ตอนที่แล้วTWO Chapter 65 วันส่งท้านปีเก่า ตอนที่ 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 67 ฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรม

TWO Chapter 66 พิธีบวงสรวง


TWO Chapter 66 พิธีบวงสรวง

***หมายเหตุ : ต่อไปนี้ ในคำพูดของโอหยางโชว จะเปลี่ยนจากหยิงหยูเป็นหยูเอ๋อ และฉิงซีเป็นฉิงเอ๋อนะครับ

ใช้เวลาไม่นานหมอซ่งก็ได้ทำการรักษาสัตว์ประหลาดเหนียนตัวเมียเสร็จสิ้น ขณะนี้ โอหยางโชวมีสิ่งที่ต้องทำในชีวิตจริง เขาจึงพาสัตว์ประหลาดเหนียนทั้ง 2 ตัว ไปไว้ที่คอกม้าชั่วคราว ก่อนจะออกจากระบบ

วันนี้ในโลกจริง คือ วันแรกของปีใหม่ เมื่อคืน มีการจุดดอกไม้ไฟกันไม่หยุดหย่อน บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เมื่อโอหยางโชวเดินออกจากห้องของเขา ปิงเอ๋อก็ลุกออกจากเตียงแล้ว เธอกำลังเล่นกับเซว่เอ๋อในห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นพี่ชาย เธอยิ้มแล้วกล่าวว่า “พี่ชายจอมขี้เกียจ ปิงเอ๋อตื่นก่อนพี่ชายซะอีก”

“พี่ชายจอมขี้เกียจ! พี่ชายจอมขี้เกียจ!” เซว่เอ๋อคัดลอกคำพูดของปิงเอ๋อ

โอหยางโชวยิ้มและส่ายหัว ในหลายวันมานี้ เขาเข้าและออกเกมส์ช้า ในสายตาของปิงเอ๋อและฉิงเอ๋อ เขากลายเป็นคนขี้เกียจไปแล้ว

เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้า จากนั้นก็เดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่น ยิ้มให้ปิงเอ๋อแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อย วันนี้พี่ชายจะพาไปช็อปปิ้ง โอเคมั้ย?”

“เย้! เย้!” เมื่อได้ยินว่าจะได้ออกไปข้างนอก ลิงน้อยปิงเอ๋อก็กระโดดด้วยความยินดี

“ถ้าเราออกไปข้างนอก เราจะไม่สามารถพาเซว่เอ๋อไปกับเราได้ มันจะไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ” โอหยางโชวอธิบาย

“อ๊า? เราจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะ ปิงเอ๋อไม่อยากแยกกับเซว่เอ๋อ” เด็กน้อยกล่าวด้วยความไม่พอใจ

เซว่เอ๋อบินไปเกราะบนหัวของปิงเอ๋อ แล้วกล่าวอย่างไม่เต็มใจว่า “ไม่! ไม่!”

“น้องแค่เก็บเซว่เอ๋อไว้ในบอลแล้วอย่าเพิ่งเรียกออกมา” มองไปยังทั้งคู่ที่ไม่อยากแยกกัน โอหยางโชวก็อธิบายขั้นตอนเพิ่มเติม

“เอ่อ!” นี่อาจทำให้ปิงเอ๋อพอยอมรับได้ เธอหยิบลูกบอลขึ้นมา แล้วเซว่เอ๋อก็เข้าไปอยู่ข้างในบอล

หลังจากสองพี่น้องออกจากบ้าน พวกเขาก็เดินเข้าไปในงานปีใหม่ที่กำลังคึกคัก

งานวัดปีใหม่ ในรัฐเจียวจะจัดงานใหญ่ที่เมืองเฉิงฮวงในจตุรัสของวัดจงโหยว, ซอยจงซาน, ถนนฟู่เซว่ตะวันตก, ซอยฮุ่ยฟู่, ถนนอาหาร, วัดพุทธ และหวู่เซียน แต่ละพื้นี่จะมีการแสดงทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และจะมีการจัดแสดงสินค้าทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีการจำหน่ายอาหารและจัดกิจกรรมต่างๆ

นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมสถานที่เหล่านี้ทุกปี ไม่เพียงแต่จะชมการแสดงตามวัฒนธรรมจีน ยังมีการแสดงโอเปร่า กายกรรม มายากล ชี่กง และยังมีการแสดงศิลปะการต่อสู้อื่นๆอีก เช่น หมัดไป๋เม่ย, หมัดไค่หลี่ฟู่, หมัดหวิงชุน และศิลปะการต่อสู้อื่นๆ

พี่ชายน้องสาวเดินไปรอบๆ งานวัดนี้พลุกพล่านไปด้วยมหาสมุทรของผู้คน งานวัดจะจัดขึ้นทุกปีใหม่ และเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถกิน ดื่ม เล่นสนุก ช็อปปิ้ง และเที่ยวชมความบันเทิงต่างๆได้

สิ่งที่ทั้ง 2 พี่น้องสนใจมากที่สุดก็คือ อาหาร โดยเฉพาะที่ถนนอาหาร ปังกิ่งสวีตฮูลู่, เทียนจินโกวบูวลี่, เกาหลีเหนือต้าเกา, ฉางตาเต้าหู้ตุ๋น, เทียนจินซอย 18 หม่าฮัว, มองโกเลียเนื้อย่าง, เซี้ยงไฮ้เสี่ยวหลงเปา, ปังกิ่งต้นตำหรับซุบถั่วสด, ใต้หวันเต้าหู้ตุ๋นผัก อาหารจากส่วนต่างๆของประเทศสามารถพบเห็นได้ที่นี่

ปิงเอ๋อยังมีน้ำใจ ขณะที่ช็อปปิ้ง เธอไม่ลืมซื้อของขวัญให้คนอื่นๆ เธอซื้อหน้ากากให้ตัวเองและซื้อให้พี่ชายของเธอ แน่นอนมีของขวัญสำหรับเซว่เอ๋อ เช่น ชุดเดรสโอเปร่าปักกิ่งขนาดจิ๋วที่ถูกทำขึ้นอย่างประณีต

โอหยางโชวถือหน้ากากตัวตลกแล้วส่ายหัว เด็กน้อยนี้ก็แค่อยากแกล้งเขา

เมื่อเวลา 18.30 น. พวกเขาก็กลับจากงานวัด ปิงเอ๋อเหนื่อยมาก เธอรีบอาบน้ำแล้วเรียกเซว่เอ๋อออกมาก่อนจะหลับไป

โอหยางโชวรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เขาจะได้เข้าสู่ระบบตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้เขามีเหตุการณ์สำคัญที่ต้องเข้าร่วม เขาเข้าไปในห้องของเขาเพื่อเข้าเกมส์

…………………………………………………………………………………………………

หลังจากตื่นขึ้นมาในเกมส์ ก็เป็นเวลา 7.00 น. แล้ว เขาไม่ได้สวมชุดหนัง แต่สวมชุดประจำชาติแบบดั้งเดิม ที่มู่ฉิงซีซื้อให้เขา เหตุผลก็เพราะวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ วันี้เมืองซานไห่กำลังจะจัดพิธีบวงสรวง

ก่อนเวลา 7.00 น. ทุกคนได้มารวมตัวกันที่ลานหน้าศาลบรรพบุรุษ แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านเป่ยไห่ก็ขึ้นเรือกลับมาที่เมืองซานไห่เพื่อเข้าร่วมพิธีบวงสรวงนี้

เจ้ากรมการบริหารฟ่านจงหยานเป็นผู้ทำพิธี ในขณะที่เจ้ากรมคลังวัสดุเทียนเหวินจิงเป็นผู้ถวายเหล้า เมื่อโอหยางโชวมาถึง พิธีกรรมก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ศาลบรรพบุรุษของเมืองซานไห่ให้ความนับถือในจักรพรรดิเหลือง พิธีกรรมทั้งหมดมี การต้อนรับเทพ, วางผ้าไหม, เข้า, ถวายเครื่องบูชาครั้งแรก, ถวายเครื่องบูชาครั้งที่ 2, ถวายเครื่องบูชาครั้งสุดท้าย, ถอย, ส่งเทพ, เผาเครื่องบูชา มีทั้งสิ้น 9 ขั้นตอน พวกเขาทำทั้งหมดนี้อย่างระมัดระวังและเข้มงวด ไม่มีขั้นตอนไหนที่ทำโดยประมาท

หลังจากเสร็จสิ้นทุกกระบวนการ เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 9.00 น. แล้ว หลังจากสวดภาวนาต่อจักรพรรดิเหลืองเสร็จสิ้น ทุกคนก็มุ่งหน้าไปที่วัดหม่าโจ้ว และเริ่มพิธีบวงสรวงสำหรับเทพธิดาหม่าโจ้ว ซึ่งเป็นศาสนาอย่างเดียวที่เป็นที่ยอมรับในเมืองซานไห่ พิธีสรวงนี้ยิ่งใหญ่ และเทียบได้กับพิธีบวงสรวงของจักรพรรดิเหลือง

หลักจากเสร็จสิ้นพิธีกรรม เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 11.00 น. แล้ว โอหยางโชวเห็นว่ายังพอมีเวลา เขาเรียกกู่ซิวเหวินและโจวเฟิงมาพบ ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปที่หมู่บ้านเป่ยไห่

หลังจากที่พวกเขานั่งลง โอหยางโชวก็ยิ้มแล้วถามว่า “ทุกอย่างในหมู่บ้านเป่ยไห่เป็นไปด้วยดีหรือไม่?”

“ขอบคุณสำหรับความกังวลของนายท่าน หมู่บ้านเป่ยไห่กำลังก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง เราสามารถเป็นหมู่บ้านระดับ 2 ได้ก่อนปีใหม่ การวางแผนสำหรับหมู่บ้านะเดินตามรูปแบบเดิมของเมืองซานไห่ ในขณะเดียวกัน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างดินแดน เราได้สร้างท่าเรือไว้ใกล้กับแม่น้ำ” กู่ซิวเหวินรายงาน

โอหยางโชวพยักหน้า “ดีมาก, ทำงานได้เร็วจริงๆ แล้วเจ้าวางแผนเช่นไรต่อจากนี้?”

“สำหรับขั้นตอนต่อไป เราเตรียมตัวชะลอตัวลงเล็กน้อย เพื่อเสริมสร้างรากฐานของเราให้มั่นคงขึ้น” กู่ซิวเหวินกล่าวอย่างระมัดระวัง

โอหยางโชวส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ข้าวางแผนให้ชาวปะมงย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านเป่ยไห่ นอกจากนี้ หลังเปิดทำการนาเกลือเฟส 3 จำนวนประชากรของเป่ยไห่ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ข้าต้องการให้หมู่บ้านเป่ยไห่อัพเกรดเป็นหมู่บ้านระดับ 3 โดยเร็ว และเมื่อเมืองซานไห่อัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 หลังจากนั้น หมู่บ้านเป่ยไห่ก็จะอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1”

เขาเคยเป็นนายทะเบียน ดังนั้น กู่ซิวเหวินจึงมีเข้าใจในเมืองซานไห่เป็นอย่างดี เมื่อเขาได้ยินแผนของโอหยางโชว เขาจึงไม่เข้าใจและถามว่า “ตามที่นายท่านต้องการ ท่านจะย้ายชาวเมืองส่วนหนึ่งจากซานไห่ไปยังเป่ยไห่ มันจะชะลอการเจริญเติบโตของซานไห่หรือไม่?”

“เมืองซานไห่ได้รับการอัพเกรดอย่างรวดเร็วพอแล้ว ถึงเวลาให้คู่แข่งของเราได้ผ่อนคลายลงบ้าง ข้าคิดว่าถ้าเราบีบบังคับพวกเขามากเกินไป มันอาจจะไม่เป็นผลดีต่อพวกเรามากนัก เวลานี้เหมาะที่เราจะเสริมสร้างรากฐานของเรา ขณะที่พวกเขามุ่งเน้นในการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็ก จะไม่มีใครในหมู่พวกเขาคาดคิดว่า หมู่บ้านสาขาของเราจะอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 แล้ว” โอหยางโชวยิ้มขณะอธิบาย

“นอกจากนี้ ข้าต้องการให้เจ้าคำนวณอัตราการอพยพเข้าเมืองซานไห่ ซึ่งมีถึง 75 คน/วัน ขณะที่หมู่บ้านเป่ยไห่มีเพียง 14 คน/วันเท่านั้น ดังนั้น มันจึงคุ้มค่าแม้จัส่งผลต่อการเจริญเติบโตของซานไห่ซักเล็กน้อย เพื่ออัพเกรดหมู่บ้านเป่ยไห่ โดยรวมแล้ว สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อดินแดนของเรา” โอหยางโชวกล่าว

วิธีการเพิ่มจำนวนประชากรแบบนี้ เป็นความคิดของผู้เล่นลอร์ดในชีวิตที่แล้วของเขาคนหนึ่ง เขาอัพเกรดเมืองหลักเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 จากนั่นก็เร่งอัพเกรดเมืองสาขาเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเขาจงใจอยู่ในเมืองขนาดเล็กระดับ 1 ต่อไปก่อน

กู่ซิวเหวินก็ตระหนักได้ แล้วกล่าวว่า “นายท่านคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบนัก ซิวเหวินนับถือท่านจริงๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ เมื่อข้ากลับไปที่หมู่บ้านเป่ยไห่ ข้าจะเรียกประชุมทุกคน และพยายามทุกวิถีทางในการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างพื้นฐานทั้งหมดของหมู่บ้านระดับ 2 เราจะเร่งอัพเกรดเป็นหมู่บ้านระดับ 3 ภายใน 1 สัปดาห์ เราจะไม่ปล่อยให้นายท่านต้องกังวลกับพวกเรา”

โอหยางโชวยิ้มแล้วกล่าวว่า “เมื่อเจ้าเข้าใจสิ่งต่างๆแล้ว ข้าก็รู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง แล้วการจัดตั้งกองทหารรักษาการณ์ในหมู่บ้านเป่ยไห่เป็นเช่นไรบ้าง?” เขาหันไปถามโจวเฟิงที่ยังเงียบอยู่

โอหยางโชวพยักหน้าแล้วกล่าวเสียงดังว่า “เรียนนายท่าน! เราทำตามคำสั่งของนายท่าน หลังจากอัพเกรดค่ายทหารเป็นระดับกลางแล้ว เราได้คัดเลือกทหารใหม่จากผู้อพยพ 20 คน และเปลี่ยนขั้นพวกเขาเป็นทหารอาสาแล้ว ขั้นต่อไปคือเพิ่มเลเวลให้กับพวกเขา และเปลี่ยนขั้นอีกครั้งเป็นทหารเรือ”

“เจ้าได้พูดคุยกับอู่ต่อเรือขนาดกลางแล้วหรือไม่? เจ้าเข้าใจในความเร็วในการสร้างเรือรบขนาดเล็กแล้วหรือยัง?” โอหยางโชวถาม

“ข้าได้พูดคุยกับท่านเจิ้งซึ่งเป็นผู้ดูแลอู่ต่อเรือแล้ว เขากล่าวว่า เรือรบขนาดเล็กเริ่มก่อสร้างแล้ว ด้วยความเร็วในปัจจุบันของพวกเขา พวกเขาสามารถสร้างมันได้ 1 ลำ ใน 3 วัน เพียงพอสำหรับข้อกำหนดในการฝึกอบรมของกองทัพเรือ” สมแล้วที่ถูกแนะนำโดยหลินยี่ โจวเฟิงมีความคิดที่ชัดเจน และมองภาพรวมได้ดี ทำให้โอหยางโชวพอใจมาก

“ดีมาก ดูเหมือนเจ้าจะคาดเดาได้ว่าเหตุใดข้าจึงส่งเจ้าไปที่หมู่บ้านเป่ยไห่ ข้าไม่ต้องการให้เจ้าสร้างเพียงกองทหารรักษาการณ์เท่านั้น เพราะในอนาคตหมู่บ้านเป่ยไห่จะเป็นฐานทัพเรือ และค่ายทหารเรือ ดังนั้น ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหมู่บ้าน เจ้าต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายนี้”

“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะทำงานอย่างหนัก และไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง” โจวเฟิงตอบเสียงดัง

“ดี ดูเหมือนมันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในการส่งพวกเจ้าทั้ง 2 คน ไปดูแลหมู่บ้านเป่ยไห่ ด้วยความคืบหน้าของหมู่บ้านในตอนนี้ ข้าพอใจอย่างยิ่ง ข้าหวังว่าพวกเจ้าจำทำงานอย่างหนัก และสร้างความรุ่งโรจน์มากขึ้นไปอีก”

โอหยางโชวจบการสนทนา มันไม่ได้เป็นการประชุมอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการสนทนาแบบสบายๆ ที่มีการรายงานผสมอยู่ด้วย

“เราจะไม่ปล่อยให้ตนเองหย่อนยานลงแน่นอน!” กู่ซิวเหวินและโจวเฟิงกล่าวพร้อมกัน

โอหยางโชวมองดูเวลา ตอนนี้ถึงเวลา 12.00 น. แล้ว เขาหัวเราและกล่าวว่า “ไปทานอาหารเที่ยงด้วยกันเถอะ”

หลังจากทานอาหารเที่ยว กู่ซิวเหวินและโจวเฟิงก็นั่งเรือกลับไปที่หมู่บ้านเป่ยไห่ในทันที โอหยางโชวอธบายทุกอย่างให้พวกเขาฟัง และวางแผนทั้งหมดให้กับพวกเขาแล้ว พวกเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สำหรับแผนพัฒนาหมู่บ้านเป่ยไห่ ตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยความหวัง และแรงบันดาลใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด