ตอนที่ 25 อันตรายที่คืบคลาน
หลังจากที่เดินทางมานานกว่า6ชั่วโมงบนไทแรนด์ มันก็เริ่มมืดขณะที่เห็นดาวบนท้องฟ้า
บางทีไทแรนด์อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ทะเลทรายทองพิสุทธคือพื้นที่ระดับ1และมันจะไม่มีมอนสเตอร์อื่นใดที่เกินระดับเหล็ก
ไทแรนด์คือระดับเหล็กขั้น3 มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหารและนักล่าตนอื่นๆที่พยายามหลีกเลี่ยงมัน
มันเป็นช่วงเวลากลางวัน ตอนที่ร้อนที่สุด นักล่าส่วนใหญ่จะเลือกที่จะจำศีลหรือพักผ่อน
เมื่อดวงอาทิตย์ตกลง อุณหภูมิจะลดลงและพวกมันก็จะออกไปล่าสัตว์ มันจะเป็นปัญหาหากหลิน ฮวง เดินทางในเวลากลางคืน
ด้วยไทแรนด์ พวกเขามีเวลาอีกเหลือเฟือที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องเดินทางในเวลากลางคืน
หลังจากที่เขาเรียกไทแรนด์กลับมา หลิน ฮวง ก็อัญเชิญมอนสเตอร์ทรายตัวที่สอง
เจ้าอ้วนเมื่อเห็นหลิน ฮวง อัญเชิญตัวอื่นมา เขาก็ตกตะลึง
“น้องชาย นายมีมอนสเตอร์มากแค่ไหน?”
“นั่นเป็นความลับ”หลิน ฮวง ไม่ได้หันกลับไปเมื่อเขาตอบเจ้าอ้วนขณะที่สร้างเต็นท์
“ทำไมนายถึงไม่ซื้อเต็นท์พกพา?มันยุ่งยากมากที่จะสร้างมันจากไม้”เจ้าอ้วนนั่งอยู่บนหินขณะที่เฝ้าดูหลิน ฮวง สร้างเต็นท์
“ฉันจน ฉันไม่สามารถจ่ายมันได้”
สิ่งที่หลิน ฮวง กล่าวคือความจริง
เต็นท์แบบพกพาที่เจ้าอ้วนกล่าวมันถูกสร้างจากหมูหุ้มเกราะ ราคาของมันไม่ได้น้อยไปกว่าอุปกรณ์ระดับเหล็ก
เมื่อไม่กี่วันก่อน หลิน ฮวง ไม่สามารถที่จะจ่ายเพื่อซื้อมันได้
แต่มันกลับฟังดูไร้สาระต่อเจ้าอ้วน
“ฉันจะเชื่อหากนายไม่สามารถที่จะใช้คริสตัลชีวิตของนายเพื่อไปถึงระดับเหล็ก แต่หากนายบอกฉันว่านายไม่แม้แต่จะซื้อเต็นท์พกพาได้ นั่นมันไร้สาระ!ฉันต้องไปเยี่ยมบ้านนายสักวันเพื่อดูว่านายจนแค่ไหน หากนายไม่สามารถซื้อเต็นท์พกพาได้ ฉันจะใช้เงินทั้งหมดที่ฉันมีเพื่อช่วยให้นายขึ้นระดับเหล็ก!”เจ้าอ้วนคิดว่าหลิน ฮวง นั้นพูดเกินจริง ดังนั้นเขาจึงประกาศกร้าว
สำหรับคนทั่วไปที่จะไปถึงระดับเหล็ก มันจะต้องมีเครดิตมากกว่า200ล้าน เพื่อที่จะเปิดใช้งานช่องสีเทาทั้งหมดในกงล้อชีวิต
200ล้านเครดิตมันเป็นจำนวนมาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ในโลกนี้จะไม่อาจไปถึงระดับเหล็กได้
หลิน ฮวง หัวเราะเมื่อได้ยินเจ้าอ้วนพูด“นายไม่จำเป็นต้องไปที่บ้านฉัน เมื่อพวกเราประเมินจบ ฉันจะพานายไปยังที่ทำการเครดิตเพื่อแสดงเครดิตที่ฉันมีให้นายดู นายจะต้องเชื่อฉันแน่ๆ”
“ว่าไงนะ?นายต้องล้อเล่นแน่ๆ นายจนจริงๆงั้นรึ?”เจ้าอ้วนตกใจเมื่อได้ยินหลิน ฮวง พูด
หลิน ฮวง ยิ้มโดยไม่พูดอะไร เจ้าอ้วนก็ยิ่งตกใจเมื่อขึ้นเมื่อเห็นหลิน ฮวง ยิ้ม“ตอนนี้ ฉันกำลังยุ่งอยู่ โปรดอย่าทำให้มันจริงจังมากไป”
หลิน ฮวง ไม่สนใจเขาขณะที่เขาใส่ใจในการสร้างเต็นท์ เมื่อเขาทำเสร็จ มันก็มืด
หลิน ฮวง หันไปมองข้างหลังและเห็นเจ้าอ้วนยังคงนั่งบนหินโดยไม่นำเต็นท์ออกมา “เต็นท์พกพาของนายอยู่ไหน?”
“เอ่อ เรื่องนั้น....มันได้ปลิวไปตามสายลมเมื่อคืนก่อน...”เจ้าอ้วนเกาหัวและหลีกเลี่ยงการสบสายตากับหลิน ฮวง
“โอ้ งั้นเรามาเตรียมอาหารเย็นกัน”หลิน ฮวง ดูเหมือนจะไม่ใสใจกับการที่เจ้าอ้วนไม่มีเต็นท์ เขาเหยียดร่างเขาและพึมพำ“ฉันจะนอนหลับหลังอาหาร มันเป็นวันที่ยาวนาน ฉันเหนื่อยมาก”
“นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับนาย แต่แล้วฉันละ?”เจ้าอ้วนมองดูหลิน ฮวง ผู้ที่พึ่งจะสร้างเต็นท์ของเขาด้วยความลำบาก“เราจะนอนเต็นท์ร่วมกันในคืนนี้เป็นไง?”
“นั่นมันจะไม่เกิดขึ้น นายต้องแก้ปัญหาด้วยตัวนายเอง”หลิน ฮวง ตอบโดยไม่ต้องคิด
“มันมักจะหนาวในตอนกลางคืน มองมายังร่างกายอันบอบบาของฉัน หากฉันต้องนอนข้างนอกในตอนกลางคืน ฉันจะหนาวตาย นายอยากจะให้มันเกิดขึ้นกับฉันจริงๆ?”เจ้าอ้วนกระพริบตาราวกับลูกหมา
“มันจะไม่เป็นปัญหา หากนายหนาว นายสามารถกอดมอนสเตอร์ทรายได้”หลิน ฮวง ให้คำแนะนำที่สร้างสรรค์แก่เขา
“มันมีไขมันที่มากกว่านาย แถมยังเซ็กซี่อีกด้วย”
“ฉันอยากตาย…”เจ้าอ้วนมองไปที่มอนสเตอร์ทรายขณะที่มันยิ้มให้เขา เจ้าอ้วนส่ายหัวและปฏิเสธคำแนะนำ
“อย่าโบ้ยความผิดเลย มากินอาหารกัน!”หลิน ฮวงเปลี่ยนหัวเรื่อง
“ฉันได้สูญเสียความกระหายของฉันไปแล้ว ฉันไม่สามารถกินได้อีก ฉันจะไม่ทำอาหาร”เจ้าอ้วนหันหน้าหนี เขาดูเหมือนจะโกรธมาก
“ทำอาหารก่อน ฉันจะคิดมันหลังจากอาหารเย็น”
“ไม่!นายต้องแกปัญหาให้ฉันตอนนี้หรือฉันจะไม่ทำอาหารในคืนนี้”เจ้าอ้วนนั่งอยู่บนหินขณะที่รอคอยให้หลิน ฮวง แก้ปัญหา
“การแก้ปัญหาก็คือ....ฉันมีเต็นท์สำรอง”หลิน ฮวง หัวเราะ
“นายกำลังล้อฉันเล่น?”เจ้าอ้วนกลัวว่าหลิน ฮวง จะไม่จริงจัง
หลิน ฮวง ไม่ได้พูดอะไรขณะที่เขาหยิบเสาเต็นท์ออกมาจากช่องเก็บของ
“ทำไมนายไม่บอกฉันก่อน!”เจ้าอ้วนตะโกนใส่เขาขณะที่หัวเราะ
“ไม่เหมือนกับบางคน ฉันได้วางแผนอย่างเหมาะสมและนำเต็นท์สำรองมา”หลิน ฮวง กล่าวขณะที่วางทุกส่วนของเต็นท์สำรองไว้บนพื้น“นายต้องตั้งมันเองหลังจากอาหาร ฉันจะไปนอนละ”
จากนั้น เจ้าอ้วนก็หยิบโต๊ะอาหารออกมาและเริ่มเตรียมอาหารเย็น
หลังจากอาหารเย็น ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นมืดสนิทด้วยดวงดาว มันราวกับมหาสมุทร ที่ส่องกระกายอยู่เหนือหัว
ความร้อนบนพื้นทรายได้หายไปและลมก็หนาวเย็น
หลิน ฮวง ได้สั่งให้มอนสเตอร์ทรายเฝ้ายามทั้งคืนขณะที่เขาเข้าไปในเต็นท์
เจ้าอ้วนเองก็กำลังตั้งเต็นท์อย่างงุ่มง่าม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าอ้วนได้ตั้งเต็นท์อย่างเบี้ยวๆและยังคงมีชิ้นส่วนบนพื้น
เขาสูญเสียความอดทนของเขาและเดินเข้าไปในเต็นท์อันไม่สมบูรณ์ขณะที่พยายามอย่างหนักเพื่อปิดเต็นท์
เนื่องจากพายุทรายในคืนก่อน เขาจึงไม่ได้พักผ่อนแบบสบายๆ ในไม่ช้า เขาจึงหลับไป
เมื่อได้ยินเสียงกรนของเจ้าอ้วนที่อยู่ไม่ห่างไกล หลิน ฮวง ก็ยิ้มขณะที่ส่ายหัว
เจ้าอ้วนนี้ช่างไร้เดียงสา ปลดความระวังตัวลงเมื่อเขาอยู่กับหลิน ฮวง เขาได้หลับในทันที
“สงสัยมันจะเหนื่อยมาก...”
เนื่องจากหลิน ฮวง ได้พักผ่อนมามากในคืนก่อน เขาจึงไม่ง่วงแม้ว่าเขาจะเหนื่อย
ความง่วงนอนมันพึ่งจะมาตอนกลางดึก
เมื่อคืนที่ผ่านมา ทะเลทรายได้หนาวเย็นอย่างมาก
ก่อนรุ่งเช้า มันมีชั้นน้ำแข็งค้างอยู่บนพื้น
ภายใต้ดวงจันทร์เต็มดวงสีม่วงสองดวง ทะเลทรายได้เงียบสงบ
ทันใดนั้น มอนสเตอร์ทรายที่นั่งอยู่หน้าเต็นท์ก็ดูเหมือนจะได้กลิ่นของบางอย่าง
มันเริ่มที่จะสูดอากาศรอบๆและมองไปยังทิศทางที่มันได้กลิ่น
แม้ว่ามันจะไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันคืออะไรเพราะมันอยู่ไกล มันก็สามารถเห็นได้ว่ามีบางสิ่งที่กำลังเข้ามาใกล้พวกเขาด้วยความเร็วอันน่าตกใจ
มันลุกขึ้นยืนในทันทีและกู่ร้องไปทางเต็นท์
“อ่า อู้!อ่า อู้!อ่า อู้!”
หลิน ฮวง พึ่งจะหลับไปได้แค่สองชั่วโมงก่อนที่จะได้ยินเสียงกรีดร้องของมอนสเตอร์ทรายด้านนอก เขาลุกขึ้นนั่งในทันที
เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าและรองเท้าออกเนื่องจากกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น
เขาเปิดเต็นท์และมองออกไป และเขาก็ตกใจเมื่อมองไปยังทิศทางที่มอนสเตอร์ทรายได้ชี้
จากนั้นเขาก็เดินไปทางเต็นท์ของเจ้าอ้วน
หลังจากที่พยายามอยู่หลายครั้งในการเปิดเต็นท์ เขาก็หยิบดาบออกมาและตัดเต็นท์ทันที
เขาตบหน้าเจ้าอ้วน“ตื่นได้แล้วเจ้าอ้วน พวกเราจะตายหากนายยังคงนอนหลับ!”