ตอนที่ 3 สี่อันธพาลแห่งหวู่เชิง
ตอนที่ 3 สี่อันธพาลแห่งหวู่เชิง
“เฮ้ลุง ให้พวกเราเข้าไปสักทีเราอยากจะเจอหน้าน้องสี่แล้ว! ทำไมต้องมาห้ามไม่ให้เราเข้าไปล่ะเนี่ย? รู้มั้ยว่าเราเป็นใคร? สำหรับพวกเราในเขตหวู่เชิงการจะเอาชีวิตของแกมันง่ายราวกับยกนิ้ว” ชายหน่มที่อยู่ในช่วงวัย 20 ตะโกนใส่หน้าหลิว จือเต๋าด้านหน้าห้องของกั่วเฮวย
“นายน้อย ได้โปรดอย่าเสียงดัง แน่นอนว่าผมรู้ว่าพวกนายน้อยเป็นใคร ในเขตหวู่เชิงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน” หลิว จือเต๋าพูดก่อนที่จะเช็ดเหงื่อ
“นายน้อยเฮวยอาการดีขึ้นแล้ว แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในอันตราย ไว้อีกสักสองสามวันค่อยมาใหม่ดีไหม?”
“หลิว จือเต๋า ชั้นรู้จักนาย ครั้งนี้นายทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ หากมีปัญหาเกิดขึ้นกับคลินิกของนายในอนาคตชั้นจะจัดการให้เอง แต่ไม่ว่าจะยังไงวันนี้พวกเราจะต้องไปพบน้องสี่ให้ได้” ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาทั่วไปพูดออกมา ในเขตหวู่เชิงนี้ไม่มีใครกล้าจะขัดใจเขาหรือก็คือไม่มีใครสามารถทำมันได้ เพราะใครก็ตามที่ไปยั่วยุเขาได้จมอยู่ในคลองหมดแล้ว เขาคือราชาแห่งนักรบ ‘หลีเหยา’
“คุณเหยา เอาแบบนี้เป็นไง... ผมจะยอมให้คุณเข้าไปแต่ต้องใส่ชุดปลอดเชื้อซะก่อนและคุณห้ามพูดคุยกันข้างในห้องรวมถึงต้องรีบออกมากันด้วย” หลิว จือเต๋าพูดเบาๆ
“ถ้าพูดแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีต้องมีปัญหาแล้วไม่ใช่รึไง? ไปกันได้แล้ว พาเราไปเปลี่ยนชุดซะ!” เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากชายร่างอ้วนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“คุณหยวน ช่วยพูดเบาๆลงหน่อย เอาล่ะงั้นก็ตามผมมาเลยผมจะเตรียมชุดให้เอง”หลิว จือเต๋านำพวกเขาเข้าไปที่ห้องของตัวเอง
“น้องสี่ น้องช่างยอดเยี่ยมจริงๆขนาดเกิดอุบัติเหตุขนาดนั้นก็ยังรอดมาได้ ฮ่าๆๆ พวกเราจะรอให้เจ้าฟื้นแล้วพากันไปสนุกที่สวรรค์ของเหล่าสาวๆผมทอง” เจียหยวนพูดออกมา
เจียหยวนคือมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในประเทศจีน เขาอยู่ในอันดับที่ 3 ในบอร์ดรายชื่อคนที่ร่ำรวยที่สุดจากทั้ง 30 ประเทศ ในตอนแรกหลายๆคนเคยคิดว่าเขาอาศัยอำนาจของตระกูลเพื่อที่จะไปอยู่ในรายชื่อ แต่ก็มีรายงานว่าสิ่งที่เจียหยวนได้มาไม่ได้เกี่ยวกับตระกูล เจีย เลย
“น้องสี่ รีบๆฟื้นล่ะ คนที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของนายค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว นายจะต้องไปแก้แค้นให้กับตัวเอง” ราชาแห่งนักรบ หลีเหยา พูดขึ้นมาเบาๆ
“น้องสี่ ฉันได้จัดการเรื่องย้ายโรงเรียนผ่านกระทรวงศึกษาให้แล้ว ไว้อาการดีขึ้นเมื่อไหร่นายสามารถไปหาความสนุกในโรงเรียนที่มีจำนวนสาวงามเยอะที่สุดได้ ชั้นรู้ว่านี่คือความฝันตลอดมาของนาย ถ้าหากได้ยินที่ชั้นพูดช่วยขยับนิ้วหน่อย”
ชายสวมสูททีเงียบมาตลอดในที่สุดก็เปิดปากพูดออกมาด้วยหน้าตาลามก ชายคนนี้ไม่ได้วยและต่อยตีไม่เก่ง แต่ถึงจะยังงั้นเขาก็มีปู่ที่เป็นถึงรองผู้นำประเทศ ลุงของเขาสองคนอยู่ในรัฐมนตรีสภาและอีกสองคนที่มีตำแหน่งระดับสูงในเขตหวู่เชิง
แน่นอนว่าตัวเขาเองก็มีความสำเร็จเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะอายุ30เขาได้เป็นถึงรองประธานกรรมการในงานวางแผนสุขภาพและครอบครัวแห่งชาติของเขต ทุกๆคนเรียกเขาว่า หวังเซิน
“ให้ตายสิ ไปกันเถอะ เด็กนี่ไม่ยังไม่ตายสักหน่อย” เจียหยวนกับหลีเหยาพูดออกมา
ในตอนที่หวังเซินบอกกับกั่วเฮวยว่าเขาจะได้สนุกกับเหล่าสาวงาม นิ้วของเขาได้ขยับจริงๆ
“น้องสี่ พวกเราขอตัวก่อน ฮ่าๆไม่ไหวๆในสถานการณ์แบบนี้ยังนายยังคิดถึงสาวๆได้อีกนะ” หวังเซินพูดแล้วออกไปจากห้อง
“ข้าช่างโชคดีจริงๆที่มีอมตะนับร้อยมาส่งก่อนที่จะจากมา ถึงแม้จะไม่รู้ว่าบางคนมาด้วยเจตนาที่ดีหรือไม่ก็เถอะ อย่างน้อยหลายๆคนก็มาเพื่อไว้หน้าข้าล่ะนะ
ดูๆแล้วเด็กคนนี้ถึงแม้ความคิดไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ แต่สหายของเขาก็ดีกับเขามากทีเดียว ฮ่าๆๆหลังจากฟื้นจากความบาดเจ็บนี้แล้วข้าจะขอใช้เวลาร้อยปีในการเป็นมนุษย์ให้เต็มที่เลย” จ้าวแห่งจิตดวงดาวกล่าวก่อนที่ดวงจิตของเขาจะเข้าไปยังร่างของกั่วเฮวย ในตอนนี้จ้าวแห่งจิตดวงดาวไม่ได้มีตัวคนในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว แต่กลับกันน้องเล็กของสี่อันธพาลแห่งหวู่เชิงได้คืนชีพขึ้นมาแทน
“นี่มันปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์ในโลกแห่งแพทย์ การฟื้นตัวของนายนน้อยช่างน่าทึ่งนักจากที่สังเกตดูเขาได้ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้วนอกจากบาดแผลเล็กน้อยที่ผิวหนัง” หลิว จือเต๋าพูดออกมา ในเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมามีหลายๆอย่างเกิดขึ้นที่เขตหวู่เชิง แต่ที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือสิ่งนี้แน่นอน สี่อันธพาลแห่งหวู่เชิง กั่วเฮวยไม่เพียงแค่รอดมาจากอุบัติเหตุร้ายแรง แต่ยังฟื้นสภาพอย่างสมบูรณ์แล้วอีก
“เจ้าเด็กจอมซน ค่อยยังชั่วหน่อยที่ได้เห็นหลานปลอดภัย...” นายหญิงของตระกูลกั่วพูดออกมา
“หมอหลิวคุณได้มีส่วนช่วยให้เสี่ยวเฮวยฟื้นตัวขึ้นมาอย่างมากจริงๆ นี่คือเงิน 10ล้านหยวน โปรดอย่าได้ปฏิเสธสินน้ำใจจากเราเลย” เธอได้ยื่นเช็คให้ หลิว จือเต๋าเพิ่มอีกมันเห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกขอบคุณเขาขนาดไหน
“ถ้างั้นผมคงต้องรับไว้” หลิว จือเต๋าพูดก่อนที่จะรับเช็คมา
“นายน้อย จากนี้ไปจะขับรถก็โปรดระวังตัวอย่างมากด้วย ผมหวังว่าในอนาคตเจะเจอกันแบบแข็งแรงเหมือนอย่างตอนนี้”
“ขอบคุณมากลุงหลิว แต่ยังไงคำขอนั่นคงจะไม่เป็นจริง ตัวผมอยู่ในช่วงวัย 15เท่านั้นส่วนคุณคงประมาณ 50แล้วคุณคงไม่อายุยืนไปกว่าผมหรอก ฮ่าๆๆ” กั่วเฮวยพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนหน้า
“เจ้าเด็กดื้อ นี่คือสิ่งที่ควรพูดกับคนอาวุโสกว่าหรือไง?” นายใหญ่แห่งตระกูลกั่วพูดออกมา
“หมอหลิว อย่าไปจริงจังกับคำพูดขอองเด็กนี่เลย ตอนนี้คุณกลับไปคลินิกของคุณได้แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราจะติดต่อไป”
หลิว จือเต๋าไม่ได้โกรธอะไรที่กั่วเฮวยพูด ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาทุกๆครั้งที่เขาเจอกับเด็กคนนี้ในช่วงแรกๆเป็นเพียงบาดแผลเล็กๆน้อยๆเท่านั้นแต่หลังจากที่มาครั้งแล้วครั้งเล่าก็เริ่มแย่ขึ้น มันค่อยๆเริ่มจะเป็นบาดแผลจากอาวุธไร้คมจนในไม่นานมานี้มันกลายเป็นแผลถูกแทงและในที่สุดก็กลายเป็นแผลโดนยิง ในครั้งนี้ความโชคร้ายเกือบทำให้เขาเสียชีวิต
“น้องสี่ๆ มาตรงนี้หน่อย มาดูว่าฉันเอาอะไรมาให้” เจียหยวนตะโกนออกมาเสียงเขามันฟังราวกับหมูกำลังจะถูกเชือด กั่วเฮวยจึงไปหาเจียหยวน ปู่กับย่าของเขาก็ตามมาด้วยเช่นกัน
“น้องสี่ รถคันนี้เป็นของนายแล้ว ฉันดัดแปลงตัวรถทั้งหมดรวมถึงยางสำหรับกันกระสุนด้วย ถ้าเกิดอุบัตเหตุแบบเดิมล่ะก็อย่างมากก็เป็นแค่แผลเป็นนิดหน่อยเท่านั้น คิดว่าเป็นไงบ้าง?” เจียหยวนพูดพร้อมกันชี้ไปที่รถบูกัตติสีเงินขาว
“ขอบคุณมากพี่ 2 ผมขอรับรถคันนี้ไว้ งั้นเราก็เข้าบ้านกันเถอะ” กั่วเฮวยพูดหลังจากรู้สึกได้ว่าการแสดงออกของปู่เขาเริ่มเปลี่ยนไปจึงลากเจียหยวนเข้าบ้านทันที
“เอี๊ยดด” เสียงสูงแหลมที่สามารถได้ยินชัดเจน รถจี๊ปสีเขียวได้มาจอดข้างนอกคฤหาสน์
“พี่เหยาผมประทับใจกับการขับรถจี๊ปของพี่จริงๆ” หวังเซินและเดินลงรถมาพร้อมกับหลีเหยา
“น้องสี่ เหล่าพี่ๆของนายมาเยี่ยมทั้งที คิดจะให้พวกเรารอข้างนอกอีกนานขนาดไหน?” หลีเหยาตะโกนออกมา แมวดำที่นอนอยู่บนระเบียงตกใจจนวิ่งหนีไป
“พี่ใหญ่ พี่สาม”เฮวยเดินออกจากคฤหาสน์และกอดกับทั้งสองคนแบบพี่น้อง
“พี่ๆ ฉันฟื้นตัวแล้ว! ฮ่าๆพี่สองมอบรถเพื่อฉลองกับการฟื้นตัวของฉัน ไม่ใช่ว่าพวกพี่สมควรจะให้อะไรกับฉันบ้างเหรอ?”
“เจ้าเด็กกะล่อน! ทำไมถึงมาขอของจากคนที่มาเยี่ยมกัน?!” นายหญิงแห่งตระกูลกั่วตระโกนขณะที่เดินออกมาและยิ้มให้กับคนอื่นๆ
“ท่านย่า นี่จะไปทำงานที่รัฐบาลอีกแล้ว?” หวังเซินพูดก่อนที่จะเดินไปข้างหน้าเพื่อช่วยพยุงเธอ
“เสี่ยวเซิน นี่กำลังหาเรื่องย่าอยู่รึไง? ฉันอยู่ในวัย 80แล้วทำไมจะต้องไปทำงานที่รัฐบาลอีกกัน? ขอบอกพวกเธอไว้ก่อนเลยนะถ้ามีใครกล้าเอาของแปลกๆมาให้หลานฉันล่ะก็ พวกเธอจะได้เห็นว่าฉันจะจัดการกับพวกเธอยังไง” นายหญิงพูดบอกชายหนุ่ม
ถึงแม้เธอจะรู้ว่าเด็กๆพวกนี้ก่อนปัญหาไว้มากขนาดไหน แต่ในใจลึกๆของเธอก็ยังคงชอบเด็กๆพวกนี้อยู่
“ท่านย่า ไม่ว่าจะมุมไหนท่านก็ยังดูเหมือนกันวัย 50อยู่เลย ผมเลยเผลอนึกไปว่ารัฐบาลจะมาจ้างท่านย่าอีกรอบ ฮ่าๆๆ” หวังเซินพูกพร้อมกับหัวเราะ
“ท่านย่า สิ่งที่ผมจะให้น้องสี่ในครั้งนี้จะต้องเป็นสิ่งที่ท่านย่าชอบมากแน่นอน ลองดูนี่สิ” เขาพูดพร้อมกับมอบซองเอกสารให้นายหญิง
บนซองเอกสารสามารถมองเห็นคำว่า ‘จดหมายเชิญเข้าร่วมสถาบันหวู่เชิงสาขามัธยมปลาย’ นายหญิงตกใจไปชั่วขณะก่อนที่จะผลิกเปิดมันดู ถึงแม้จะมีอำนาจหรือเครือค่ายกว้างขวางขนาดไหนมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าเรียนโรงเรียนนี้ที่เป็นสถาบันสาขาของมหาลัยหวู่เชิง มีคนนับไม่ถ้วนจากทั้งประเทศที่ไม่สามารถเข้าเรียนโรงเรียนนี้ได้โดยใช้อำนาจหรือเครือค่ายต่างๆ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะครูใหญ่ของโรงเรียน ‘หลีซวินหยูจอมหัวรั้น’ ตัวนายหญิงเองก็เคยพยายามคุยกับหลีซวินหยูเหมือนกันแต่กลับโดนปฏิเสธ
“เสี่ยวเซิน มันเป็นยุคสมัยของเธอแล้วจริงๆ ในตอนที่ฉันไปหาหลีซวินหยูไม่กี่ปีที่แล้วเขาไม่ได้ต้อนรับฉันแม้แต่น้อย เธอบอกได้ไหมว่าไปจัดการกับจอมหหัวรั้นนั่นได้ยังไง” นายหญิงพูดออกมา
“ผมไม่ได้จัดการอะไรเขาหรอก แต่เป็นหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาต่างหาก ฮ่าๆๆ” หวังเซินพูดและยิ้มเห็นฟัน
“เจ้าเด็กบ้านี่ ไม่ได้ต่างกับเสี่ยวเฮวยเลย เมื่อไหร่พวกเธอจะทำตัวให้เหมือนหลีเหยากันฉันจะได้อยู่อย่างสงบๆสักที” นายหญิงพูดออกมา เธอเข้าใจว่าหวังเซินกำลังพยายามจะสื่ออะไร
“พี่สอง พี่บอกว่าน้องสี่กำลังจะไปเรียนเร็วๆนี้ มาพนันกันไหมว่าเขาจะไปที่นั่นได้นานแค่ไหน” หวังเซินกอดคอเจียหยวนแล้วพูด
“หนึ่งเดือน มากสุดก็หนึ่งเดือน” ก่อนที่เจียหยวนจะตอบอะไรหลีเหยาก็เปิดปากออกมา
“น้องสี่ ฉันแนะนำให้เลิกไปโรงเรียนแล้วตามฉันไปที่กองทัพเถอะ ในที่นั่นนายสามารถเล่นปืนหรือปืน แม้แต่เครื่องบินก็สามารถเล่นได้ ลองคิดสิว่ามันจะสนุกขนาดไหน”
“พวกพี่ทั้ง ตัวฉันได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนี้ มันถึงเวลาแล้วฉันที่จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ฉันจะเรียบจบมันธยมปลายให้เรียบร้อยแล้วเราสี่คนพิชิตพวกสังคมชั้นสูงไปด้วยกันหลังจากนั้น” กั่วเฮวยพูดด้วยหน้าอันซื่อตรง