ตอนที่แล้วChapter 80: ตัวเลือกของเจียงลู่ฉี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 82: บทเรียนการยิงปืน

Chapter 81: นายมีปืนไหม?


“พี่ชาย เกิดอะไรขึ้นกับพี่กันแน่? ได้โปรดประตูให้หนูที”เจียงจู้อิงยังคงกังวล เพราะว่าเธอเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน

 

เจียงลู่ฉีเปิดประตูและเจียงจู้อิงก็กระโดดขึ้นมาบนรถในทันที

 

ในเวลาเดียวกัน จิตใต้สำนึกของเจียงลู่ฉีก็มุ่งจดจ่อไปที่มันและเขาค้นพบว่าเขาสามารถที่จะสังเกตเห็นทุกการกระทำของเจียงจู้อิง รวมไปทั้งการขยับของเสื้อผ้าของเธอด้วย การกระทำของเธอนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่ในมุมมองของเจียงลู่ฉีแล้ว การกระทำของเธอนั้นช้าไปจากปกติถึง3.5เท่า

 

หลังจากการวิวัฒนาการพื้นที่ของสมองแล้ว เจียงลู่ฉีสามารถที่จะประมาณการกระทำที่ช้าลงได้อย่างแม่นยำ ถ้าศัตรูนั้นขึ้นมาบนรถ เจียงลู่ฉีก็มีเวลาเพียงพอในที่จะทำมัน ยกตัวอย่างเช่นหยิบปืนขึ้นมา อย่างไรก็ตามเมื่อจิตใต้สำนึกของเขาต้องการที่จะทำอะไรบางอย่าง เขาก็ค้นพบว่าความเร็วของเจียงจู้อิงรวมไปกระทั่งความเร็วของตัวเขาเองก็ช้าลงด้วย ซึ่งมันก็คือความเร็วของการส่งของเส้นประสาทนั้นเร็ว แต่กล้ามเนื้อไม่สามารถที่จะตามความเร็วของเส้นประสาทได้ทัน

 

ถ้าให้เจียงลู่ฉีวิ่งหนึ่งร้อยเมตร เขาก็คงจะวิ่งเร็วกว่าเดิมสองถึงสามวินาทีเนื่องจากการทำงานร่วมกันของพื้นที่สมองมันยอดเยี่ยมขึ้น แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะวิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมสิบเท่าจากก่อนหน้านี้ ซึ่งมันเป็นระดับของพวกนักกีฬาระดับสูง

 

ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยปราศจากข้อเสียเปรียบ นี่คือยีนเหลววิวัฒนาการอย่างแรกที่ถูกสร้างโดยห้องปฏิบัติการทางชีวภาพที่สามารถวิวัฒนาการได้เพียงความสามารถเดียว ถ้าเขาเลือกการวิวัฒนาการทางความคล่องตัว หลังจากนั้นความเร็วของเขาก็คงจะเร็วเป็นอย่างมาก แต่ปฏิกิริยาของเขาก็คงจะไม่สามารถที่จะตามทัน พูดตรงๆแล้ว มันก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับ “พี่ชายหยู่”

 

[สมองของฉันได้รับการวิวัฒนาการก็จริง แต่กล้ามเนื้อไม่สามารถที่จะตามความเร็วของเส้นประสาทได้ทัน ถึงแม้ว่าฉันสามารถที่จะเห็นหมัดจากฝั่งตรงข้ามมาก็ตามที ร่างกายของฉันก็ช้าไป ดังนั้นฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แต่มองให้หมัดมันมาโดนฉัน]สมองของเจียงลู่ฉีนั้นยังคงวิ่งไปมาอย่างรวดเร็วและเขาประเมินถึงความแข็งแกร่งของตัวเอง

 

เจียงลู่ฉีรู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับจุดอ่อนอันร้ายแรงของเขา ด้วยเหตุนี้เอง เจียงลู่ฉีตัดสินใจที่จะไม่จดจ่อมันอีกต่อไป ด้วยอย่างนี้เอง ความเร็วของเจียงลู่ฉีก็กลับมาเป็นปกติสำหรับตาของเขา

 

ถึงแม้ว่าการวิวัฒนาการพื้นที่สมองจะเรียบร้อยแล้ว ถ้าเขาตั้งใจที่จะใช้ความสามารถใหม่ของเขา ในช่วงเวลาปกติแล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อก่อนเลย

 

“จู้อิง พี่สบายดี”

 

เจียงลู่ฉีไม่รู้ว่าเขาจะอธิบายเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการทางชีวภาพกับน้องสาวของเขาอย่างไรดี ห้องปฏิบัติการทางชีวภาพนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอาศัยอยู่ ถ้าความลับนี้ถูกล่วงรู้โดยทหารแล้วละก็ สิ่งต่างๆสามารถที่จะเปลี่ยนไปในอีกทิศทางหนึ่งได้

 

ด้วยเหตุนี้นี่เอง เจียงลู่ฉีจึงจะไม่บอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งมันก็รวมไปทั้งเจียงจู้อิงด้วย

 

“เยี่ยม”เจียงจู้อิงพยักหน้า แต่เธอก็ไม่ได้ลงจากรถไปเนื่องจากว่าเธอยังคงกังวลเกี่ยวกับเจียงลู่ฉี ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีก็หันเหความสนใจไปยังมือของเขา ตามปกติแล้ว มือของผู้คนนั้นเป็นอวัยวะที่คล่องแคล่วที่สุด

 

จิตรกรที่ใช้มือของเขาในการวาดรูปภาพงานที่ยอดเยี่ยม ช่างแกะสลักที่ใช้มือของเขาแกะสลักรูปปั้นที่งดงามและการแกะสลักแบบเล็กๆ นักเล่นเกมที่ใช้มือของเขาในการเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเปียโนที่เล่นเพลงได้อย่างน่าทึ่งด้วยมือของพวกเขา.....

 

มือของผู้คนนั้นมีศักยภาพในการพัฒนาที่ดี หลังจากการวิวัฒนาการแล้ว เจียงลู่ฉีมีข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดนั้นก็คือ “ความแม่นยำ”และ “ความฉลาด”!

 

ในตอนนี้ ถ้าให้กระดาษแก่เจียงลู่ฉี เขาสามารถที่จะวาดวงกลมที่สมบูรณ์แบบได้โดยไม่ผิดเพี้ยน ถ้าให้เขาเล่นเกม เขาสามารถที่จะเรียนรู้มันด้วยความเร็วที่มหาศาล และสามารถที่จะไล่ตามทันนักเล่นเกมที่เชี่ยวชาญได้ ถ้าให้รถกับเขา เขาสามารถกระทั่งดริฟต์มันได้และตามทันพวกนักแข่งรถที่เชี่ยวชาญ!

 

การทำงานพวกนี้นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความเร็วที่มากนัก แต่พวกมันจำเป็นที่จะต้องมีปฏิกิริยาที่ดีและความแม่นยำ!

 

“จู้อิง เธอมีปืนไหม? ถ้าเป็นไปได้ เป็นปืนกลก็จะดี!”

 

เจียงจู้อิงตกตะลึง “อ๊า พวกเราไม่เพียงแค่มีปืนกล แต่พวกเรายังมีปืนกลเบาด้วย”

 

“ยอดเยี่ยม! ฉันเพียงแค่ต้องการปืนกล!”เจียงลู่ฉีพูดอย่างหนักแน่น

 

“พี่ชาย พี่รู้วิธียิงของมันอย่างงั้นหรอ?”เจียงลู่ฉีคิดว่าเจียงจู้อิงกำลังจะไปต่อสู้กับหมาป่าเลือด

 

“ฉันต้องการที่จะลองมัน มันไม่น่าจะยากซักเท่าไหร่หรอก”เจียงลู่ฉีพูดอย่างสบายๆ

 

ฮั่วเซียนั้นเป็นประเทศที่มีกฎหมายควบคุมเกี่ยวกับปืนที่เข้มงวด อย่างไรก็ตามหลังจากวันโลกาวินาศ ผู้คนจำนวนมากได้เปลี่ยนกลายเป็นซอมบี้ ดังนั้นผู้รอดชีวิตที่เหลือนั้นเริ่มต้นที่จะเก็บเกี่ยวอาวุธ

 

ผู้คนปกตินั้นคลุกคลีกับอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนส่วนมาก พูดตามตรงแล้ว พวกเขานั้นต้องการเอาชนะความกังวลของพวกเขา

 

ครั้งแรก เมื่อจางไฮ่และซุนคุนพยายามที่จะใช้ปืน มันเป็นการสิ้นเปลืองกระสุนโดยไร้ประโยชน์ ผลลัพธ์ของพวกเขานั้นน่าสมเพชจนไม่มีใครสามารถที่จะทนดูมันได้

 

เจียงจู้อิงมองไปที่พี่ชายของเธอด้วยความประหลาดใจ แต่เธอไม่ได้ถามและตะโกนขึ้นในอีกทิศทางหนึ่ง “จางไฮ่ เอาปืนกลมาให้ฉัน!”

 

“อะไร?”จางไฮ่มึนงงในทันที มันมีเพียงอาวุธร้อนที่ทรงพลังเพียงสองชิ้นในทีมของเขา ปืนกลเบาที่ถูกใช้งานโดยซุนคุน จางไฮ่ใช้งานปืนกล แต่เขาไม่ค่อยใช้มัน จางไฮ่นั้นฝากความหวังไว้กับปืนกลเพื่อที่จะต่อสู้กับหมาป่าเลือด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจก็ตามที เขาก็ส่งไปให้เจียงลู่ฉี

 

มันเป็นปืนไรเฟิลรุ่น81 ซึ่งมันเป็นพื้นฐานและถูกพัฒนามาจากปืนของรัสเซีย AK47 ด้วยเหตุนี้นี่เอง มันจึงมีความแม่นยำมากกว่า AK47 ถึงแม้ว่าด้านการบำรุงรักษาของมันนั้นด้อยกว่า AK47 ตามจริงแล้ว เจียงลู่ฉีนั้นกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของมัน ปืนกลนั้นแตกต่างอย่างแท้จริงกับปืนพล แม้แต่Desert eagle ที่โด่งดังก็ยังด้อยกว่าปืนกล

 

ในปี1994 มีทหารที่มีนามสกุลว่า เทียน ในหยานจิงได้ใช้ปืนไรเฟิลรุ่น 81 และแมกกาซีนอีก6ชิ้น เขานั้นสู้กับตำรวจที่ติดตั้งอาวุธมากกว่าสิบคนและทีมตำรวจทั้งหมดนั้นด้วยตัวของเขาเพียงคนเดียว ด้วยความสามารถของเขาและความทรงพลังของปืนไรเฟิลรุ่น81นั้น เขาทำให้ตำรวจท้องถิ่นพวกนั้นไม่มีโอกาสที่จะยกหัวขึ้น ในเวลาเดียวกัน ตำรวจที่มีนามสกุลที่ชื่อว่า เฉา ซึ่งใส่หมวกกันกระสุนพุ่งไปยังตำแหน่งของทหารเทียน แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็ถูกฆ่าโดยกระสุนปืนเพียงนัดเดียว ดังนั้นการเจาะเกราะและพลังของปืนไรเฟิลรุ่น81นั้นไม่มีปืนรุ่นใดที่สามารถจะเทียบได้

 

ปืนไรเฟิลรุ่น81จริงๆแล้วชื่ออังกฤษมันคือ Automatic rifle type 81 มันคือปืนรุ่นนี้ที่พัฒนาต่อมาจาก AK47

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด