ตอนที่ 235: โรงเรียน (2)
สำหรับคนที่อ่านก่อนเวลา 0.20 วันที่ 1/02 ตอนที่ 234 ผมแปลผิดจากหินพิภพเป็นหินโลกนะครับ
______________________________________________________
สายเลือดของฮาร์ปี้ยักษ์พัฒนาจากสายเลือดฮาร์ปี้โบราณธรรมดา แองเจเล่ได้รับมาด้วยความโชคดีมันจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำได้อีกครั้ง
ถ้าเขาต้องการข้ามไปยังดินแดนฝันร้ายได้ทุกเวลาตามที่เขาต้องการหินพิภพก็จะเป็นเพียงความหวังเดียวของเขา ตำนานบอกว่าหินพิภพเป็นประตูวาร์ปสู่ดินแดนอื่น
มันเป็นเหตุผลหลักที่แองเจเล่ตัดสินใจที่จะมาเยี่ยมโรงเรียนนี้
หลังจากที่เดินไปรอบๆโรงเรียนเสร็จแม่มดฝึกหัดที่ชื่อเฟอร์ก็พาเด็กทั้งสองคนไปร่วมกิจกรรมและเมอร์แร็ทก็พาแองเจเล่ไปที่อาคารหลักของโรงเรียน
แม้ว่าแองเจเล่จะปลอมคลื่นพลังจิตของเขาแต่เขาก็ยังคงเป็นพ่อมดระดับสูงที่นี่
*****************
ในห้องประชุมของอาจารย์ใหญ่
มีชายที่ดูหนุ่มผมบลอนด์วางปากกาของเขาลงและลุกขึ้นยืนมองไปที่แองเจเล่ด้วยรอยยิ้ม
"ยินดีต้อนรับสู่กางเขน ชิวาได้แนะนำเจ้ากับข้าแล้วพ่อมดกรีน" ชายคนนั้นจับมือแองเจเล่ "ยินดีที่ได้พบ ชื่อของข้าคือเมดิฟอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน ขอบคุณสำหรับการนำพ่อมดกรีนมาที่นี่พ่อมดเมอร์แร็ท"
"มันเป็นเกียรติของข้า" เมอร์แร็ท "ตอนนี้ข้าจะปล่อยพวกท่านทั้งสองอยู่กันเพียงลำพัง"
เมดิฟพยักหน้าเล็กน้อย
แอ๊ดด
ประตูปิด
"โปรดนั่งลงก่อน" เมดิฟเดินไปที่โซฟาทางด้านซ้ายและนั่งลงพร้อมกับแองเจเล่
"ชิวาได้บอกข้าแล้วว่าทำไมเจ้าถึงตัดสินใจที่จะมาที่นี่ หินพิภพใช่ไหม" เขาวางมือไว้บนหูของถ้วยชาบนโต๊ะและอุ่นเครื่องดื่มสีเข้มภายในด้วยอนุภาคพลังงานไฟ
"ใช่ ข้าไม่คิดว่าข้าเป็นเพียงคนเดียวที่นี่ ผู้คนจะต่อสู้เพื่อมันอย่างแท้จริง" แองเจเล่ยังคงสงบ
"เจ้าพูดถูก" เมดิฟไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่แองเจเล่พูด เขายังพูดต่อ "กางเขนกำลังจะตาย ถ้าปราศจากหินพิภพก็จะไม่มีใครมาที่นี่ เนื่องจากเจ้าเป็นพ่อมดขั้นแก๊สข้าจะให้เกียรติเจ้าด้วยชื่อศาสตราจารย์ของโรงเรียน เจ้าจะได้รับอนุญาตในการเข้าถึงโครงการวิจัยหินพิภพและเจ้าได้รับอนุญาตให้อ่านหนังสือหายากในห้องสมุดใต้ดิน มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าต้องการให้เจ้าทำ เจ้าต้องรับสมัครพ่อมดฝึกหัดอย่างน้อยสามคนและพวกเขาจะเป็นนักเรียนของเจ้า นอกจากนี้เจ้ายังต้องสอนอย่างน้อยสองบทเรียนในแต่ละปีและเงินที่เจ้าได้รับจากบทเรียนเหล่านั้นจะถูกแบ่งกับโรงเรียน เจ้าต้องเป็นหัวหน้าของการทัศนศึกษาทุกๆสิบปี"
เมดิฟมองที่แองเจเล่หลังจากที่บอกกฎเสร็จ "กฎนี้เจ้ายอมรับได้หรือไม่"
"ข้ารับได้" แองเจเล่พยักหน้า "ข้าจะต้องอยู่ในองค์กรนานแค่ไหน"
"สิบปี อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องเตรียมตัวให้ดี เราได้ใช้เวลาหลายสิบปีในการทำวิจัยหินแต่เราก็ไม่ได้รู้อะไร" เมดิฟเตือน
"ข้าเข้าใจ มันเป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณและเราไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับวิธีการเปิดใช้งานมัน" แองเจเล่พยักหน้า "ท่านได้ทำการทดลองกับมันไหม"
"โครงสร้างของหินพิภพมีความซับซ้อนมากและไม่สามารถขยับไปไหนได้ มันมีคลื่นพลังงานที่ไม่เสถียรอยู่รอบๆหินตลอดเวลาดังนั้นเราจึงต้องระวังตัว แม้ว่าทั้งสามองค์กรใหญ่ก็กำลังพยายามหาวิธีใช้มันเช่นกัน พวกเขายังไม่มีความคืบหน้าใดๆ" เมดิฟอธิบาย "ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไรก็มาลงนามในสัญญากัน มันเป็นสัญญาที่ได้รับการคุ้มครองโดยสามองค์กรใหญ่"
"ตกลง" แม้ว่าแองเจเล่จะไม่สามารถเปิดใช้งานหินพิภพได้เขาก็ยังสามารถได้รับความรู้มากมายจากห้องสมุด
เมดิฟยื่นสัญญาที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษให้แองเจเล่ สัญญานี้ใช้ได้เฉพาะเมื่อหินพิภพเป็นของจริงเท่านั้น
สัญญาจะมีผลบังคับเป็นเวลาสิบปี
"มีสามวิชาวิจัยที่สำคัญในโรงเรียน ทฤษฎีของทุกสิ่งทุกอย่าง การคำนวณพื้นฐานและพื้นฐานของรูปแบบคาถา เจ้าสามารถเลือกเป็นอาจารย์ในวิชาเหล่านั้นได้ และถ้าเจ้าต้องการสอนอย่างอื่นเพียงแค่แจ้งให้สำนักงานลงทะเบียนทราบก่อน" เมดิฟยิ้ม "นอกจากนี้ข้าก็ขอบคุณสำหรับการเข้าร่วมกับเรา"
แองเจเล่ตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาตรวจสอบสัญญาเสร็จสิ้นเขาก็เซ็นชื่อของเขาลงไป
จากนั้นเขาก็แตะที่ด้านล่างของหน้า
มีเครื่องหมายงูสีดำปรากฏในสัญญาทันที
มีใครบางคนเคาะประตูเมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการเซ็นสัญญา
"เข้ามา"
แอ๊ดดด
แม่มดฝึกหัดเปิดประตูเข้ามา
"ท่านเมดิฟ ท่านเรย์ไลน์อยู่ที่นี่ เสบียงจากทางตะวันออกก็มาถึงแล้วและเราต้องการคนเอามันขึ้นมา มีอีกเรื่องหนึ่ง ท่านกลอเรียต้องการให้ข้าถามท่านว่าแผนภูมิเสร็จสิ้นหรือยัง ท่านต้องการมันอย่างเร่งด่วน"
"เข้าใจแล้ว ข้าจะทำให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" เมดิฟขมวดคิ้ว
"งั้นข้าไปพบท่านชิวาก่อน แล้วข้าจะแจ้งให้สำนักงานลงทะเบียนทราบเรื่องหลักสูตรที่ข้าจะสอนด้วย" แองเจเล่ลุกขึ้นยืน
"ข้ามีเวลามาก ไม่ต้องห่วงมาดื่มกันก่อนเถอะ เราสามารถไปดูงานเทศกาลด้วยกัน ข้าคิดว่าศาสตราจารย์ชิวาได้จัดการที่แผนกรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว"
"แน่นอน ขอบคุณ"
"ด้วยความยินดี หนึ่งในนักเรียนเก่าจากโรงเรียนของเราจะเข้าร่วมการแข่งขันเช่นกันและพ่อมดเรย์ไลน์พ่อมดหนุ่มที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในหอคอยหกวงแหวนก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน ข้าสามารถแนะนำเจ้ากับเขาได้"
"เรย์ไลน์หรือ" แองเจเล่หยุดชั่วครู่ "พ่อมดที่สมบูรณ์แบบของคนรุ่นใหม่เรย์ไลน์ใช่ไหม"
"ใช่"
*************************
พื้นที่เรียน
ในห้องเรียนห้องหนึ่งมีกลุ่มนักเรียนวัยเยาว์กำลังคุยกันอยู่
"เจ้ารู้อะไรไหม เราพบกับพ่อมดใจกว้างเมื่อไปเยี่ยมปู่ของเรา เขาได้มอบไข่ของนกลูลูให้เราคนละใบ" มอโรว์ถือไข่นกสีแดงในมือและพูด
"ข้าต้องการให้โคโคเซียเห็นไข่ลูลูของเรา....เขามีเพียงไข่ของนกนิมิตและเขาแสดงให้ทุกคนเห็น"
"เจ้าโชคดี.....เราไปทีทะเลสาบโตร่าแต่เขาก็ไม่พบอะไรเลย" เด็กผู้ชายที่นั่งข้างมอโรว์อิจฉา
"บ้านของป้าของมอนคาริโต้อยู่ข้างทะเลสาบโตร่า มีคนฆ่าผึ้งม่วงของป้าของเขาในวันหนึ่งและมอนคาริโต้ก็ถูกลงโทษอย่างหนักจากแม่ของเขา ข้าหวังว่ามันจะไม่ใช่เจ้า" มอโรว์ส่ายหัว
"เฮ้ โทริ เจ้าไปอยู่ที่ไหนมาในช่วงวันหยุด"
"ป่าหมอก พ่อของข้าพาข้าไปที่นั่นและเราก็จับไก่สามสีได้สองตัว นอกจากนี้เรายังรวบรวมวัสดุได้มากมาย" โทริเป็นเด็กผู้ชายที่มีกระทั่วใบหน้า เขากำลังโบกมือขณะที่พูด
"เยี่ยม ข้าเคยกินไก่สามสีย่างครั้งหนึ่งและมันอร่อยมาก"
"เจ้ามีแผนสำหรับสถานที่ต่อไปหรือไม่" เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถาม
"ปู่บอกว่าจะแวะไปที่บ้านของพ่อมดกรีนกับเรา บ้านของเขาอยู่ข้างทะเลสาบขนาดเล็กๆดังนั้นเราจึงสามารถว่ายน้ำที่นั่นได้" โซฟีตอบ "อย่างไรก็ตามเราต้องผ่านการทดสอบก่อน"
"ข้าอิจฉามาก....ข้าไม่ผ่านทฤษฎีของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วต้องทดสอบอีกครั้ง คำถามของท่านแวนนั้นยากเกินไป ข้าคิดว่าข้าจะต้องอยู่บ้านและอ่านหนังสือ"
"ไปคุยกับบาร์บาร่า เธอมีปากกาขนนกที่จะเขียนคำตอบให้เจ้า" โทริขัด
"การโกงมันไม่ดี" เด็กผู้หญิงส่ายหัว
"ไม่เอาน่า" โทริขบริมฝีปาก
"ไปกันเถอะ ท่านเรย์ไลน์มาที่นี่ งานของเราก็จะเริ่มในไม่ช้านี้" มอโรว์ตะโกน
นักเรียนทุกคนรีบวิ่งออกจากห้องเรียนและมุ่งหน้าไปยังพิธีมอบรางวัล
***********************
แองเจเล่นั่งอยู่ในแถวของพ่อมดแสงและคนที่อยู่ข้างๆเขาก็กำลังคุยกันเรื่องดนตรี ภาพวาด การทำสวนและประติมากรรม บางคนกำลังพูดถึงสิ่งที่พวกเขาประสบความสำเร็จเมื่อเร็วๆนี้และงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในองค์กร
สิ่งที่พวกเขาพูดถึงไม่มีความสำคัญเลยแต่มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาสนุกกับหัวข้อต่างๆ พ่อมดแสงสองคนข้างหลังเขากำลังถกเถียงกันอยู่ว่าจะทำให้ภาพวาดสมบูรณ์แบบได้อย่างไร
ชุดคลุมขาวเหล่านี้อาศัยอยู่ในโนล่าที่สงบสุขนานเกินไป พวกเขาไม่ต้องกังวลกับการถูกซุ่มโจมตีทุกวัน ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเขาน่าจะเป็นสงครามการเมืองที่เกิดขึ้นในองค์กรของพวกเขา บางคนได้พัฒนางานอดิเรกเหล่านี้หลังจากที่ตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถก้าวหน้าต่อไปได้
ชุดคลุมขาวกำลังสนุกกับการใช้ชีวิตของพวกเขาเนื่องจากไม่มีแรงกดดันและไม่มีข้อจำกัด พวกเขาเพียงต้องการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ทำโดยองค์กรใหญ่ทั้งสาม
แองเจเล่ฝืนยิ้ม เขากำลังนั่งอยู่ในแถวแรกแต่มันน่าเบื่อมาก
"อาจารย์ใหญ่จะต้องขอร้องท่านเรย์ไลน์ให้มาที่นี่ โรงเรียนอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องมีวิธีดึงดูดนักเรียน สถานการณ์เลวร้ายลงทุกวันเนื่องจากองค์กรต่างๆใกล้ๆพื้นที่นี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว" พ่อมดแสงคนหนึ่งกระซิบกับพ่อมดที่อยู่ข้างๆ
"เจ้าหมายถึงศรนทีใช่ไหม ใช่ องค์กรนั้นกำลังขยายตัวขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ข้าได้ยินว่าเขาคัดเลือกพ่อมดทางการเป็นจำนวนมากเนื่องจากประโยชน์ที่พวกเขาสามารถมอบให้ได้"
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาก็มีชายหนุ่มผมบลอนด์เดินไปที่เวที เมดิฟและพ่อมดแสงอีกสองคนเดินตามหลังเขา
ชายคนนี้หล่อและเขากำลังสวมชุดคลุมขาวขอบทอง มันดูเหมือนว่าเขาเป็นพ่อมดที่สมบูรณ์แบบที่ทุกคนกำลังพูดถึง
พิธีกรเริ่มแนะนำชายคนนี้
ตามคลื่นพลังจิตที่เรย์ไลน์ปลดปล่อยแองเจเล่สามารถบอกได้ว่าชายคนนี้อยู่ใกล้กับขั้นคริสตัลแล้ว ตอนนี้เขาอ่อนแอกว่าเรย์ไลน์
ทันใดนั้นเรย์ไลน์ก็มองไปที่แองเจเล่ในขณะที่แองเจเล่ยังสังเกตอยู่
พวกเขาจ้องกันและกันอยู่ครู่หนึ่งและพวกเขาทั้งสองก็ประหลาดใจ
เรย์ไลน์มีเทคนิคพิเศษบางอย่างและรู้ว่าแองเจเล่กำลังพยายามซ่อนพลังที่แท้จริงของเขาทันที่ที่เขามองไปยังที่แองเจเล่ อย่างไรก็ตามแองเจเล่ไม่ได้กังวล เขาไม่ได้พบคำสาปแช่งใดๆบนร่างกายของชายหนุ่มซึ่งหมายความว่าเรย์ไลน์ไม่เคยฆ่าพ่อมดใดๆเลย เขาสงสัยว่าเรย์ไลน์มีประสบการณ์การต่อสู้ในทางปฏิบัติหรือไม่
อาจารย์ใหญ่เริ่มกล่าวสุนทรพจน์หลังจากที่พิธีกรเสร็จสิ้นการแนะนำเรย์ไลน์ เรย์ไลน์ได้รับเหรียญรางวัลและกล่าวสุนทรพจน์สั้นๆเพื่อขอบคุณโรงเรียนก่อนที่เขาจะลงจากเวที