GE2 ศิษย์คนใหม่ของปีศาจเฒ่า
Chapter 0002 ศิษย์คนใหม่ของปีศาจเฒ่า
ยามค่ำคืนใกล้พ้นผ่าน แสงจันทร์นวลและหมู่ดาวเริ่มจางหายไปจากท้องฟ้า
หนิงฝานยืนขึ้นพลางจ้องมองสร้อยหยกในมืออย่างเงียบงัน
ไม่ตาย...เขาถูกสร้อยหยกชิ้นนี้ช่วยไว้ มันดูเหมือนหยกธรรมดาที่ไร้ค่าในโลกแห่งการบ่มเพาะใบนี้ แต่มันกลับกลายเป็นสมบัติวิเศษ
หยกเขียวประกอบด้วยสายโลหิตบางๆราวกับเป็นโลหิตของสตรีพรหมจรรย์ที่งดงามและทรงเสน่ห์ หนิงฝานกำสร้อยหยกไว้ในมือ สัมผัสถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายราวกับพลังงานอันไร้ที่สิ้นสุด ในยามนี้ ความเจ็บปวดต่างๆบนร่างกายพลันมลายหายสิ้น
หนิงฝานยังไม่ตาย! สร้อยคอหยกนี่ช่วยชีวิตเขาได้หรอ!?
เขาไม่รู้ว่าเมื่อยามสิ้นสติ แสงสีแดงที่เกิดจากสร้อยคอหยกได้เปิดเส้นโลหิตแห่งการบ่มเพาะให้เขา ทำให้ในยามนี้ เขาได้กลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับ 1 ‘เปิดเส้นโลหิต’ และเป็นผู้บ่มเพาะในเต๋าแห่งปีศาจ
หนิงฝานยังคงไม่ทราบว่าเส้นโลหิตที่เปิดออกของเขาคือ ‘เส้นโลหิตปีศาจโบราณ’ ที่จะปรากฏขึ้นหนึ่งครั้งในทุกๆ 1,000 ปี
หนิงฝานจ้องมองสร้อยหยก แสยะยิ้ม หมัดทั้งสองข้างกำแน่นพลางนึกถึงความอัปยศอดสูที่ได้รับ
“นี่อาจจะเป็นสมบัติวิเศษแห่งสวรรค์ ฮ่าฮ่า... สวรรค์ สวรรค์ ช่างทรงพลังนัก อ่า… ขนาดใกล้ตายยังสามารถฟื้นฟูแก่นหยางจนทำให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยการบ่มเพาะที่นี่สะพรึงกลััวนี้ ความเป็นและความตายไม่นับว่าสลักสำคัญ ทั้งยังสามารถข่มเหงผู้คนได้ตามใจปราถนา”
หนิงฝานยกย่องสร้อยหยกที่เปรียบดังสวรรค์ แต่สายตาของเขายังเต็มไปด้วยความดูหมิ่นและร่องรอยของความไม่เชื่อถือ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกลียดชังความอ่อนแอ หากมันไม่เป็นเช่นนั้นแล้วเขาจะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ต้องแยกจากตระกูลของเขาได้อย่างไร!
“สิ่งของสวรรค์… ข้าเกลียดมัน!”
เขาเง้อมือขึ้นเพื่อจะโยนสร้อยหยกออกไป แต่จู่ๆ เขากลับลดมือลงและยืนอย่างเงียบงัน
สร้อยหยกนี้ช่วยชีวิตเขา สมบัติวิเศษชิ้นนี้ไม่ได้ผิดอะไร ที่ผิดคือสวรรค์ที่ทำในสิ่งที่ชั่วร้ายต่างหาก ถ้างั้น...แล้วอะไรที่ทำให้เขาโกรธสมบัติวิเศษหล่ะ?
“ข้าต้องหนีก่อนรุ่งเช้าจะมาถึง ข้าต้องหนีออกไปจากนิกายเหอฮวน! ข้าจะค้นหาตามแม่น้ำ ภูเขา เพื่อค้นหาเบาะแสของตระกูลข้า! ข้าอยากบ่มเพาะ ข้าอยากแก้แค้น!”
หนิงฝานยืนขึ้นพลางหยิบเอาเสื้อผ้าจากพระพุทธรูปสีดำที่อยู่เบื้องหน้ามาสวมใส่
ชุดแห่งเต๋าชุดนี้คือสิ่งที่สื่อถึงการสักการะบูชาพระพุทธรูปสีดำ มันไม่ใช่สมบัตวิเศษธรรมดาๆทั่วไป หนิงฝานยังคงไม่รู้เรื่องนี้ เขาเพียงแค่อยากได้มันมาห่มคลุมร่างกายเท่านั้น
เขาค่อยๆคลานออกจากห้องผสานกาย ในยามนี้ เหล่าสตรีชั่วร้ายแห่งนิกายเหอฮวนยังคงหลับไหลและบ่มเพาะ จะมีก็เพียงศิษย์ไม่กี่คนที่กำลังเดินตรวจตราไปทั่วภูเขา
เขาพยายามหาค้นหาเส้นทางในความมืดและซ่อนตัวหลังต้นไม้ที่อยู่ถัดจากถนนเล็กๆก่อนจะถึงภูเขา เขาปรับลมหายใจให้เหมือนกับสัตว์เดรัจฉาน เพราะอีกไม่กี่ก้าว เขาก็จะหลบหนีจากสถานที่แห่งนี้ได้แล้ว
ด้วยอีกไม่กี่ก้าวเขาก็จะเป็นอิสระ เขาจึงหยุดยืนและไตร่ตรองอย่างลังเลว่าเขาควรจะหลบหนีหรือไม่?
เขาจำได้ว่าจื่อเฮ่อเป็นผู้ที่ช่วยเหลือเขา หากนางไม่ให้สร้อยหยกนี่กับเขา เขาย่อมไม่อาจหนีความตายได้พ้น งั้นเขาควรจะหลบหนีไปคนเดียว..หรือควรพานางไปด้วย? แต่หากเขาย้อนกลับไป..ศิษย์ที่เดินตรวจตราอยู่คงพบแน่
ในขณะที่เขาลังเลอยู่นั้น ภูเขาหลีเมิ่งพลันสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว ราวกับสามารถถล่มลงได้ตลอดเวลา
และทันใดนั้นเสียงหัวเราะอันเย่อหยิ่งดังกึกก้องไปทั่วทั้งนิกายเหอฮวนในยามค่ำคืน
“แค่ประตูปีศาจระดับ 2 กลับกล้าสังหารศิษย์ของข้า เจ้ามันรนหาที่ตายโดยแท้.. ‘ชาเจี่ยวยู่’ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
*ตูม!*
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ภูเขาหลีเมิ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
หนิงฝานแหงนมองขึ้นไปข้างบนฟ้า เห็นชายชราในชุดสีดำกำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์สลัว ชายชราจ้องมองลงมาเบื้องล่างราวกับผู้คนทั้งหมดเป็นเพียงมดแมลง
ด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียวของชายชรา สามารถใช้ออกด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถแยกได้แม้กระทั่งโลก สวรรค์ และสั่นสะเทือนภูผา
ด้วยการปรากฏตัวของชายชราเป็นการประตุ้นเตือนไปทั่วทั้งนิกายเหอฮวนทำให้โคมไฟมากมายถูกจุดขึ้น ผู้บ่มเพาะที่เป็นอิสตรีมากมายนับไม่ถ้วนที่นุ่งห่มเสื้อผ้าไม่มิดชิดวิ่งกรูกันออกมา เมื่อพวกนางเห็นชายชราที่ยืนอยู่กลางอากาศ ใบหน้าพวกนางกลับซีดเซียว
“ก้าวย่างบนความว่างเปล่า… สัตว์ประหลาดเฒ่าขอบเขตประสานวิญญาณ!”
ในสวรรค์ทั้ง 4 และโลกทั้ง 9 ระดับการบ่มเพาะถูกแบ่งออกเป็น 7 ขอบเขตที่แตกต่างกันอันได้แก่ ‘เปิดเส้นโลหิต’ ‘ประสานวิญญาณ’ ‘แก่นทองคำ’ ‘จิตวิญญาณแรกเริ่ม’ ‘ตัดวิญญาณ’ ‘ไร้สกัดกลั่น’ และ ‘ไร้แบ่งแยก’
ผู้เชี่ยวชาญระดับ 2 แห่งขอบเขตประสานวิญญาณสามารถหลุดบ่วงแห่งสวรรค์และพิภพ ทำให้พวกเขาสามารถยืนกลางอากาศได้
นิกายเหอฮวนแห่งเมื่อเยว่เป็นเพียงนิกายอันดับ 2 และมีประมุขนิกายชื่อ ‘ชาเจี่ยวยู่’ นางอยู่ในระดับ 10 ขอบเขตเปิดเส้นโลหิต ด้วยความที่นางเคยร่วมรักกับสัตว์ประหลาดเฒ่าขอบเขตประสานวิญญาณคนนึงจึงไม่มีใครกล้าตอแยนาง
ชาเจี่ยวยู่ยืนอยู่บนพื้น นางไม่สามารถบินขึ้นไปในอากาศได้ ด้วยแรงกดดันของปีศาตเฒ่า นางทำใด้เพียงยืนนิ่ง ดวงตาคู่งามของนางแฝงด้วยเจตนาสังหาร นางไม่พอใจเพราะนางไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดเฒ่ามาระรานนางเรื่องอะไร
“ผู้อาวุโส ท่านกล่าวว่านิกายเหอฮวนของข้าสังหารศิษย์ของท่าน นี่มันเรื่องไร้สาระชัดๆ ข้ารู้ว่าการบ่มเพาะของข้ายังตื้นเขิน เมื่อยามที่ข้าจับกระถางมาแล้วใช้พวกมันบ่มเพาะ ข้าไม่เคยจับใครที่มีการบ่มเพาะมาสักคนเพราะข้า
กลัว...กลัวว่าจะเป็นการละเมิดต่อบางคนที่ข้าไม่สามารถชดใช้ให้ได้ และข้า...ไม่ได้สังหารศิษย์ของท่านแน่นอน ได้โปรดทบทวนด้วย! หากท่านไม่มีหลักฐาน โปรดอย่าได้ตำหนิผู้บริสุทธิ์ และที่สำคัญ สามีของข้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณเช่นกัน“
คำกล่าวของชาเจี่ยวยู่แฝงด้วยคำขู่ เพียงแต่นั่นกลับทำให้ชายชรายิ้มอย่างเย็นชา
“หลักฐานหรอ? ฮ่าฮ่า! เมื่อยามที่ตาเฒ่าผู้นี้สังหารผู้คน ทำไมข้าถึงต้องมีหลักฐาน! ‘กระถางโอสถ’ จัดการพวกมัน!”
ชายชราหัวเราะอย่างเย็นชาก่อนจะหยิบเอากระถางขนาดเล็กออกมาจากเอว กรถางใบนั้นมี 6 มุม 8 ขอบ และ 3 ขาทั้งยังแผ่ปราณสีดำปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
ชายชราไม่ได้กล่าวต่อ เขาโยนกระถางใบเล็กลงมาก่อนจะสร้างรูปแบบผนึกบางอย่างทำใหจู่ๆ กระถางขนาดเล็กกลับขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดกว่า 100 จ้าง ร่วงหล่นลงใส่ภูเขาของนิกายเหอฮวนอย่างรุนแรง
เพียงพริบตา ภูเขากว่าครึ่งถูกกระถางโอสถทำลายจนพินาศ ฝุ่นดินลอยคุ้งไปทั่วฟ้า ชายชราเพียงยกมือขึ้นทำท่าปิดคลุมกระถางก่อนจะเกิดเสียงมังกรคำรามออกมาจากภายใน
มังกรเพลิงทมิฬทั้ง 9 ทะยานออกมาจากกระถางโอสถราวกับมีจิตตวิญญาณเป็นของตน พวกมันเข้าสังหารผู้คนในนิกายเหอฮวนอย่างเหี้ยมโหด
มังกรเพลิงทมิฬทั้ง 9 เข้าขย้ำเหล่าสตรีมากมาย พวกนางส่งกรีดร้องอย่างน่าสังเวชก่อนจะกลายเป็นฝุ่นผงภายในพริบตา
ใบหน้าของชาเจี่ยวยู่ซีดขาวไร้โลหิต เมื่อนางเห็นกระถางโอสถปีศาจใบนี้นางจึงจำได้ว่าชายชราผู้นี้เป็นใคร
“กระถางโอสถ...หานหยวนจี๋ ท่านคือปีศาจเฒ่าหานแห่ง ‘นิกายกุ่ยเชว่’!”
ชาเจี่ยวยู่พลันหวาดกลัว หานหยวนจี๋แห่งนิกายกุ่ยเชว่! ด้วยกระถางโอสถ มังกรเพลิงทมิฬทั้ง 9 และพลังขั้นสุดท้ายของขอบเขตประสานวิญญาณ เขาใช้มันสังหารปีศาจเฒ่าในขอบเขตแก่นทองคำผู้หนึ่งจนทำให้เขามีชื่อเสียง
ชายผู้นี้คือหนึ่งในปรมาจารย์ของนิกายปีศาจแห่งเมืองเยว่ ซึ่งชายชราในขอบเขตประสานวิญญาณที่ร่วมรักกับชาเจี่ยวยู่ยังห่างชั้นกับหานหยวนจี๋นัก
ยามนี้ นิกายเหอฮวนอาจจะกำลังเผชิญกับการถูกทำลาย! แต่ถึงอย่างนั้น นางยังคงไม่รู้ว่านางไปยั่วยุปีศาจเฒ่าที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร!
เพียงไม่กี่ลมหายใจ ศิษย์สตรีกว่าครึ่งได้ตกตาย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ชาเจี่ยวยู่กลับไม่สนใจ นางเพียงหลับตาลงเพื่อรอคอยความตาย
หากหานหยวนจี๋ต้องการสังหารย่อมไม่มีผู้ใดหลบหนีได้!
เหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของหนิงฝาน ภาพของชายชรายืนกลางท่ามกลางแสงจันทร์ได้ประทับลงในใจของเขา!
หากไร้ซึ่งพลังผู้คนย่อมเหยียดหยาม แต่หากมีพลังย่อมสามารถหยุดยืนกลางอากาศและเหยียดหยามผู้คนได้!
เขาตั้งปณิธาน วันนึงเขาจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมนุษย์ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจึงจะทำให้เขาไม่ถูกกดขี่!
ขณะที่จิตใจของหนิงฝานยังคงตื่นตระหนก สร้อยหยกที่เขากำแน่นในมือพลันเปล่งแสงสีแดงซึ่งไม่มีผู้ใดมองเห็นออกมา
ในขณะที่เขาสูญเสียสติ จู่ๆความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป เขาจำได้ว่าชายชราผู้นี้มาเพื่อทำลายนิกายเหอฮวน ชายชราต้องการสังหารเหล่าสตรีทั้งหมดของนิกาย แล้วแบบนี้...จื่อเฮ่อจะต้องตายด้วยหรอ?
‘ข้าต้องพานางไปด้วย ไม่อย่างงั้นนางต้องถูกปีศาจเฒ่าฆ่าตายอย่างไม่เป็นธรรมแน่!’
อีกเพียงก้าวเดียวหนิงฝานก็สามารถหลบหนีออกจากที่นี่ได้แล้ว แต่ชายชราคนนั้นกลับทำให้เขาต้องเปลี่ยนความคิดและย้อนกลับไปยังนิกายเหอฮวน ซึ่งการตัดสินใจนี้ การกระทำนี้ จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ในยามนี้ นิกายเหอฮวนปั่นป่วนโกลาหน ไม่มีใครจำหนิงฝานได้ เขาเข้าไปตรวจดูห้องซ้ายบ้างขวาบ้างของศิษย์นิกาย และในท้ายที่สุดเขาก็ได้พบจื่อเฮ่อ
จื่อเฮ่อนั่งแอบอยู่มุมห้อง ใบหน้าเรียวงามของนางซีดขาว ร่างกายอันบอบบางสั่นเทา เบื้องหน้าของนางมีศิษย์นิกายมากมายนอนตายอยู่ในสภาพที่น่าหวาดกลัว ผู้ที่ลงสังหารก็คือมังกรเพลิงทมิฬ
“ช่วยข้าด้วย..พี่ชาย...ช่วยข้าด้วย...”
เมื่อจื่อเฮ่อเห็นหนิงฝานเข้ามาในห้อง นางจึงอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
แต่มันก็สายเกินไป! มังกรเพลิงทมิฬอ้าปากแล้วพ่นเพลิงเข้าใส่นาง
ด้วยในเวลานั้น หนิงฝานมามือเปล่า เขาจึงโยนสร้อยหยกเข้าใส่มังกรเพลิงทมิฬ
ด้วยความที่สร้อยหยกคือสมบัตวิเศษ บางที มันอาจจะช่วยหยุดมังกรเพลิงทมิฬได้
เมื่อสร้อยหยกเข้ากระทบกับร่างของมังกรเพลิงทมิฬ หนิงฝานไม่ได้สนใจรอดูว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร เขาลากจื่อเฮ่อแล้วหนีตรงไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
เขาไม่คิดว่าสร้อยคอนั่นจะสามารถสังหารมังกรได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับอยู่นอกเหนือจากที่เขาคิดไว้
เมื่อสร้อยหยกกระทบร่างของมังกรเพลิงทมิฬ มังกรกลับส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชออกมาก่อนที่ตัวมันจะกลายเป็นเพลิงทมิฬและถูกดูดซับเข้าสู่สร้อยหยกพร้อมกับที่สร้อยคอหยกปรากฏอักษรโลหิตมากมาย
หนิงฝานหยิบสร้อยคอขึ้น เขารู้ว่ามันเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่เขากลับคิดไม่ถึงว่ามันจะทรงพลังขนาดนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ใดล่วงรู้แม้กระทั้งชาเจี่ยวยู่และเหล่าศิษย์สตรี แต่จู่ๆ ท่าทางของชายชราที่หยุดยืนอยู่กลางท้องฟ้าและหัวเราะอย่างเย่อหยิ่งพลันเปลี่ยนเป็นเขร่งขรึม
“มังกรเพลิงทมิฬของข้าตายแล้ว เป็นไปได้ยังไง!”
ชายชราใช้สัมผัสวิญญาณกวาดผ่านไปทั่วภูเขาจนพบห้องที่มังกรเพลิงทมิฬของเขาตกตาย ในนั้น เขาเห็นเพียงหนิงฝานและจื่อเฮ่อ
“เด็กน้อยระดับ 1 ขอบเขตเปิดเส้นโลหิตและมนุษย์ธรรมดาอีก 1 … พวกมันทำลายมังกรเพลิงทมิฬของข้าอย่างงั้นหรอ? เดี๋ยว...นั่นมัน!”
สัมผัสวิญญาณของชายชรากวาดผ่านร่างหนิงฝานแต่เขากลับไม่เห็นสร้อยหยกอันน่าอัศจรรย์ แต่กลับกัน เขาเห็นร่างกายอันลึกลับของหนิงฝาน
“เด็กน้อยนั่นมีเส้นโลหิตปีศาจโบราณ! น่าสนใจ...ฮ่าฮ่า...น่าสนใจ!”
ในยามนี้ การทำลายนิกายเหอฮวนไม่นับเป็นเรื่องสำคัญอีกต่อไปเพราะชายชรามีความคิดอื่นแล้ว
ชายชราสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเรียกมังกรเพลิงทั้ง 8 และกระถางโอสถของเขากลับมา ชายชราสบััดชายเสื้อก่อเกิดลมมกรรโชกแรกพัดพาที่พักของศิษย์นิกายจนปลิวหายไป
ลมกรรโชกแรงเมื่อครู่เผยให้เห็นศิษย์นิกายศิษย์สตรีที่กำลังซ่อนตัวและหนิงฝานกับจื่อเฮ่อที่กำลังหลบหนีอยู่
“เจ้าทำลายมังกรเพลิงของข้าแล้วยังมีหน้ามาหนีอีกเรอะ?”
ชายชรายิ้มอย่างเบิกบานก่อนจะกลายเป็นเงาดำมุ่งตรงไปยังหนิงฝานแล้วคว้าจับลำคอของหนิงฝานเอาไว้
“ไอ้หนูเจ้าอยากตายแบบไหน?”
ชายชราปลดปล่อยจิตสังหารทั้งหมดออกมา ภายใต้แรงกดดันของชายชรา หนิงฝานรู้สึกราวกับอวัยวะภายในกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หากชายชราใช้พลังออกมาหนิงฝานย่อมตกตายอย่างไม่ต้องสงสัย
‘เขาอยากจะสังหารข้า!’
สัญชาตญาณความกลัวประกายผ่านดวงตาของหนิงฝาน แต่มันกลับหายไปในทันที
เขาเคยใช้ชีวิตอยู่กับผู้คนมากมายหลายแบบ แต่เขากลับถูกทรยศและทำให้อับอาย ซึ่งในตอนนี้ความไม่ยอมแพ้และดื้อรั้นของหนิงฝานได้สลักลงไปในกระดูกแล้ว
ชายชรากล่าวถามว่าเขาอยากตายแบบไหน แต่จริงๆแล้ว..หนิงฝานสมควรตายหรอ?
“ข้าอยากให้เจ้าตาย!”
หนิงฝานยกสร้อยหยกขึ้นก่อนจะฟาดลงใส่ศีรษะของชายชรา แต่ถึงอย่างนั้น ชายชรากลับไม่หลบแต่อย่างใด
สร้อยหยกที่สามารถสังหารมังกรเพลิงทมิฬได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อมันกระแทกใส่ศีรษะของชายชรา มันกลับไม่สามารถทำอะไรชายชราได้
แม้จะถูกสร้อยหยกฟาดใส่แต่ชายชรากลับไม่โกรธเคือง ชายชราเงยหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะเริ่มหัวเราะลั่น
“ดี...ดี...ดีมาก! เจ้าเด็กนี่ไม่เลวเลยจริงๆ เจ้ามีความกล้าและมีศักยภาพในการบ่มเพาะเต๋าแห่งปีศาจ!”
แต่จู่ๆรอยยิ้มบนใบหน้าและจิตสังหารของชายชราก็หายไป ท่าทางแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“ไอ้หนู.. เจ้าอยากเป็นศิษย์ของข้ามั้ย? ดูจากแก่นหยางที่เจ้าเสียไปมากมาย เจ้าต้องเป็นกระถางให้กับพวกมันแน่ อีกอย่าง...เจ้าก็เสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว ถึงมันจะเป็นโชคร้ายแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา! แค่เจ้าตกลงเป็นศิษย์ของข้า ข้าจะช่วยเจ้าทำให้นิกายเหอฮวนราบเป็นหน้ากลอง!”
“ข้าไม่อยากเป็น!”
หนิงฝานตะเบงเสียงกล่าว เขาเกลียดปีศาจ.. เขาอยากจะเป็นชาวสวรรค์และล่าล้างสังหารปีศาจ!
“เจ้าไม่อยากหรอ? ฮ่าฮ่า เมื่อข้าต้องการรับศิษย์ ทำไม่ข้าต้องสนใจด้วยว่าเจ้าจะอยากหรือไม่อยาก! หากเจ้ากล้าพูดคำว่า ‘ไม่’ อีกครั้ง ข้าจะจับสาวน้อยนี่แก้ผ้าแล้วทำให้นางกลายเป็นกระถางของนิกายปีศาจซะ! ข้ามีเวลาให้เจ้าตัดสินใจแค่ 3 ลมหายใจ หากเจ้าไม่พยักหน้าเจ้าจะต้องเสียใจ!”
“หนึ่ง!”
“สอง!”
หนิงฝานขบฟันเล็กน้อย หมัดทั้งสองข้างกำแน่น ดวงตาจับจ้องไปยังจื่อเฮ่อที่กำลังหวาดกลัว
‘สักวันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าการรับข้าเป็นศิษย์เป็นเรื่องผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเจ้า!’
หนิงฝานขบฟันและท้ายที่สุดเขาก็พยักหน้า
“ดี! เยี่ยม..ข้าชอบ! ตอนนี้เจ้าเป็นศิษย์ของข้าแล้ว เรื่องของนิกายเหอฮวน ข้าจะให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ ถ้าเจ้าบอก ‘ฆ่า’ ข้าก็จะฆ่าพวกมันทั้งหมดในทันที!”
สายตาของปีศาจเฒ่าเย็นชาราวกับป้องกันตัวเองอยู่เสมอ!
‘ให้ข้าตัดสินใจ...’
หนิงฝานจ้องมองไปบนท้องฟ้าอันมืดมนและหลับตาลงอย่างเงียบเชียบ
เขาเกลียดสวรรค์ เกลียดนิกายปีศาจ แต่จากวันนี้เป็นต้นไป เขาจะกลายเป็นหนึ่งในเต๋าแห่งปีศาจ
แต่ว่า...มันจะเป็นยังไงถ้าเขาเป็นส่วนหนึ่งของเต๋าแห่งปีศาจ? บางที...หากเทียบกับพวกหน้าซื่อใจคด ดูเหมือนเต๋าแห่งปีศาจจะเหมาะสมกับเขามากกว่าเพราะเขารู้ว่าความชั่วร้ายของโลกใบนี้เป็นยังไง
หนิงฝานเดินไปหาจื่อเฮ่อและจ้องมองไปยังศิษย์ของนิกายเหอฮวนก่อนจะเดินไปยังเบื้องหน้าของประมุขนิกายเหอฮวน..ชาเจี่ยวยู่
เมื่อวาน เขาเป็นเพียงกระถางไร้ค่าในสายตาของศิษย์นิกายเหอฮวน แต่วันนี้ เขาเป็นศิษย์ของปีศาจเฒ่าหาน
เมื่อเหล่าศิษย์สตรีผู้อยากมีชีวิตรอดเห็นหนิงฝานเดินเข้ามา พวกนางกลับค่อยๆถอยห่างอย่างเงียบๆราวกับเขาเป็นโรคร้าย
สตรีทรงผมซาลาเปาผู้ที่ทำให้เขาต้องอัปยศเมื่อวานนี้พลันหวาดกลัวเมื่อเห็นหนิงฝานจ้องนาง
วันนี้ หนิงฝานเพียงต้องเอ่ยปากขอปีศาจเฒ่าให้ทำลายนิกายเหอฮวน หนทางรอดของพวกมันขึ้นอยู่กับคำกล่าวของหนิงฝาน
หนิงฝานเดินตรงไปหาชาเจี่ยวยู่ก่อนจะเชยคางนางขึ้น นางคือประมุขนิกาย แต่ยามนี้กลับถูกคนธรรมดาสามัญเช่นเขาทำให้อัปยศ ภายในดวงตาคู่งามของนางเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ดูราวกับว่านางอยากสังหารหนิงฝานในฝ่ามือเดียว เพียงแต่นางไม่กล้า
ชีวิตของนางขึ้นอยู่กับความคิดของหนิงฝาน
“ฮ่าฮ่า ยอดรัก..เจ้าสนใจข้าหรอ? หากเจ้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าข้า ข้าจะยอมปรนนิบัติเจ้าเป็นอย่างดีทุกคืนวัน”
รูปลักษณ์ของชาเจี่ยวยู่นับว่าเกินบรรยาย เพียงแต่หนิงฝานกลับไม่เห็นนางในสายตา เขาเพียงกล่าวอย่างเย็นชา
“น้องชายข้า..หนิงกู่..อยู่ที่ไหน?”
“หนิงกู่น้องชายเจ้า? ‘กระถางปีศาจเร้นลับ’ อย่างงั้นหรอ? เขาถูกขายให้สตรีนางนึงในนิกายเทียนหลีโม่…”
ชาเจี่ยวยู่ไม่ได้ประทับใจในหนิงฝาน แต่นางประทับในหนิงกู่เป็นอย่างมาก
หนิงฝานไร้ซึ่งการบ่มเพาะใดๆพวกนางจึงเห็นเขาเป็นเพียงของเล่น แต่น้องชายของเขานั้นถูกขายให้กับผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังแห่งนิกายเทียนหลีโม่
ยามนี้ชีวิตของนางขึ้นอยู่กับหนิงฝาน ดังนั้น ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะกล่าวในทุกสิ่งที่นางรู้
ขาย! น้องชายของหนิงฝานถูกขายไปแล้ว!
นิกายเทียนหลีโม่? เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เมื่อลองคิดๆดู มันต้องเป็นสถานที่สกปรกโสโครกเช่นเดียวกับนิกายเหอฮวนแน่!
นั่นคือลักษณะของสวรรค์!
“ผู้อาวุโส..ข้าตัดสินใจแล้ว…ฆ่าพวกมันซะ!”
หนิงฝานหลับตาลง แม้การบ่มเพาะของเขาไม่ได้สูงส่ง แต่สมองของเขากลับเฉียบคม เขาไม่ใช่คนโง่
เขาสามารถคาดเดาได้เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนนักว่านี่คือการทดสอบของชายชราโดยการยอมในเขาจัดการกับนิกายเหอฮวน
มันคือการทดสอบว่าเขามีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมกับนิกายปีศาจหรือเปล่า ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วนิกายปีศาจจะสังหารผู้คน ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเหล่าศัตรู!
เขาไม่ได้ต้องการไว้ชีวิตศิษย์นิกายเหอฮวนทั้งหมดไม่ว่าใครก็ตามเว้นแต่… จื่อเฮ่อต้องไม่ตาย
“แต่ข้าอยากให้นางมีชีวิตอยู่”
หนิงฝานชี้ไปที่จื่อเฮ่อ..เขาไม่อาจมองนางผู้ซึ่งช่วยชีวิตเขาไว้ต้องตกตายด้วยน้ำมือของสัตว์ประหลาดเฒ่า!
“นั่นคือสิ่งที่เจ้าตัดสินใจใช่มั้ย?”
ชายชราจ้องมองหนิงฝานทั้งยังปลดปล่อยแรงกดดันอันหนักหน่วง
ผ่านไปชั่วครู่..ชายชราจึงหัวเราะพลางกล่าว
“ได้ ข้าจะฟังคำขอของเจ้า! สาวน้อยนั่นมีชีวิตอยู่ได้ส่วนคนที่เหลือ...ต้องตาย!”
ปีศาจเฒ่ายิ้มอย่างพอใจ ถ้าหนิงฝานแสดงร่องรอยของความเมตตาให้เห็น ชายชราจะสังหารหนิงฝานอย่างไร้ความปราณี เพราะแม้หนิงฝานจะมีเส้นโลหิตปีศาจโบราณ แต่เขากลับไม่มีหัวใจแห่งปีศาจ ฉะนั้น เขาย่อมไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นปีศาจ
“ไม่เลวนี่ไอ้หนู...เจ้าชื่ออะไร?”
“หนิงฝาน!”
“ไอ้หนูหนิงงั้นรึ? ดี..ดูไว้ซะ อาจารย์ของเจ้าจะสอนวิธีฆ่าให้!”
สัตว์ประหลาดหานจ้องมองหนิงฝานและเดินตรงไปยังศิษย์นิกายเหอฮวนด้วยท่าทางกระหายเลือด
แล้วการสังหารหมู่..ก็เริ่มขึ้น
‘หานหยวนจี๋คือปีศาจอย่างแท้จริง หากได้อยู่กับเขา...ข้าต้องระวังตัว ไม่เช่นนั้นข้าต้องตายแน่! นิกายกุ่ยเชว่คือสถานที่อันป่าเถือน และอันตรายยังมีอยู่ทุกหนแห่ง แต่ยังไงซะ ข้าก็ต้องมีชีวิตรอด’
หนิงฝานกำสร้อยหยกไว้ในมือพลางสาบานกับตัวเอง แต่ทันใดนั้น สร้อยหยกในมือของเขากลับเปล่งแสงสีแดงจางๆออกมาอีกครั้ง
เสียงหวานใสของสตรีนางนึงดังมาจากสร้อยหยกราวกับนางถูกปลุกให้ตื่นจากการหลับไหล แต่นั่นกลับไม่มีใครสัมผัสถึงการคงอยู่ของนางได้
“ในที่สุดข้าก็ตื่นซะที! เจ้านายคนถัดไปของสร้อยคอหยินหยาง ในที่สุด...ก็อยู่ที่นี่แล้ว!”...