Chapter 69: จุดหมายคือมหาวิทยาลัยจินหลิง!
เมื่อเจียงลู่ฉีนั้นมาถึงห้องโถง ผู้รอดชีวิตนั้นนั่งอยู่ตรงโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เจียงลู่ฉียังสังเกตว่าพวกเขานั้นมองมาที่เขาและยิ้มด้วยความประหลาด ที่เหมือนกับว่าพวกเขานั้นกำลังมองสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออยู่
พวกเขานั้นได้รับข้อมูลมาว่าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นถูกฆ่าโดยเจียงลู่ฉี ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นเห็นร่างกายของสุนัขแล้ว พวกเขายิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้นโดยร่างกายนั้น ความประหลาดใจที่มากขึ้นเมื่อพวกเขามองไปที่เจียงลู่ฉี เขามองไปที่ผู้คน และเดินผ่านห้องโถงไปยังห้องกินข้าว เขานั้นไม่คุ้นเคยกับการถูกจ้องมองโดยคนจำนวนมาก
ในห้องกินข้าว ทุกคนนั้นนั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว และอาหารนั้นได้ถูกนำมาเสิร์ฟ แต่ไม่มีใครเลยที่กินมันอยู่ อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าเนื่องจากเจียงลู่ฉี แต่เป็นเพราะว่าเจียงจู้อิง เธอกำลังนั่งรอเจียงลู่ฉีอยู่ ดังนั้นคนอื่นก็สามารถทำได้เพียงแค่รอด้วยเช่นกัน
เจียงลู่ฉีนั่งลงมองไปที่คนอื่นและพูด “ขอโทษที่ทำให้พวกคุณต้องรอนาน”
หลังจากนั้นเจียงจู้อิงก็หยิบตะเกียบของเธอขึ้น มันหมายความอาหารมื้อค่ำสามารถที่จะเริ่มได้แล้ว
“พี่ควรกินมากเพิ่ม”เจียงจู้อิงหยิบอาหารจำนวนมากเข้าสู่ชามของเจียงลู่ฉี และชามนั้นก็ถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
“เธอเช่นกัน” ครั้งสุดท้ายเมื่อพวกเขานั้นกินด้วยกัน เจียงลู่ฉีค้นพบว่าพวกมีพลังเหนือธรรมชาตินั้นกินมาก หนึ่งในพวกเขาสามารถที่จะกินสองหรือสามชามได้ ครั้งสุดท้ายพวกเขาควรที่จะกินมากกว่านี้ แต่หยุดเพื่อจะประหยัดอาหาร เรื่องยังใช้กับหยางฉิงฉิงและคนอื่นด้วย คนพวกนี้นั้นได้รับเนื้อเพียงเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องควบคุมมัน แต่เจียงจู้อิงนั้นมีอุดมสมบูรณ์มาก ก่อนหน้านี้นั้นเธอประหยัดอาหารเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนอาวุธให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
แต่ในตอนนี้เธอนั้นได้รับอาวุธแล้ว รวมไปทั้งสุนัขกลายพันธุ์ทั้งตัว เธอสามารถที่จะกินมากเท่าที่เธอต้องการได้ ก่อนหน้านี้เธอไม่สามารถกินได้ดั่งที่เธอหวัง ในตอนนี้เธอนั้นไม่สามารถควบคุมความอยากของเธอได้อีกต่อไป ยิ่งเนื้อกลายพันธุ์นั้นถูกกินมากเท่าไหร่ การวิวัฒนาการก็จะรวดเร็วยิ่งขึ้น
เจียงลู่ฉีนั้นก็ไม่ได้สนใจกับการประหยัดอาหารเช่นกัน เขานั้นได้ส่วนแบ่งจำนวนมาก เขาสามารถกินได้เท่าที่เขาต้องการ ถึงแม้ว่ามันเป็นระยะเวลายาวนานกว่าที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งผ่านเนื้อกลายพันธุ์ก็ตามที ตั้งแต่ที่เนื้อนั้นมีประโยชน์และอร่อย ทำไมเขาจะไม่กินมันให้มากขึ้นละ?
กระเพาะของหยางฉิงฉิงนั้นร้องขึ้น เมื่อเห็นพี่น้องทั้งคู่นั้นกินเนื้ออย่างมาก เธอรู้สึกหิว
“ฉันอิ่มแล้ว” หยางฉิงฉิงนั้นวางตะเกียบลง แต่เธอนั้นร้องไห้อยู่ข้างใน
“พี่ชาย.... พี่นั้นต้องการที่จะไปยังมหาวิทยาลัยจินหลิงจริงๆหรอ?”เจียงจู้อิงถามก่อนที่จะกินเนื้อเพิ่ม
ก่อนหน้านี้ เมื่อเจียงจู้อิงถาม เจียงลู่ฉียังไม่เคยตอบคำถามเธออย่างชัดเจน ดังนั้นเธอจึงถามอีกครั้ง เรื่องที่เกี่ยวพันกับเจียงลู่ฉีนั้น เจียงจู้อิงนั้นเอาใจใส่อย่างลึกมาก เธอและเจียงลู่ฉีนั้นอยู่ด้วยกันเพื่อเอาชีวิตรอด สิ่งที่เธอจดจำในจิตใจคือเจียงลู่ฉีนั้นดูแลและช่วยเหลือเธอเสมอมา และบางสิ่งที่ไร้สาระเช่นกัน.....
ถึงแม้ว่าเจียงจู้อิงจะไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องที่เธอนั้นยินดีแค่ไหนก็ตาม เธอสามารถทำได้เพียงแสดงออกอย่างเงียบๆผ่านการกระทำของเธอ
“หื้ม....” เจียงลู่ฉีวางแผนที่จะคุยกับเธอทีหลัง แต่เธอนั้นนำเรื่องนี้ขึ้นมาบนโต๊ะอาหาร
“เมื่อไหร่....พี่จะ....”เธอกลืนเนื้อเสร็จและหลังจากนั้นก็พูด“มันเร่งด่วนงั้นหรอ?”
“ยิ่งเร็วจะยิ่งดี ฉันตัดสินใจที่จะไปพรุ่งนี้”เจียงลู่ฉีพูด
“โอเค” เจียงจู้อิงหยิบชิ้นเนื้ออีกหนึ่งชิ้นและหลังจากนั้นก็บอกไปที่คนอื่นบนโต๊ะ “ถ้าอย่างงั้นพวกเราจะไปยังมหาวิทยาลัยจินหลิงพรุ่งนี้ พวกเราควรที่จะนอนหลับอย่างดีในคืนนี้”เธอสั่ง
“อ๊า?” พวกเขานั้นประหลาดใจ ทำไมพวกเขาต้องไปยังมหาวิทยาลัยจินหลิงด้วย?
ถ้าเจียงจู้อิงนั้นเป็นคนที่ต้องการจะไป ถ้าอย่างงั้นพวกเขาก็ไม่มีอะไรที่จะพูด และก็จะไม่ถามมาก เนื่องจากว่าเจียงจู้อิงนั้นเป็นผู้นำของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะต้องติดตามเธอไปที่ไหนก็ตามที่เธอต้องการ ตราบเท่าที่เธอนั้นไม่ได้พาพวกเขาไปตาย เหตุผลที่ว่าพวกเขานั้นสามารถที่จะมีชีวิตรอดอยู่ก็ต้องขอบคุณเจียงจู้อิงซึ่งเจียงจู้อิงนั้นเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา แต่เมื่อฟังเกี่ยวกับสนทนาเมื่อกี้นี่ พวกเขาตระหนักว่าเจียงลู่นั้นเป็นคนที่ต้องการที่จะไปยังมหาวิทยาลัยจินหลิง
“ทำไมพวกเราต้องไปยังมหาวิทยาลัยจินหลิงด้วย?” หยางฉิงฉิงถาม เธอมองไปที่เจียงลู่ฉีและครุ่นคิดว่าทำไมต้องเป็นเขาต้องไปด้วย เขาไม่ใช่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้นด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องการไปยังที่นั่น
“ฉันจำเป็นต้องไปห้องปฏิบัติการเพื่อหาอะไรบางอย่าง มันมีประโยชน์กับฉันมาก”เจียงลู่ฉีพูด เขาไม่สามารถที่จะอธิบายรายละเอียดกับรถMCVได้ ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างคลุมเครือ
[ห้องปฏิบัติการ? ของมีประโยชน์ในห้องปฏิบัติการตอนนี้นี่นะ? เขาต้องการอะไรบางอย่างจากห้องปฏิบัติการในตอนนี้? เขานั้นต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับไวรัส? นั้นมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน ไอบ้าเอ้ย!]
“ถึงแม้ว่าคุณต้องการที่จะหาอะไรก็ตาม คุณก็ไม่ควรที่จะไปยังมหาวิทยาลัย บางทีคุณสามารถที่จะหามันได้ในที่อื่น มันน่าจะมีโอกาสในอนาคต....”หยางฉิงฉิงพูดแทรกเจียงจู้อิง
“เอาน่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จำเป็นต้องโต้เถียงกันด้วยหรอ?”เจียงจู้อิงพูด
เธอนั้นไม่สนใจว่าพี่ชายของเธอนั้นต้องการเพื่ออะไรและเขาต้องการมันทำไม ถ้าเขาพูดว่าเขาต้องการ ถ้าอย่างงั้นเธอก็จะหาเพื่อเขา เธอรู้ว่าเขานั้นจะไม่วิ่งเข้าไปหาของที่มันไร้ประโยชน์ ตั้งแต่เขายืนยันกับมัน มันจะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน สิทธิขั้นพื้นฐานของผู้นำนั้นคือการตัดสินใจ ปกติแล้วพวกเขานะไปที่ไหนและพวกเขาจะทำอะไรนั้นจะตัดสินโดยเจียงจู้อิง เพียงแค่ไปหายังที่หนึ่งและหาของบางอย่างมันไม่ได้จำเป็นที่จะต้องโต้เถียงกัน
เมื่อถูกแทรกโดยเจียงจู้อิง หยางฉิงฉิงรู้สึกไม่พอใจ
พวกเธอนั้นอายุเท่ากันและจบมาจากโรงเรียนเดียวกัน แต่เจียงจู้อิงนั้นกลายเป็นผู้นำ เจียงจู้อิงนั้นดูเหมือนท่าทางนั้นเป็นคนง่ายๆก็จริง แต่ที่จริงแล้วเธอนั้นฉลาดมาก และไม่สั่นคลอนได้อย่างง่ายๆ
หยางรู้สึกอับอายในตอนนี้และคิดว่าพวกมีพลังเหนือธรรมชาติที่รวมไปทั้งคนธรรมดาทั่วไปในห้องโถงนั้นก็เยาะเย้ยเธอ
แต่เจียงจู้อิงนั้นไม่ได้ดูแลหยางและหยางคิดอย่างไร เธอกินชิ้นเนื้อสุดท้ายของเธอ เช็ดปากของเธอเสร็จแล้วก็ยืนขึ้นและพูด “พวกเรายังติดหนี้พี่ชายเกี่ยวกับนิวเคลียสกลายพันธุ์อยู่ สุนัขกลายพันธุ์นั้นถูกฆ่าในวันนี้ และตามการแจกจ่าย พวกเราควรที่จะให้แก่เขา ดังนั้นพวกเรายังคงติดหนี้นิวเคลียสกลายพันธุ์กับเขาอยู่ดี” หลังจากพูดเสร็จ เจียงจู้อิงก็ผลักให้เจียงลู่ฉีลุกจากเก้าอี้และพวกเขาก็เดินจากไปกัน
“มันเหมือนกับว่าหยางคัดค้าน และคนอื่นก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน”เจียงลู่ฉีครุ่นคิด
เจียงจู้อิงนั้นเลียริมฝีปากของเธอและพูดด้วยรอยยิ้ม “มันจะไปสำคัญอะไร? ถ้าพวกเขาไม่กล้าที่จะไป ฉันก็จะไปอยู่ดี แต่ถ้าฉันไปคนเดียวละก็ ทำไมฉันต้องมีพวกเขาด้วยละ? ถ้าอย่างงั้น หลังจากฉันกลับมาที่นี่ มันก็ไม่มีที่ให้แก่พวกเขาอีกต่อไป
ผู้มีพลังเหนือธรรมชาตินั้นไม่มีความสามารถที่จะแยกจากลุ่มและเอาชีวิตรอดด้วยตัวคนเดียวได้
เมื่อฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจียงลู่ฉียิ้ม เขาลูบหัวเธอและชื่นชม “ว้าว สมกับเป็นน้องสาวฉันเลย”
“ยังไงก็ตาม ห้องคลังของเธอนั้นอยู่ที่ไหน?” เจียงลู่ฉีหลังจากนั้นก็ถามขึ้น