ตอนที่แล้วTWO Chapter 78 ตลาดของเกษตรกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 80 ชนเผ่าคนเถื่อนภูเขา ตอนที่ 1

TWO Chapter 79 สถาปนิก


TWO Chapter 79 สถาปนิก

เช้าวันรุ่งขึ้น โอหยางโชวเรียกเสี่ยวเยว่ แล้วถามว่า “เป็นยังไงบ้าง? เกมส์นี้สนุกมั้ย?”

“มันสมจริงเกินไป ฉันไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนของฉัน” เสี่ยวเยว่บ่น สถาปนิกต่างกับอาชีพสายทำงานอื่นๆ หลังจากเข้าเกมส์ พวกเขาต้องเข้าเรียนที่วิทยาลัยสถาปัตยกรรม หลังจากจบการศึกษาแล้ว พวกเขาถึงจะได้รับการยอมรับว่า เป็นสถาปนิกขั้นต้น

หลังจากนั้น ผู้เล่นจะมี 3 ทางเลือก คือ 1.เข้าร่วมกับดินแดนของผู้เล่นลอร์ด แล้วกลายเป็นสถามปนิกของดินแดนเขา ดินแดนของผู้เล่นยุ่งมาก มีการก่อสร้างอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ผู้เล่นมีงานมากมาย ข้อเสียคือ ระดับของดินแดนพวกเขานั้นยังต่ำเกินไป และไม่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ใดๆ ดังนั้น การเข้าร่วมกับดินแดนจึงไม่เหมาะในระยะเวลานี้

2.การเข้าร่วมกับกรมการก่อสร้างในเมืองหลวง แน่นอนมันเป็นแนวคิดที่ดี เพราะมันทำให้คุณสามารถเข้าร่วมโครงการก่อสร้างระดับสูงได้ มันจะช่วยยกระดับทักษะสถาปนิกของคุณอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากไม่มีเส้นสาย มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนที่ต้องการจะเข้ากรมการก่อสร้าง

3.การเรียนต่อในวิทยาลัยหลวง และได้รับการยอมรับเป็นสถาปนิกขั้นกลาง มันจะทำให้คุณหางานได้ง่ายขึ้น หลังจากที่จบออกไป ข้อเสียคือ มันอ้างว้างมาก และมันยังต้องเสียค่าใช้จ่ายราคาแพงอีกด้วย

ดังนั้น สถาปนิกที่ประสบความสำเร็จทุกคน จึงต้องมีลอร์ดคอยให้การสนันสนุนอยู่เบื้องหลัง สำหรับสิ่งที่ดีที่สุดของสถาปนิกตอนนี้ คือ การเลื่อนเป็นสถามปนิกขั้นกลาง และได้ทำงานในกรมการก่อสร้างของเมืองหลวง จนกระทั่งกลายเป็นสถาปนิกขั้นสูง หลังจากนั้น เขาก็สามารถไปทำงานในดินแดนของลอร์ดในฐานะสถาปนิกหลักได้

วิธีนี้ จะทำให้ผู้เล่นชนะทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งสถาปนิกและลอร์ด สิ่งแรกที่จำเป็น คือ การที่ลอร์ดสนับสนุนสถาปนิกด้วยเงินของเขา ในชีวิตที่แล้วของโอหยางโชว มีการคำนาณไว้ว่า การสร้างสถาปนิกขั้นสูง 1 คน ต้องใช้เงินทุนสูงถึง 150 เหรียญทอง และเป็นการติดสินบนเพื่อให้ได้เข้ากรมการก่อสร้างของเมืองหลวงถึง 100 เหรียญทอง

การลงทุนดังกล่าว นับเป็นการลงทุกขนาดใหญ่ ทำให้ลอร์ดต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก พวกเขามักจะเลือกคนที่ไว้ใจได้ในชีวิตจริง และซุนเสี่ยวเยว่ก็เหมาะสมมาก มันถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับโอหยางโชว ดังนั้น เมื่อเขาพบว่า เธอต้องการเลือกอาชีพสายทำงาน เขาถึงได้แนะนำเธอให้เลือกสถาปนิก

โอหยางโชวไม่ได้พยายามซ่อนอะไร และบอกทุกอย่างที่เขารู้ เกี่ยวกับสถาปนิกอย่างอดทน เขาต้องการเลือกเธอ แต่ความต้องการเบื้องต้นของความร่วมมือ คือความไว้ใจซึ่งกันและกัน และพื้นฐานของความไว้ใจก็คือ การแบ่งปันข้อมูล

เสี่ยวเยว่ยินดีมาก เธอยิ้มแล้วกล่าวว่า “ลอร์ดโอหยางโชว เราจะทำงานเป็นทีมที่ดี”

“เราจะทำงานเป็นทีมที่ดี ตอนนี้บอกไอดีของเธอมา ฉันจะส่งเงินให้เธอ 50 เหรียญทอง เมื่อเธอจบการศึกษาแล้วก็บอกฉัน ฉันจะได้ส่งเงินให้เธอเพิ่มมากขึ้น” โอหยางโชวถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เหตุผลที่เขาไม่ได้มอบเงินให้เขา 150 เหรียญทอง โดยตรงตั้งแต่แรก เพราะ 1.มันยังไม่จำเป็น แม้แต่คนที่มีความรู้ด้านนี้อย่างเสี่ยวเยว่ ก็คงใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน ถึงจะเรียนจบการศึกษาจากวิทยาลัย และ2.เข้าไม่ต้องการเปิดเผยความสามารถทางการเงินของเขา ในช่วงนี้ของเกมส์ คนที่สามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวออกมาได้อย่างรวดเร็ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เสียวเยว่เป็นคนฉลาด เธออาจจะคาดเดาได้

ถึงอย่างนั้นก็ตาม เสี่ยวเยว่ก็ยังคงตะลึง แม้ว่าเธอจะใช้เวลาเพียงวันเดียวในเกมส์ แต่เธอก็ตระหนักถึงมูลค่าของเงินในเกมส์ จากการคำนวณของเธอ เงินซัก 10 เหรียญทอง ก็ทำให้เธอตกใจแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะมอบเงินให้เธอถึง 50 เหรียญทอง โดยไม่สนใจมันด้วยซ้ำ

เสี่ยวเยว่มองไปที่โอหยางโชว ราวกับเธอกำลังมองสัตว์ประหลาด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย “เอ่อ บอกความจริงมา พี่เป็นลอร์ดที่มีชื่อเสียงในเกมส์ได้มั้ย? ถ้าไม่ใช่ ทำไมพี่ไม่ยอมบอกไอดีให้ฉันรู้ล่ะ? พี่เงินจะเอาเงินให้ฉันโดยไม่สนใจด้วยซ้ำ”

“อะแฮ่ม! เธอคิดมากเกินไป เพื่อมอบทุนให้เธอ ฉันเกือบจะล้มละลายเลยนะ เธอต้องตั้งใจฝึกฝนให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้น ฉันคงต้องเสียเงินทั้งหมดไปฟรีๆแน่”

เสี่ยวเยว่ทำหน้าไม่เชื่อ “หึ ฉันจะเชื่อพี่ไปกก่อน พี่ดูลึกลับขึ้นทุกวัน มันอาจจะดีกว่าที่พี่ไม่บอกฉันและฉันจะไม่ถามอีก ไอดีในเกมส์ของฉันคือ ‘เสี่ยวเยว่’ พี่จำได้น่ะ” โอหยางโชวพยักหน้าของเขา เด็กเหลือขอนี่ช่างขี้เกียจจริงๆแม้แต่การเลือกชื่อก็ยัง...

หลังจากที่เสี่ยวเยวไปเรียน โอหยางโชวก็ไม่ได้ทำตัวหย่อนยาน เขาเข้าไปในฟอรัมเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ของเกมส์ และทำความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ หลังจากนั้น เขาก็ฝึกฝนปาจีฉวน ถึงเวลาแล้วที่เขาจะฝึกฝนมันในชีวิตจริง

ในความเป็นจริงแล้ว มันเหมาะที่จะไปฝึกที่ศูนย์ศิลปะการต่อสู้ ในฐานะที่เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับความนิยม ทุกศูนย์ศิลปะการต่อสู้มีครูฝึกมืออาชีพ เครื่องมือฝึกซ้อมต่างๆเพียบพร้อม แล้วยังมีอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของคนที่ฝึกฝนอีกด้วย

แต่น่าเสียดาย เพื่อให้แน่ในว่าผู้ฝึกฝนจะปลอดภัย นอกจากห้อง VIP ชั้นสูงแล้ว ทุกๆห้องฝึกฝนในศูนย์ศิลปะการต่อสู้มีกล้อง CCTV มันอาจจะทำให้ความลับทั้งหมดของเขาถูกเปิดเผยได้ โอหยางโชวกำลังฝึกฝนปาจีฉวนที่แตกต่างจากของจริง มันถูกปรับปรุงโดยระบบของไกอา เพื่อให้ทรงพลังมากขึ้น

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่กล้าไปที่ศูนย์ศิลปะการต่อสู้ นี่คือ ความอ่อนแอของคนที่อ่อนแอ ถ้าเขามีพลังมากพอในชีวิตจริง เขาคงทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ เขากำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อที่ว่าในอนาคต เขาจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปจากตอนนี้

เขาเลิกคิด โอหยางโชวจดจ่ออยู่กับปาจีฉวน จังหวะของเขารุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือพลังที่อยู่เบื้องหลังเพลงหมัด

หลังจากหยุด ตัวเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แต่เขาก็รู้สึกผ่อนคลายมาก การฝึกร่างกายอาจทำให้คนร่าเริงขึ้น การฝึกฝนในระยะยาว อาจทำให้คนมีความมั่นใจมากขึ้น มันยังช่วยเพิ่มออร่าของคนๆหนึ่งได้ด้วย

เพื่อเติมพลังงาน โอหยางโชวทำซุบไก่หม้อใหญ่สำหรับมื้อค่ำ มันเต็มไปด้วยสมุนไพรที่มีราคาแพง แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะใช้พวกมัน เพราะเครดิตจะไม่มีประโยชน์อีกไม่นานหลังจากนี้

หลังจากทานมื้อค่ำ โอหยางโชวไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเสี่ยวเยว่ เขาเดินกลับไปที่ห้องของเขา แล้วโอนเงิน 50 เหรียญทอง ให้กับเสี่ยวเยว่ โดยไม่ประสงค์ออกนาม ก่อนจะเดินออกจากห้องมา

………………………………………………………………………………………………………..

ในลานบ้าน สีฉินและสีฉีกำลังบริการขุ่ยหยิงหยูและมู่ฉิงซี ช่วยแปลงผมให้พวกเธอ เมื่อเห็นโอหยางโชว พวกเธอก็รีบคำนับเขา ก่อนที่เขาจะไปฝึกฝนหอกของเขา

มู่ฉิงซีรอจนโอหยางโชวฝึกเสร็จสิ้นแล้วถามว่า “พี่ใหญ่ ทำไมท่านถึงตั้งให้ข้าเป็นที่ปรึกษาฝ่ายคลังอาวุธ ตอนนี้ ข้าก็แทบจะไม่มีเวลาอยู่แล้ว ข้าต้องการร้านตัดเย็บ มีงานมากมายให้ข้าต้องจัดการ มีคำสั่งซื้อมากมาย แค่นี้ข้าก็ยุ่งมากพอดูแล้วน่ะ”

“เจ้านั้นโลภเกินไป ข้าส่งเจ้าไปฝ่ายคลังอาวุธก็เพื่อให้เจ้าได้มีส่วนร่วมในการสร้างอาวุธและชุดเกราะ ซึ่งมันสามารถพัฒนาทักษะการตัดเย็บให้กับเจ้าได้ การตัดเย็บแต่เสื้อผ้าธรรมดาๆมันจะทำให้เจ้าต้องเสียเวลาในการพัฒนาทักษะ”

จริงๆแล้ว ด้วยความสามารถของมู่ฉิงซี เธอสามารถเป็นหัวหน้าฝ่ายคลังอาวุธได้ แต่เด็กเหลือขอนี่ไม่ต้องการเป็นผู้นำ และยุ่งมากเกินไป ดังนั้น เขาจึงให้เธอเป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น

“ฉิงเอ๋อรู้ว่าพี่ใหญ่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับข้า แต่ข้าคงไม่สามารถทำมันได้” เด็กน้อยทำท่าทางน่ารัก

“นั่นคือเหตุผลที่ข้าบอกว่าเจ้าโลภเกินไป เจ้าต้องการพัฒนาทักษะของเจ้า แต่กลับไม่ยอมเลิกงานจากร้านของเจ้า” เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย เธอทำให้เขาปวดหัวจริงๆ “ข้ามีวิธีที่จะแก้ปัญหาทั้ง 2 ได้”

“วิธีอะไรหรือ? บอกข้าเร็ว!”

“เจ้าเป็นเจ้าของร้านตัดเย็บ และเจ้าก็มีข้อตกลงกับกรมคลังวัสดุ ถ้าเจ้าเอากำไรบางส่วนไปจ้างช่างตัดเย็บให้มากขึ้น มันจะแก้ปัญหาได้หรือไม่? เพื่อจ้างช่างตัดเย็บเพิ่มแล้ว เจ้าก็สร้างโรงงานตัดเย็บ”

“จากนั้น ร้านตัดเย็บก็จะสามารถมุ่งเน้นไปที่ผลิต ผลิตภัณฑ์ในระดับสูงมากขึ้นได้ และเจ้าก็ยังสามารถหาเวลาทำงานในส่วนของฝ่ายคลังอาวุธ เพื่อพัฒนาทักษะของเจ้าได้อีกด้วย”

การรับพาร์ทเนอร์และทำงานร่วมกัน การขยายกิจการ และการผลิตสามารถเพิ่มผลกำไรสูงขึ้นได้ แนวคิดดังกล่าวถูกคิดขึ้นโดยโอหยางโชว

ไม่ใช่แค่มู่ฉิงซี แม้แค่ขุ่ยหยิงหยูก็ประหลาดใจ กับคำพูดของเขา เธอกล่าวว่า “แนวคิดของพี่ใหญ่ช่างยอดเยี่ยมนัก ฝ่ายธุรกิจจะใช้แนวคิดนี้ เพื่อพัฒนาร้านค้าที่สำคัญต่างๆ”

โอหยางโชวพยักหน้าและหัวเราะ

 

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด