ตอนที่ 15 : ที่รัก'ฉันรวยมาก
จากในห้องครัว ได้ยินเสียงต่ำและสั่นเคลือของเล่าเจียงลอดออกมา
"ชิโตะ เข้ามาดูนี่หน่อยสิ!"
ไก่ที่อยู่ในจานของเล่าเจียงถูกจัดให้ฆ่าในจุดที่จะรักษาสภาพความสดที่ดีที่สุด ดังนั้นก่อนที่จะฆ่าไก่เมื่อไรก็ตาม ลูกค้ามักจะเข้ามาตรวจสอบการชั่งน้ำหนักเสมอ
ชิเล่ยรู้ว่าเล่าเจียงเกลียดคนอื่นมาดูเวลาตอนชั่งน้ำหนัก
ไม่ใช่ว่าเล่าเจียงชอบคำนวณทำให้น้ำหนักไก่ลดลง แต่เขาเริ่มคิดที่จะไม่ทิ้งส่วนที่เหลือไป
การเกลียดชังลูกค้าเพื่อตรวจสอบชั่งน้ำหนักเป็นเพียงนิสัยแปลกๆ ของเขาเท่านั้น
ชิเล่ย ตอบเสียงดังกลับไปว่า "เล่าเจียง ทำตามที่คุณเห็นสมควรได้เลย!"
"โอ้ใช้ ทำมาสำหรับสี่คน!"
ชิเล่ยเอามือถือออกมากด มองไปที่เวลา ตอนนี้เพิ่งผ่านสี่โมงครึ่งมาได้เล็กน้อย
นักศึกษาที่ฝึกทหารจะกิน 5 โมงเย็น เหลือระยะเวลาอีก 20 นาที พวกเขาก็จะต้องกลับไปที่สนามเพื่อเข้าร่วมในการฝึกบางส่วนอีกเล็ก
เฉพาะตอน 1 ทุ่มเท่านั้น ที่นักศึกษาใหม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปหอพักของพวกเขา เพื่อทำความสะอาดห้องของพวกเขา
เวลาแค่นี้ก็พอเหลือเฟือแล้ว ชิเล่ยยังคงตะโกนกลับไปอีก
"นอกจากนี้ คุณไม่จำเป็นต้องใช้หม้อความดัน เพียงแค่ใช้ไฟเคี่ยวช้าๆก็พอ"
"ฉันมีเวลามาก ฉันรอได้!"
ภายในห้องครัว ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นของเล่าเจียงเผยรอยยิ้มออกมา
เล่าเจียงง่วนอยู่เต็มครึ่งชั่วโมงก่อนจะเดินออกมาจากห้องรัว
ชิเล่ย หยิบบุหรี่ยี่ห่อ Yuxi ที่มีมากกว่าครึ่งซอง ออกมาหนึ่งตัว ที่ซันเฟิงเป็นคนให้มา ส่งให้เล่าเจียง
เล่าเจียง ได้มองไปที่ซองบุหรี่ Yuxi และหัวเราะ "Yuxi บุหรี่ยี่ห้อนี้ไม่ใช่ถูกๆเลยนะ!"
ในปี 2006 บุหรี่ยี่ห้อ Yuxi ในเมืองชนกิ่ง ซองหนึ่งมีราคาอยู่ที่ 22 หยวน
ในเวลานี้ ค่าจ้างเฉลี่ยรายวันของที่นี่จะได้ประมาณ 1000 กว่าหยวน นักศึกษาจำนวนมากจึงไม่สามารถที่จะซื้อบุหรี่ Yuxi ได้!
บวกกับความจริงที่ว่าชิเล่ยใส่เสื้อยืดราคาถูกและกางเกงยีนส์ ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็ดูไม่เหมือนคนรวย!
ชิเล่ย ยิ้ม "มีคนให้ฉันมา!"
เล่าเจียง ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกต่อไปและเปลี่ยนหัวข้อ "นายเป็นนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง?"
ชิเล่ย ตกใจเล็กน้อยในใจของเขา "คุณรู้ได้ไง?"
ด้วยการแสดงออกที่น่าพอใจ เล่าเจียงพูดว่า "ฉันเปิดร้านนี้ในถนนด้านหลังมานานกว่าหกปีแล้ว ไม่มีการโฆษณาหรือติดป้ายบอกทาง"
"คนที่รู้เรื่องไก่หมักของฉัน พวกเขาทั้งหมดเป็นลูกค้าประจำ!"
"นักศึกษาที่มากินที่นี่ ฉันจำหน้าได้และรู้จักทุกคน!"
ชิเล่ย สูดลมหายใจที่หนาวเหน็บเข้าไปที่ปากคำหนึ่ง
เล่าเจียงมีทักษะพิเศษแบบนี้ด้วย?
จำลูกค้าทุกคนได้!
ความจำถาวร!
เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่น่าตกใจของชิเล่ย ในขณะนี้เล่าเจียงรู้สึกภาคภูมิใจมาก
"ชิโตะ ฉันยังมีคำถามอยู่อีกเรื่องหนึ่ง"
"ทำไม เด็กปีหนึ่งอย่างนายถึงได้รู้เกี่ยวกับไก่ดองเล่าเจียวของฉันได้?"
ชิเล่ย หัวเราะออกมา "ฟอรั่มของมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง!"
"ต้องเป็นรุ่นพี่แน่นอนที่ช่วยโปรโมตร้านของคุณ!"
เรื่องนี้ชิเล่ยไม่ได้โกหก
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ก็คือฟอรั่มของมหาวิทยาลัยชวนกิ่งทำให้ชิเล่ยรู้เกี่ยวกับไก่ดองของเล่าเจียง แย่มากที่ชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาไม่ดีนัก เขาแวะมาที่นี่เพียงสี่ครั้งในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาตอนอยู่มหาลัย!
เล่าเจียง ยิ้ม "คนหนุ่มสาวเหล่านี้ พวกเขามีจิตใจที่ดี!"
ชิเล่ยและเล่าเจียงคุยกันเรื่อยเปื่อยประมาณสองชั่วโมง ระหว่างการสนทนาของพวกเขา เล่าเจียงได้เข้าครัวของเขาไปมาประมาณห้าถึงหกครั้ง
ใกล้จะหนึ่งทุ่มแล้ว เล่าเจียงได้ถือหม้อเซรามิคใบใหญ่เดินออกมาจากห้องครัวของเขา หม้อเซรามิกถูกปิดสนิทเพื่อป้องกันความร้อน
"ชิโตะ ระวังด้วย! อย่าทำมันหล่น"
ชิเล่ย หัวเราะออกมา "อืม ฉันรู้!"
"โอ้ ใช่ เล่าเจียง เท่าไหร่?"
เล่าเจียง ได้มองไปที่ชิเล่ยและตอบอย่างไม่เป็นเผินๆว่า "ไก่หกชั่ง สามตำลึง ผักดองหนึ่งชั่ง สองตำลึง ทั้งหมดนี้ฉันจะเก็บนายสองร้อยห้าสิบ!"
เมื่อได้ยินแบบนี้ชิเล่ยได้สังเกตเห็นว่าเล่าเจียงได้ยกเว้นส่วนที่เหลือแล้ว
ไก่หนึ่งชั่งเป็น 40 เช่นเดียวกับผักดองหนึ่งชั่งเป็น 20 รวมเป็นสองร้อยเจ็ดสิบหก
ชิเล่ยยิ้ม "เอาล่ะ ไม่เป็นไร!"
จากนั้น เขาก็หยิบเงินออกมา 300 ดอลล่าและวางไว้บนโต๊ะ "ส่วนที่เหลืออีก 50 เหรียญ ให้คืนให้ฉันหลังจากที่ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อคืนหม้อ!"
[ชักรำคาญละ เดี๋ยวหยวนเดี๋ยวดอลล่าเดี๋ยวตำลึง fu*k เดี๋ยวเขียนตัวเลข เดี๋ยวเป็นตัวอักษรมาทั้งดุ้น ฮืม!]
เล่าเจียงไม่สามารถพูดชักแม่น้ำทั้งห้าได้และได้แต่เก็บเงิน 300 ดอลล่าลงไปเท่านั้น
ชิเล่ยที่กำลังถือหม้อใบใหญ่อยู่ที่เดินออกแล้วได้หยุดลง
แม้จะยังไม่ได้ออกมาจากซอย ชิเล่ยได้เดินกลับไปที่ร้านของเล่าเจียง
“เฮ้! เล่าเจียงรีบออกมาข้างนอกนี่ เร็วเข้า!”
เล่าเจียง เดินกะเผลกออกมารู้สึกว่าบางอย่างไม่ถูกต้องและถามว่า "ชิโตะ? มีอะไรงั้นหรอ?”
ชิเล่ยตอบด้วยเสียงที่อับอายว่า "เอาชามให้ฉันสี่ใบและตะเกียบสี่คู่!"
"ในหอพัก คุณรู้ไหมว่าไม่มีของพวกนี้เลย!"
เล่าเจียง ผุดรอยยิ้มที่กว้างออกมา แล้วใส่ชามและตะเกียบลงในถุงพลาสติกและส่งให้กับชิเล่ย
ชิเล่ย รู้สึกขอบคุณมาก กล่าวด้วยความจริงใจว่า "ขอบคุณมาก เล่าเจียง!"
เล่าเจียงโบกมือไปมา "เมื่อนายเดินเข้าประตู ระวังด้วยละ!"
"ยามเฝ้าประตูมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง มันไม่ง่ายเลยนะที่จะผ่านไปได้"
ชิเล่ยยิ้มและพยักหน้า
หิ้วถุงพลาสติกใส้ไว้บนข้อมือของเขา ชิเล่ยเดินกลับไปที่มหาลัยของเขาในขณะที่ถือหม้อไปด้วย
ตามคาด ชิเล่ยถูกหยุดไว้ที่ประตูมหาลัย
ยามวัยกลางคนอายุสามสิบกว่าๆ มองชิเล่ยแปลกๆ
"นักศึกษา ในช่วงการฝึกอบรมทางทหาร ห้ามนำอาหารข้างนอกเข้ามาในมหาลัย โปรดปฏิบัติอย่างเคร่งครัด!"
ชิเล่ย บนใบหน้าของเขาแต่งแต้มไปด้วยด้วยเสียงหัวเราะ วางหม้อลงอย่างระมัดระวังและหยิบซองบุหรี่ Yuxi ออกมา หยิบออกมาหนึ่งตัวแล้วยื่นให้กับยาม
"พี่ใหญ่เชี่ยน คุณจำผมไม่ได้งั้นหรอ?"
ยามคนนี้ชื่อ เชี่ยน เดคัง เป็นคนคุมด้านหลังของมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง โดยเฉพาะดวงตาของเขาน่ากลัวมาก
เชี่ยน เดคัง มองไปที่ชิเล่ยอย่างสงสัย
"คุณคือ?"
ชิเล่ย ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สดใส "ฉันชิโตะ พักอยู่ในชั้นแรกของหอพักปริญญาเอก!"
เชี่ยน เดคัง ตบหัวตัวเอง "ฉันจะจำทุกคนได้ยังไงกัน?"
"พี่ใหญ่เชี่ยน คุณลืมฉันจริงๆสินะ!" ในขณะที่พูดอยู่ ชิเล่ยก็เอากุญแจหอพักปริญญาเอกออกมา
เพราะเขาเพิ่งได้รับกุญแจเมื่อไม่นานมานี้ ที่สำคัญป้ายสติกเกอร์หมายเลขห้องของหอพักยังติดอยู่
เชี่ยนเดคัง รีบไปที่กุญแจอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาสังเกตเห็นว่ากุญแจนั้นเป็นของจริง แล้วเขาก็หัวเราะออกมาว่า "คุณมาจากหอพักปริญญาเอกจริงๆ!"
"ให้ฉันผ่านเร็วเข้า!"
ชิเล่ย ก็ยื่นซองบุหรี่ที่เหลือให้กับเชี่ยนเดคัง "ขอบคุณมาก พี่ใหญ่เชี่ยน!"
เชี่ยนเดคัง ยิ้มและรับซองบุหรี่ Yuxi มา "ชิโตะ คุณใจกว้างมาก!"
"ฉันควรจะทำเช่นนั้น หลังจากที่ทุกคนพี่ใหญ่เชี่ยน มีส่วนร่วมมาก!"
หลังจากนั้น ชิเล่ยก็รีบเดินกลับไปที่หอพักขณะที่ถือหม้อใบใหญ่ไปด้วย
ในห้องรักษาความปลอดภัย ยามอีกคนส่งเสียงออกมาว่า "ผู้ชายคนเป็นใครมาทำอะไรตอนนี้?"
เชี่ยนเดคัง ยิ้มและอธิบายว่า "ชิโตะจากหอพักปริญญาเอก!"
"มาๆ สูบบุหรี่กัน!"
ขณะที่กำลังพูด เชี่ยนเดคังเอาบุหรี่ Yuxi ออกมา
"ว้าว Yuxi!"
กลับมาถึงหอพักหอพักปริญญาเอก ตอนหนึ่งทุ่มพอดี
ชิเล่ย หยุดตรงหน้าประตูห้อง 502 และเคาะประตู
จากนั้นเสียงของหลิงยูโม่ก็ลอดประตูออกมา
"นั่นใคร?"
ชิเล่ย กระซิบ "พี่ชิโตะของเธอไง!"
“เพ่ย!”
"นาย พิสดารชิโตะ!"
อีกครั้งหนึ่งที่เสียงของหลิงยูโม่ ลอดผ่านจากประตูตรงข้ามออกมา
"พิสดารชิโตะ นายมาทำอะไรที่นี่?"
"เปิดประตูให้ฉันหน่อยสิ!" ชิเล่ยบ่นออกมา
มันแย่มาก ที่หลิงยูโม่ปฏิเสธ "ฉันขอโทษ พิสดารชิโตะ พี่สาวมู่ชวงบอกว่านายและคนอื่นที่ไม่ได้มีความสำคัญ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้องนี้!"
ชิเล่ย เริ่มพูดเสียงหวานใส่ "เสี่ยวโม่ รีบเปิดประตูเร็วสิ ฉันมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เธอด้วนนะ!"
"เซอร์ไพรส์อะไร?" หลิงยูโม่ไม่ได้เปิดประตูทันที แต่เธอถามออกมาอย่างระมัดระวัง
ชิเล่ย หัวเราะด้วยเสียงแปลกๆ "ถ้ายังไม่เปิดประตูให้ตอนนี้ละก็ พี่ชิโตะจะกลับไปเพลิดเพลินของที่เอามาคนเดียวแล้วนะ!"
ประตูห้อง 502 ค่อยๆแง้มออกมา
หัวของหลิงยูโม่โผล่ออกมาจากประตู
"มันคืออะไรกันแน่? หอมจัง!"
ชิเล่ย ยกมือทั้งสองข้างขึ้นโชว์ว่าหม้อใบใหญ่
"ไก่ตุ๋นหมักที่เคี่ยวมานานมาก!"
"เป็นยังไงบ้าง?"
"เธออยากลองกินดูไหม?"
หลิงยูโม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกลืนน้ำลายลงคอ
ในระหว่างการฝึกทหาร มาตรฐานอาหารในโรงอาหารลดลงมากกว่าเดิมในช่วงเวลาปกติ แม้กระทั่งหลิงยูโม่ที่ไม่ใช่สาวที่รักการกินก็ยังถูกล่อลวง!
"รีบเปิดเร็วเข้า!"
หลิงยูโม่เปิดประตูปล่อยให้ชิเล่ยเข้ามา
อีกครั้งหนึ่ง ที่เขาเข้ามาในห้องนี้ มันมีความแตกต่างเมื่อเทียบกับครั้งแรก เต็มไปด้วยของประดับประดาที่ละเอียดอ่อนที่ติดอยู่ตรงนั้นตรงนี้เต็มไปหมด
เสียงของมู่ชวง ดังออกมาจากห้องหมายเลขสอง
"ยูโม่ ใครมาที่นี่?"
ชิเล่ย ตะโกนเสียงเย้าแหย่กลับไป "พี่ชิโตะ อยู่ที่นี่!"
อีกสองวิต่อมา ตามมาด้วยด้วยเสียงกรีดร้องของมู่ชวง
"ยูโม่ เธอปล่อยให้เขาเข้ามาได้อย่างไร?"
หลิงยูโม่ตอบด้วยเสียงนุ่มๆว่า "พี่มู่ชวง ฉันขอโทษ!"
"แต่พิสดารชิโตะนำของกินน่าอร่อยมาด้วยนะ!"
ในห้องหมายเลขสอง มู่ชวงที่ใส่ชุดนอน กำลังแก้มแดงอยู่ "ของกินน่าอร่อย?"
ชิเล่ยยิ้มกรุ้มกริ่ม "น้องสาวมู่ชวง เธอออกมาสิแล้วจะรู้เอง!"
มู่ชวงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "รอฉันแปปนึง!"
มู่ชวงเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดกีฬาสีขาว เปิดประตูและเดินออกมา
"ฮืม? หอมจังเลย ~!"
หลิงยูโม่ดึงมือมู่ชวงและหัวเราะ "พี่มู่ชวง มาๆ ลองดมกลิ่นอาหารดูสิ!"
มู่ชวงพยักหน้าและเหลือบมองที่ชิเล่ย
"ชิเล่ย นายเอาเข้ามาได้ไง?"
"ในระหว่างการฝึกทหาร ช่วงนี้ยามเข้มงวดมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่หรอ?"
ชิเล่ย ตอบว่า "ดูด้วยว่าฉันเป็นใคร ฉันคือพี่ชิโตะเชียวนะ!"
"ไม่มีอะไรที่พี่ชิโตะคนนี้ทำไม่ได้!"
หลิงยูโม่หัวเราะออกมาเบาๆอย่างน่ารัก "พิสดารชิโตะ นายหยุดโม้ได้แล้ว!"
ชิเล่ย หัวเราะออกมาว่า "ให้ฉันโทรตามเด็กอ้วนหน้ารักคนหนึ่งก่อน ฉันจะเป็นเพื่อนของเขาได้ไงถ้าไม่ชวนเขามา!"
หลังจากวางสาย ไม่ถึงนาที ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเข้ามา
ชิเล่ยก็เลยเดินไปเปิดประตู
ด้วยแววตาที่ระยิบระยับของเขา ลิไคเดินมาระซิบข้างๆ "พี่ชิโตะ พี่เจ๋งมาก!"
"ฉันนับถือพี่มากจริงๆ!"
"พี่ชิโตะ พี่ใช้วิธีไหนกันที่ทำให้พวกเธอยอมให้เราเข้ามา?"
ชิเล่ยตบไปที่กระบาลของลิไค "พลัมน้อย ช่วยหุบปากของนายตอนนี้ก่อนได้ไหม!"
"เร็วเข้ารีบเข้าไปข้างใน ไปกินกัน!"
ลิไคเป็นคนตะกละ เมื่อเขาได้ยินว่ามีอาหารให้เขากิน เขารู้สึกตื่นเต้นทันที: "ของกินอะไรงั้นหรอ?"
"ฝึกทหารสองวันมานี้ ฉันเกือบตายจากอาหารที่ไม่น่ากินพวกนั้นแล้ว!"
หลิงยูโม่และมู่ชวงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาผ้า สำหรับชิเล่ยและลิไคพวกเขานั่งอยู่ตรงข้ามกับพวกเธอ
ลิไค รีบเอ่ยปากชมขณะที่กินอยู่ "รสชาติแบบนี้มันอร่อยมาก!"
ชิเล่ยรู้สึกภาคภูมิใจกับตัวเองว่า "ฉันไม่ได้อยากจะโม้หรอกนะ แต่ไก่หมักของเล่าเจียง ดีที่สุดในเมืองชวนกิ่งเลยนะ!"
"เป็นไก่เลี้ยงเองและผักดองก็ทำเอง วัตถุดิบทั้งหมดเป็นออร์แกนิคและดีต่อสุขภาพ!"
ลิไคพยักหน้าเห็นด้วย ตะเกียบของเขาไม่หยุดขยับไปมาแม้แต่วินาทีเดียว และก็ไม่สนใจเรื่องภาพลักษณ์ของเขาต่อสาวสวยทั้งสองที่นั่งอยู่ด้านหน้าเลย
มู่ชวง ค่อยๆเคี้ยวเนื้อไก่อย่างช้าๆและเปิดปากถาม
"ชิเล่ย ฉันกลัวว่าราคาไก่หมักพวกนี้คงไม่ใช่ถูกๆ ใช่ไหม?"
หลิงยูโม่ก็มองไปที่ชิเล่ย
จากการแต่งตัวของชิเล่ย ก็เห็นชัดๆเลยว่าชิเล่ยไม่ใช่คนร่ำรวยแน่นอน
ถ้าไก่หมักมันราคาแพงมากละก็ หลังจากกินมื้อนี้แล้ว คนสี่คนจะต้องหิวต่อไปอีกสองสามวันแน่นอน
"ไม่แพงเลย รอบนี้เล่าเจียงคิดฉันแค่สองร้อยห้าสิบเท่านั้นเอง!"
ในปี 2006 สำหรับคนที่มีเงินเดือนธรรมดาทานอาหารมื้อละสองร้อยห้าสิบละก็ จะดูเหมือนพวกปัญญาอ่อนเล็กน้อย
มู่ชวง เริ่มพูดต่อ "อาหารมื้อนี้ ฉันจะจ่ายเอง!"
ชิเล่ย รีบพูดขัดจังหวะทันที "ที่รัก ฉันรวยมาก!"
"ฉันเลี้ยงข้าวพวกเธอได้อยู่แล้ว!"