ตอนที่แล้วตอนที่ 230: การทดลอง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 232: วันที่เรียบง่าย (1)

ตอนที่ 231: การทดลอง (2)


นกกระจอกราตรีสี่ปีกกำลังดิ้นรนและลุกขึ้นยืนบนโต๊ะด้วยเท้าที่กำลังสั่น

นกยังมีสมองเป็นของตัวเองและมันสามารถทำอะไรก็ได้ตามปกติ แองเจเล่ควบคุมร่างกายของมันเมื่อจำเป็นเท่านั้น

"ข้อเสียอย่างเดียวของรูนนี้มันก็คือการใช้พลังจิตของข้าตลอดเวลาตราบใดที่ยังเปิดใช้งานอยู่ ข้าจะใช้พลังจิตมากขึ้นถ้าข้าคิดจะควบคุมสิ่งมีชีวิตเพิ่ม แต่ถ้าข้าเปิดใช้งานรูนจำนวนมากพร้อมกันข้าก็จะมีปัญหาในการร่ายคาถาที่ใช้พลังจิตสูง ข้าต้องวางแผนอย่างรอบคอบ...."

แองเจเล่กำลังคำนวณ ในตอนนี้เขามีพลังจิตประมาณ 40 หน่วยและเขาสามารถเปิดใช้งานได้สองรูนพร้อมกันด้วยพลังจิต 1 หน่วยซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาสามารถควบคุมนกกระจอกราตรีสี่ปีกได้ประมาณ 80 ตัวถ้าเขาต้องการ

เขาขมวดคิ้วและคว้านก จากนั้นเขาก็เดินไปที่หน้าต่างและเปิดมันออกไป

แองเจเล่มองเห็นหอเฝ้าระวังหินจากห้องทดลอง

หอเฝ้าระวังตั้งอยู่ข้างป่าอย่างเงียบๆ มีพ่อมดฝึกหัดสองคนที่เขาจ้างกำลังคุยกันอยู่ข้างๆ พวกเขาสังเกตเห็นแองเจเล่เปิดหน้าต่างและโค้งให้ทันทีก่อนที่จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่

แองเจเล่รอทั้งสองคนไปและวางนกกระจอกไว้ที่ขอบหน้าต่าง

"บิน" เขาสั่ง

ฟึบ

นกกระจอกราตรีหายไปจากขอบหน้าต่าง แองเจเล่เห็นเพียงเส้นสีดำบินขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

ภายใต้เมฆสีเทาเส้นสีดำเดินทางโดยไม่ลังเล

แองเจเล่เอาผงสีดำออกมาจากถุงกระเป๋าและลูบมันด้วยมือทั้งสองข้าง ผงสีดำเริ่มไหม้และมีควันออกมา

"สิ่งมีชีวิตนี้จะทำหน้าที่เป็นสายตาให้ข้า" เขาร่ายคาถา

ดวงตาของเขาล้อมรอบไปด้วยแสงสีแดงอย่างช้าๆ

สายตาของแองเจเล่เบลอชั่วครู่และพบว่าตัวเองกำลังจ้องเมฆ

เขารู้สึกถึงสายลมที่พัดผ่านใบหน้าของเขาและข้างล่างเขามีต้นไม้เต็มไปหมด

เมืองของมนุษย์ปรากฏข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แองเจเล่บอกให้นกเข้าไปหาเมืองและบินผ่านมัน

เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง

หอระฆังกำลังดัง

แองเจเล่มองเห็นบ้านที่เรียงรายอยู่ข้างล่างจากท้องฟ้า พวกมันทั้งหมดมีหลังคาสีแดงและผนังสีเทา อัศวินที่กำลังลาดตระเวนบนถนนกำลังสวมชุดเกราะหนัง มีแม่น้ำสายเล็กๆที่ไหลผ่านตัวเมืองและตรงกลางมีรูปปั้นทองแดงสูงของพ่อมด

เมืองหายไปจากสายตาของแองเจเล่หลังจากผ่านไปหลายวินาที

'มันคือเมืองไม้เขียวที่อยู่ห่างจากบ้านข้า 15 กิโลเมตร' แองเจเล่รู้จักสถานที่นี้ มันเป็นเมืองขนาดเล็กข้างชายแดนที่ควบคุมโดยตระกูลพ่อมดขนาดเล็กหลายตระกูล เมืองแบบเมืองไม้เขียวเป็นเมืองที่ธรรมดามากในพื้นที่

"กลับมาหาข้า"

แองเจเล่สั่งหลังจากที่หยุดซิงโครไนซ์สายตา

นกกระจอกราตรีสี่ปีกหมุนในท้องฟ้าและเริ่มบินกลับมาที่บ้านของเขา

มีจุดสีดำปรากฏในสายตาของแองเจเล่หลังจากผ่านไปประมาณสองนาที

มันดูเหมือนว่านกได้ใช้ปีกใหม่ทั้งสองที่ได้รับมา นกกระจอกค่อยๆช้าลงและบินลงบนขอบหน้าต่างข้างหน้าแองเจเล่

"ความเร็วน่าทึ่งมาก" แองเจเล่พูดชมเชย

เขาคำนวณการบินครั้งล่าสุดและนกก็เดินทางได้ประมาณ 110 เมตรต่อวินาที

นกกระจอกกลายพันธุ์เกือบจะเร็วกว่าเหยี่ยวเพเรกรินจากโลก นอกจากนี้ตามที่ชิปได้คำนวณความเร็วสูงสุดของนกกระจอกราตรีสี่ปีกคำนวณได้ความเร็วมากกว่า 125 เมตรต่อวินาที

มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เร็วที่สุดที่แองเจเล่เคยพบในโลกนี้

แองเจเล่ลูบเบาๆที่หลังของนกกระจอก

ขนของมันเรียบเนียน การสัมผัสนกกระจอกทำให้ใจของเขาสงบลง

มันเป็นเพียงชั่วครู่ที่เขารู้สึกสับสนเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง

มันเป็นความคิดที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

เขาไม่ได้เป็นปุถุชนคนธรรมดาอีกต่อไปเมื่อเขากลายเป็นพ่อมดฝึกหัด แองเจเล่ได้ทำลายขีดจำกัดในช่วงที่อายุน้อยมากๆและเขามีโอกาสที่จะสำรวจสิ่งที่ลึกลับที่สุดในโลกนี้ ในระหว่างกระบวนการนี้เขาไม่เคยหยุดแม้แต่วินาทีเดียว

ตอนแรกเขาต้องการพลังเพราะเขาต้องการปกป้องตัวเองและครอบครัว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้สำรวจในหลายพื้นที่ของโลกเขาก็เริ่มแสวงหาความรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดินแดนนี้

แองเจเล่ลูบขนนกอย่างระมัดระวังขณะที่คิดเรื่องนี้

ความสำเร็จของเขามันน่าเหลือเชื่อและเขาก็เป็นหนึ่งในพ่อมดยุคใหม่ที่มีพรสวรรค์ที่สุดในประวัติศาสตร์ แองเจเล่กำลังสงสัยว่าเขาควรจะใช้เวลาและสนุกกับชีวิตของเขาหรือไม่ ด้วยเหตุบางอย่างเขาได้สูญเสียแรงจูงใจในการเพิ่มความก้าวหน้าและเขาก็รู้สึกว่างเปล่า

ความสัมพันธ์ระหว่างแองเจเล่กับพ่อและตระกูลไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป อายุขัยของเขายาวนานกว่าปุถุชนและวันหนึ่งคนที่รับมรดกอาจไม่ทราบว่าเขาเป็นลูกชายของบารอน

แองเจเล่เริ่มเข้าใจว่าทำไมบรรดาพ่อมดที่มีอายุมากถึงได้แสดงออกแบบบ้าๆและบางคนก็มีงานอดิเรกที่พิลึก

เวลาจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง พ่อมดแบบแองเจเล่มาจากครอบครัวปุถุชนและเมื่อญาติของพวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตพวกเขาก็จะรู้สึกว่าพวกเขาสูญเสียการเชื่อมต่อทั้งหมดกับโลก แองเจเล่รู้สึกกลัวเพียงแค่คิดถึงช่วงเวลานั้น

แฟลนย่าของอิซาเบลกำลังแสวงหาสิ่งปลอมประโลมโดยการรสอดส่องชีวิตประจำวันของหลานสาวของเธอ เธอรักอิซาเบลมากตั้งแต่ที่อิซาเบลยังเป็นเด็กแต่ความรักก็เปลี่ยนเป็นความรักที่บิดเบี้ยว

แองเจเล่เกิดใหม่ในโลกนี้ คนเดียวที่เขามีเยื่อใยเป็นพิเศษคือพ่อของเขาแต่เขาตระหนักว่าสิ่งนี้ไม่มีอยู่อีกต่อไปหลังจากที่เขาไปเยือนครั้งที่ผ่านมา เขาเริ่มเผชิญหน้ากับปัญหาที่พ่อมดชรากำลังเผชิญอยู่

"บางทีข้าควรจะใช้เวลาพักผ่อนซะบ้างก่อนที่จะพยายามก้าวไปสู่ขั้นต่อไป ข้าเพิ่งมาถึงขั้นของเหลวและข้าสามารถใช้ช่วงเวลานี้เพื่อดูดซับความรู้ใหม่ๆได้" แองเจเล่พึมพำ ในตอนนี้เขามั่นใจว่าเขาจะชนะการต่อสู้กับพ่อมดขั้นของเหลว

มันใช้เวลาสักพักก่อนที่ร่างกายของเขาจะเคยชินกับพลังจิตของเหลว เขาต้องการความรู้พื้นฐานสำหรับพ่อมดระดับสองและรอให้ร่างกายของเขาปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดก่อนที่จะพยายามทำการดัดแปลงใดๆ

มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเร่งกระบวนการโดยใช้เทคนิคพิเศษดังนั้นเขาจึงต้องรอ

แองเจเล่คิดเป็นเวลานาน ตอนนี้ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว

ก๊อก ก๊อก

มีใครบางคนเคาะประตู

แองเจเล่ตบหลังของนกกระจอกราตรีเบาๆอีกครั้ง นกกระโดดออกจากขอบหน้าต่างอย่างรวดเร็วและหายไปในป่าข้างบ้าน จากนั้นเขาก็เดินไปที่ประตูและเปิดมัน

อลิซกำลังรออยู่ข้างนอกพร้อมกับจานเงินในมือ เธอสวมชุดเมดสีขาว

อาหารบนจานยังมีไอร้อนอยู่

"ข้าจะกินอาหารค่ำที่ชั้นล่าง" แองเจเล่ปิดประตูและมองไปที่จาน

"เห็ดและสตูว์กวางกับขนมปังปิ้งแล้วก็มันฝรั่งทอดหรือ การผสมผสานที่ดี ข้าว่ามันจะดียิ่งขึ้นถ้าข้าสามารถกินขนมปังคู่กับแยมมะพร้าว"

"เข้าใจแล้วค่ะ ข้าจะไปเตรียมแยมให้ท่าน"

อลิซตอบอย่างสุภาพ

แองเจเล่เดินลงบันไดและนั่งบนโซฟา

แนนซี่รอเงียบๆข้างโซฟา

"นายท่าน มีจดหมายส่งมาให้ท่าน" เธอยื่นกระบอกไม้สีดำให้แองเจเล่

"จดหมายของข้าหรือ ในที่สุดมันก็มาถึง..." แองเจเล่สงสัยชั่วครู่และตระหนักว่ามันมาจากไหน

ประมาณหนึ่งปีก่อนเขาได้ส่งจดหมายหลายฉบับไปเมืองเลนน่อน

พวกมันถูกส่งไปให้เทีย ฮาร์แลนด์และไทนอส มีคนเพียงสามคนที่เขาสื่อสารด้วยมากที่สุดในเมือง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไทนอส ชายที่มีใบหน้าที่สวยกว่าผู้หญิงและทิ้งความประทับใจไว้ในจิตใจของแองเจเล่

แองเจเล่เอาผนึกออกและเปิดฝา มีม้วนหนังสีเหลืองไหลออกจากกระบอก

เขาเปิดม้วนอย่างระมัดระวัง คำที่เขียนมันสะอาดและมีสไตล์

'ถึงอาจารย์สุดที่รักของข้าแองเจเล่ จากเทีย ริโอ'

มันเป็นคำทักทาย

'หลังจากที่ท่านออกจากเมืองโรคระบาดที่ร้ายแรงก็มาถึง ผู้คนขอร้องให้พระเจ้ารักษาพวกเขา มีกองศพถูกเผาเป็นขี้เถ้าทุกวันบนถนน สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ แกรนด์อัศวินฮาร์แลนด์ได้ตอบรับคำเรียกของจักรวรรดิและเข้าร่วมสงครามกับผู้บุกรุกดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลามาช่วยเมือง อัศวินไทนอสและข้าได้วางแผนที่จะออกจากเมือง

อย่างไรก็ตาม ทางตอนใต้ของจักรวรรดิกำลังทุกข์ทรมานจากโรคระบาดและเราไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากพื้นที่ ข้าหวังว่าท่านจะอยู่ที่นี่ ข้ามั่นใจว่าท่านสามารถช่วยทุกคนในเมืองได้ แม้แต่เจ้าเมืองของเมืองเลนน่อนก็ถูกฆ่าตายจากโรคระบาด

ต่อมาฮาร์แลนด์ได้รับคำสั่งให้เฝ้าชายแดนเหนือ ข้าไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเร็วๆนี้ กษัตริย์ให้ดินแดนขนาดใหญ่ที่นั่นแก่เขา

ไทนอสเกือบถูกฆ่าตายจากการลอบสังหาร การเมืองกำลังทำลายเมืองเนื่องจากไม่มีใครรับผิดชอบ แม้ว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ที่ดีที่สุดแต่ดวงตาของเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บและเขาไม่สามารถมองเห็นแสงได้อีกครั้ง ข้าถูกขอให้ช่วยปกป้องเมืองตั้งแต่ที่ไทนอสไม่สามารถสู้ได้อีกต่อไป

อา ยังไงก็ตาม ช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดก็ได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ข้ากำลังนั่งอยู่ในห้องอุ่นๆเขียนจดหมายนี้ให้ท่านและข้าได้อ่านจดหมายที่ท่านส่งให้ไทนอสให้เขาฟัง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มีผ้าห่มสีแดงกำลังคิดอะไรบางอย่าง

ตอนนี้ไทนอสเป็นเจ้าเมืองของเมืองเลนน่อน เขาบอกว่าเขาคิดถึงวันที่ท่านยังอยู่ที่นี่ เรามีความสุขมากที่ท่านส่งจดหมายถึงเรา

นอกจากนี้หลังจากที่ฝึกมานานหลายปีข้าก็ได้กลายเป็นอัศวิน ท่านจะประหลาดใจที่ได้เห็นว่าข้าก้าวหน้าแค่ไหนในครั้งต่อไปที่ท่านมาเยี่ยม เมล็ดพันธ์พลังงานชีวิตที่ท่านปลูกในร่างกายของข้ามันแข็งแกร่งกว่าเมล็ดที่อัศวินคนอื่นมี

ข้าขอให้คนงานทำความสะอาดคฤหาสน์ที่ท่านซื้อ ข้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนับตั้งแต่ที่ท่านจากไป ได้โปรดจ่ายเงินให้เราเมื่อท่านมีเวลา...

ข้ากำลังฝึกเด็กในเมืองเมื่อไม่นานมานี้และบางคนก็มีความอดทนในการฝึกหนัก พวกเขาเหมือนข้า....ถ้าไม่มีท่านข้าก็อาจจะยังคงทำงานอยู่ที่บ้านแพนเค้ก

ไทนอสโทษข้าสำหรับการพูดเหมือนหญิงชราอีกครั้ง.....เขาไม่เคยปฏิบัติกับข้าเหมือนเด็กสาว

โอ้ ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่างต้นไม้ในป่าหลายต้นได้ถูกตัดลง....'

จดหมายของเทียยาวมากกว่าหนึ่งหมื่นคำและเธอเกือบจะระบุทุกอย่างที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ที่แองเจเล่จากไป

แองเจเล่อ่านจดหมายหลายครั้ง มีรอยยิ้มที่ผ่อนคลายปรากฏบนใบหน้าของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด