TWO Chapter 73 โจรสลัด ตอนที่ 3
TWO Chapter 73 โจรสลัด ตอนที่ 3
เล้งเฉียนออกจาที่พักของเผ่ยตงหลาย แต่เขายังคงอยู่ในค่ายโจรสลัด เฝ้าดูอยู่ในความมืด และคอยรายงานต่อลอร์ดของเขา ถึงสถานการณ์ของค่าย
กลับไปที่ห้องประชุม ภายใต้การโจมตีกองกำลังของอสรพิษน้ำ กองกำลังของมังกรดำกำลังสูญเสียพื้นที่ควบคุมของพวกเขา พวกเขากำลังเสียเปรียบ มังกรดำโกรธและโวยวายออกมา “บ้าเอ้ย! กำลังเสริมยังมาไม่ถึงอีกเหรอ?”
“มันยังอยู่ในช่วงเช้า ผู้นำลำดับที่ 3 คงยังไม่ได้มาที่ค่ายทหาร เรายังคงต้องรออย่างอดทน” นักวางกลยุทธ์ที่อยู่ข้างๆเขากล่าวตอบ
“บ้าเอ้ย! ถ้ายังเป็นแบบนี้ พวกคงได้เป็นศพกันหมดแน่”
เป็นดังที่มังกรดำกล่าว ก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง อสรพิษน้ำได้บุกเข้ามาด้านในห้องประชุมเรียบร้อยแล้ว มังกรดำและกองกำลังของเขาอยู่ภายในวงล้อม อสรพิษน้ำกล่าวอย่างจองหองและอวดดีว่า “ว่าไงพี่ชาย คุกเขาต่อหน้าข้า และหมอนคลานเข้ามาหาข้า ทำให้ข้าพอใจ แล้วข้าจะไว้ชีวืตท่าน”
มังกรดำเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเอง เขาจะทนกระทำสิ่งที่น่าอับอายได้อย่างไร เขาตอบกลับทันทีว่า “ถุ้ย! เจ้าสามารถฆ่าข้าหรือทำอะไรก็ตามที่เจ้าต้องการได้ แต่ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าหมอบคลานให้เจ้าหรือ ฝันได้เถอะ!”
“ข้าได้เสนอทางเลือกแห่งความเมตตาให้เจ้า แต่เจ้ากลับเลือกที่จะตาย อย่าได้โทษว่าข้าโหดเหี้ยมก็แล้วกัน!” อสรพิษน้ำโกรธ เมื่อได้ยินคำตอบของมังกรดำ เขาสั่งฆ่าในทันที “ฆ่าเขา!”
ภายใต้ลูกธนูจำนวนมาก มังกรดำตายในทันที หลังจากที่เขาตาย กองกำลังที่เหลือของเขาก็ยอมจำนน
การสู้รบในห้องประชุมในครั้งนี้ กองกำลังของมังกรดำมีผู้บาดเจ็บ 32 คน ยอมจำนน 68 คน ขณะที่กองกำลังของอสรพิษน้ำได้รับบาดเจ็บ 58 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน และอีก 130 คน ยังคงต่อสู้ได้ซึ่งในกลุ่มนี้ 45 คน เป็นโจรสลัดชั้นสูง กองกำลังหลักของเขายังคงเข้มแข็ง
หลังจากนั้นไม่นาน เผ่ยตงหลายได้นำกองโจรสลัด 2 กอง มาถึงห้องประชุม
แต่มันก็สายเกินไป อสรพิษน้ำนำคนของเขามารวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าห้องประชุม เขากล่าวออกมาเสียงดังว่า “พี่น้องทั้งหลาย ผู้นำคนก่อนของพวกเจ้าได้ตายไปแล้ว ข้าจะกลายเป็นผู้นำของพวกเจ้าคนใหม่ ทุกคนจงคดอย่างฉลาด พวกเจ้าต้องการที่จะติดตามข้า หรือจะติดตามคนนอกเช่นเผ่ยตงหลาย!”
เผ่ยตงหลายนำคนมาพร้อมเขา 200 คน แต่ในหมู่พวกเขา มีโจรชั้นสูงอยู่เพียง 10 คน เท่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะได้เปรียบเรื่องความสดใหม่ แต่พวกเขาก็ยังเสียเปรียบในเรื่องยุทธศาสตร์
ทันทีที่เผ่ยตงหลายได้ยินข่าวการตายของมังกรดำ เขาก็ตะโกนด้วยความเศร้าว่า “พี่น้อง อสรพิษน้ำเป็นกบฎ เขาลอบโจมตีห้องประชุมของท่านผู้นำ คนอัปยศเช่นเขาต้องตาย!”
น่าเศร้าที่คนอื่นๆไม่ได้มีเกียรติเช่นตัวเขา พวกโจรส่วนใหญ่ตัดสินใจที่จะอยู่ข้างเดียวกับอสรพิษน้ำ เหลืออยู่เพียง 50 คน ในกองกำลังของเขาเท่าน้ันที่จงรักภักดีกับเขา
อสรพิษน้ำหัวเราออกมาเสียงดัง “ดูเหมือนพวกเขาจะอยู่ข้างข้านะ เผ่ยตงหลาย เจ้ามันคนนอก ออกไปซะตอนนี้ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” ในความเป็นจริง เขาไม่ต้องการเปิดศึกกับเผ่ยตงหลาย เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่มากเกินไป เมื่อเขาได้ยกตัวเองเป็นผู้นำแล้ว ดั้งนั้น เขาจึงไม่เต็มใจที่จะสูญเสียมากไปกว่านี้
“ฆ่าพวกมัน!” คนที่จงรักภักดีต่อเผ่ยตงหลายนั้นมีความโดดเด่น และกล้าหาญ
อสรพิษน้ำยิ้มเยอะ “หืมมม พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าเวลาใดเหมาะที่จะยอมรับข้อเสนอ”
เมื่อเห็นว่าศัตรูของเขามีเพียง 50 คน อสรพิษน้ำก็เชื่อว่าเขาต้องมีชัยแน่นอน เขาเลิกใช้ประโยชน์จากยุทธศาสตร์ของห้องประชุม และนำกองกำลังของเขาออกมาจากห้องประชุม เผชิญหน้ากับเผ่ยตงหลายโดยตรง
ไม่ไกลจากสนามรบ เล้งเฉียนกำลังมองดูสงครามที่เกิดขึ้น เขาตัดสินใจว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เขาจึงเดินไปมุมหนึ่งเงียบๆ แล้วส่งสัญญาณโจมตีให้กับโอหยางโชว จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่หน้าประตูหลักของค่าย
โอหยางโชวและทหารของเขาซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อรอสัญญาณจากเล้งเฉียน
ขณะที่พวกเขากำลังรออย่างอดทน โอหยางโชวเรียกขุนพลซีมา เพื่อให้คำสั่งบางอย่างกับเขา “ท่านขุนพล ข้ามีภารกิจลับให้ท่านทำ”
“เมื่อเราโจมตี ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร อันดับแรกที่ท่านต้องทำก็คือ กำจัดผู้นำของมันมังกรดำ เขาเป็นคนชั่วร้ายแต่เขาก็เคยช่วยชีวิตเผ่ยตงหลายไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา มันจะดีกว่าหากเราฆ่าเขาตั้งแต่เนิ่นๆ”
“มั่นใจได้เลยนายท่าน ข้าสัญญาว่า เขาจะมีชีวิตอยู่อีกได้ไม่นานนัก”
โอหยางโชวพยักหน้า เขายังไม่รู้ว่า ตัวมังกรดำที่เขาเป็นกังวลได้ตายด้วยน้ำมือของอสรพิษน้ำไปแล้ว หลังจากนั้น 10 นาที เขาก็เห็นสัญญาณที่เล้งเฉียนส่งมา
เมื่อเห็นดังนั้น เขาก็กล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ออกเดินทางได้!” กองทหารราบอยู่ด้านหน้า และกองทหารม้าอยู่ด้านหลัง พวกเขาเร่งมุ่งหน้าตรงไปยังค่ายโจรสลัด
ยามและหน่วยลาดตระเวณที่ถูกสั่งให้เฝ้าระวังตะลึง เมื่อพวกเขาพบกับกองทัพขนาดใหญ่ที่ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขาอย่างฉับพลัน พวกเขามีจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คนส่วนใหญ่ถูกเกณฑ์ไปเข้าร่วมต่อสู้ของผู้นำทั้ง 3 แล้วพวกเขาจะหยุดกองทัพซานไห่ได้อย่างไร?
ต้องใช้ความพยายามเล็กน้อยในการเปิดประตู จากนั้นเล้งเฉียนก็วิ่งออกมาจากประตูอย่างตื่นเต้นว่า “คำนับนายท่าน!”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “สถานการณ์ด้านในเป็นเช่นไรบ้าง?”
“นายท่าน ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ อสรพิษน้ำได้ยึดครองห้องประชุม และฆ่ามังกรดำตายไปแล้ว เผ่ยตงหลายและคนของเขากำลังโกรธ พวกเขาพยายามจะก่อสงครามกับอสรพิษน้ำ เพื่อแก้แค้นให้กับมังกรดำ” เล้งเฉียนรีบสรุปสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
โอหยางโชวโล่งอก เมื่อรู้ว่ามังกรดำตายไปแล้ว “ดี นกปากช้อนและหอยกำลังสู้กันสุดท้ายชาวประมงก็ได้พวกมันทั้ง 2 ไป” คราวนี้ทหารราบและทหารม้าเปลี่ยนตำแหน่งกัน
เมื่อกองทัพมาถึงห้องประชุม พวกโจรสลัดทั้งหมดก็ตกใจ ไม่มีใครเห็นพวกเขาเข้ามา อสรพิษน้ำตระหนักถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย เขารีบตะโกนออกไปทันที “พี่น้อง ศัตรูไปบุกเข้ามาแล้ว พวกเราควรร่วมมือกันเพื่อปกป้องค่ายของพวกเรา”
พวกโจรที่ปกคลุมด้วยความโกรธ และตื่นเต้นเมื่อได้ฟังคำพูดของอสรพิษน้ำ พวกเขาตะโกนออกไปอย่างไม่เกรงกลัว มีเฉพาะเผ่ยตงหลายเท่านั้นที่ตกใจ และสงสัย เขาไม่คาดคิดว่ากองทัพเมืองซานไห่จะรออยู่ด้านนอกค่าย ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมด จะอยู่ภายใต้การควบคุมของลอร์ดแห่งซานไห่
โอหยางโชวกล่าวเยอะเย้ยว่า “ยอมจำนนซะ! หากพวกเจ้าต่อต้าน พวกเจ้าจะถูกกำจัด!”
“ถุ้ย! พี่น้อง ตามข้าไปสู้กับมัน!” อสรพิษน้ำตะโกนแล้วพุ่งไปข้างหน้า
เมื่อเห็นว่าคงครามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เลือดของโอหยางโชวก็เดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น เขาตะโกนออกมาว่า “โจมตี!” หลินยี่พากองทหารม้าตามโอหยางไป แล้วตะโกนว่า “ปกป้องนายท่าน!”
หลังจากที่อสรพิษน้ำตัดสินใจที่จะต่อต้าน ผลของมันก็ถูกตัดสินแล้ว พวกเขาเป็นโจรสลัด บนพื้นดินไม่ใช่สนามรบที่เหมาะสำหรับพวกเขา และพวกเขายังเหนื่อยล้ากับการต่อสู้ของผู้นำทั้ง 3 ในขณะที่ทหารซานไห่ทุกนายพร้อมรบ ความแตกต่างเห็นได้อย่างชัดเจน พวกโจรสลัดต้องการจับคู่กับทหารซานไห่?
โอหยางโชวและหลินยี่ต่อสู้ในแนวหน้า ทำหน้าที่เป็นหัวหอก กองทหารม้าก็เปรียบเหมือนใบมีดคม เจาะผ่านและแบ่งพวกโจรสลัดออกเป็น 2 ส่วน พวกเขาม้วนกลับมาเหมือนเคียว เก็บเกี่ยวชีวิตของพวกโจรดั่งเก็บพืชผล
ขบวนของพวกโจรสลัดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พวกโจรสลัดเริ่มได้สติ ความกลัวได้ครอบงำพวกเขาทั้งหมด โอหยางโชวถือโอกาสตะโกนออกไปอีกครั้งว่า “หากยอมแพ้ พวกเจ้าจะได้มีชีวิตต่อ หากต่อต้าน พวกเจ้าจะถูกกำจัด!”
“ยอมแพ้ แล้วพวกเจ้าจะมีชีวิตรอด หากต่อต้านพวกเจ้าจะถูกกำจัด!!!” เหล่าทหารของเขาตะโกนซ้ำ
แกร๊ง...ในที่สุดก็มีบางคนที่ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้ พวกเขาวางอาวุธและยอมจำนน มันเป็นเหมือนโรคติดต่อ เมื่อคนแรกวางอาวุธและยอมจำนน คนที่เหลือก็ทำตาม
ในฐานะผู้นำคนใหม่ของค่ายโจรสลัด เขาถูกขุนพลซียิงธนูใส่ มังกรดำเพิ่งตายไปก่อนหน้านี้ไม่นาน และตอนนี้ อสรพิษน้ำก็ตายด้วยน้ำมือขุนพลซี ดังนั้น ขุนพลซีจึงคิดว่าเขาทำภารกิจลับได้อย่างสมบูรณ์
“ฮ่าๆๆ...ในที่สุดข้าก็เลื่อนเป็นทหารขขั้น 9 ...ว๊าฮ่าๆๆ” มีเสียงหัวเราะเสียงดังมาจากกองทหารม้า
โอหยางโชวหันหน้าไปมอง เห็นหัวหมู่ทหารม้าเจ้าซีฮูกำลังหัวเราะออกมา และจางต้าหนิวที่อยู่ด้านข้างก็มองเขาด้วยความอิจฉา ใครจะคิดว่าเจ้าซีฮูจะเลื่อนขั้นทหารได้เร็วกว่าจางต้าหนิว
โอหยางโชวเรียกทั้ง 2 คน เข้ามา เขาหัวเราะแล้วกล่าวว่า “สรุปแล้ว ผลที่ออกมาก็คือเจ้าซีฮู!”
“ขอรับ!”
“ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นรักษาการผู้บัญชาการกองทหารราบ และเจ้าจะได้เป็นผู้บัญชาการทหารราบอย่างเป็นทางการหลังจากเลื่อนขั้นแล้ว”
“ขอบคุณขอรับ นายท่าน! ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง!”
“จางต้าหนิว!”
“ขอรับ!”
“ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นรองผู้บัญชาการกองทหารราบ และเป็นผู้บัญชาการหมวดทหารราบที่ 1”
“ขอบคุณขอรับ นายท่าน! ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง!”
หลินยี่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “นายท่าน ท่านได้เอานายทหารที่ดีที่สุดของข้าไปแล้ว แล้วข้าจะทำเช่นไรต่อไป”
“จำทำเช่นไร? ก็ทำอย่างที่เจ้าต้องการนั่นแหละ!” หลังจากกล่าวติดตลกเล็กน้อย โอหยางโชวก็กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “มีความจำเป็นที่ต้องมุ่งเน้นไปที่รุ่นถัดไป คนใหม่ผู้ที่มีพรสวรรค์ใหม่ๆ และส่งเสริมพวกเขาตามความเหมาะสม”
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
หลังจากที่จัดการ การแทรกแทรงเล็กๆน้อยๆ โอหยางโชวก็เตรียมที่จะเก็บกวาดสนามรบ “หลี่หมิงเหลียง!”
“นายท่าน!”
“นำหมวดทหารม้า และพวกโจรที่ยอมจำนน เข้าไปในลานหน้าห้องประชุม!”
“ขอรับ นายท่าน!” หลีหมิงเหลียงขี่ม้าออกไปร่วมกับหมวดทหารม้าที่ 1
“เลี้ยวไค่!”
“นายท่าน!”
“ไปที่หมวดของเจ้าแล้วเฝ้าระวังเชลยไว้!”
“ขอรับนายท่าน!”
“เจ้าซีฮู!”
“นายท่าน!”
“นำคนของเจ้าปิดทางเข้าออกคลังแสง และประตูหลักของค่าย กำจัดทุกคนที่เข้าไปใกล้!”
“ขอรับ นายท่าน!” เจ้าซีฮูนำหมวดทหารราบที่ 2 ไปยังคลังแสง และประตูหลักของค่าย
“จางต้าหนิง!”
“นายท่าน!”
“นำหมวดทหารราบที่ 1 ของเจ้าประสานงานในการเฝ้าเชลย และห้ามให้มีความผิดพลาดใดๆ”
“ขอรับ นายท่าน!”
หลังจากโอหยางโชวออกคำสั่งเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็มีเวลาคุยกับเผ่ยตงหลาย “ข้าได้ยินมานานแล้ว เกี่ยวกับความสามารถของท่านเผ่ย รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบท่าน”
เผ่ยตงหลายมีใบหน้าเศร้าและพูดด้วยเสียงเบาว่า “ข้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แล้วข้าควรจะได้รับคำสรรเสริญได้อย่างไร”
โอหยางโชวถอนหายใจ แล้วกล่าวว่า “การสู้รบครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง อสรพิษน้ำตายแล้ว ท่านได้ล้างแค้นให้กับคนที่ช่วยชีวิตท่านแล้ว ท่านทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว คนที่มีเกียรติเช่นท่านควรได้รับการสรรเสริญ ท่านไม่ควรใช้ชีวิตที่เหลือในค่ายเล็กๆแห่งนี้ ข้าตั้งใจว่าจะรับท่านเป็นผู้บัญชาการทหารเรือของเมืองซานไห่ ข้าหวังว่าท่านจะพิจารณา และยอมรับข้อเสนอของข้า” โอหยางโชวคำนับเขา หลังจากที่กล่าวด้วยความจริงใจ
เผ่ยตงหลายขยับตัว เขาเลื่อนตัวไปด้านข้าง ไม่รับการคำนับของโอหยางโชว แล้วคุกเข่าบนพื้นข้างหนึ่ง เขาตะโกนออกมาด้วยความยินดีว่า “นายท่านช่างกรุณานัก ข้าสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อนายท่าน นายท่านของข้า!”
โอหยางโชวดึงเขาลุกขึ้น พร้อมกับยิ้มให้เขา แล้วกล่าวว่า “ตัวท่านนั้นมีค่ามากกว่ากองทักนับพันนับหมื่นเสียอีก”