ตอนที่แล้วReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 34 - การเปลี่ยนจากความหยิ่งยโสเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตน (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 36 – โนมส์อันตราย

Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 35 - การเปลี่ยนจากความหยิ่งยโสเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตน (3)


Chapter 35 - การเปลี่ยนจากความหยิ่งยโสเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตน (3)

 

เห็นหิมะผู้อ่อนโยนยิ้มด้วยความมั่นใจ ซือเฟิงหัวเราะในใจอย่างเงียบๆ

 

ขนของแกะมาจากแกะ ถ้าคุณต้องการที่จะได้รับเงิน มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะได้รับมันจากคนที่ร่ำรวย กิลด์ชั้นหนึ่งเหมือนอูโรโบรอสแน่นอนว่าเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมโดยไม่ต้องสงสัย ตามความรู้ซือเฟิงเกี่ยวกับกิลด์ อูโรโบรอส ได้พิชิตเกมเสมือนจริงไปมากกว่าสิบเกมแล้ว อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของ God's Domain นั้นได้เขย่าโลกของเกมเสมือนจริง หลังจากนั้น บริษัทมากมายนับไม่ถ้วนเริ่มลงทุนใน God's Domain อย่างบ้าคลั่ง ฟูมฟักฟิลด์ของพวกเขา  เติบโตด้วยอิทธิพลของพวกเขา และสร้างสถานที่ของพวกเขาในโลกการเงินเสมือน เป็นเรื่องธรรมชาติ อูโรโบรอสก็ยังลงทุนใน God's Domain พวกเขา มากเกินไป ต้องการที่จะแบ่งปันการกัดกินทรัพย์สินนับไม่ถ้วน

 

นอกจากนี้ อูโรโบรอสไม่เคยแค่รวยเท่านั้น แต่ยังมีเบื้องหลังอันยิ่งใหญ่อีกด้วย จำนวนของผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานภายใต้อูโรโบรอสเกินกว่าพันคน พันคนเหล่านี้เป็นพวกที่มีชื่อเสียงในฐานะกองทัพสังหารพระเจ้าใน God's Domain การดำรงอยู่ของผู้เชี่ยวชาญพันคนนี้อนุญาตให้อูโรโบรอสก่อตั้งจักรวรรดิเสมือนที่มีขนาดใหญ่ได้ พวกเขารวมกว่าแปดสิบใน God's Domain ให้เป็น

ปึกแผ่นซึ่งแต่ละแห่งมีประชากรผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคน อูโรโบรอสเป็นทรราชย์ที่แท้จริงใน God's Domain

 

ในช่วงสูงสุดของอูโรโบรอส มันเทียบเท่าได้กับทั่งทั้งราชอาณาจักรดาราจันทรา ส่วนเรื่องของ Shadow ก็มีเพียงแค่ที่ตั้งแล้วไม่กี่สิบแห่งและไม่ได้มีประชากรผู้เล่นกว่าล้านคน ในลักษะนี้ อูโรโบรอสได้กลายเป็นทรราชย์ที่หาใครเปรียบไม่ได้ในโลกจริง ตำแหน่งของพวกเขาไม่สามารถนึกฝันได้อย่างแท้จริง มันควรเป็นที่ทราบกันว่าราชอาณาจักดาราจันทราเป็นอาณาจักรที่ค่อนข้างใหญ่ แม้กระทั่งท่ามกลางอาณาจักรนับร้อยใน God's Domain มันก็อยู่สูงกว่าระดับกลาง เห็นได้ชัดถึงความสามารถที่เหนือกว่าของอูโรโบรอสเมื่อเปรียบเทียบกับมัน

 

ซือเฟิงไม่ประสงค์ที่ทำงานร่วมกันกับกิลด์ที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร? มันก็เป็นเพียงแค่ความเสี่ยงในการทำงานร่วมกันกับหิมะผู้อ่อนโยนนั้นสูงเกินไป เนื่องจากเอกลักษณ์เฉพาะของเธอ ข้อมูลที่เธอได้รับและถือไว้นั้นยิ่งใหญ่เกินไป ซือเฟิงระมัดระวังเธออย่างช่วยไม่ได้ มันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้เปิดคำแนะนำอย่างอย่างโดยจงใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสูตรของโพชั่นความแข็งแรงพื้นฐาน เขาต้องการที่จะเห็นปฏิกิริยาของหิมะผู้อ่อนโยน ถ้าเธอได้ประพฤติตัวไปในลักษณะที่เลวร้าว ซือเฟิงจะกระทำไม่รู้ไม่ชี้ตามธรรมดาและผลักภาระทั้งหมดออกไป

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ต้องสงสัยเลยว่าซือเฟิงได้มองไปข้างหน้าที่สุด

 

“ตั้งแต่ที่คุณอธิบายแล้ว ... ราคาที่ผมขอจะไม่สูง ยี่สิบเหรียญเงิน” ซือเฟิงแจ้งอย่างสงบ

 

ด้วยกิลด์ขนาดเล็กในปัจจุบัน ยี่สิบเหรียญเงินจะเป็นสมบัติทั้งหมดของพวกเขา แม้กระทั่งให้ให้กลุ่มร้อยคนฟาร์มเงินก็จำเป็นต้องใช้สองถึงสามวันในการรวบรวมจำนวนเงินดังกล่าว

 

จ้าวหยูรู่สูดลมหายใจเย็น เกือบจะกระโดดขึ้นเมื่อเธอได้ยินซือเฟิงร้องขอ 20 เหรียญเงินอย่างลวกๆ เธอจ้องไปยังซือเฟิงและกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า "ทำไมนายถึงไม่ปล้นใครสักคนเลยล่ะ? นั้นจะเป็นวิธีที่เร็วกว่า"

 

“ฉันจะทำมันถ้าฉันได้รับเงินจำนวนมาก” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอควรรู้ไว้ว่ามีหนังสือสกิล , อาวุธ , และอุปกรณ์สำหรับผู้เล่นจำนวนมากภายในป่าแห่งความตาย พวกมันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้เล่นได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเธอสามารถพิชิตดันเจี้ยนได้ก่อนหน้านี้ ผลประโยชน์ที่นำมาในอนาคตจะพัฒนาขึ้นโดยปราศจากคำพูด”

 

 

“นาย ... นายไม่สามารถให้มันถูกลงสักเล็กน้อยเหรอ? ยี่สิบเหรียญเงิน? ถึงแม้ว่าเรา อูโรโบรอส ก็ไม่สามารถเอาเงินจำนวนนั้นออกมาได้ง่ายนัก” จ้าวหยูรู่ไม่ชอบซือเฟิงตอนนี้เลย อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดเกี่ยวกับความสำคัญของป่าแห่งความตาย เธอก็ใช้น้ำเสียงนุ่มนวลในการคุยกับซือเฟิง

 

“ขอโทษด้วย แต่ไม่มีการเจรจา ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับมัน ผมก็แค่สามารคพิจารณาในการทำงานร่วมกับกิลด์อื่นเท่านั้น” ซือเฟิงยังคงยึดมั่นในการตัดสินใจของเขา เขามีความจริงใจอย่างมากในการซื้อขายกับหิมะผู้อ่อนโยน ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ เขาก็แค่พิจารณาพันธมิตรนักลอบสังหารเท่านั้น พันธมิตรนักลอบสังหารก็เป็นพวกที่ร่ำรวบและน่าประทับใจ ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้จ่ายมากกว่า 20 เงินออกมาเพื่อซื้อโล่สัมฤทธิ์เลเวลของซือเฟิง

 

“ฉันเข้าใจ ยี่สิบเงินแล้ว อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมเงิน หลังจากทั้งหมดพื้นที่ของพวกเราอูโรโบรอสมีอิทธิผลไม่ใช่ในเมืองแม่น้ำสีขาว(ไวท์ริเวอร์) แต่ไม่ใช่ที่เมืองหลวง เมืองดาราจันทร์ แล้วก็มีสมาชิกอูโรโบรอสเพียงไม่กี่คนที่อยู่ใกล้เมืองแม่น้ำสีขาว ให้เวลาฉันสักวัน เอา 8 เงินเหล่านี้เป็นมัดจำก่อน ฉันจะชดเชยคุณด้วย 15 เงินในวันหลัง” หิมะผู้อ่อนโยนไม่เคยจินตนาการว่าความกระหายของซือเฟิงจะยิ่งใหญ่ ยี่สิบเหรียญเงินยังคงเป็นจำนวนมากสำหรับเธอ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของการเคลียร์ป่าแห่งความตายนั้นยิ่งใหญ่เกินไป พวกเธอฉกฉวยมันให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในขณะเดียวกัน หิมะผู้อ่อนโยนก็รู้ดีว่าเหรียญเงินนั้นล้ำค่าในช่วงแรกของเกม ดังนั้นเธอจึงให้ดอกเบี้ยกับซือเฟิงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

 

“เอาล่ะนี่คือแผนที่ของป่าแห่งความตายและสิ่งที่คุณจำเป็นต้องให้ความสนใจเมื่อต่อสู้กับบอส”

 

ซือเฟิงรู้ว่าสิ่งที่หิมะผู้อ่อนโยนกล่าวเป็นความจริง ต้องการจะรวบรวม 20 เหรีญเงินนั้นไม่ง่าย อูโรโบรอสไม่มีอิทธิพลมากมายในเมืองแม่น้ำสีขาวอย่างที่พันธมิตรนักลอบสังหารทำ ซือเฟิงส่งเมลล์ถึงหิมะผู้อ่อนโยนซึ่งมีรายละเอียดที่การนำสู่ป่าแห่งความตายด้วยความสามารถของหิมะผู้อ่อนโยน พวกเธอควรจะได้เคลียร์โหมดธรรมดาได้อย่างง่ายดาย

 

หิมะผู้อ่อนโยนมองไปยังกลยุทธ์ที่เธอได้รับสำหรับป่าแห่งความตาย หัวใจของเธอสั่นเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากได้ชำเลืองเล็กน้อย

 

เธอไม่เคยจินตนาการเลยว่าป่าแห่งความตายจะน่ากลัวมาก เพียงแค่เส้นทางที่ใช้เป็นประโยชน์ได้ก็มี 36 เส้นทางแล้ว 3 เส้นทางในนั้นจะจบลงด้วยความตาย มีกระทั่งไนท์เรนเจอร์ที่จะเคลื่อนที่ตามโอกาส นอกจากนี้ยังมีคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับบอสและเมื่อมันร่ายสกิลของมัน เธอคุ้มค่ามากกว่า 20 เงินสำหรับข้อมูลแน่นอน ถ้าเธอส่งคนอื่นไปสำรวจเส้นทางทีละเล็กละน้อย ค่าใช้จ่ายจะเกินกว่า 20 เงิน

 

ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอื่นกับความเข้าใจของหิมะผู้อ่อนโยนต่อซือเฟิง เธอรู้สึกว่าซือเฟิงไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาดูเหมือนจะเป็น เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หิมะผู้อ่อนโยนไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญนักดาบเหมือนกับซือเฟิง

 

“ในอีกสามวัน อูโรโบรอสมีแผลที่จะเข้าสู่เลเวล 5 ดันเจี้ยน 20 คน ในสุสานจันทราทมิฬ ฉันสงสัยว่าคุณจะสนใจจะเข้าร่วมไหม?” ดวงตาที่สวยงามของหิมะผู้อ่อนโยนมองไปที่ซือเฟิงขณะที่เธอเชิญเขาเข้าสู่ทีมดันเจี้ยน เธอยอมรับความแข็งแกร่งของซือเฟิงแล้ว ถ้าซือเฟิงอยู่กับพวกเธอ เข้าสู่ทีมดันเจี้ยน พวกเธออาจจะมีเวลาที่ง่ายกว่านี้ได้

 

จากด้านข้าง แบล็คกี้มองไปยังซือเฟิงด้วยดวงตาที่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก ความชมเชยของเขาในซือเฟิงได้ไปถึงระดับที่เคารพบูชาแล้ว เขาไม่เคยจินตนาการว่าซือเฟิงจะน่ายำเกรงอย่างยิ่งที่พิชิตเทพธิดาหิมะได้ในไม่กี่การเคลื่อนไหว เทพธิดาแม้แต่ประสงค์ที่จะเชิญเขาบุกดันเจี้ยน วิธีได้เกียรติที่ยิ่งใหญ่แบบนี้? มีผู้ชายนับไม่ถ้วยที่ฝันจะบุกดันเจี้ยนกับเทพธิดาหิมะ

 

อย่างไรก็ตาม จ้าวหยูรู่เริ่มฉุนเฉียวหลังจากได้ยินหิมะผู้อ่อนโยนเชิญเขา ซือเฟิงเป็นผู้ทดสอบเวอร์ชันเบต้า ส่วนใหญ่เขามีประสบการณ์ใน God's Domain แค่ไม่กี่วันกว่าที่พวกเขาทำความเข้าใจในการลงป่าแห่งความตาย  อย่างไรก็ตาม ทีมดันเจี้ยนยี่สิบคนได้เปิดขึ้นหลังจากตัวเกมอย่างเป็นทางการปล่อยออกมาเท่านั้น มันไม่มีอยู่ในช่วงทดสอบเวอร์ชันเบต้า ดังนั้นไม่มีทางที่ซือเฟิงจะรู้อะไรเกี่ยวกับมัน นอกจากนี้ซือเฟิงก็ยังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง จุดไหนกันที่ควรเชิญเขา? เขาก็แค่จะทำให้เสียช่องในดันเจี้ยน

 

ซือเฟิงเข้าสู่ความคิด มีไอเทมดีๆมากมายดรอปจากดันเจี้ยนยี่สิบคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุสานจันทราทมิฬซึ่งดรอปอุปกรณ์ที่คุ้มค่าจำนวนมากสำหรับนักดาบ คุณสมบัติของอุปกรณ์จากดันเจี้ยนก็ยังดักว่าของที่ได้รับบอสป่ามาก อย่างไรก็ตาม ซือเฟิงไม่สามารถจัดตั้งปาร์ตี้ยี่สิบคนได้ ดังนั้นมันจึงไม่มีการเสียเปรียบในการเข้ามร่วมกับหิมะผู้อ่อนโยนตลอดเวลา

 

“เอาล่ะ แค่ปล่อยไม่กี่จุดให้กับฉัน อุปกรณ์นักดาบและแบบการตีขึ้นรูปทั้งหมดต้องเป็นของฉันด้วย” ซือเฟิงตอบด้วยการพยักหน้า

 

“นายไม่สามารถเจียมตนลงได้อีกสักหน่อยเหรอ?” จ้าวหยูรู่มองไปยังซือเฟิง มุ่ยหน้า เธอรู้สึกว่าซือเฟิงกำลังออกนอกเรื่องมากเกินไป ถ้าหิมะผู้อ่อนโยนถามคนอื่น พวกเขาจะตอบตกลงอย่างง่ายดาย แม้กระทั่งมากสุดก็ยังละเลยการได้รับอุปกรณ์ใดๆ ซือเฟิง อย่างไรก็ตาม กระทั่งต้องการสิทธ์ในการเอาอุปกรณ์ไปก่อน เขาไม่สุภาพอ่อนโยนกับพวกเธอเลย

 

หิมะผู้อ่อนโยนไม่เคยจินตนการเลยว่าซือเฟิงจะแตกต่างไปจากคนอื่นอย่างแท้จริง เขาไม่ได้เล่นด้วยคำพูดของเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือเขาจะพูดอะไรก็ตามที่เขาต้องการ ซึ่งจากนี้ หิมะผู้อ่อนโยนมองไปยังสมาชิกปาร์ตี้ข้างหลังซือเฟิง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นมือใหม่ แต่อุปกรณ์ทั้งหมดของพวกเขาก็เป็นของคุณภาพดี พวกเขาแทบจะไม่สามารถจัดการได้ในดันเจี้ยนยี่สิบคน ดังนั้นหิมะผู้อ่อนโยนจึงกล่าวว่า "เอาล่ะ คุณสามารถติดต่อฉันได้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะบุกดันเจี้ยน ฉันจะมาถึงตรงเวลา" ซือเฟิงยอมรับคำขอเป็นเพื่อนของหิมะผู้อ่อนโยน จากนั้นซือเฟิงและสมาชิกปาร์ตี้ของเขาก็ออกมาจากหลุมหินเล็กๆ มุงหน้าไปยังหุบเขาจันทราทมิฬ

 

เมื่อกลุ่มเดินผ่านดันเจี้ยนป่าแห่งความตาย หัวใจที่ถูกจิ้มแห่งพันธมิตรนักลอบสังหารได้เรียกซือเฟิงกะทันหัน “พี่ชายเย่เฟิง ผมเกือบจะแยกพี่ไม่ออก ผมไม่เคยคิดเลยว่าพี่จะรู้จักกับคนใหญ่โตแบบเทพธิดาหิมะ พี่ต้องไม่ลืมน้องชายแบบผมในอนาคตนะ!” หัวใจที่ถูกจิ้มพูดติดตลกขณะที่เขาเดินไปยังซือเฟิง

 

“ไร้สาระ ฉันเพิ่งจะได้พบกับคุณผู้หญิงหิมะโดยบังเอิญ” ซือเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“พี่เย่เฟิง พี่เป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนเกินไป ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของพี่ พี่ก็คู่ควรอย่างเหมาะสมกับการเป็นเพื่อนกับเทพธิดาหิมะแล้ว หลังจากทั้งหมด ที่พี่ทั้งคู่เป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับเดียวกัน” หัวใจที่ถูกจิ้มคิดว่าซือเฟิงอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมาก มันไม่ต้องสงสยเลยว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ หัวใจที่ถูกจิ้มต้องการจะเป็นเพื่อนกับซือเฟิงมากยิ่งขึ้นในตอนนี้ “พันธมิตรนักลอบสังหารของเรากำลังเตรียมตัวจะเข้าสู่ดันเจี้ยน ผมสงสัยว่าถ้าพี่เย่เฟิงสนใจจะมาร่วมงานกับเราไหม? แน่นอนว่าพี่สามารถหยิบอุปกรณ์ชิ้นไหนก็ตามที่พี่ต้องการ”

 

 

“นายดูสุภาพเกินไป น้องชายหัวใจที่ถูกจิ้ม อย่างไรก็ตาม ฉันยังมีบางสิ่งที่ต้องดูแล แน่นอนว่าฉันจะเข้าร่วมด้วยถ้ามีโอกาสในอนาคต” ซือเฟิงปฏิเสธข้อเสนออย่างสุภาพ

 

หัวใจที่ถูกจิ้มพูดด้วยเสียงดัง ผู้เล่นรอบๆได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน

 

ตอนแรก ทุกคนคิดว่าซือเฟิงก็แค่เป็นมือใหม่ การที่เขาถูกเรียกไปโดยเทพธิดาหิมะก็เป็นเพราะโชคเท่านั้น ตอนนี้แม้แต่หัวที่ถูกจิ้มแห่งพันธมิตรนักลอบสังหารก็ต้องการจะเป็นเพื่อนกับซือเฟิง สถานการณ์เช่นนี้มันอะไรกัน?

 

พันธมิตรนักลอบสังหารเป็นกิลด์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งเมืองแม่น้ำสีข้าว ในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าของกลุ่มชั้นสูงของกิลด์ หัวใจที่ถูกจิ้มไม่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นปกติเลย อย่างไรก็ตาม เขาพยายามที่เป็นเพื่อนกับซือเฟิง ซือเฟิงก็ได้ปฏิเสธเขาจริงๆ ซือเฟิงเป็นคนที่มีอำนาจเหนือกว่า

 

ถ้าใครบ้างคนเรียกซือเฟิงว่ามือใหม่ จะไม่มีใครเชื่อพวกเขา มันมีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับสถานการณ์นี้

 

ทุกคนเดาว่าซือเฟิงต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่หลบซ่อนในผู้เล่นปกติที่ไม่มีใครรู้ มิฉะนั้น ทำไมคนใหญ่โตถึงพยายามที่จะพบกับซือเฟิงคนแล้วคนเล่า?

 

“หัวหน้าเวฟวิ่ง หัวใจที่ถูกจิ้มพยายามที่จะเป็นเพื่อนมือใหม่นั้นจริงๆ ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำตกใจ นี่เป็นซือเฟิงที่เป็นมือใหม่ที่พวกเคยพบก่อนหน้านี้จริงดิ?

 

 

เวฟวิ่งสโลลี่บัตชัวร์ลี่อารมณ์เสียอยู่ในหัวใจของเขาในขณะนี้ หัวใจของเขายังคงหวังว่าซือเฟิงจะเป็นแค่มือใหม่ ตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ความหวังนั้นได้ถูกทำลายลงทั้งหมดโดยหัวใจที่ถูกจิ้ม ซือเฟิงไม่ใช่มือใหม่ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน เหมือนกับที่หิมะผู้โดดเดี่ยวกล่าว ซือเฟิงอาจจะยิ่งใหญ่กว่าที่หิมผู้โดดเดี่ยวอธิบายให้เขาฟัง ถ้าถ้าหิมะผู้โดดเดี่ยวติดตามซือเฟิง แล้วมั่นใจได้เลยว่าอนาคตของเขาจะเต็มไปด้วยโอกาสที่ไร้ขอบเขต ในทางตรงกันข้าม พวกเขากลับขับไล่ซือเฟิงไป .... พวกเขาพลาดโอกาสยิ่งใหญ่สำหรับการที่พวกเขาจะได้เป็นเพื่อนกับผู้เชี่ยวชาญ

 

“หัวหน้าทำไมเราไม่ไปและขอโทษ? ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนใจกว้าง ใครจะรู้ บางทีเขาอาจะยกโทษให้พวกเรา ในเวลานั้นเราอาจจะได้รับความโปรดปรานจากผู้เชี่ยวชาญก็ได้” ต่อสู้เพื่อจุดสิ้นสุดแนะนำ

 

ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำพยักหน้าอย่างเต็มที่ในการเห็นพ้อง

 

เช่นเดียวกับที่ปาร์ตี้ของซือเฟิงกำลังจะออกไปจากป่าแห่งความตาย เวฟวิ่งสโลลี่บัตชัวร์ลี่และคนอื่นๆก็วิ่งเข้ามา

 

“พี่ใหญ่ผู้เชี่ยวชาญ เรามีความเข้าใจผิดมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นเราจึงมาที่นี่เพื่อขอโทษพี่ เราหวังว่าพี่จะยกโทษให้กับความไม่รู้ของพวกเรา นี่คือเหรียญเงินสำหรับแสดงความจริงใจของเรา เราหวังว่าพี่ใหญ่ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถพาเราไปอยู่ใต้ปีกของพี่ได้” เวฟวิ่งสโลลี่ยิ้มขณะที่เขาขอโทษ ความหยิ่งยโสที่เขาเคยมีก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์

 

ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำและต่อสู้เพื่อจุดสิ้นสุดก็ขอโทษจริงใจโดยไม่หยุดพัก พวกเขาหวังว่าจะฟาร์มมอนสเตอร์กับซือเฟิงได้

 

“ถ้าพวกนายไม่มีอะไรอย่างอื่นจะพูด ก็ช่วยออกไป ฉันยังมีเรื่องอื่นที่ยังต้องจัดการ ดังนั้นฉันจะไม่เสียเวลากับพวกนาย” ซือเฟิงหมุนตัวแล้วจากไปหลังจากตอบกลับ เขาไม่ได้ใส่ใจความเคารพนับถือขอพฤติกรรมเวฟวิ่งสโลลี่และคนอื่นก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามต้องการให้เขาเป็นแครี่[1]ให้พวกเขา? ไม่มีวัน

 

สำหรับหิมะผู้โดดเดี่ยว เขาเพียงแค่ส่ายศีรษะเท่านั้นและคำนึงถึงการกระทำของเวฟวิ่งสโลลี่และคนอื่นๆ ถ้าพวกเขารู้ว่าการกระทำของพวกเขาจะนำไปสู่ผลลัพท์ดังกล่าวใยวันนี้ บางทีพวกเขาอาจจะไม่ทำมันตั้งแต่แรก

 

มองดูหิมะผู้โดดเดี่ยวออกไปกับซือเฟิง หน้าร้อนอันไร้ถ้อยค้ำขดริมฝีปากขนขมวด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงบูดบึ้งว่า “บ๊ะ! มีอะไรให้น่าแปลกใจบ้าง?! ในอนาคตฉันจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเหมือนกัน”

 

อย่างไรก็ตาม มีแค่เวฟวิ่งสโลลี่เท่านั้นที่รู้ว่าหิมะผู้โดดเดี่ยวจะประสบความสำเร็จในอนาคต เขาอยู่ในโลกที่แตกต่างจากพวกเขาแล้ว

 

 

________________________________________

 

TL Notes:

[1] แครี่: คำที่ใช้ในเกมที่อ้างอิงถึงผู้เล่นที่ช่วยอย่างมากมายเพื่อให้ได้รับชัยชนะของทีม

[1] แครี่แบบภาษาชาวบ้าน ตัวประเภทที่เล่นแล้วสามารถแบกทีมในช่วงท้ายเกมจนพาชนะได้ หรือตัวที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดในช่วงกลางค่อนไปช่วงท้ายเกม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด