บทที่ 13 ความลับของถ้ำอาถรรพ์!!
"ค่าพลังของเจ้าปีศาจตัวนี้นับว่าสูงมากจนไม่มีใครคาดคิด โดยปกตินั้นการปลิดชีพปีศาจหนึ่งร้อยตัวสามารถแลกยาเม็ดสมุนไพรยู่หลิงได้แค่สิบเม็ด หากแต่สามารถปลิดชีพเจ้าปีศาจกลายพันธุ์ได้ก็จะสามารถเพิ่มจำนวนเม็ดยาสมุนไพรยู่หลิงถึงหนึ่งร้อยเม็ดทีลยทีเดียว!
หลานหยูค่อนข้างอิจฉาซ่งหยูที่เขาสามารถปลิดชีพเจ้าปีศาจกลายพันธุ์ได้นางกล่าวว่า "กระดูกของมันนั้น
ถูกสร้างมาจากธาตุเหล็กที่บริสุทธิ์ที่สูงกว่าปีศาจธรรมดาทั่วไป นับว่าเป็นวัสดุที่ดีในการสร้างอาวุธวิญญาณ ด้วยน้ำหนักเหล็กที่เกินกว่า 3 ตันซึ่งมันสามารถใช้ปรับแต่งเป็นอาวุธวิญญาณระดับสูงได้!
ซ่งหยูรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมากที่เขาจะได้รับยาเม็ดสมุนไพรยู่หลิงถึงหนึ่งร้อยเม็ด ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีสำหรับเขาซึ่งกำลังต้องการมากอยู่ในขณะนี้
อาวุธวิญญาณยังฟังดูน่าสนใจมากเพราะพวกเขาจะสามารถเพิ่มขีดจำกัดในการต่อสู้ได้เป็นอย่างมาก
กระดูกของเจ้าปีศาจกลายพันธุ์นี้สามารถปรับแต่งอาวุธวิญญาณได้มากกว่าสิบชนิดเลยทีเดียว!
และมีศิษย์บนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีอาวุธวิญญาณเหล่านี้แต่ส่วนมากจะเป็นอาวุธวิญญาณที่ด้อยกว่าและสร้างขึ้นด้วยโลหะธรรมดาอีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้มากนัก!
หลานหยูปิดตาของนางภายใต้ห้วงมหาสมุทรแห่งจิตเรียกเปลวไฟที่รุนแรงให้โหมกระหน่ำเผาไปที่ซากศพของเจ้าปีศาจตั๊กแตนและกล่าวว่า "แม้ว่าจะเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่ด้อยกว่า แต่ก็ไม่ควรที่จะประเมินพลังที่เบานั้นเกินไป หากแต่เมื่อควบคุมวิญญาณได้แล้ว มันก็จะสามารถบินด้วยความรวดเร็วเช่นสายฟ้า และสามารถจับศัตรูได้ ในขณะที่อาวุธจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูงปราศจากสิ่งเจือปนใดๆ นั้น จะมีศิษย์บนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีอาวุธจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เฉพาะศิษย์ที่สำคัญจากชนเผ่ายิ่งใหญ่สิบเผ่าเท่านั้นที่จะสามารถมีอาวุธที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้! "
เปลวเพลิงที่รุนแรงลุกไหม้อย่างรวดเร็วไม่นานนักซากศพของเจ้าปีศาจตั๊กแตนก็กลายเป็นเถ้าถ่าน เหลือไว้เพียงโครงกระดูกที่ประกอบไปด้วยเหล็กบริสุทธิ์สีดำที่ค่อยๆ ส่องสว่างขึ้น
หลานหยูปิดตาและจินตนาการภายในห้วงมหาสมุทรแห่งจิตอีกครั้ง และเรียกสายฝนให้ตกลงมาทำให้กระดูกเหล็กมีสีเข้มขึ้น นางกล่าวว่า "การสร้างอาวุธวิญญาณนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถจะทำเองได้ แต่ต้องให้ผู้เสำเร็จการบ่มเพาะระดับสูงเท่านั้นจึงจะสามารถทำได้ เจ้าสามารถที่จะขายให้กับพวกเขาเหล่านั้น หรือจะให้ใครมาสร้างให้ก็ได้ แม้ว่าตระกูลของข้านั้นไม่ได้เป็นหนึ่งในสิบตระกูลที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังมีคนในตระกูลที่สำเร็จการบ่มเพาะระดับสูงอยู่บ้าง!"
"ซ่า! ซ่า!"
จากฝนที่ตกลงมาทำให้โครงกระดูกเหล็กสีดำปล่อยไอหมอกออกมา และเย็นลงในที่สุด
ซ่งหยูพยักหน้าในคำกล่าวของหลานหยู หากเป็นเพราะด้วยตระกูลของซ่งหยูนั้นมาจากชนเผ่าที่อ่อนแอ และไม่มีผู้สำเร็จการบ่มเพาะขั้นสูงสุด และยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธุ์กับคนในตระกูลมากนัก
แต่ถ้าหากหลานหยูพอจะรู้จักคนในตระกูลใหญ่แล้วขายโครงกระดูกเหล็กนี้ได้ก็คงจะดีไม่น้อย!
หลานหยูได้กล่าวต่อว่า"เอาล่ะ! เอาเป็นว่าเจ้าช่วยทำความสะอาดโครงกระดูกนี้ให้สะอาด แล้วแบกใส่หลังเจ้าเพื่อตามหาเหล่าศิษย์น้องเราก่อนแล้วกัน เพราะสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นดินแดนของปีศาจร้ายที่อันตรายมาก หากเราแยกกันเช่นนี้เมื่อเราเจอปีศาจร้ายเราจะรับมือมันได้ยากขึ้น รีบไปเถอะ!"
"ตกลง!"
ซ่งหยูชื่นชมกับความสามารถของนางในการเรียกไฟและน้ำในเวลาเดียวกันได้ เขากล่าวว่า "ศิษย์พี่ท่านมีความเชี่ยวชาญในการเรียกไฟและน้ำในเวลาเดียวกันขนาดนี้เลยรึ ท่านนี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!"
"การเรียกไฟและน้ำซึ่งเป็นเพียงเคล็ดวิชาเล็ก ๆ ที่จะต้องใช้เพื่อเดินทางไกลไม่แปลกอะไรมากนักหรอก หากแต่มีประโยชน์อยู่มาก โดยการเดินทางไกลๆ นั้นเราจำต้องกินอาหารและน้ำด้วยเหตุนี้เราจึงต้องเรียนรู้ไว้!"หลานหยูตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ภายในห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของซ่งหยูนั้นเขากลายร่างเป็นมังกร และคาบโครงกระดูกเหล็กที่มีน้ำหนักถึง 3 ตันไว้ในปาก และเดินตามหลังหลานหยูไปอย่างช้าๆ
หลานหยูรู้สึกชื่นชมซ่งหยูอย่างเงียบๆภายในใจ นางเห็นว่าซ่งหยูนั้นมีพลังจิตที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากจากน้ำหนักของโครงกระดูกเหล็กถึง 3 ตัน แต่ร่างของมังกรนั้นก็สามาถหยับมันขึ้นมาอย่างง่ายดาย และไม่แปลกที่เขาจะสามารถสังหารมันได้ไม่ยาก และไม่ใช่เพราะโชคช่วยอย่างแน่นอน!
ทัั้งสองรีบเดินทางมุ่งหน้าไปบนหุบเขาที่สูงชัน และมองเห็นสัญญาณควันที่ลอยสูงเป็นอักษรอ่านได้ว่า
"อาจารย์ปู่!"
ไม่นานนักกลุ่มของเฉิงฉวนได้เห็นสัญญาณควันดังกล่าวก็ได้เดินทางไปบนหุบเขาเพื่อรวมกับกลุ่มของ
ซ่งหยูและหลานหยู พวกเขาล้วนประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เห็นโครงกระดูกเหล็กคาบอยูภายในปากของมังกรที่อยูบนหลังของซ่งหยู!
"นี่เจ้าสามารถสังหารเจ้าปีศาจตั๊กแตนได้เช่นนั้นหรือ?" เฉิงฉานร้องอุทานออกมาโดยไม่ตั้งใจ
ซ่งหยูส่ายหัวและตอบด้วยรอยยิ้ม "เอ่อ...หาใช่ไม่! พอดีข้าเพียงบังเอิญซุ่มซ่ามวิ่งไป และสะดุดมันล้มลงพอดีน่ะ...พอลุกขึ้นมาข้าก็พบเข้ากับโครงกระดูกเจ้าปีศาจตั๊กแตนนี้แล้ว มันอาจจะตายมานานแล้วก็เป็นได้
ว๊า! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! "
เฉิงฉานและคนอื่นๆต่างอิจฉาซ่งหยูในความบังเอิญของเขาเป็นอย่างมากและกล่าวว่า" เหตุใดหาเป็นข้าไม่ที่บังเอิญสะดุดเข้ากับสิ่งล้ำค่าเช่นนี้บ้าง?"
ส่วนศิิษย์คนอื่นๆเมื่อได้เห็นสัญญาณควันก็ล้วนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งภายในระยะเวลาครึ่งชั่วยาม!
เหล่าศิษย์ทุกคนต่างประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเหล่านั้นได้เห็นโครงกระดูกของปีศาจตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่อยู่ข้างหลังของซ่งหยู ด้วยความตกใจ และความอยากรู้ของพวกเขาทำให้เฉิงฉานอธิบายถึงเรื่องบังเอิญที่ซ่งหยูได้พบกับโครงกระดูกนั้นทั้งหมดให้ศิษย์เหล่านั้นได้ฟัง แต่แล้วในความบังเอิญนั้นก็คงเป็นที่อิจฉาริษยาของศิษย์เหล่านั้นอยู่ดี ว่าเหตุใดจึงหาใช่ตนเองที่เป็นฝ่ายพบเจอโครงกระดูกนั้นไม่?
หลานหยูแกล้งกระแอมแล้วกล่าวว่า"เอาล่ะพวกเจ้า! ตอนนี้เราต้องสูญเสียพี่น้องเราไปถึงสองคน สถานที่แห่งนี้นับว่าอันตรายมากสำหรับพวกเรา และเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ข้าว่ามันมีอะไรแปลกๆที่นี่เป็นแน่! มิฉะนั้นแล้วมันจะเป็นไปไม่ได้ที่ถ้ำปีศาจเล็กๆแห่งนี้จะเป็นที่กำเนิดปีศาจกลายพันธุ์ดั่งเช่นเจ้าปีศาจตั๊กแตนได้ เราจำเป็นต้องรายงานเรื่องนี้ให้ทางนิกายฯได้ทราบและตรวจสอบสถานที่นี้โดยเร็วที่สุด เพราะมันอาจเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงต่อไปก็เป็นได้!"
ทุกคนพยักหน้าตกลง
ความผิดปรกติที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของปีศาจตั๊กแตนนั้น อาจเกิดขึ้นได้หนึ่งในล้านตัวเท่านั้น
แต่ในทางตรงกันข้ามความผิดปรกติดังกล่าวอาจจะทำให้มันมีขนาดเล็กลงก็เป็นได้เพื่อการมีชีวิตรอดและดำรงค์เผ่าพันธุ์ของพวกมันไว้สืบต่อไป
แต่ทว่า.....มันอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เบื้องหลังของการเกิดการกลายพันธุ์ของปีศาจเหล่านั้นภายใต้ซากปรักหักพังแห่งนี้แน่นอน!
เมื่อทุกคนกำลังจะลงจากหุบเขาพวกเขากลับได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากไกลๆ พวกเขาเห็นเมฆสีดำที่กำลังก่อตัวและรวมตัวกันอย่างรวดเร็วค่อยๆ มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันกำลังมุ่งหน้าตามมาทางพวกเขา ในขณะที่ศิษย์หลายคนกำลังวิ่งหนีพวกมันเพื่อเอาชีวิตรอด!
"นั่นเป็นศิษย์น้องอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวออกไปนี่!"
เฉิงฉานรู้ทันทีว่าพวกเขากำลังหลบหนีเมฆดำที่กำลังลอยตัวตามพวกเขามา เขากล่าวถามอย่างตกใจว่า"พวกเจ้าหนีอะไรกันมาเล่า?"
"ปะ..ปะ...ปีศาจเหยี่ยว!"
ศิษย์หญิงคนหนึ่งถึงกับห้องโฮออกมาด้วยความตกใจกลัวร้องตะโกนว่า "มีปีศาจเหยี่ยวจำนวนมากกำลังมุ่งตรงมาทางนี้!"
มันไม่ใช่ก้อนเมฆดำธรรมดาหากแต่มันคือเหล่าปีศาจเหยี่ยวหลายพันตัวที่กำลังกระพือปีกของมันบินมาทางนี้ด้วยสายตาที่แดงกล่ำราวกับเลือด!
ซ่งหยูจ้องมองเหล่าปีศาจเหยี่ยว มันเป็นสัตว์ที่มีเป็นหัวมนุษย์และร่างเป็นนก มีสองปีก กรงเล็บขนาดใหญ่ และปากที่เต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม พวกมันกำลังไล่ล่าศิษย์หญิงคนนั้นเพื่อหมายเป็นเหยื่อของมัน!
ทันใดนั้น!
มันก็ใช้กรงเล็บที่ใหญ่และแหลมคมของมันจิกลงไปที่ไหล่และคว้าร่างของนางไปในอากาศ ซึ่งมีปีศาจเหยี่ยวอีกจำนวนมากที่บินโฉบไปโฉบมาเพื่อจะยื้อแย่งเหยื่อ จากนั้นพวกมันก็แย่งกันฉีกร่างของนางออกเป็นชิ้นๆทันที เศษเนื้อและเลือดกระเซ็นกระจัดกระจายลงสู้พื้นอย่างน่าสยดสยอง!
"หลินชู่ผิง ตะ...ตายแล้ว!"
เฉิงฉวนจ้องมองด้วยอาการตื่นตระหนกสุดขีดเมื่อเขาเห็นฝูงปีศาจเหยี่ยวนับร้อยกำลังฉีกร่างของศิษย์หญิงคนนั้น! เขาพึมพำกับตัวเองว่า"หลินชู่ผิงจากตระกูลยู่หลินนับเป็นตระกูลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของศิษย์บนของนิกายฯ ผู้ที่ใกล้จะสำเร็จการบ่มเพาะขั้นสูงแล้วนางจะถูกฉีกร่างโดยปีศาจเหยี่ยวได้อย่างไรกัน?"
"มันเป็นปีศาจเหยี่ยวกลายพันธุ์เช่นนั้นหรือ?!"
ใบหน้าของหลานหยูเองก็ซีดเผือดเช่นกันขณะที่นางตั้งสติได้ และร้องตะโกนทันทีที่นางตัดสินใจว่า
"พวกเจ้าจงรีบลงจากหุบเขาโดยเร็ว และทิ้งให้พวกมันแปรสภาพภายในถ้ำอาถรรพ์แห่งนี้ ไม่ว่าพวกมันจะกลายพันธุ์เป็นอะไรขนาดเท่าใดก็ตามเร็วเข้า!"
ซ่งหยูรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเลวร้ายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้ แต่ทว่า....ตัวแรกปีศาจตั๊กแตนที่เกิดความผิดปกติจนเกิดการกลายพันธุ์นั้นมันยังมีพละกำลังมากมายขนาดนี้ แล้วเจ้าปีศาจเหยี่ยวหากเกิดการพัฒนาจนกลายพันธุ์ แล้วพละกำลังของมันจะมากมายมหาศาลสักเพียงใด?
เหล่าสาวกต่างพากันวิ่งลงจากหุบเขาอย่างรวดเร็ว หลานหยูได้วิ่งไปติดๆกับซ่งหยูแล้วกล่าวว่า"ซ่งหยูหากมีอัตนรายเกิดขึ้นข้างหน้าเราต้องร่วมมือกัน......."
เมื่อเฉิงฉานได้ยินการสนทนาของหลานหยูถึงกับเคลือบแคลงใจยิ่งนัก"เหตุใดกัน ศิษย์พี่จึงกล่าวเช่นนั้น?"
ซึ่งเฉิงฉานเองนั้นยังไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องพละกำลังของซ่งหยู...
หลานหยูเองได้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซ่งหยูที่มีมากกว่านางเสียอีก นางจึงขอความช่วยเหลือหากมีเหตุเกิดขึ้น!
"ศิษย์พี่หาต้องกังวลไม่! ตอนนี้เราก็เหมือนอยู่ในเรือลำเดียวกัน เราต้องประสานพลังเป็นหนึ่งเดียวถึงจะมีโอกาสรอดได้!"
ขณะที่เขาจบประโยคก็ปรากฏควันที่หนาทึบปกคลุมไปทั่ว ทันใดนั้น! แมงมุมยักษ์สีดำกว่าร้อยตัวกำลังไล่ล่าตามหลังศิษย์คนอื่นๆอยู่!
แมงมุมยักษ์วิ่งด้วยความเร็วด้วยแปดขาของมัน แต่ละตัวมีความสูงประมาณ 2 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 เมตร และบนหลังของพวกมันนั้นถูกตรึงไว้ด้วยสัญลักษณ์ไว้ที่ลำตัว พวกมันก็คือปีศาจแมงมุมในซากปรักหักพังนั่นเอง!
ปีศาจแมงมุมคลานไปข้างหน้าอย่างน่าสะพรึง! พวกมันปล่อยน้ำลายที่เหนียวหนืดออกมาจาปาก และจับศิษย์คนหนึ่งด้วยใยที่เหนียวหนืดของมัน และห่อหุ้มร่างของเหยื่อจนไม่สามารถที่จะต้านทานแรงของมันได้เขาส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาเพียงครั้งเดียวก่อนที่จะถูกกลืนหายไป คงเหลือไว้เพียงรอยเลือดที่หยดอยู่ตามพื้นเพียงไม่กี่หยดเท่านั้น!
"ปีศาจแมงมุม !"
ใบหน้าของหลานหยู เฉิงฉาน และเหล่าศิษย์คนอื่นๆเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดทันทีก่อนที่พวกเขาจะวิ่งสุดชีวิตเพื่อเอาชีวิตรอด!
"ศิษย์คนนั้นคือซ่งฉี และพวกเขายังตกอยู่ในอันตรายหลังจากเผชิญหน้ากับปีศาจแมงมุมที่กลายพันธุ์!"
มีเพียงศิษย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดมาได้ และได้พบกับศิษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตจากการไล่ล่าของปีศาจแมงมุม และอีกนับร้อยคนที่ต้องนำชีวิตมาสังเวยให้กับปีศาจ ณ สถานที่ซากปรักหักพังแห่งนี้!
มีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในซากปรักหักพังเหล่านี้ ที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัว!
"หากเราติดอยู่ในซากปรักหักพังเหล่านี้นั้นโดยที่ท่านอาจารย์มิได้ล่วงรู้ข้ากลัวว่าพวกเราจะตายกันหมด!"
"เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงได้มีปีศาจกลายพันธ์ุจำนวนมากปรากฏตัวที่นี่? "
--------
ซ่งหยูและคนอื่นๆยังคงวิ่งหนีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแต่กลุ่มปีศาจกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ออกมาจากรังของพวกมัน ภายใต้การควบคุมของผู้นำที่กลายพันธุ์ของมันที่ล้อมรอบเหล่าศิษย์คนอื่นๆไว้
"หึ!หึ! เจ้าพวกมนุษย์หน้าโง่! พวกเจ้าต่างหากเล่าที่รังแกพวกข้ามามาเป็นเวลาช้านานแล้ว ทำให้เราถูกปิดผนึกและถูกคุมขังในสถานที่แห้งนี้มาช้านาน และให้เราเป็นดั่งสัตว์เลี้ยงเพื่อให้ลูกหลานของพวกมันใช้ฝึกฝนนับจากวันนั้นจวบจนวันนี้!
เจ้าปีศาจกลายพันธุ์ตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่อยู่นอกวงล้อมภายในบรรยากาศที่ถูกปกคลุมด้วยรัศมีความชั่วร้ายที่รั่วไหลออกไปสู่อากาศ มันคือผู้นำของเหล่าปีศาจร้ายที่ปกครองอยู่ในสถานที่แห่งนี้
ซึ่งในหมู่ของปีศาจที่กลายพันธุ์บางกลุ่มก็ได้สร้างวิญญาณปีศาจขึ้นรวมตัวกับวิญญาณของพวกมัน และวิญญาณ ของปีศาจในสถานที่ซากปรักหักพังนี้เข้าด้วยกัน ดังนั้นพวกมันจึงกลายเป็นนักรบปีศาจนั่นเอง!
"พวกข้าเป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ในอุโมงค์แห่งนี้มาอย่างยาวนานหลายพันปีแล้ว ปีศาจนับไม่ถ้วนได้ทำงานอย่างหนักมาช้านานแ และในที่สุดความพยายามของเราก็เป็นผล มันสามารถก่อให้เกิดวิญญาณชั่วร้ายภายในโลกแห่งปีศาจซากปรักหักพังแห่งนี้!"
ผู้นำของปีศาจคือผู้บ่มเพาะสูงสุดที่ถูกปกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำ ซึ่งมันกำลังหัวเราะเสียงดังกังวานราวกับเสียงพายุที่กำลังโหมกระหน่ำ
"ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! วันนี้ข้าจะนำเอาลูกหลานมนุษย์เหล่านี้มาเป็นผู้เสียสละเพื่อบรรพบุรุษของพวกข้าเผ่าพันธุ์ปีศาจ และปลุกจิตวิญญาณของบรรพบุรุษของข้าให้พ้นจากสถานที่ปรักหักพังแห่งปีศาจเหล่านี้เสียที เราจะเรียกคืนถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นความชอบธรรมของเรา! และข้าต้องการเลือดของมนุษย์เหล่านี้เพื่อมาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของบรรพบุรุษของข้า และปลุกพวกเขาจากการหลับไหลให้ตื่นขึ้นในที่สุด! ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!"
เบื้องหลังของผู้นำปีศาจลุกขึ้นยืนกลางอากาศแล้วตะโกนดังขึ้นว่า"พวกเจ้าจงฟังข้า.....อย่าเพิ่งกินพวกมันเป็นอาหาร เพียงจับตัวพวกมันไว้เท่านั้น!"
"จงปล่อยให้พวกมันเก็บชีวิตไว้อีกสักพัก...เมื่อถึงเวลาพวกมันจะต้องเสียสละเพื่อวิญญาณของบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ปีศาจที่ยิ่งใหญ่ของเราให้ตื่นจากการหลับไหลอีกครั้ง ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!"
.......................................................................................................................