ตอนที่ 21 สมัยวัยรุ่น
[ วัยรุ่น ]
สิ่งที่ผมไม่คาดคิดมันก็ได้เกิดขึ้นกับพ่อของผม ในช่วงเวลาที่เลยผ่านมาจนกระทั่งผมโตขึ้น วันที่ผมกำลังกินข้าวอยู่ที่บ้านอย่างสบายใจ //ตุบ ตุบ// เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้นเหมือนกับว่ามีคนที่รีบมากคนหนึ่งพยายามจะทุบประตูเข้ามาเลยทีเดียว ผมเดินไปแล้วไปเปิดประตูให้กับเขา ด้วยความที่ผมรำคาญด้วยแหละคนกินข้าวอยู่แล้วมาเคาะเสียงดังขนาดนี้ ยังไงก็คงต้องเปิดประตูให้กับเขานั่นแหละ พอผมเปิดประตูไปผมก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าบ้านของผม พร้อมกับทำสีหน้าเศร้าๆเหมือนกับมีใครตายอย่างงั้นแหละ ไอ้ผู้ชายคนนี้แต่งตัวแบบนี้น่าจะเป็นลูกน้องของพ่อผม
“แย่แล้วครับ” อะไรที่ว่าแย่กันนะสีหน้าตื่นตกใจนั่นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“แล้วเป็นอะไรอะไรที่ว่าแย่ ??” ผมลองถามหาคำตอบของเขาดูจะได้รู้เรื่องราวเสียที
“พ่อของคุณครับคุณต้องไปดูเอาเองแล้วครับ”
พอขอผม ?? พ่อของผมท่านเป็นอะไรกัน ผมไม่พูดอะไรอีกก่อนจะวิ่งตามเขาไปเพื่อที่จะไปหาพ่อของผม เขาพาผมไปที่ท่าเรือก่อนจะเดินตรงไปยังข้างหน้าทางที่เรือของพ่อได้จอดเอาไว้ มีคนมุงอยู่มากมายที่เรือลำนั้น ผมจึงวิ่งขึ้นไปบนเรือไปดูจนผมต้องนิ่งลงเมื่อได้เห็นว่าพ่อของผมนอนสลบอยู่บนพื้น ผมรีบเดินเข้าไปหาพ่อของผมก่อนจะนั่งลงไปดูอาการของเขา ผมจับที่ชีพจรของพ่อแล้วพบว่าชีพจรของท่านเต้นช้ามาก พ่อเป็นอะไรของพ่อกันอย่าพึ่งทิ้งผมไปนะผมจะช่วยพ่อแล้วรอแป๊บหนึ่ง
“ไปตามหมอมาดิมัวแต่ยืนทำอะไรกันวะ เร็วเข้าไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้เลย!!!”
ผมตะโกนไล่พวกชาวบ้านและลูกน้องของพ่อเพื่อที่จะให้พวกเขาไปตามหมอมาให้ผม
“รอก่อนนะครับพ่อ หมอกำลังมาครับ” ไม่นะทำไมพ่อถึงเป็นแบบนี้ได้ คุณหมอวิ่งมาจากที่ไหนไม่รู้มานั่งข้างๆกับผมแล้วเริ่มทำการตรวจร่างกายของพ่อผม
“ตอนนี้ขอให้ออกไปก่อนนะครับ ทุกคนถอยไปครับขอให้ผมได้ทำการรักษาเขาก่อนนะครับ”
ผมออกมาจากที่นั่นพร้อมกับคนที่มุงดูกันอยู่ เพราะจะต้องให้คุณหมอช่วยรักษาพ่อของผม แล้วผมก็ไม่สามารถที่จะดูต่อไปได้ผมทำไม่ได้จริงๆครับ จากนั้นใช่เวลาไม่นานมากนักคุณหมอก็พาพ่อของผมนอนลงไปในเปลพยาบาล แล้วก็ให้ผู้ช่วยหมออีกหลายคนพาพ่อผมไปรักษาต่อที่บ้านของหมอ ผมเดินตามพ่อผมไปจนกระทั่งถึงที่บ้านหมอผมนั่งรออยู่ข้างหน้าไม่ได้เข้าไปดูเพราะทำใจไม่ได้ จากนั้นผมก็นั่งอยู่ที่นั้นหลายชั่วโมงเหมือนกันจนกระทั่งฟ้ามืดได้ คุณหมอเดินออกมาจากที่บ้านของเขาแล้วก็มองมาทางผม
“คุณอดัมครับผลตรวจทุกอย่างแล้วก็การรักษาออกมาแล้วครับ”
ผมรีบยืนขึ้นในทันทีขอให้พ่อผมไม่เป็นอะไรมากนะ
“พ่อของผมเป็นยังไงบ้างหมอ” ผมอยากจะได้ยินหมอพูดว่าพ่อของผมไม่เป็นอะไรแล้ว ผมอยากได้ยินคำนั้นจริงๆนะ
“ตอนนี้พ่อของคุณปลอดภัยแล้วครับ” พ่อของผมปลอดภัยแล้วจริงๆหรอ ผมรีบเดินเข้าไปในบ้านของหมอแล้วเดินไปหาพ่อ จนกระทั่งเจอพ่อที่นอนอยู่ข้างในสุดของบ้านหมอเลย ผมเดิมเข้าไปหาพ่อก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ
“พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ พ่อปลอดภัยแล้วนะครับพ่อไม่เป็นอะไรแล้ว”
คุณพ่อของผมตอนนี้เขายังไม่ฟื้นเลยเขาไม่ยอมฟื้นเลยแม้แต่น้อย
“แล้วเมื่อไหร่พ่อของผมจะฟื้นหรอครับหมอ”
“อันนี้มันตอบลำบากเหมือนกันครับ ด้วยความที่พ่อของคุณเป็นโรคที่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร มันจะมาๆหายๆในทุกช่วงครับ ผมก็คงจะต้องดูอาการก่อน”
โรคใหม่มันเป็นโรคแบบไหนมันร้ายแรงมากหรือเปล่านะ
“แล้วผมจะต้องทำยังไงบ้างครับ ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เลยครับหมอ ผมยินดีจ่ายได้หมด”
คุณหมอคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจตอบผม
“คือว่าค่ารักษามันก็เยอะพอสมควรนะครับ แล้วก็ค่าดูแลด้วยเช่นกัน ราวๆหนึ่งล้านห้าแสนหกหมื่นห้าพันหกร้อยโกลครับ”
มันเยอะมากเลยนะค่ารักษาเราคงมีไม่พอ แต่ถ้าหามาให้หมอไม่ได้พ่อผมก็คงจะต้องตายอยู่ที่นี่แน่ ผมต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ