี้เต็มไปด้วยยาต่างๆและหลอดทดลอง
ของเหลวสีทอง ของเหลวสีแดง ของเหลวสีเงิน ผงสีเหลืองและยาเม็ดสีน้ำตาล....
มีหลอดทดลองหลายสิบหลอดเรียงอยู่บนราวไม้ขนาดใหญ่และพวกมันทั้งหมดทำมาจากคริสตัลวัลคาไนซ์
ขวดตรงกลางนั้นดูแตกต่าง มันเต็มไปด้วยของเหลวเหนียวสีแดงและกำลังเรืองแสง
"แก่นของเต่าแบร์รี่กลายพันธุ์...." แองเจเล่จับหลอดทดลองและส่ายมันหลายครั้ง
มันผลผลิตของสายเลือดโบราณ แองเจเล่ไม่ต้องการทิ้งมันไว้ในโนล่าดังนั้นเขาจึงลบร่องรอยทั้งหมดของสายเลือดโบราณที่สกัดก่อนที่จะออกจากอาณาเขตรวมถึงเซนทอร์ขาวสองตัว
แก่นสามารถฉีดเข้าไปในสิ่งมีชีวิตและทำให้พวกมันกลายพันธุ์ มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการใช้แต่ผลที่ได้ก็อ่อนแอลง
แองเจเล่ตัดสินใจที่จะไม่ใช้มันกับตัวเองเพราะอาจจะมีปะทะกันระหว่างสายเลือดโบราณทั้งสอง นอกจากนี้ผลข้างเคียงของแก่นอาจจะลดค่าสถานะของเขา
เขาคว้าหลอดทดลองสองหลอดที่มียาสีน้ำตาลภายในหลังจากที่ตรวจสอบของทั้งหมด
แองเจเล่เอาจุกออกและโยนยาเข้าปาก เขากลืนมันทันที
มันไร้รสชาติแต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกอิ่ม
"ไม่มีอาหารบนเรือลำนี้.....บัดซบ ข้าเกลียดยาสารอาหาร..." เขาส่ายหัวและลุกขึ้นยืน
มีปัญหาสำคัญที่ต้องจัดการทันที
ต้องเลือก 'ผู้นำ' ของเรือทั้งสามลำเพื่อเลือกผู้ที่จะรับผิดชอบในการเดินเรือ ผู้นำจะได้รับเครื่องรางคริสตัลที่ใช้ควบคุมเรือทั้งสามลำ
วัสดุหายากที่สามารถปลดปล่อยคลื่นพลังงานจะถูกรวบรวมหลังจากต่อสู้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นผู้นำจะต้องตัดสินใจว่าจะแบ่งรางวัลอย่างไร
นอกจากนี้เครื่องรางพิเศษสามารถขับไล่พ่อมดจากเรือเหาะได้เมื่อจำเป็น
อย่างไรก็ตามเครื่องรางคริสตัลจะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อประกอบเศษรูนคริสตัลจากเรือทั้งสามลำ
จะมีการต่อสู้ระหว่างหัวหน้าในไม่ช้านี้
เครื่องรางเป็นสัญลักษณ์ของพลัง มันอาจทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่เมื่อคนผิดได้มันซึ่งนั่นคือเหตุผลที่บรรดาพ่อมดที่ปกครองได้แยกรูนคริสตัล ในทำนองเดียวกันพ่อมดบนเรือที่มีคุณสมบัติจะเข้าร่วมการต่อสู้ หัวหน้าของเรือเหาะจะมอบรูนคริสตัลให้กับคนที่ชนะพร้อมกับเครื่องราง
การเดินทางนั้นอันตรายและผู้นำจะต้องแข็งแกร่งพอที่จะควบคุมพ่อมด
มันจะปลอดภัยกว่าเมื่อสัญลักษณ์ของสิทธิถูกควบคุมโดยคนเพียงคนเดียว
องค์กรไม่ได้แต่งตั้งหัวหน้าเพราะพวกเขาต้องการให้สมาชิกคิดออกด้วยตัวเอง
เนื่องจากเรือเหาะได้ออกจากภูมิภาคแล้วพ่อมดก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายของโนล่าอีกต่อไปดังนั้นพ่อมดอาจตายในระหว่างการแข่งขัน มันไม่มีปัญหาใดๆเนื่องจากเรือเหาะถูกติดตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่ดีที่สุดดังนั้นอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่จะหายอย่างรวดเร็ว พ่อมดจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เครื่องราง
"การต่อสู้จะเริ่มก่อนที่จะปะทะกับผึ้งเมฆา" แองเจเล่พึมพำ เขาไม่ได้ต้องการให้คนอื่นควบคุมโชคชะตาของเขา เรือเหาะอยู่ห่างจากพื้นประมาณหนึ่งพันเมตรและการถูกขับออกจากเรือมันเป็นผลที่ร้ายที่สุดในการเดินทาง
แองเจเล่ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อครอบครองเครื่องราง ตัวเขารู้ว่าพ่อมดส่วนใหญ่จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป
'น่าเศร้าที่ไม่ใช่พ่อมดทุกคนที่นี่กำลังปลดปล่อยคลื่นพลังจิตของพวกเขา' นั่นคือปัญหาหลักที่แองเจเล่กำลังเผชิญอยู่ ถ้าหากไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคลื่นพลังจิตซีโร่ก็ไม่สามารถบอกเขาได้ว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ขั้นใด เขาต้องค้นพบด้วยตัวเองระหว่างการต่อสู้