ตอนที่ 7 : ทำลายความสัมพันธ์?
การกระทำของหลินหลานช่วยปลอบประโลมความโกรธของหลานหลัวเฟิง เธอรู้ว่ามีตัวแทนจากรัฐบาลกลาง และกองทัพทหาร มาเข้ารวมในงานรับสืบทอดมรดกนี้ด้วย ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้อารมณ์ของเธอทำลาย พิธีสืบทอดมรดกของ หลิงหลาน
หลังจากระงับอารมณ์ได้ เธอกลาวด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “คุณตั้งใจจะทำอะไร ลุงเหริน”
ตาของหลิงซู่เหลินหรี่เล็กลง แต่เขาก็ได้เปิดเผยแผนการออกมาในตอนท้าย “ตระกูลหลิง มีบุตรชายอายุ 3 ขวบและต่ำกว่าจำนวนมาก ควรจะให้พวกเราคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติและศักยภาพมากที่สุด ในการสืบทอดมรดก”
เด็กที่อยู่ในช่วง 3 ขวบ คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้สืบทอดมรดก หลังจากช่วงนี้ไปแล้วผลของการสืบทอดจะลดลงเป็นอย่างมาก และน้อยลงเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป
หลานหลัวเฟิง หัวเราะ “คุณคิดจริงๆหรือว่า จะมีเด็กคนไหนเทียบได้กับลูกชายแท้ๆของ หลิงเซียว หรือจะให้ฉันเตือนความจำสักหน่อยว่า หลิงเซียว คือผู้ควบคุมหุ่นรบนะ” สำหรับสหพันธ์แล้ว สายเลือดสำคัญกว่าทุกอย่าง เป็นกรณีที่ยากมากที่คนทั่วไปจะแสดงความสามารถ และพรสวรรค์ โดยปราศจากการถ่ายทอดทางสายเลือดจากรุ่นสู่รุ่น
“ครอบครัวหลิงมี หลิงเซียว ได้ ดังนั้นเราต้องมีคนอื่นอีกแน่นอน” หลิงซู่เหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ เนื่องจากเขาได้มีลูกชายที่ มีศักยภาพใกล้เคียงกับ หลิงเซียว นี่คือเหตุผลที่เขาเองก็ต้องการรับ มรดกทางทหาร ของหลิงเซียว ตระกูลหลิงจำเป็นต้องสร้าง หลิงเซียว อีกคนหนึ่งขึ้นมา เพื่อรักษาความมั่นคงของพวกเขาบนดาวเคราะห์โดฮา
ถึงแม้สหพันธรัฐในปัจจุบันจะดูเผินๆให้ความสำคัญกับอุดมการณ์ของความเท่าเทียม แต่ในความเป็นจริง มีชั้นทางสังคมที่แตกต่างกันอยู่ซึ่งสามารถวัดได้จาก ดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยนั่นเอง
ดาวเคราะห์โดฮา เป็นดาวเคราะห์ที่คุณภาพดี และยังเป็นเหมือนเมืองหลวงของสหพันธรัฐ ผู้ที่จะอาศัยอยู่บนดาวดวงนี้ได้ จะต้องเป็นข้าราชกาลระดับสูง หรือเป็นบุคคลสำคัญทางทหาร หรือไม่ก็เป็นครอบครัวที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานหรือเป็นผู้ที่มีอิทธิพล
ครอบครัวหลิง แต่เดิมเป็นครอบครัวทั่วไปที่อยู่ได้เพียงดาวเคราะห์ระดับ 3 แต่ที่พวกเขาได้ย้ายมาอยู่ที่ดาวเคราะห์โดฮาเนื่องจาดความสามารถของ หลิงซู่เจิ้งผู้เป็นพ่อของหลิงเซียว
หลิงซู่เจิ้งเป็นนักบินที่เก่งกาจ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รับอาวุธที่ดีเยี่ยมที่สุดจาก สหพันธรัฐหุ่นรบนั่นเองไม่มีใครที่ควบคุมหุ่นรบ สามารถเป็นคู่แข่งเขาได้ ในสนามรบ เขาได้กำจัดเครื่องบินรบของศัตรูเป็นจำนวนมาก กองทัพจึงตัดสินใจให้รางวัลโดยการอนุญาติให้ครอบครัวของเขา ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ดาวเคราะห์โดฮา ได้
เพื่อที่จะโน้มน้าวหลิงซู่เจิ้งให้ย้ายครอบครัว หลิง ไปที่ดาวเคราะห์โดฮา หัวหน้าตระกูลและผู้อวุโส ได้ทำข้อสัญญาว่าจะให้เขาเป็นผู้สืบทอดหัวหน้าตระกูล และทรัพยากรทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา หลังจากนั้นตำแหน่งหัวหน้าตระกูลก็สืบทอดมาจากลูกหลานของหลิงซู่เจิ้ง
สุดท้ายหลิงซู่เจิ้งต้องการสนับสนุนครอบครัวของเขาที่ต้องการมาอาศัยที่ดาวเคราะห์โดฮา จึงได้ตกลงที่จะย้ายมาที่ดาวดวงนี้
การตัดสินใจครั้งนั้นของเขา ได้นำปัญหาที่ไม่สิ้นสุดมาให้ หลิงเซียว และยังเปิดโอกาศให้คนอื่นสามารถขโมย มรดกที่หลิงหลาน ควรจะได้ ถ้าหลิงซู่เจิ้งรู้ว่าเขาได้เชื้อเชิญหมาป่าเข้ามาด้วยความใจดี เขาจะต้องอยากจะลุกขึ้นมาจากโลงศพแน่นอน
หลังจากดื่มดำกับผลประโยชน์ บนดาวเคราะห์โดฮา มานานกว่า 10 ปี ตระกูลหลิง ก็ไม่คิดจะกลับไปใช้ชีวิตเดิมๆอีก พวกเขารู้ดีว่า ใน 20 ปีนี้ถ้า หลิงเซียว ไม่มีผู้สืบทอดที่มีคุณสมบัติผ่านตามขั้นต่ำ พวกเขาจะต้องสูญเสียทุกอย่างบนดาวเคราะห์โดฮานี้ไป จะต้องกลับไปเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง......ไม่สิ อาจจะลดลงจนกลายเป็นครอบครัวชนชั้นล่างเลยก็ได้ ซึ่งมันจะส่งผลกระทบกับรายได้ของครอบครัวหลิง เส้นทางการทำงานของคนรุ่นหลังตระกูลหลิง การใช้ชีวิต... พวกเขาจะยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้
Ling Suren ไม่ให้โอกาส หลาน หลัวเหิง ได้พูด แต่ได้ส่งสัญญานให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังอุ้มเด็กน้อยอายุ 1 ขวบ และพูดว่า “นี่คือผู้สมัครรับมรดก ที่ตระกูลเราได้เลือก ถ้าคุณสมบัติของนายน้อยหลาน มีคุณสมบัติมากกว่าพวกเราก็ไม่มีข้อคัดค้านใดๆ”
เขาเหลือบไปมองทางทหารที่ยืนอยู่ “ฉันมั่นใจว่ายังคงต้องการเด็กที่มีพรสวรรค์มากที่สุดสำหรับปลูกฝังมรดก และไม่เลือกโดยไม่ลืมหูลืมตา จากแค่สายเลือด”
ผู้แทนทางทหารเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยโดยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษ
หลิงซู่เหลินไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนทหารอย่างเต็มที่ อย่าไรก็ตามเขาแค่ต้องการความเห็นด้วยเพียงเล็กน้อย เขาหันไปทาง หลาน หลัวเฟิงอีกครั้งหนึ่งด้วยรอยยิ้มแสดงความพอใจ
หลาน หลัวเฟิงยิ้มเพียงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าการที่เธอปิดบังผลการประเมิณของ หลิงหลาน จะเป็นจุดอ่อนให้ครอบครัวหลิงใช้ประโยชน์ได้ โชคดีที่พ่อบ้านหลิงฉิน ได้วางแผนรับมือกับเรื่องนี้ไว้แล้ว
“คุณกล้าที่อยากได้สิทธิทางทหารที่เป็นของคนอื่นงั้นหรอ?” หลานหลัวเฟิง มอบไปรอบๆห้อง บรรดาผู้ชมมีทั้งเพลิดเพลิน กับการแสดง แต่ก็มีบางคนที่แสดงความเป็นห่วงอย่างแท้จริง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เสียเปล่านักหรอก อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าใครรอบตัวเธอที่หวังดีกับเธอ "ถึงแม้ว่านายพันตรีหลิงเซียว จะตาย แต่ลูกของเขาไม่ควรได้รับการกลั่นแกล้ง ด้วยตระกูลครอบครัวของตัวเอง ฉันแน่ใจว่าพวกทหารอาจจะมีบางอย่างอาจจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้?"
ตัวแทนของทหารเลือกที่จะเมินสิ่งที่ หลาน หลัวเฟิง พูดและกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “คุณนายโปรดมั่นใจ นอกจากผลประโยชน์ทางทหาร หลิงหลานจะไม่เสียสิ่งได้ พวกเราไม่ปล่อยให้ลูกของผู้กล้าหาญถูกรังแกหรอก”
ถึงแม้สิ่งที่ทหารกล่าวจะดูดี แต่ก็หมายความว่า ผลประโยชน์ทางการทหารจะถูกมอบให้ผู้แข่งขันที่เหมาะสมที่สุด
หลาน หลัวเฟิง เหลือบมองไปทางทหาร แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม ดูเหมือนว่าเขามาเพื่อเพียงสังเกตุการ และไม่คิดที่จะแทรกแซง
เหอะ! หลิงเซียว นี่คือกองทัพที่คุณอุทิศชีวิตปกป้องงั้นหรอ คุณเคยคิดว่าเขาจะทรยศต่อความเชื่อใจของคุณ ยอมทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณเพื่อผลประโยน์ไหม? คุณเคยรู้สึกเสียใจกับเส้นทางที่คุณเคยเลือกบ้างไหม..?
หลาน หลัวเฟิง ไม่สามารถทบรับการดูถูกได้อีกต่อไป “…นี่คือ…รัฐบาล? นี่คือทหาร? ในที่สุดฉันก็เข้าใจ”
ด้วยคำพูดของหลานหลัวเฟิงส่งผลให้รอยยิ้มของทั้งสองฝ่ายนั้นแข็งค้างไป
“ถ้าอย่างนั้น ฉันต้องการคำสัญญาจาก รัฐบาล และ ทหาร ไม่ว่าหลิงหลานจะได้รับสิทธิทางการทหารหรือไม่ เขาจะต้องถูกปลดปล่อยจากตระกูลหลิง และไม่เกี่ยวข้องกันอีกไม่ว่าทางไหนก็ตาม”
ตัวแทนทั้งสองฝ่ายมองหน้ากันแต่มีเพียงตัวแทนของทหารที่กล่าวขึ้น “คุณหมายความว่าอย่างไร?”
หลาน หลัวเฟิง ยิ้มเยาะ “ถ้า หลิงหลาน ได้รับสืบทอด ทุกคนในตระกูลหลิงคนอื่นๆ ต้องออกจากดาวเคราะห์โดฮาและกลับไปยังที่ๆจากมาในทันที ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาอย่างไร พวกเราทั้งสองคนก็จะไม่ถือว่าเป็นคนของตระกูลหลิงอีกต่อไป”
เป็นเวลานานแล้ว หลานหลัวเฟิง ตั้งใจวางแผนชำระแค้นตระกูลหลิง ถ้าเธอสามาถจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยในแค่ครั้งเดียว ก็ถือว่าการกระทำครั้งนี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่า
ใบหน้าของหลิงซู่เหลินแสดงความโกรธออกมา “หลาน หลัวเฟิง เธอเป็นบ้าไปแล้วงั้นหรอ!!?”
“ทำไมละ? คุณลุงเหลินกลัวงั้นหรอ? กลัวว่าเด็กที่คุณเลือกจะแพ้ หลิงหลาน? หลานหลัวเฟิง ยิ้มกว้างในขณะเผชิญหน้ากับ หลิงซู่เหลินมือของเธอข้างหนึ่งซึ่งห่อหุ้มนิ้วเล็กๆไว้ นี่อาจจะเป็นพลังข้องผู้เป็นแม่ที่เขาเคยกล่าวกันไว้ก็ได้ หลานหลัวเฟิง ไม่เคยรู้สึกหนักแน่นขนาดนี้มาก่อน
หลิงซู่เหลินพูดไม่ออก แม้เขาจะเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น แต่ด้วยท่าทีที่ก้าวร้าวทำให้เขาไม่มั่นใจ และกลัวที่จะเสี่ยง
ขณะที่เขากำลังลังเล ผู้อวุโสในตระกูลหลิงได้กระซิบที่ข้างหู “ระวังเธอกำลังหลอกให้เจ้ากลัว”
หลังจากฟังหลิงซู่เหลินได้ปลุกความมั่นใจของตัวเองอีกครั้ง หลานหลัวเฟิง ต้องหลอกเขาแน่นอน ถ้าศักยภาพของ หลิงหลาน สูงจริง ทำไมเธอถึงต้องปกปิดผลการประเมิน แทนที่จะเปิดเผยออกมาเพื่อทำให้ผู้แข่งขันคนอื่นๆกลัว?...
*****
ติดตามได้ที่ >>>> Facebook