ตอนที่ 237: ชีพจร (2)
"ไม่เอาน่า....ข้าต้องไปพบใครบางคนในไม่ช้านี้" แองเจเล่พูดไม่ออก เขาตรวจสอบเวลาโดยใช้ชิป "มันเกือบเจ็ดโมงแล้ว น้องสาวของเจ้ายังรอเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ"
เชอร์รี่ตบหน้าผากของเธอ "ข้าเกือบลืมไปแล้ว" เธอรีบอาบน้ำให้เสร็จอย่างรวดเร็วและมีของเหลวสีดำออกมาจากร่างกายของเธอ มันละลายในน้ำสีน้ำเงินภายในไม่กี่วินาที
เธอรีบออกจากสระแล้วก็เอามือขวากดลงบนหน้าอกของเธอและใช้อนุภาคพลังงานไฟเพื่อทำให้ชุดของเธอแห้ง
แองเจเล่และกาวกระโดดลงไปในสระ ของเหลวสีดำไหลออกมาจากร่างกายของพวกเขาด้วยเช่นกัน
"มลพิษพลังงานจากหินพิภพนั้นช่างน่าขันสิ้นดี ถ้าปราศจากสระชำระล้างเราก็จะต้องใช้เวลานานกว่านี้ในการจัดการกับมลพิษนี้" เชอร์รี่หัวเราะ
"ข้าเห็นด้วยกับการสร้างสระน้ำ มันเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม" กาวพยักหน้าเล็กน้อย
ทั้งสามออกจากโถงพร้อมกันหลังจากที่ชำระล้างร่างกายของพวกเขา พวกเขาเดินขึ้นบันไดวนและออกจากอาคารเห็ดสีดำ
ภายนอกมันมืด แองเจเล่บอกลากาวและเชอร์รี่จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังลานจอด เขาเดินไปที่ลานและมีอินทรีสีดำรอเขาอยู่อย่างเงียบๆ
มีแม่มดฝึกหัดกำลังให้อาหารอินทรีอย่างระมัดระวังด้วยด้วงสีดำขนาดเท่ากำปั้น
"อา ท่านมาแล้ว" มันเป็นแม่มดฝึกหัดที่ชื่อเฟอร์ เธอได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของแองเจเล่ ตระกูลของเธอไม่ได้มั่งคั่งดังนั้นเธอจึงต้องทำงานพิเศษนอกเวลาในโรงเรียนซึ่งรวมถึงการให้อาหารอินทรี
"ขอบคุณ" แองเจเล่ยิ้มและกระโดดขึ้นไปบนหลังของอินทรี
อินทรีกางปีกของมันและมันก็พุ่งไปข้างหน้าเมื่อมันกระโดดออกจากลาน มันไหลไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะโค้งขึ้นไปในอากาศเพื่อเพิ่มความสูง
อินทรีบินตรงไปทางตะวันออกและหลังจากนั้นประมาณยี่สิบนาทีก็เริ่มโฉบเหนือป่าสาธารณะ
แองเจเล่มองลงไปและสังเกตเห็นพื้นที่วางที่ซ่อนอยู่ในหมู่ต้นไม้สีเขียวนับไม่ถ้วน มีจุดสีดำตรงกลางพื้นที่ว่างโดยที่ไม่มีอะไรอยู่รอบๆ
"ที่นั่นแหละ" แองเจเล่ดึงสายบังเหียนและเอาอินทรีไปทางนั้น
อินทรีเริ่มลดระดับความสูงและลงบนพื้นที่ว่างหลังจากผ่านไปหลายนาที
มีแร้งตัวหนึ่งกำลังยืนอยู่บนพื้นที่ว่างและข้างๆมันมีแม่มดสวมชุดคลุมสีขาวขอบเงิน ผู้หญิงคนนี้มีผมสีดำยาวพาดอยู่เหนือไหล่และเธอก็ยิ้มหลังจากที่เห็นแองเจเล่ลงบนพื้น
แองเจเล่กระโดดลงจากหลังของมันก่อนที่มันจะหยุด
"ไม่ได้เจอกันนาน เจ้าเป็นยังไงบ้าง ย่าของเจ้ายังบอกให้เจ้าแต่งงานอยู่หรือไม่" แองเจเล่ยิ้ม
"มันไม่ใช่ปัญหาถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าย่ากำลังคิดอะไร....ข้าขอให้เจ้ามาที่นี่เพราะ...." อิซาเบลขบริมฝีปากของเธอและลังเลใจ
"บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น" แองเจเล่สังเกตเห็นว่าตอนนี้มีบางอย่างที่ต่างออกไป อิซาเบลเป็นเพื่อนที่ดีของเขาและพวกเขาก็ได้สื่อสารกันหลายครั้งโดยใช้รูน อย่างไรก็ตามมันดูเหมือนว่าอิซาเบลกำลังเป็นทุกข์
ในที่สุดอิซาเบลก็เงยหน้าขึ้นและมองที่แองเจเล่
"ที่จริงแล้วย่าของข้ากดดันข้ามากเมื่อเร็วๆนี้ ข้าแค่จินตนาการว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าเจ้า....เป็นคู่รักของข้า"
"ฮ่าฮ่า นั่นไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้น เอาล่ะ ความก้าวหน้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ้ามีเลือดแรดเพียงพอหรือไม่" แองเจเล่ส่ายหัวเล็กน้อย
"ข้าเตรียมตัวเต็มที่แล้วต้องขอบคุณเจ้า ข้าอยากเชิญเจ้าเข้าพิธี มันจะจัดขึ้นในวันที่ 15 เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า" อิซาเบลพยักหน้า
"เจ้ามีทรัพยากรที่จำเป็นทั้งหมดแล้วใช่ไหม เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไร"
"ไม่เป็นไร ย่าของข้าบอกว่าอัตราความสำเร็จของข้าควรจะสูง ข้าเตรียมตัวมาหลายปีและตระกูลของข้าก็ได้รวบรวมทรัพยากรหายากจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อช่วยข้า ข้าคิดว่ามันไม่เป็นไร" อิซาเบลตอบเสียงเคร่งเครียด
"ฟังดูดี" แองเจเล่พยักหน้า เขาสันนิษฐานว่าอิซาเบลมีโอกาสมากกว่า 50% ในการก้าวไปสู่ขั้นต่อไป ขั้นคริสตัลเป็นขั้นที่สูงที่สุดในระดับหนึ่งและข้อกำหนดระดับพลังจิตสูงกว่าขั้นของเหลว อิซาเบลมีตระกูลที่แข็งแกร่งคอยดูแลเธอเพื่อไม่ให้เธอกังวลมากเกินไป
แองเจเล่ได้รับความช่วยเหลือจากชิปดังนั้นเขาจึงสามารถหาวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มอัตราความสำเร็จของเขา พ่อมดธรรมดาจะต้องพึ่งพาวัสดุหายากและทดสอบผลกระทบทีละชิ้น
"แต่....มันยังมีโอกาสที่ข้าจะล้มเหลว ถ้าข้าล้มเหลวในการก้าวไปสู่ขั้นต่อไปพลังงานชีวิตและศักยภาพของข้าจะถูกดูดออกไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมย่าของข้าถึงพยายามที่จะหาคนรักให้ข้า..." อิซาเบลไม่ได้พูดต่อแต่แองเจเล่รู้ว่าเธอกำลังพยายามที่จะพูดอะไร
"ถ้าศักยภาพของเจ้าถูกเผาไหม้เจ้าก็จะไม่สามารถมีเด็กที่มีศักยภาพสูงได้ใช่ไหม" แองเจเล่ส่ายหัวอีกครั้ง "ท่านแฟลนกำลังทำสิ่งนี้เพื่ออนาคตของตระกูลของเจ้า"
"ใช่ ข้าเข้าใจ" อิซาเบลพยักหน้า
ทั้งสองยืนอยู่บนพื้นที่ว่างและคุยกัน
อิซาเบลกระโดดขึ้นหลังของแร้งเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง เธอหายไปในคืนที่มืดมิดพร้อมกับแร้งภายในไม่กี่วินาที
แองเจเล่ยืนอยู่บนพื้นคนเดียวและเฝ้าดูจุดสีดำหายไปจากท้องฟ้า จากนั้นเขาก็เริ่มเดินไปที่หลังของอินทรีของเขา อินทรีเป็นของโรงเรียนแต่เขาได้รับอนุญาตในการใช้มันเพื่อเหตุผลส่วนตัว
เขาเดินไปข้างหน้าหลายก้าวและตระหนักว่ามีใครบางคนกำลังซ่อนอยู่ในความมืด
"ออกมาซะ!" ทันใดนั้นเขาก็ตะโกน
มีเงามืดเดินออกมาจากพุ่มไม้ข้างหลังอินทรีแต่แองเจเล่ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าใดๆ
"เยี่ยม มันดูเหมือนว่าข้าตัดสินใจได้ดี เจ้าควรจะเป็นสามีของอิซาเบล เจ้าเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก" คนๆนั้นถอดฮู้ดทำให้เห็นใบหน้าที่สวยที่ไม่มีคิ้ว
"ท่านแฟลน!" แองเจเล่ตกใจ เขารีบก้าวถอยหลังทันทีและรักษาระยะห่างจากเธอ
"ทำไมท่านถึงมาที่นี่ท่านแฟลน ท่านต้องการให้ข้าแต่งงานกับอิซาเบลหรือ ท่านพูดจริงใช่ไหม" เขาหายใจเข้าลึกๆและพยายามสงบใจลง
แฟลนยืนอยู่ข้างอินทรี เธอดูเหมือนหน้ากากสีขาวที่ลอยอยู่ในอากาศเพราะร่างกายของเธอผสานเข้ากับความมืดอย่างสมบูรณ์
เธอยังมองไปที่แองเจเล่
"ข้าไม่ได้ล้อเล่น พิธีของอิซาเบลกำลังใกล้เข้ามา เจ้าทั้งสองควรแต่งงานกันภายในสองเดือน ข้าจะส่งอิซาเบลไปที่บ้านของเจ้า อย่างน้อยเจ้าต้องมีลูกให้ข้าสองคนภายในหนึ่งปี ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะใช้เทคนิคอะไรแต่เจ้าจะต้องตอบสนองความต้องการของข้า" มันฟังดูเหมือนว่าแฟลนออกคำสั่ง
"ภายในหนึ่งปี" แองเจเล่พูดไม่ออก "ข้าชอบอิซาเบลแต่....มันแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับพ่อมดเช่นเราที่จะมีเด็กในระยะเวลาที่สั้นเช่นนั้น....ข้าคิดว่าท่านก็รู้เหตุผลด้วยเช่นกัน"
"หนึ่งปีเป็นเวลาที่นาน แล้วเจ้าต้องการเวลานานแค่ไหนเพียงแค่บอกข้ามา" แฟลนย่นคิ้ว
ทันใดนั้นแองเจเล่ก็หันหัวจ้องไปที่ท้องฟ้าก่อนที่เขาจะตอบคำถาม เขาได้ยินเสียงทารกร้องไห้
หัวใจของเขากำลังเต้นแรง มันเป็นความรู้สึกพิเศษที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่มีสายเลือดเดียวกัน
"มันเป็น......ลูกของข้า.....ลูกของข้าเกิด" มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อลูกของพ่อมดเกิด แองเจเล่มองเห็นฉากที่ผู้หญิงที่เบ่งเด็กออกมาอย่างเหนื่อยล้าในห้องที่มืดมิดที่อีกด้านของทะเลอัญมณี ยังคงมีสายสะดือเหลืออยู่บนตัวเด็ก
"เกิดอะไรขึ้น" แฟลนไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นและเธอก็มองไปที่ท้องฟ้าด้วยเช่นกันแต่มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอเห็นคือท้องฟ้ายามราตรี "อะไรก็ช่าง ข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว มันจะดีกว่าถ้าเจ้าทำตามแผนของข้า" เธอส่ายหัวแล้วหันกลับไปและเดินไปในความมืด เธอกลายเป็นหมอกสีขาวและหายไปในอากาศ
แองเจเล่ก้มหน้าลงและกระซิบวนไปวนมาว่า "เขาเป็นลูกของข้า....ลูกของข้าเกิด...."
รูนสื่อสารสีน้ำเงินกะพริบบนมือขวาของเขา
เขายังเงียบอยู่หลายวินาทีและกำหมัดแน่น
"แนนซี่ จ้างอัศวินที่ดีที่สุดและพ่อมดฝึกหัดระดับสามที่เจ้าสามารถหาได้ ส่งพวกเขาไปที่บ้านเกิดของเราและหาคนสองคนให้ข้า"
"ค่ะ ท่านต้องการให้ข้าหาใครนายท่าน" แนนซี่ตอบข้อความทันที
"ผู้หญิงที่ชื่อเคทลินและเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งเกิด ถ้าเด็กคนนี้มีศักยภาพก็นำทั้งสองคนกลับมาหาข้า ถ้าไม่....ให้เงินพวกเขา....ทำให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถมีชีวิตที่ดีที่นั่น"
แองเจเล่เงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่ท้องฟ้าอีกครั้ง หลายวินาทีต่อมาเขาก็กระโดดขึ้นอินทรีและบินขึ้นไปในอากาศ
**********************
ในท้องฟ้ายามค่ำคืน
อิซาเบลอยู่บนหลังของสัตว์บินของเธอและกำลังคุยกับใครบางคนโดยใช้รูฯสื่อสาร
"ข้าไปพบเพื่อนเก่ามา" เธอยิ้ม
"โอ้ เป็นอย่างไร เจ้าไม่ได้มีเพื่อนจริงๆใช่ไหม" มีเสียงผู้ชายตอบข้อความ
"มันเป็นไปด้วยดี เขาเป็นแค่เพื่อนของข้า"
"แล้วเจ้าได้บอกเขาว่า..."
"ไม่ ข้าไม่ได้บอก ข้าไม่ต้องการที่จะนำปัญหาสู่เขามากเกินไป มันเป็นปัญหาของข้า" อิซาเบลลดเสียงลง
"....เอาล่ะ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากเราก็ยังมีความหวัง" ชายคนนั้นหยุดชั่วครู่และหัวเราะเบาๆ "ที่จริงแล้วถ้าไม่มีเขาเจ้าก็จะไม่สามารถออกจากตระกูลได้หลายครั้งและเราก็จะไม่มีวันพบกัน ข้าควรขอบคุณเขาด้วยเช่นกัน"
"ข้าดีใจที่เจ้าเข้าใจเรย์มอนด์"
"ข้าจะพยายามทำลายขีดจำกัดของข้าโดยเร็วดังนั้นย่าของเจ้าจะได้เห็นด้วยกับการแต่งงานของเรา"
"ขอให้โชคดี" อิซาเบลพยักหน้า "ข้ารักเจ้าเรย์มอนด์"
"ข้าก็รักเจ้าเช่นกันอิซาเบล" หลังจากนั้นชายคนนั้นตัดการสื่อสาร