ตอนที่ 252: ช่วงวิกฤติ (1)
ปู้นนน
มีไอน้ำสีขาวออกมาจากเรือเหาะ
บันไดไม้ทั้งสามถูกตัดการเชื่อมต่อกับเรือเหาะและตกลงบนพื้นทันทีที่พ่อมดทุกคนขึ้นเรือ
เรือเหาะบินห่างออกไปจากแท่นอย่างช้าๆอนุภาคพลังงานสีเขียวเป็นทางไว้ข้างหลัง
พวกมันเริ่มเคลื่อนที่ไปทางเหนือของโนล่า พ่อมดทุกคนยืนอยู่ข้างราวโดยไม่ได้พูดอะไรมองไปที่เพื่อนและตระกูลที่ยังอยู่ที่แท่น
พวกเขาเพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่น เสียงเดียวที่แองเจเล่ได้ยินคือเสียงอนุภาคพลังงานสีเขียวที่ช่วยขับเคลื่อนเรือเหาะ
ห
แท่นดูเล็กลงเรื่อยๆเมื่อระดับความสูงของเรือเหาะเพิ่มขึ้น คนที่ยืนอยู่ตอนนี้ดูเหมือนจุดสีดำขนาดเล็กนับไม่ถ้วน
แองเจเล่ยืนอยู่ข้างราวด้วยเช่นกัน
ตอนนี้แท่นมีขนาดเท่าฝ่ามือในสายตาของเขา
หนึ่งในหกเสาสัญญาณโอเบลิสก์(เปลี่ยนไปใช้ทับศัพท์จากที่ตอนแรกแปลว่า'เสาอนุสาวรีย์')ดูเหมือนแท่งขนาดเล็กที่แทงลงพื้นจากการมองจากบนเรือ
________________________________________________________
(**คำว่า “โอเบลิสก์” (Obelisk) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ Obeliskos หมายถึง เหล็กแหลม เข็ม หรือ เสาปลายแหลม ลักษณะของเสาโอเบลิสก์จะเป็นเสาสูง สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนปิรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก หรือ ทองแดง เป็นต้น**) อ่านเพิ่มได้ที่ท้ายตอนครับเดี๋ยวจะแปะลิงก์ไว้ให้
________________________________________________________
มีเมืองขนาดใหญ่ที่เรียกว่าอลาว่าอยู่ข้างโอเบลิสก์มีหอคอยการค้าประมาณแปดหอคอยถูกสร้างไว้รอบๆมัน จากท้องฟ้าทุกสิ่งมันดูมีขนาดเล็ก
เมืองล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์
แองเจเล่มองไปทางทิศเหนือและเห็นต้นไม้ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว
มีลมกระโชกอย่างแรงพัดผ่านใบหน้าของเขาและเรือเหาะในระดับความสูงที่สูงที่สุดที่เรือเหาะสามารถอยู่ได้
เขาหันกลับไปและเริ่มสังเกตเรือกอนโดล่า
กอนโดล่าเชื่อมต่อกับด้านล่างของบอลลูน มันมีสีดำและมีขนาดธรรมดา
รูปลักษณ์ของกอนโดล่าดูคล้ายกับที่ชาวประมงใช้
ห้องโดยสารถูกสร้างภายใต้ดาดฟ้า มีเพียงพ่อมดเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือเหาะเนื่องจากคนอื่นๆไม่สามารถจัดการกับรังสีจากรูปแบบเวทมนต์ป้องกันที่แข็งแกร่งได้ ปุถุชน พ่อมดฝึกหัดและแม้แต่อัศวินก็สามารถตายได้อย่างง่ายดายภายในเรือเหาะ
มันเป็นปัญหาที่เกิดจากอนุภาคพลังงานที่หนาแน่นมาก
ดาดฟ้ามีความยาวประมาณสิบห้าเมตรและผิวของมันก็ดูยืดหยุ่นด้วยเหตุบางอย่าง
มีพ่อมดหลายคนยืนอยู่ข้างเขารวมถึงชายร่างผอมสูง หูแหลมของเขาดูสะดุดตา เขายืนอยู่ทางขวาของแองเจเล่
ชายคนนี้พูดกับแม่มดโดยใช้อนุภาคพลังงาน แม่มดดูสุภาพมาก มันดูเหมือนว่าเธอตอบคำถามที่เขาถาม
"เรือเหาะสามลำและมีพ่อมดสิบคนในแต่ละเรือ เจ้ามองไปที่หัวหน้าของเรือของเราท่านบารอน" มีเสียงเข้มมาจากด้านซ้าย
แองเจเล่หันไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว
มันเป็นชายวัยกลางคนที่มีเครายาวสีขาว ชายคนนี้ห่างจากเขาประมาณสองเมตร
ชายคนนี้มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้า เขาสวมเสื้อหนังสัตว์หนาสีขาวพร้อมกับมีเสื้อคลุมอยู่ที่หลังของเขา ผมยุ่งสีน้ำตาลของเขาดูเหมือนรังนก
"ท่านบารอน" แองเจเล่ทวนชื่อซ้ำสองครั้ง "ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนดื้อรั้นหรือ ข้าแค่ตัดสินใจเขาได้ด้วยสีหน้าที่จริงจังของเขา"
"ดื้อรั้นหรือ ไม่ ไม่ใช่แค่ดื้อรั้น จิตใจของชายคนนี้ได้ตายไปแล้ว เขาไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ" ชายคนนั้นส่ายหัวและสื่อสารกับแองเจเล่ด้วยอนุภาคพลังงาน
"ชื่อของข้าคือเพอร์รี่ ข้าคิดว่าเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้" เขายิ้มให้แองเจเล่และหยุดใช้อนุภาคพลังงานเพื่อสื่อสาร "การเดินทางครั้งนี้อันตรายและมีพ่อมดไม่มากนักที่สามารถรอดไปได้ เราต้องช่วยเหลือกันและกันดังนั้นโอกาสที่เราจะไปถึงอีกฝั่งหนึ่งจะสูงขึ้น เจ้าไม่คิดว่าอย่างงั้นหรือ"
แองเจเล่มองไปรอบๆ มีพ่อมดแสงอีกสองคนยืนอยู่ข้างราว หนึ่งเป็นผู้ชายและอีกหนึ่งเป็นผู้หญิง
มีจุดแสงสีน้ำเงินกะพริบอยู่ข้างหน้าสายตาของเขา
[กำลังสแกนคลื่นพลังจิต....]
มีแถวข้อมูลแสดงอยู่ข้างคนทั้งสามคนในสายตาของแองเจเล่
เขามองไปที่เพอร์รี่ก่อน
[พ่อมด สนามพลังที่อ่อนแอ ต้องทำลายสนามพลังเพื่อหารายละเอียดข้อมูล]
แม่มดยังไม่ไปถึงขั้นแก๊สแต่ผู้ชายอยู่ที่ขั้นแก๊ส อย่างไรก็ตามซีโร่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้เนื่องจากโล่พลัง แต่เขาก็ได้รับข้อมูลพื้นฐานโดยการวิเคราะห์คลื่นพลังจิตที่พวกเขากำลังปลดปล่อย
"ยินดีที่ได้รู้จัก" แองเจเล่วางมือขวาไว้เหนืออกอย่างสุภาพ
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน" เพอร์รี่ยิ้ม "ถ้าเจ้ามีเวลาก็มาคุยกับเราได้"
"ตกลง ขอบคุณ"
ทั้งสองคนเดินไปหาพ่อมดแสงอีกสองคน
พวกเขากำลังคุยกันเรื่องวิธีเพิ่มความเร็วในการร่ายคาถา พวกเขาหยุดพูดเมื่อเห็นแองเจเล่เดินไปหาพวกเขา
"โค้ช" แม่มดพยักหน้าเล็กน้อย
"ข้าโนเพิ้ล" พ่อมดแนะนำตัวเองด้วยเช่นกัน
เพอร์รี่แนะนำแองเจเล่ให้กับพวกเขาและพ่อมดทั้งสี่ก็เริ่มคุยกันเรื่องรูปแบบคาถาง่ายๆข้างราว นอกจากนี้พวกเขายังแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง
แองเจเล่มองไปที่พ่อมดคนอื่นๆบนดาดฟ้าในขณะที่พวกเขาคุยกัน
หัวหน้าชื่อบารอนยังคุยกับแม่มด
นอกจากนี้ยังมีคู่รักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่สื่อสารกันโดยใช้อนุภาคพลังงาน
จำนวนยังไม่ถึง 10 บางคนอาจจะไปที่ห้องโดยสารแล้ว
"ท่านเพอร์รี่ข้ามีคำถาม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรือเหาะถูกทำลายโดยสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง แม้แต่พ่อมดก็ไม่สามารถรอดจากความสูงเช่นนี้ได้" โค้ชถามเสียงเบา "ขอโทษจริงๆ ข้าไม่ค่อยรู้เรื่องเหล่านี้มากนัก ข้าเพิ่งทำลายขีดจำกัดประมาณสี่สิบปีก่อน"
โค้ชสวมชุดคลุมยาวสีขาวและเสื้อคอวีทำให้เห็นหน้าอกที่มีเสน่ห์ของเธอ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีใบหน้าที่ธรรมดาแต่ร่างกายที่เซ็กซี่ของเธอก็ยังดูสะดุดตา แม่มดส่วนใหญ่ได้ดัดแปลงร่างกายของพวกเธอเพื่อให้พอดีกับความต้องการของพวกเธอหลังจากที่ทำลายขีดจำกัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่มดแสง ในทางกลับกันแม่มดมืดก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเรียนรู้คาถาที่สร้างความเสียหายสูง
เพอร์รี่ยิ้ม "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น บอลลูนถูกสร้างด้วยวัสดุที่ดีที่สุดที่เจ้าสามารถพบได้ในโนล่าและพวกมันก็ถูกเสริมเวทมนต์ด้วยคาถาหลายคาถา แม้แต่ปากของอินทรีที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถเจาะพวกมันได้"
เพอร์รี่ดูเหมือนสุภาพบุรุษที่มีหน้าตาดี เครายาวสีขาวของเขาทำให้เขาดูเหมือนหัวหน้าของตระกูลขุนนาง
"อย่างไรก็ตาม เรายังต้องระวังผึ้งเมฆาโจมตีเรา" โนเพิ้ลขัด "บอลลูนจะไม่เป็นไรแต่เรายังต้องตื่นตัวอยู่เสมอ"
"ผึ้งเมฆา มันคืออะไร" แองเจเล่ไม่เคยได้ยินสิ่งมีชีวิตเช่นนี้มาก่อน
"ให้ข้าอธิบาย" เพอร์รี่หัวมาหาเขา "มีห้าจุดที่อันตรายระหว่างการเดินทาง ผึ้งเมฆาคือจุดแรก พวกมันมักจะล่านกในท้องฟ้าและพวกมันก็ปรากฏตัวเป็นกลุ่ม ผึ้งเมฆามีความสูงประมาณสองเมตรและกว้างประมาณหนึ่งเมตร พวกมันจะโจมตีด้วยลมหายใจน้ำแข็งและคลื่นเสียง ผึ้งเมฆาน่ากลัว มันถูกสร้างโดยพ่อมดโบราณด้วยการใช้พลังจากดินแดนอื่นโดยบังเอิญ"
"เดี๋ยว มีห้าจุดที่อันตรายหรือ นี่เป็นเส้นทางที่ดีที่สุดหรือ" โนเพิ้ลขมวดคิ้ว
"ใช่ นี่เป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดแล้วส่วนใหญ่เส้นทางอื่นเจ้าจะพบกับไวเปอร์(งูพิษชิดหนึ่ง) เชื่อข้า เจ้าไม่อยากพบพวกมันแน่ๆ" เพอร์รี่อธิบายเสียงเบา
"ไวเปอร์...." โค้ชและโนเพิ้ลอ้าปากค้างพร้อมกัน
การแสดงออกของแองเจเล่ก็เริ่มเคร่งเครียดด้วยเช่นกัน
"เจ้าหมายถึงตัวที่อาศัยอยู่ในบึงกรดบนภูเขาหรือ พวกมันมีเกล็ดสีดำและพวกมันมีดวงตาที่หน้าผากเพียงดวงตาเดียว"
"ใช่แล้ว นั่นเป็นไวเปอร์ที่เรากำลังพูดถึง" เพอร์รี่พยักหน้า "ข้าอ่านมันในหนังสือที่ห้องสมุดในตระกูลของข้า พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางครั้งหนึ่งและพบกลุ่มไวเปอร์ ไวเปอร์มีขนาดเท่าเรือและความสามารถพิเศษของมันคือการปล่อยพิษในระยะของมัน มันเหมือนกับระเบิดกรด สิ่งที่ดีคือการที่พวกเขาถอนตัวโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นเส้นทางที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ถูกจำกัดให้ใช้กับเรา"
"ข้าเชื่อว่าพวกมันสามารถกวาดล้างทีมได้อย่างง่ายดาย" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย
การโจมตีสายเงินของเขาสามารถสร้างความเสียหายได้ 67 หน่วยต่อหนึ่งเป้าหมายและโล่ป้องกันของเขาสามารถรับความเสียหายได้ประมาณ 60 หน่วย แองเจเล่สามารถรอดจากการโจมตีพ่อมดขั้นคริสตัลที่ชื่อโอลีฟได้ในป่าและเขาได้ทำให้ชายชราบาดเจ็บสาหัสโดยใช้ตรา เขาจะแพ้การต่อสู้ถ้าเขาไม่ได้เปิดใช้งานตราในช่วงเวลาที่เหมาะสม จำนวนของพลังจิตและมานาของพ่อมดขั้นคริสตัลมันน่าเหลือเชื่อ
การทำให้เป็นหินทำให้โอลีฟต้องระวัง ชายชราต้องใช้อนุภาคพลังงานเพื่อหยุดร่างกายของเขาจากการแข็งเป็นหิน เขายังไม่ได้ใช้แม้แต่คาถาระดับสอง แองเจเล่สงสัยว่าถ้าเปิดใช้งานตราเต็มที่มันจะช่วยให้เขาชนะการต่อสู้
เขาไม่ต้องการให้คนจากหอคอยพ่อมดมืดพบความลับของเขาดังนั้นเขาจึงปิดใช้งานตราอย่างรวดเร็ว ตรายังมีข้อจำกัดหลายอย่างและฮาร์ปี้ยักษ์ยังสูญเสียพลังของมัน การเข้าสู่ดินแดนฝันร้ายใช้พลังงานของสายเลือดโบราณ
"ไวเปอร์จะไม่เป็นปัญหาของเราในตอนนี้แต่เราต้องเตรียมตัวต่อสู้กับผึ้งเมฆา" เพอร์รี่แนะนำ "ผึ้งเมฆาหนึ่งตัวนั้นอ่อนแอแต่ถ้ามาเป็นฝูงมันก็จะเป็นปัญหาใหญ่ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังได้เปรียบเนื่องจากเราไม่คุ้นเคยกับท้องฟ้า"
โค้ชเอาลูกแก้วคริสตัลออกมาจากถุงกระเป๋าของเธอและโยนมันในอากาศ
ชี่
ลูกแก้วคริสตัลลอยในอากาศและเริ่มหมุนสร้างเป็นหน้าจอแสงข้างหน้าทั้งสี่
มีแผนที่ที่มีเส้นทางที่คดเคี้ยวทำเครื่องหมายไว้ปรากฏอย่างช้าๆในภาพ
พื้นที่ส่วนใหญ่บนแผนที่มีสีขาว หิมะปกคลุมต้นไม้ส่วนใหญ่ เส้นทางตรงกลางกำลังกะพริบและมีจุดสีดำห้าจุด มีตัวหนังสือขนาดเล็กถูกเขียนไว้ด้านข้างจุดสีดำแต่ละจุด
ลิงก์ข้อมูลโอเบลิสก์: https://www.artedchula.com/web/index.php?option=com_content&view=article&id=76&Itemid=71