ตอนที่ 21 หลิน ฮวงโกรธ
จอร์จ คัง เห็นว่าหลิน ฮวง กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาน่ากลัวและรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่วิ่งแล่นทั่วหลังเขา ทันใดนั้น เขาก็วางแผนที่จะหนีในทันที
“สายตาเช่นนั้นมันหมายความว่ายังไง?แกคิดว่าแกดีกว่าพวกเราเพียงเพราะแกเป็นผู้ควบคุม?ตระกูลจอร์จคือจ้าว แกไม่สามารถทำร้ายเขาได้!”ชายร่างสูงผอม ตะโกนใส่หลิน ฮซง เมื่อเขาถูกเมินเฉย
หลิน ฮวง ขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินชายคนนั้นกล่าวถึง’ราชวงศ์’ ในโลกนี้ มีเพียงตระกูลที่สูงกว่าระดับทองเท่านั้นที่จะได้รับศักดิ์จ้าวโดยรัฐบาลกลาง ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมชายคนนี้ถึงพูดกับจอร์จ คัง ด้วยความอ่อนน้อม
ขณะเดียวกัน จอร์จ คุง ผู้ที่คิดแปลกๆเกี่ยวกับหลิน ฮวง ก็เริ่มที่จะอิจฉาหลิน ฮวง
“อะไรทำให้เขาสมควรจะเป็นผู้ควบคุมกัน?เขาอายุ15และยังไม่ถึงระดับเหล็ก เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเด็กยากจนที่ไม่มีเบื้องหลังที่ดี อะไรคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเป็นผู้ควบคุม วันนี้ฉันจะแสดงให้แกเห็นว่าแกได้พลาดสิ่งใดไป!”จอร์จ คัง คิดกับตัวเขาเอง
“น้องชาย พวกเราจะไม่บังคับนายให้ทำในสิ่งที่นายไม่ต้องการ แต่ทัศนคติของนายมันแย่อย่างมาก เนื่องจากพี่น้องของฉันไม่ชอบนาย งั้นก็แล้วกันไปเถอะ”จอร์จ คัง เป็นคนฉลาดขณะที่เขาสัมผัสดีว่าหลิน ฮวง ไม่ใช่คนที่เขาควรจะยุ่งด้วย ดังนั้น เขาจึงพยายามหลบหนี
แม้ว่าเหตุผลนั่นจะทำให้เขาแย้งว่ามันไม่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยมันก็ต้องทำหน้าเจื่อน นั่นคือหนึ่งในสิ่งที่เขาเรียนรู้จากตระกูล
เด็ก15ปีทั่วไปจะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เขาพึ่งกล่าวไป แต่ หลิน ฮวง ไม่ใช่เด็ก
เขารู้ดีว่าชายคนนี้ได้พยายามที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง หากมันเกิดการต่อสู้ขึ้น ไม่สำคัญว่าฝ่ายใดชนะ มันจะเกิดแต่ผลเสีย
อย่างไรก็ตาม มันถือเป็นข่าวไม่ดีสำหรับหลิน ฮวง เมื่อพวกเขามาเป็ฯกลุ่ม
แม้ว่าเขาจะกล้าหาญ เขาก็ไม่ต้องการที่จะรุกรานชนชั้นสูงอย่างไร้เหตุผล
ชายร่างสูงและคนที่มีทักษะไม่เข้าใจว่าจอร์จ คัง หมายถึงสิ่งใด พวกมันต่างคิดว่าเขาไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับหลิน ฮวง ด้วยตัวเขาเองและเขาต้องการให้คนอื่นๆลงมือแทน
เขาเต็มใจที่จะทำทุกสิ่งให้นายน้อยแห่งตระกูลจ้าว
ไม่ว่าผลลัพธ์ของการประเมินจะเป็นเช่นใด ตรายเท่าที่เขาสามารถสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับชนชั้นสูงได้ เขาอาจจะมีสิทธิ์ร้องของานได้เสมอ
ทั้งสี่คนล้วนคิดเช่นเดียวกัน
จอร์จ คัง ได้ก้าวถอยหลังไปขณะที่ทั้งสี่คนได้มองหน้ากัน
สามคนได้พุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์ทรายขณะที่ชายร่างสูงผอมได้เข้าโจมตี หลิน ฮวง
วิธีที่ง่ายที่สุดในการฆ่าผู้ควบคุมก็คือการชิงฆ่าเขาก่อนที่จะได้เรียกมอนสเตอร์ออกมา
ตอนนี้ หลิน ฮวง ได้อัญเชิญมอนสเตอร์ของเขาออกมาแล้ว พวกเขาจึงคิดจะจับมอนสเตอร์และฆ่าหลิน ฮวง ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลิน ฮวง ยังไม่ได้เป็นระดับเหล็ก ดังนั้น เขาจึงมิอาจมองเห็นความสามารถของพวกเขาได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นชายร่างสูงที่พุ่งนำมา นั่นหมายความว่าความสามารถของเขาควรจะเก่งที่สุด มันอาจจะเป็นระดับเหล็กขั้น3
หลิน ฮวง ไม่ลังเล ขณะที่เขาก้าวหลบอย่างรวดเร็ว เขาได้ถือGrayEagle17ไว้ในมือและใส่กระสุนเจาะเกราะที่เหลืออีก5นัด
เมื่อมองไปยังปืนบนมือหลิน ฮวง ชายร่างสูงก็ได้ยิ้มกว้าง“GrayEagle 17 อาวุธนี่ไม่ได้ถือเป็นอาวุธระดับเหล็ก มันสามารถคุกคามคนที่อยู่ในระดับเหล็กขั้น1หรือ2ได้ แต่ฉัน เสวีย เจี่ย คือระดับเหล็กขั้น3 ปืนขยะเช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรฉันได้”
เมื่อเห็นว่า เสวีย เจี่ย ได้เดินเข้ามาใกล้เขาโดยไม่กลัว หลิน ฮวง ก็เล็งไปที่หน้าอกและลั่นไกปืน
“ปัง!”เสียงปืนมันทำให้ทุกคนกลัว
เสวี่ย เจี่น พยายามหลบการยิง แต่มันช้าไป กระสุนได้พุ่งเข้าใส่ไหล่ขวาเขา รูขนาดเท่ากำปั้นได้สลักลงไล้ขวาเขา มันเผยให้เห็นกระดูกข้างใน
เสวี่ย เจี่ย กดฝ่ามือเขาไปที่แผลเพื่อห้ามเลือด เขาจ้องมองหลิน ฮวง และเทยาลงบนแผล
หลิน ฮวง มองมาที่เขาจากไกลๆ เขาไม่ได้โจมตีต่อ โดยไม่มีการช่วยเหลือของไป่และไทแรนด์ มันยากสำหรับเขาที่จะฆ่าเสวี่ย เจี่ย
ความสามารถของเสวี่ย เจี่ย มันทรงพลังกว่าแวมไพร์อ่อนแอที่เขาฆ่าก่อนหน้า จิตใจของเขาไม่ได้ถูกควบคุมโดยความหิว ยิ่งไปกว่านั้น หลิน ฮวง ยังเหลือกระสุนเพียง4นัดเท่านั้น พวกมันจะถูกใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นและเขาไม่ต้องการเสียกระสุนไป
มันเป็นเพียงการต่อสู้เล็กๆระหว่างพวกเขา พวกเขายังไม่ถึงจุดที่ต้องฆ่าแกงกัน
เมื่อเห็นการโจมตีของหลิน ฮวง จอร์จ คัง ก็ได้เปลี่ยนท่าทาง เขาคิดว่าลางสังหรณ์ของเขานั้นถูกต้อง“ชายคนนี้อันตราย!”
เขาเห็นได้ชัดเจนว่าหลิน ฮวง นั้นยังมีความเมตตา หากเขาเล็งปืนไปที่หัวของเสวี่ย เจี่ยแทนอก เขาจะตายทันที
เมื่อหลิน ฮวง ให้ความสำคัญกับหลิน ฮวง เขาก็ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญใกล้ๆ
ชายสามคนที่พยายามโจมตีไทแรนด์ล้วนถูกชกโดยมัน ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
หลังจากที่จัดดการกับทั้งสาม ไทแรนด์ก็วิ่งมาหาหลิน ฮวง และพยายามจะคว้าตัว เสวี่ย เจี่ย
เสวี่ย เจี่ย ได้เห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นและตกอยู่ในความหวาดกลัวขณะที่เขาพยายามหลบหนีด้วยไหล่อันบาดเจ็บ เมื่อเขาวิ่ง เขาก็กรีดร้องขอความช่วยเหลือ“จอร์จ ช่วยฉันด้วย!”
จอร์จ คัง หดอยู่ในกระดอง แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการมีส่วนร่วม แต่เขาก็มิอาจปล่อยให้เสวี่ย เจี่ย ตายได้
หากเสวี่ย เจี่ย ตาย เขาจะอยู่เพียงลำพังและใครจะรู้ว่าหลิน ฮวง จะฆ่าเขาด้วยหรือไม่
เขาใช้มือขวาและโบกในอากาศ ทันใดนั้นแหวนสีดำบนนิ้วกลางได้กลายเป็นโล่ขนาดใหญ่ตรงหน้าเสวี่ย เจี่ย
“ปัง!”
กรงเล็บยักษ์ของไทแรนด์ได้ฟาดลงบนโล่ยักษ์และก่อให้เกิดรอยแตกราวกับใยแมงมุมบนโล่
จอร์จ คัง ตกใจ เขาไม่คิดว่ามอนสเตอร์ทรายจะสร้างรอยแตกร้าวให้กับอุปกรณ์ระดับเหล็กของเขาได้
เขาไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ทรายมันใกล้เคียงกับมอนสเตอร์ระดับทองแดง
จอร์จ คัง จึงร้องออกมาในทันที“น้องชายหลิน ฮวง โปรดหยุดความรุนแรง เราสามารถพูดคุยกันได้!”
“ไทแรนด์!”หลิน ฮวง ได้สั่งให้ไทแรนด์หยุดโจมตี เสวี่ย เจี่ย
ไทแรนด์ได้เข้ามาในระยะ จากนั้นมันก็หยุดและหันมามองหลิน ฮวง ด้วยความสับสน
“หยุดก่อน”หลังจากที่หลิน ฮวง ออกคำสั่ง เขาก็หันไปมองจอร์จ คัง และ เสวี่ย เจี่ย“ฉันต้องการคำอธิบายที่ดี”
ทั้งคู่รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นหลิน ฮวง สั่งให้ไทแรนด์หยุด
จอร์จ คัง กล่าวเสียงดังกับหลิน ฮวง จากที่ไกล“น้องชายหลิน ฮวง มันคือความผิดของเรา พวกเราไม่ควรจะสร้างปัญหาให้น้องชาย พวกเราอยากจะขอโทษ”
“จอร์จ เด็กนี่ไม่กล้าจะฆ่าเรา การฆ่าคือสิ่งต้องห้ามในการประเมิน หากเราตายในการประเมิน ไม่เพียงแต่มันจะสูญเสียสิทธิ์ มันยังต้องถูกสมาคมนักล่าขึ้นบัญชีดำและจะมิมีวันได้เป็นนักล่า นายคือหนึ่งในชนชั้นสูง หากนายตายในการประเมิน สมาคมนักล่าจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ การฆ่าชนชั้นสูงถือเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่งต่อรัฐบาลกลาง....”
“หุบปาก!”จอร์จ คัง หยุด เสวี่ย เจี่ย จากการพูด เขาไม่สามารถเชื่อได้ว่าเสวี่ย เจี่ย จะยังคงเลือกต่อสู้กับหลิน ฮวง “น้องชายหลิน อาวุธทั้งหมดของฉันที่เหนือกว่าระดับเหล็กล้วนถูกริบไป สิ่งมีค่าที่สุดที่ฉันมีคือเกราะดำอันนี้”
จอร์จ คัง ได้ถอดแหวนสีดำบนนิ้วข้างซ้ายและโยนมันลงบนพื้นตรงหน้าไทแรนด์ “โปรดรับมันไปแทนคำขอโทษ ฉันหวังว่าเราจะลืมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
หลิน ฮวง นิ่งเงียบชั่วขณะและตอบ“ฉันยอมรับคำขอโทษ นายสามารถพาสามคนที่นอนอยู่ตรงนั้นไปได้...”
“แต่เขาต้องอยู่ที่นี่”หลิน ฮวง ชี้ไปที่เสวี่ย เจี่ย ด้านหลังจอร์จ คัง