ตอนที่49
“ฉันว่าเราขึ้นรถกันเถอะนะฉันจะได้ส่งเธอกลับบ้านสักที เพราะตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วเดี๋ยวเธอไปทำงานไม่ได้”
ฉันไม่ได้พูดอะไรฉันได้แต่ทำตามที่เขาสั่ง พอฉันขึ้นรถเสร็จเขาก็ขึ้นรถตามฉันมา
“แล้วกินอิ่มหรือเปล่าถ้าไม่อิ่มฉันจะพาไปที่ห้างไปหาของกิน”
นั่นสิฉันหิวหรือเปล่านะแต่ว่าฉันจำไม่ได้เลยว่าฉันยังหิวอยู่หรือเปล่า ที่พี่เขาพูดปกป้องฉันเมื่อตะกี้นี้ทำให้ฉันลืมอะไรหลายๆอย่างไปเลยแหละ แต่ฉันอยากจะอยู่กับพี่เขานานๆนะฉันควรจะบอกว่าหิวไปเลยก็ได้ ไม่สิถ้าฉันพูดว่าหิวแล้วได้อยู่กับพี่เขานานๆแล้วก็ ฉันจะลืมพี่เขาไม่ได้น่ะสิฉันควรจะทำยังไงดี หรือว่าฉันควรจะทำตามใจของตัวเองดีนะ ฉันลองมองไปที่หน้าของพี่เขาสีหน้านั่นที่ถึงแม้จะดูกังวลมันก็ยังทำให้ใจของฉันเต้นอยู่วันยังค่ำ
“ฉันยังหิวอยู่เลยอะงั้นนายก็พาฉันไปหาซื้อของเอาไว้ไปกินที่บ้านหน่อยก็แล้วกันนะ”
ฉันคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ฉันทำแบบนี้ ในระหว่างที่พี่เบสขับรถอยู่ฉันก็ได้แต่นั่งมองหน้าของพี่เขา แบบว่าได้แต่มองหน้าของพี่เขาจริงๆนะเพราะว่ามีแค่ตอนนี้เท่านั้นที่ฉันได้เห็นหน้าของพี่เบสอีกครั้งหนึ่ง
“แล้วพอไปถึงห้างเธออยากจะกินอะไรเป็นพิเศษไหมล่ะ”
ฉันขอเวลาคิดก่อนนะเอาของที่ฉันอยากจะกินมากที่สุดก็แล้วกัน
“มีทุเรียนทอดขายหรือเปล่านายคิดว่า ฉันอยากจะกินทุเรียนทอดมากเลยอะ”
พี่เบสหันมาหาฉันอย่างไวเมื่อฉันพูดถึงทุเรียนทอด
“นี่เธอชอบกินทุเรียนทอดหรอ ???” เฮ้ยฉันลืมไปเลยว่าฉันคนเก่าก็ชอบกินทุเรียนทอดมากเหมือนกัน ฉันไม่น่าพูดถึงเรื่องทุเรียนทอดเลยเดี๋ยวเขาก็จับได้เอาหรอก
“ก็ชอบแต่ไม่ได้ชอบมาก อยู่ๆมันก็อยากจะกินเฉยๆน่ะ”
ฉันหาคำแก้ตัวมาก่อนที่พี่เบสจะจับฉันได้จะดีกว่า พี่เขาจะได้ไม่สงสัยฉันยังไงล่ะ
“ฉันว่ามันน่าจะมีอยู่นะพอไปถึงพวกเราค่อยไปหาดูกันก็แล้วกันเนอะ”
ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อเพื่อจะรอให้รถไปถึงห้าง พี่เขาดูขับช้าๆนะตอนนี้สงสัยมันมืดแล้ว เพื่อความปลอดภัยก็เลยขับช้าหน่อย จนกระทั่งไปถึงห้างแห่งหนึ่งแถวๆบ้านของฉันนี่แหละ ฉันเปิดประตูรถแล้วลงจากรถมาเพื่อเข้าไปยังห้างจะได้หาซื้อของกิน
“เข้าไปกันอยากกินอะไรหยิบเลยเดี๋ยวฉันเลี้ยงเองถือเป็นค่าขอโทษที่พาเธอไปทานข้าวแล้วเธอทานไม่อิ่มโอเคนะ”
ถ้าพี่เขาเลี้ยงฉันก็โอเคที่จะให้พี่เขาเลี้ยงอะนะ
“งั้นเราเข้าไปกันเลยดีกว่าของฟรีใครๆก็ชอบ” พี่เขายิ้มขึ้นมาก่อนที่จะพาฉันเดินเข้าไปในห้าง ซึ่งมันเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
“พนักงานครับแถวไหนมีทุเรียนทอดครับพาผมไปหน่อยสิ”
พี่เบสถามพนักงานให้ก่อนที่พนักงานจะชี้ให้รู้ว่าทุเรียนทอดอยู่จุดไหน แล้วพวกเราก็เดินไปทางที่พนักงานเขาชี้ให้ดู
“มันคงอยู่ที่ล๊อตนี้นี่แหละเราลองหากันดูก็แล้วกันนะ” ฉันไม่ได้พูดอะไรตอบแล้วก็เดินหากันอยู่สักพักก่อนจะเจอว่ามันอยู่ข้างล่างสุด ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบแต่แล้วก็เกิดเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้น มือของฉันแล้วก็มือของพี่เบสมันชนกันเสียงั้น ฉันมองไปหาพี่เบสก่อนที่เราสองคนจะมองหน้ากัน หน้าของเราใกล้กันจนฉันรู้สึกถึงลมหายใจของพี่เขาเลย
“เอิ่มนายหยิบมาก็แล้วกันนะฉันจะไปหาของอย่างอื่นมากินกับทุเรียนทอดด้วย”
ฉันรีบลุกขึ้นมาในทันทีก่อนจะเดินไปทางอื่นเพื่อที่จะหนีหน้าพี่เบสออกมา ด้วยความอายฉันคิดว่าตอนนี้ฉันคงหน้าแดงมากแล้วล่ะ ฉันรีบหยิบกระจกที่อยู่ในกระเป๋าของฉันขึ้นมาดูในทันที พอดูที่หน้าของตัวเองหน้าของฉันมันแดงมากจริงๆด้วย ฉันพยายามทำใจของตัวเองให้ร่มเข้าไว้ก่อนจะหาหยิบขนาดอย่างอื่นเพื่อจะได้ไม่เป็นที่สงสัยของพี่เบส พอเดินไปถึงพี่เบสก็มองมาทางฉันตอนนี้ต้องข่มใจตัวเองเอาไว้ก่อนอย่าพึ่งไปคิดอะไรมาก อย่าทำให้หน้าของตัวเองแดงเป็นอันขาดเลยนะยัยปอย
“เอาอันนี้ไปกินด้วยก็แล้วกันนะ พวกเราได้ของครบกันแล้วใช่ไหม งั้นเราไปจ่ายเงินกันดีกว่า”
พี่เบสยังไม่ทันได้พูดแต่ฉันก็ขัดพี่เบสเสียก่อน กลัวพี่เบสจะถามในเรื่องที่ฉันตอบไม่ได้ ยังไงก็จ่ายเงินแล้วออกไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่านะ
“จ่ายเงินทีครับ” พี่เบสยกตะกร้าใส่ของขึ้นแคชเชียร์ก่อนที่พยักงานจะเริ่มเช็คของ
“ทั้งหมดสองร้อยสามสิบบาทค่ะ” พี่เบสหยิบกระเป๋าออกมาจากกางเกง //ตุบ// มีบางอย่างตกลงมาจากกระเป๋าของพี่เขาแล้วหล่นลงบนพื้น ฉันเลยก้มลงไปหยิบให้พี่เขา แต่แล้วก็เห็นรูปๆหนึ่งที่มันทำให้ฉันต้องนิ่งไป รูปที่ฉันเห็นมันก็คือรูปของฉันและพี่เขาตอนไปทะเลคราวนั้น พวกเราถ่ายรูปด้วยกันฉันยังจำได้ พอพี่เบสหันมาหาฉันหลังจากที่จ่ายเงินเสร็จฉันก็ยื่นรูปนี้กลับคืนให้พี่เขาไป ทำไมพี่เขายังเก็บรูปนี้เอาไว้อยู่นะ