ตอนที่ 236: ชีพจร (1)
แองเจเล่จดจำชื่อของชายคนนี้ไว้ในหัว เขามั่นใจว่าเรย์ไลน์กำลังซ่อนอะไรบางอย่างจากสาธารณชน
เขาส่ายหัวเล็กน้อยและยังคงเงียบอยู่ในแถวแรก
งานฉลองครบรอบในกางเขนมีเวลาสั้นๆ หลังจากที่ได้รับรางวัลทั้งหมดแล้วนักเรียนบางคนก็ร้องเพลงและเต้นไปอีกสักพัก นอกจากนี้ยังมีการแสดงบนเวทีของเด็กนักเรียนอีกด้วย
งานได้จบลงเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มตก
แล้วอาจารย์ใหญ่ก็พาแองเจเล่ไปที่สำนักงานลงทะเบียนและเมื่อเสร็จสิ้นการกรอกเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดทั้งสองก็เดินไปที่อาคารเห็ดขนาดใหญ่ในพื้นที่วิจัยของโรงเรียน
แสงแดดสีส้มส่องลงบนอาคารเห็ดขนาดมหึมาสีดำ อาคารล้อมรอบไปด้วยกำแพงโลหะและกำแพงปกคลุมไปด้วยกระแสไฟฟ้า
ด้านซ้ายของประตูมีป้ายสีดำที่เขียนว่า'ต้องได้รับอนุญาต'
"ที่นี่แหละ" เมดิฟเดินผ่านประตูก่อน
แองเจเล่มองไปรอบๆ มียามหลายคนเฝ้าระวังพื้นที่นี้อย่างต่อเนื่องและสถานที่นี้ก็เงียบอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเป็นเพียงพ่อมดสองคนที่นี่
เขาตามหลังอาจารย์ใหญ่และเข้าไปที่อาคารเห็ด
พวกเขาเดินลงบันได้วนที่มืดมิด
มีประตูไม้สีน้ำตาลปรากฏที่สุดทางเดินของบันได
เมดิฟยกมือขวาขึ้นและเคาะประตูสองครั้ง
ชี่
ประตูไม้จางหายไปในความมืดและมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกเผยออกมา
แองเจเล่เห็นคลื่นน้ำสีน้ำเงินส่องลงบนผนังเมื่อเขาก้าวไปข้างหน้า
ตรงกลางของโถงมีสระสีน้ำเงินขนาดใหญ่และนั่นคือที่ที่มีเงาของคลื่นมา อากาศในสถานที่นี้ชื้นและเย็น
เมดิฟเดินผ่านสระและหยุดข้างประตูหินสีเทาที่อยู่อีกด้าน เขากดฝ่ามือพร้อมกันและร่ายคาถา
ครืดดด
ประตูยกขึ้นเอง
ทั้งสองเดินเข้าประตูพร้อมกัน
ด้านในเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีสีเหลืองอ่อน มีพื้นที่ที่ล้อมรอบไปด้วยรั้วโลหะตรงกลางของห้องและมีหินขนาดมหึมาอยู่ตรงกลาง หินกว้างประมาณหนึ่งเมตรและสูงสองเมตร มันดูเหมือนหินธรรมดาที่สามารถพบได้ทุกๆที่ในเทือกเขา
หินได้รับการปกป้องโดยบาเรียคริสตัล มีพ่อมดแสงหลายคนเดินไปรอบๆมันและบางคนก็ดูมีอายุมาก พวกเขียนข้อมูลลงเป็นครั้งคราวแม้แต่แองเจเล่ก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ นอกจากนี้เขายังเห็นพ่อมดสองคนทำสมาธิข้างโต๊ะ
พ่อมดได้ยินเสียงประตูหินเปิดแต่มันดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้สนใจอะไร มีเพียงแม่มดที่เงยหน้าขึ้นมองมาที่อาจารย์ใหญ่และแองเจเล่
"ท่านเมดิฟ ไม่ใช่ว่างานฉลองครบรอบยังมีอยู่หรือ" แม่มดถามเสียงเบา
เมดิฟส่ายหัว "ข้ามีเพื่อนใหม่ที่นี่ที่เพิ่งจะเข้าร่วมโครงการหินพิภพ"
"อย่างงั้นหรือ" แม่มดตอบแล้วเธอก็ก้มหน้าลงและหยุดพูด
เมดิฟไม่โกรธเพราะนั่นดูเหมือนวิธีที่พวกเขาสื่อสารกัน เขาหันกลับไปและยิ้ม "ไม่ต้องห่วงเรื่องพวกเขา พวกเขาเพียงพยายามมุ่งมั่นกับการเรียนรู้ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา"
แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย "ข้าเข้าใจ ข้ามาที่นี่เพื่อหินด้วยเช่นกัน"
"ช่วยตัวเจ้าเองนะ" อาจารย์ใหญ่ชี้ไปที่หินขนาดใหญ่ตรงกลาง "เจ้าสามารถออกจากอุโมงค์ฝั่งตรงข้ามได้ มีอีกเรื่องหนึ่ง สนามพลังรอบๆหินนั้นไม่เสถียรดังนั้นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆจะทำให้คลื่นพลังงานรอบๆมันระเบิด โปรดดำเนินการด้วยความระมัดระวัง"
"ตกลง"
"เอาล่ะ ข้าจะปล่อยให้เจ้าทำมันเอง"
"ขอบคุณท่านเมดิฟ ข้าจะเริ่มทำงานทันที"
เมดิฟพยักหน้าจากนั้นเขาก็หันกลับไปและออกจากห้องผ่านประตูหิน
แองเจเล่ที่ยืนอยู่ข้างประตูมองไปรอบๆ
มีพ่อมดห้าคนในห้อง สามคนเป็นขั้นแก๊สและอีกสองคนเป็นพ่อมดธรรมดา เขาตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาอีกต่อไปและเดินไปที่บาเรียคริสตัลตรงกลาง
เขากดฝ่ามือลงบนผิวของคริสตัล มันเย็นและเรียบ แองเจเล่มองเห็นพื้นผิวที่ขรุขระของหินพิภพผ่านบาเรียโปร่งใสและบนหินเขาสังเกตเห็นบางอย่างที่ดูเหมือนลายนิ้วมือ
คริสตัลเรืองแสงรูปน้ำตาเรียงอยู่บนผนังและพวกมันทำให้ทั้งห้องสว่างขึ้น
แองเจเล่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่พ่อมดคนอื่นๆรอบบาเรีย แม่มดสองคนกำลังทำการคำนวณบนหนังสือบันทึกของพวกเธอและพ่อมดกำลังคิดอะไรบางอย่างพร้อมกับขมวดคิ้วอยู่
ไม่มีใครสนใจที่จะสื่อสารกับแองเจเล่
"ข้าขอโทษ..." มีคนขัดจังหวะเขาก่อนที่แองเจเล่จะทำอะไรต่อ
"ถ้าข้าเป็นเจ้าข้าจะไม่เสียเวลาใดๆไปกับการพูดคุยกับคนอื่น" แม่มดเงยหน้าขึ้นและพูด เธอเป็นคนที่คุยกับเมดิฟ
"ทำไม"
"พ่อมดที่นี่สามารถอยู่ในห้องได้เพียงสองชั่วโมง หลังจากนั้นเจ้าต้องออกจากอาคารสักพักเพราะสนามพลังที่ไม่เสถียรจะทำให้ร่างกายของเจ้าได้รับความเสียหายจากการได้รับพลังงานในระยะยาว เจ้าสามารถอยู่ได้นานกว่านี้หากเจ้าต้องการแต่อย่าเสี่ยงชีวิตของเจ้า" เธอแนะนำเสียงเบา
"จริงหรือ" การแสดงออกของแองเจเล่เคร่งเครียดและบอกให้ซีโร่ตรวจสอบคลื่นพลังงานในห้อง แม้ว่าพลังงานที่นี่จะไม่เสถียรมันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเขาเลยนั่นคือเหตุผลที่ซีโร่ไม่ได้เตือนเขา
"ขอบคุณมาก" เขายิ้มอย่างสุภาพแต่แม่มดก้มหน้าลงไปแล้ว
แองเจเล่ส่ายหัวเล็กน้อยและหันกลับไป เขาเริ่มสังเกตหินพิภพอย่างใกล้ชิด
'สร้างงานและวิเคราะห์หินพิภพให้ข้า'
[สร้างงาน กำลังสแกนหินพิภพ]
[เป้าหมายล้อมรอบไปด้วยสนามพลังที่ไม่เสถียรดังนั้นมันจึงไม่สามารถสแกนได้ สร้างงานล้มเหลว] ชิปรายงานอย่างรวดเร็ว
แองเจเล่ยกคิ้ว
'สร้างงาน สแกนพลังงานที่ไม่เสถียรรอบๆหินและสร้างรูปแบบพื้นฐาน'
[สร้างงาน กำลังสแกนรัศมีพลังงาน เวลาที่ต้องการสร้างรูปแบบ: 13 วัน 21 ชั่วโมง 45 นาที]
แองเจเล่ส่ายหัวเล็กน้อย 'รูปแบบของพลังงานที่ไหลเวียนใช้เวลามากกว่า 13 วันในการสร้าง....หินพิภพไม่ใช่ของง่ายๆ แม้แต่การที่ข้าไม่สามารถสแกนมันได้โดยตรงผ่านชิป'
ตำนานบอกว่าหินพิภพเป็นประตูสู่ดินแดนอื่นและหินพิภพคนละก้อนจะนำไปสู่ดินแดนที่แตกต่างกัน พ่อมดยุคใหม่ใช้เวลานานในการพยายามเปิดใช้งานพวกมันแต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จ
แองเจเล่ไม่ได้รีบร้อน เขายังต้องการเวลาเพื่อเรียนรู้ความรู้พื้นฐานและเขาตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างช้าๆด้วยความระมัดระวัง
***********************
หลายเดือนต่อมา...
ภายในห้องวิจัยใต้ดิน
มีเพียงพ่อมดแสงสามคนที่ยังอยู่ในห้อง
ทั้งสามคนยืนอยู่รอบๆหินพิภพ สองคนเป็นเพศชายและอีกคนเป็นผู้หญิง มีผู้ชายผมสีน้ำตาลสั้นสวมชุดคลุมขาวยาวและมีชุดหนังแน่นภายใน ดวงตาของเขาล้อมรอบไปด้วยแสงสีทองและมีรอยเงินบนผิวของเขา
มันเป็นแองเจเล่ที่อยู่ในห้องมาเป็นเวลานาน
"เจ้าได้อะไรไหมกรีน" ทันใดนั้นแม่มดก็ถาม
"ข้ามีปัญหาบางอย่าง ผลลัพธ์ที่ข้าได้แตกต่างจากของกาว" แองเจเล่ย่นหน้าผากของเขา
ชายที่หล่อเหลาที่มีริมฝีปากและผมสีน้ำเงินข้างๆแองเจเล่พยักหน้าช้าๆ "ใช่ ความแตกต่างนั้นมากกว่า 0.5"
"ดังนั้นรูปแบบนี้ไม่ทำงาน เราต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง..." แม่มดดูหดหู่ เธอวางปากกาและกระดาษลงในขณะที่กำลังถอยหายใจ
"เอาล่ะ วันนี้เรามาพอแค่นี้เถอะ กลับไปด้วยกันไหม"
"ตกลง" แองเจเล่และชายที่ชื่อกาวพยักหน้าพร้อมกัน
แองเจเล่ใช้เวลาหลายเดือนเพื่อศึกษาหินพิภพแต่เขาก็เป็นเพื่อนกับพ่อมดเพียงสองคนเท่านั้น
ทั้งสองคนนี้เข้าโรงเรียนเพราะพวกเขาต้องการศึกษาหินพิภพ แองเจเล่ชี้ข้อผิดพลาดที่สำคัญให้พวกเขาเมื่อพวกเขาโต้เถียงกันและพวกเขาก็เริ่มติดต่อกันหลังจากนั้น ทั้งสามคนตั้งกลุ่มเล็กๆและพวกเขาก็จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิจัยหินพิภพ
แองเจเล่ตามกาวออกจากห้อง ชิปช่วยให้เขาสร้างรูปแบบของการไหลเวียนของพลังงานรอบๆหินได้อย่างถูกต้องแต่เขาไม่รู้วิธีสร้างรูปแบบหินทั้งก้อนและเขาไม่เข้าใจว่าทำไมสนามพลังถึงไม่เสถียร
แองเจเล่กำลังก้าวหน้าไปเร็วกว่าพ่อมดคนอื่นๆที่นี่ กาวและแม่มดได้ใช้เวลาหลายปีในห้องวิจัยนี้แต่ความคืบหน้าของพวกเขาก็อยู่ระดับเดียวกับแองเจเล่
พวกเขาออกจากห้องและประตูหินก็ปิดด้วยตัวมันเอง ทั้งสามยืนอยู่ข้างหน้าสระน้ำ
"เชอร์รี่เจ้าไปก่อน" กาวพูดเสียงเบา
"ตกลง" แม่มดที่ชื่อเชอร์รี่ปล่อยผมและกระโดดลงไปในสระน้ำ
ชุดคลุมสีขาวของเธอเปียกไปด้วยน้ำทำให้เผยให้เห็นรูปร่างที่น่าดึงดูดของเธอ
แองเจเล่และกาวยืนอยู่ข้างสระจ้องไปที่ผู้หญิงที่กำลังว่ายไปรอบๆสระน้ำที่เกือบจะเปลือย
เชอร์รี่ไม่ได้กังวลกับการถูกเฝ้ามองและเธอก็ไม่คิดที่จะสนุกกับพวกเขาเพื่อผ่อนคลาย แม่มดส่วนใหญ่รู้เทคนิคในการยับยั้งรูปร่างของพวกเธอจากการเปลี่ยนไปเพราะอายุ
เธอลูบหน้าอกของเธอช้าๆพยายามเย้ายวนแองเจเล่และกาว
แองเจเล่และกาวไม่ได้สนใจเลย พวกเขาชอบใช้เวลาศึกษาหินพิภพมากกว่า
"ไม่เอาน่า อาบน้ำให้เสร็จไวๆหน่อยเพราะเราต้องใช้สระด้วย"
"เจ้าไม่อยากมาสนุกกับข้าหรือ" มีรอยยิ้มที่น่าดึงดูดบนใบหน้าของเธอ