ตอนที่ 55 ตบครั้งละ 1 หมื่น
หานเซิ่นรู้ว่าเฟิงจินซีกำลังเข้าใจผิด เขายิ้มให้เฟิงจินซี
"ไม่ต้องไปที่สนามต่อสู้ก็ได้ ทำไมคุณไม่มาเล่นเกมกับผมที่บ้านเลย?"
เสวียซีพยายามมองไปที่หานเซิ่น เพื่อบอกให้เขาไม่ต้องรับคำท้า แต่คราวนี้หานเซิ่นไม่สนใจ
เขารู้จักผู้ชายที่มีนิสัยแบบเฟิงจินซีดี พวกเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ
"เกมอะไร?" เฟิงจินซีขมวดคิ้ว
"คุณเคยเล่นมือแดงมั้งไหม?" หานเซิ่นถามพร้อมกับยิ้ม
"แน่นอน แต่นั่นมันเป็นแค่เกมง่ายๆ" เฟิงจินซีตอบ
"มือแดง" เป็นเกมระหว่างผู้เล่น 2 คน คนหนึ่งวางมือไว้ด้านบนในลักษณะหงายฝ่ามือ ส่วนอีกคนวางมือไว้ด้านข้างหงายฝ่ามือเช่นเดียวกัน ฝ่ายตบจะวางมือไว้ด้านล่าง เมื่อเกมเริ่มฝ่ายตบจะต้องขยับมือขึ้นไปเพื่อตบหลังมือของอีกฝ่ายที่อยู่ด้านบน ฝ่าตบจะต้องอาศัยความเร็วที่มากพอ เพราะเป้าหมายของอีกฝ่ายคือการดึงมือหลบก่อนที่จะโดนอีกฝ่ายตบ ถ้าฝ่ายตบพลาดก็ต้องสลับหน้าที่กัน
"ถ้ามือของเรามันอยู่ใกล้กันเกิน มันจะง่ายไป แต่ถ้าอยู่ห่างสัก 1 ฟุตเป็นไง?" หานเซิ่นถามขณะที่ยิ้ม
"ไม่มีปัญหา" เฟิงจินซีหัวเราะ
มือแดงคือเกมที่ทดสอบปฏิกิริยาตอบสนอง และเฟิงจินซีก็มั่นใจว่าเขามีปฏิกิริยาตอบสนองดีกว่าหานเซิ่น แล้วเขาก็ยังชอบกฎของเกมนี้มาก ถ้าเกิดเขาเป็นฝ่ายตบ ตราบใดที่เขาไม่พลาด เขาก็จะได้ตบไปเรื่อยๆ เฟิงจินซีต้องการจะตบหลังมือของหานเซิ่นเพื่อระบายความแค้น
"โอเค งั้นถ้ามือของคนตบขยับเมื่อไรก็ถือว่าเริ่ม ถ้าฝ่ายตั้งรับขยับก่อนถือว่าผิดกติกา" หานเซิ่นย้ำกฎให้ชัดเจน
"โอเค ฉันให้นายเป็นฝ่ายตบก่อนเลย" เฟิงจินซียื่นมือออกมาอย่างมั่นใจ
หานเซิ่นยังไม่ได้ยื่นมือออกมา แต่เขายิ้มให้เฟิงจินซี และพูด
"จินซี คุณบอกว่าจะให้วิญญาณอสูรใช่ไหม?"
เฟิงจินซีไม่ได้โง่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้สนเกี่ยวกับวิญญาณอสูรมาก แต่เขาไม่ต้องการให้หานเซิ่นได้ประโยชน์มากจนเกินไป
"วิญญาณอสูรกลายพันธ์เป็นรางวัล สำหรับกรณีที่นายยอมรับคำท้าต่อสู้ที่สนามประลอง แต่เนื่องจากพวกเราแค่เล่นเกมมือแดง เดียวค่อยคิดเรื่องรางวัลอีกทีถ้าหากนายตบฉันได้"
"จินซี นี่มันไม่สนุกเลย และผมจะไม่เอาเปรียบคุณ"
หานเซิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ และพูด
"ลืมเรื่องวิญญาณอสูรกลายพันธ์ไป แล้วเปลี่ยนรางวัลเป็นเงิน 1 หมื่นดอลลาร์ต่อครั้งที่ตบได้ ถ้าผมตบคุณได้1ครั้ง คุณต้องจ่ายผมหนึ่งหมื่นดอลลาร์ แต่ในทางกลับกันถ้าคุณตบผมได้ ผมก็ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน คุณคิดว่ายังไง?"
วิญญาณอสูรแมวเหมียวที่หานเซิ่นได้มาจากซินเสวียนคราวก่อน เป็นวิญญาณอสูรระดับกลายพันธ์ที่ไร้ประโยชน์ แถมกินจุ ทำให้หานเซิ่นอยากได้เงินสดมากกว่าที่จะเป็นวิญญาณอสูรที่ไม่รู้จัก
"ฟังดูเข้าท่าที แต่ฉันว่า 1 หมื่นมันน้อยไปหน่อยเหมือนกับพวกเด็กๆเล่นกัน สักแสนเลยเป็นยังไง?" เฟิงจินซีมองที่หานเซิ่น
หานเซิ่นส่ายหัวทันที
"พวกเราทุกคนเป็นเพื่อนกัน ผมว่าถ้าเราเสียมากเกินไป มันจะทำลายมิตรภาพเอาได้"
เสวียซีรีบพูดขึ้นมาเช่นเดียวกัน
"ใช่แล้ว นี่เป็นแค่เกม ไม่จำเป็นต้องเดิมพันเยอะเกินไป 1 หมื่นก็เยอะมากแล้ว"
"ก็ได้ เนื่องจากนายกลัวว่าจะแพ้ เอาแค่ 1 หมื่นก็ได้"
เฟิงจนซียักไหล่
หานเซิ่นไม่ได้ตอบโต้อะไร เขายังคงยิ้มให้เฟิงจินซี ในสายตาของเขาเฟิงจินซีไม่ต่างจากตู้ATMเคลื่อนที่ เขาจะต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำแน่นอน
หานเซิ่นเล่นเกมนี้มาตั้งแต่เด็ก ถ้าคู่แข่งไม่แข็งแกร่งมากเกินไป ไม่มีทางที่เขาจะแพ้เกมมือแดงแน่นอน
หานเซิ่นรู้ดีว่าเกมนี้เป็นเรื่องของจังหวะและการหลอกล่อ ในขณะที่เฟิงจินซีคิดว่าเกมนี้เป็นแค่เรื่องของปฏิกิริยาตอบสนอง จะไม่มีทางเอาชนะเขาได้
"ฉันจะให้นายเริ่มตบก่อน" เฟิงจินซียื่นมือออกไป เขาคิดว่าหานเซิ่นไม่น่าจะมีโอกาสตบเขาโดน ถ้าดูจากอายุ หานเซิ่นเพื่งจะเข้าไปที่สตีลอาเมอร์ได้ไม่นาน ดังนั้นหานเซิ่นไม่น่าจะมีจีโนพ้อยมากเท่าเขา บวกกับฐานะทางครอบครัวของหานเซิ่น ทำให้เขาไม่น่าจะซื้อเนื้ออสูรมากินได้มากนัก
ส่วนตัวเฟิงจินซีเอง เขาเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่หลายปีแล้ว และได้รับจีโนพ้อยมากมาย ความแข็งแกร่ง และปฏิกิริยาของเขาย่อมสูงกว่าหานเซิ่น ทำให้เขามั่นใจว่าหานเซิ่นไม่มีทางชนะแน่
"มาเริ่มกันเลย"
หานเซิ่นยื่นมือออกไปวางไว้ด้านล่างมือของเฟิงจินซี และทิ้งระยะห่าง 1 ฟุต หานเซิ่นยังไม่ขยับมือ แต่ถามเฟิงจินซีก่อน
"เราจะเริ่มกันเลยใช่ไหม"
"ใช่พวกเร...."
หานเซิ่นตบไปที่หลังมือของเฟิงจินซีทันที ก่อนที่เฟิงจินซีจะได้พูดจบประโยค
"1 หมื่น" หานเซิ่นพูด และหันไปหาเสวียซี "ซี จดมันไว้ด้วย"
"ใช่ จดมันไว้" เฟิงจินซีกัดฟัน และพูดกับเสวียซี
เสวียซีเปิดคอมพกพาของเธอขึ้นมา และเปิดโฮโลแกรมที่เป็นกระดาษโน็ตขึ้นมาแล้วจดมันลงไป
"อีกครั้ง" เฟิงจินซียื่นมือออกไป
"ผมเริ่มได้เลย?" หานเซิ่นถามอีกครั้ง
เฟิงจินซีพยักหน้า และจ้องไปที่มือของหานเซิ่นโดยไม่กระพริบตา เขาได้รับบทเรียนแล้ว และเขาจะไม่ยอมหลงกลหานเซิ่นอีก
ครั้งนี้หานเซิ่นไม่รีบ และหานไปพูดกับเสวียซี
"ซี เธอต้องการฟังเรื่องตลกสักเรื่องไหม"
"ตอนนี้?" เสวียซีแปลกใจ
หานเซิ่นพยักหน้า และเริ่มเล่า
"ลูกหมาที่น่ารักเดินทางไปท่องเที่ยวในทะเลทราย มันเอาอาหาร และน้ำไปอย่างเพียงพอ แต่หลังจากที่ผ่านไป 2 วัน มันกับตาย เธอสงสัยไหมว่ามันตายเพระอะไร?"
"มีพายุทะเลทรายใช่ไหม"
"ไม่ อากาศมันสงบดี"
"เพราะมันหลงทางใช้ไหม"
"มันมีอาหาร และน้ำเพียงพอ มันจะไม่ตายแม้จะหลงทาง" หานเซิ่นพูด
"งั้นฉันก็ไม่รู้แล้วว่าทำไมมันถึงตาย?"
เสวียซีไม่อยากจะเดาอีก เพราะว่าเธอยังกังวลอยู่กับผลลัพธ์ของเกมมือแดง
"เพราะว่าลูกหมาไม่สามารถหาห้องน้ำได้ มันจึงกระเพาะปัสสาวะแตกตาย" หานเซิ่นพูดพร้อมกับหัวเราะ
"เซิ่น ฉันว่ามันดูงี่เง่าไปหน่อย" เสวียซีพูด
"ปัญญาอ่อน..."
เพียะ!
เฟิงจินซีพูด แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บที่หลังมือของเขาทันที