ตอนที่ 13 ผมยังไม่ได้ลงทะเบียนเลย
หลิน ฮวง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงแรมหลังจากที่พวกเขาออกมา
ด้วยประสบการณ์กับโรงแรมหรูด้านหลังพวกเขา ทั้งสองไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักเมื่อพวกเขากลับบ้าน แต่ทว่า ทันทีที่พวกเขาเดินมาถึงทางเข้าบ้านพวกเขา ทั้งคู่กลับตกตะลึงในสิ่งที่พวกเขาได้เห็น
“พี่คะ นี่คือบ้านของเรา?”หลิน ซิน พูดขณะที่เธอดึงแขนของหลิน ฮวง อย่างไม่แน่ใจกับภาพตรงหน้าพวกเขา
หลิน ฮวงเองก็เช่นกัน เขาตกตะลึงกับบ้านที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเพราะมันต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
จากบ้านเล็กๆ บังกะโลขนาดสองชั้น ตอนนี้มันกลายเป็นวิลล่าหรูสามชั้น มีสวนที่เปิดโล่งอยู่ชั้นบนสุดในตอนนี้ และดอกไม้หลายชนิดที่วางเรียงรายทั่วระเบียง
เมื่อมองไปยังบ้านเลขที่ที่ยังคงเป็นเลข23 หลิน ฮวง ก็ยืนยันว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านใหม่ของพวกเขา พวกเขามิอาจรับรู้ได้ว่าบ้านของพวกเขาจะถูกปรับปรุงใหม่ในลักษณะเช่นนี้
พวกเขาป้อนรหัสผ่านของพวกเขาที่ประตูและเข้าไปในบ้าน
โครงสร้างส่วนใหญ่ของบ้านยังคงเดิม แต่ส่วนที่เหลือมันแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
พื้นกระเบี้ยงหินขัดในตอนแรก ตอนนี้มันกลายเป็นไม้ซึ่งดูจะมีราคาแพงอย่างมาก
โคมไฟที่แขวนอยุ่บนเพดานตอนนี้มันกลับเป็นโคมระย้าที่หรูหรา
ตู้ในห้องครัวเองก็กลายเป็นของใหม่ทั้งสิ้น และชุดอุปกรณ์ต่างๆก็ถูกจัดเรียงอยู่ในลิ้นชักอย่างเป็นระเบียบ
มีพรมที่ดูเหมือนจะทำจากหนังมอนสเตอร์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
แม้กระทั่งโซฟา เก้าอี้และโต๊ะอาหารเองก็ใหม่เอี่ยมเช่นกัน โถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเองก็เปลี่ยนใหม่เช่นกัน
นอกจากนี้ ความประหลาดใจยังคงดำเนินต่อไปเมื่อพวกเขาขึ้นไปที่ชั้นสอง ห้องของพวกเขาที่มีไว้สำหรับสองคน ตอนนี้มันกลายเป็นห้องเดี่ยว ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึงสองเท่าและระเบียงที่ใหญ่กว่าเดิมสามเท่า
ชั้นสามที่ถูกเพิ่มเข้ามานั้นได้รับการออกแบบให้เป็นห้องนอน ด้วยเตียงขนาดใหญ่และห้องน้ำในตัว
ด้านบนของชั้นสามเป็นสวนกลางแจ้งที่มองเห็นได้จากประตูทางเข้า
ไม่เพียงแต่จะมีดอกไม้ มันยังมีเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งซึ่งประกอบด้วยร่มลานระเบียง โต๊ะหวาย และเก้าอี้ ตลอดจนถึงเปลญวน
หลิน ฮวง รู้ดีว่าการปรับปรุงครั้งนี้มันมีราคาที่แพงกว่าบ้านเขาสองหรือสามหลังรวมกัน ตอนนี้ เขาคิดเกี่ยวกับมัน มันช่างแปลกจริงๆ จากนั้น เขาก็โทรหาชายวันกลางคนทันที
ในไม่ช้า ชายคนนั้นก็รับสายเขาและหัวเราะ“คุณหลิน คุณพอใจกับการปรับปรุงหรือไม่?”
“ในเมืองนี้ พวกเราไม่ได้เป็นคนเดียวที่ถูกมอนสเตอร์บุกรุกและทำลายทรัพย์สิน ฉันเคยเห็นการปรับปรุงในบ้านอื่นมาก่อนและไม่มีใครได้รับสิทธิพิเศษเช่นบ้านของเราเลย ไม่เพียงแต่เราจะได้รับเฟอร์นิเจอร์ใหม่ พวกเรายังได้รับการเสริมชั้นบ้าน!นี่มันบ้าบอสิ้นดี จริงๆแล้วคุณคือใคร?เจตนาของคุณคืออะไรกันแน่?”หลิน ฮวง ถาม ความคิดของเขาพันยุ่งเหยิงด้วยความคิดที่ว่ากรณีเช่นนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
“แน่นอน คุณคือเพื่อนของท่านหลี่ พวกเราจะต้องทำอย่างดีที่สุดเพื่อคุณ”ชายวัยกลางคนตอบ เขาเปิดเผยความจริงที่ว่าเขารู้จักกับหลี่ หลาง
“ท่านหลี่?หลินฮวงตะลึง”คุณหมายถึงหลี่ หลาง?”เขาพูดต่อ
“ใช่ นั่นคือท่านหลี่ เขาคือคนที่ส่งรายงานความเสียหายของคุณ มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหัวหน้าเรา เมื่อพวกเราได้รายงานถึงงานที่เสร็จสิ้น พวกเราก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ”เขาอธิบาย
“หลี่ หลาง มีสถานะเช่นไรกันแน่?”
“คุณไม่รู้?พ่อของเขาคือหนึ่งในรองประธานของสมาคมนักล่าเขต7 ขณะที่แม่ของเขาคือ1ในสภากลางของเขต7” เขากล่าว มันถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่งสำหรับหลิน ฮวง
เจ้านายของเขาคิดว่าหลิน ฮวง คือเพื่อนของหลี่ หลาง ผ่านการกระทำของเขา พวกเขาจึงต้องการลดช่องว่างระหว่างพวกเขาด้วยผลประโยชน์เพื่อความสัมพันธ์อันดี สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ หลิน ฮวง และหลี่ หลาง พึ่งจะพบกันเป็นครั้งแรก และไม่มีมิตรภาพระหว่างทั้งคู่
แน่นอน หลิน ฮวง ไม่คิดจะบอกพวกเขาเพราะนั่นอาจทำให้เขาต้องจ่ายค่าซ่อมแซมบ้านที่เขามิอาจจ่ายได้
เขาวางสายโทรศัพท์และชะล้างความคิดเขาทั้งหมดเกี่ยวกับการปรับปรุง หลังจากที่มองไปรอบๆบ้านใหม่แล้ว เขาก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการประเมินนักล่าสำรอง
วันนั้นเป็นวันหยุดเรียนสำหรับหลิน ซิน หลังจากที่กินอาหารกลางวันร่วมกัน หลิน ฮวง ก็ได้แลกเปลี่ยนคริสตัลชีวิตที่หลี่ หลางให้เขาเป็นเงิน100000เครดิต
จากนั้นเขาก็ให้20000เครดิตแก่หลิน ซิน และพูด“การประเมินนักล่าสำรองจะใช้เวลาประมาณ10ถึง15วัน น้องต้องดูแลตัวเองนะและใช้เงินได้เลยหากน้องอยากใช้ เมื่อพี่เป็นนักล่า มันจะมีโอกาสมากขึ้นสำหรับพี่ที่จะหาเงินสำหรับเราทั้งคู่”
“คะพี่ พี่ต้องผ่านการะเมินได้แน่ๆ!”หลิน ซิน เชียร์เขา เธอเชื่อมั่นในตัวหลิน ฮวง อย่างมาก
ต่อมาเมื่อพวกเขามาถึงสถานีอินทรีย์ หลิน ฮวง ก็ได้ลูบหัวหลิน ซิน เมื่อพวกเขาต้องอำลากัน จากนั้นเขาก็จ่ายเงินและขึ้นไปบนหลังนกอินทรีย์
หลิน ซิน เฝ้ามองหลิน ฮวง ขึ้นไปบนหลังนกอินทรีย์และรอจนกระทั่งเขาลอยขึ้นไปเหนือเมฆ จากนั้นเธอก็หันหลังไปและออกจากสถานี
บนนกอินทรีย์ หลิน ฮวง รู้สึกทึ่งในความหลากหลายของมอนเสอตณ์ในโลกที่เขาอาศัยอยู่นี้
นกอินทรีย์ตัวนี้มีแขนขาสี่ข้างซึ่งมาจากสายพันธ์แมว ที่กรงเล็บของมันสามารถขยายได้ตามต้องการ
มันมีความสามารถในการกระโดและวิ่งที่น่าตื่นตะลึงเช่นกัน
นอกเหนือจากแขนขาของมัน ส่วนที่เหลือของร่างกายมันก็คล้ายกับแรพเตอร์
มันมีใบหน้าเป็นนกอินทรีย์และปีกคู่ที่กว้างกว่าแปดเมตร
สิ่งมีชีวิตดังกล่าวนั้นไม่เพียงแต่จะมีข้อดีในด้านโครงสร้างร่างกายที่เหนือกว่าเท่านั้น แต่มันยังมีการควบคุมลมที่ทำให้มันกลายเป็นมอนสเตอร์ที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วที่สุด
ไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมา พวกมันถือเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ปวดหัวมามากนัก
เมื่อใดก็ตามที่พวกมันเคลื่อนไหว พวกมันจะเดินทางไปเป็นกลุ่มใหญ่ ด้วยความว่องไวและพลังโจมตีของมัน พวกมันจึงสามารถทำลายเมืองบางส่วนได้อย่างง่ายดาย
โชคดี มนุษย์ได้ปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการต่อสู้ของนกอินทรีย์
เมื่อมันเกิดขึ้น นับตั้งแต่ไม่กี่ร้อยปีก่อนหน้า นกอินทรีย์ก็ได้ถูกจับและถูกควบคุมโดยมนุษย์และกลายเป็นสัตว์ขนส่งที่พบมากที่สุดในโลกปัจจุบัน
นักอินทรีย์ที่หลิน ฮวง ขี่ไม่ใช่นกที่ใหญ่ที่สุด แต่มันมีขดที่ดีที่สุด
ขนบนหน้าท้องมันมีโทนสีทองเล็กน้อย เมื่อเทียบกับนกอื่นๆ มันดูแปลกและดูเหมือนจะถูกให้อาหารอย่างดี
ความเร็วปกติของนกอินทรีย์คือ700กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ความเร็วเต็มที่ ความว่องไวของมันจะทวีคูณ!อย่างไรก็ตาม มันจะบินด้วยความเร็วเต็มที่ก็ต่อเมื่อมันเกี่ยวพันธ์ถึงชีวิตมัน
ภายใต้ความเร็วของการบินและเงื่อนไข มันจะมีการทรมานนกอินทรีย์เพื่อให้มันสามารถทนต่อความเร็วดังกล่าวพร้อมกับมนุษย์ได้ ดังนั้น จึงมีอุปกรณ์ป้องกันพิเศษที่ติดตั้งอยู่บนแผ่นอานซึ่งจะกลายเป็นโล่ป้องกันโปร่งใสซึ่งช่วยป้องกันผู้ขับขี่ในกรณีฉุกเฉิน
นกอินทรีย์ใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงในการบินเจตเขต7101ไปยังเขต7C87
หลิน ฮวง ออกจากสถานีอินทรีย์ เขาก็ได้เปิดแผนที่ในแหวนเขาและเดินไปทางแผนกสมาคมนักล่า
ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็มาถึงแผนก มันมีผู้คนจำนวนมากกำลังรออยู่รอบๆ มันดูราวกับฝูงชนกลุ่มใหญ่กำลังรอดูคอนเสิร์ตเพลงร็อคที่กำลังจะเริ่มต้น ณ ทางเข้าอาคาร!
มันคือฐานที่มั่นระดับC ซึ่งเป็นเมืองระดับกลางที่มีประชากร2-3ล้านคน บางที มันอาจมีนักล่าหลายหมื่นคนอยู่รอบๆ ซึ่งแตกต่างจากเมืองเล็กของเขานัก
หลังจากที่มองรอบๆ หลิน ฮวง ก็เดินไปที่ทางของแผนก เมื่อเขาเข้าไป หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินมาหาเขา
หญิงสาวดูราวกับเธออายุประมาณ20ปี เธอสวมชุดเครื่องแบบของสมาคมนักล่า เธอกล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้มกว้างและพูด“สวัสดีคะ มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ?”
“ผมมาที่นี่เพื่อการประเมินนักล่าสำรอง”หลิน ฮวง ตอบ
“เข้าใจแล้วคะ โปรดตามฉันมา”หญิงสาวยิ้มให้กับหลิน ฮวง อีกครั้ง และพาเขาไปที่ห้องประชุม จากนั้นเธอก็ทำท่าให้เขาเข้าไป“เข้าไปได้เลยคะ”
“ขอบคุณครับ”หลิน ฮซง พยักหน้าและผลักประตูเข้าไป
เขาถึงกับตะลึงเมื่อมีผู้เข้าร่วมกว่า100คนในห้อง
“มีคนจำนวนมากมาสมัครในวันนี้?เมื่อมองไปยังจำนวนของผู้คนที่สนใจ มันดูเหมือนว่าในวันพรุ่งนี้มันอาจจะมีคนมากถึง1000คน”หลิน ฮซง สงสัยขณะที่เขาพบที่นั่งของเขาในด้านหลัง
ในไม่ช้า มันก็มีคนเข้ามาในห้องเพิ่มขึ้น ชายอ้วนนั่งที่ด้านซ้ายของเขาพร้อมกับเว้นที่ว่างระหว่างพวกเขา
ชายอ้วนนั้นเป็นมิตรอย่างมาก เขากระซิบกับหลิน ฮวง ด้วยรอยยิ้ม“มันน่ากลัวมากที่นายสามารถผ่านรอบแรกมาได้เมื่อนายยังไม่ถึงแม้กระทั่งระดับเหล็ก พี่ชาย นายใช้เส้นสายงั้นรึ?”
“รอบแรก?นายหมายความว่าทุกคนได้ลงทะเบียนสมัครกันหมดแล้ว?”หลิน ฮวง มองไปที่ชายอ้วนอย่างไม่เชื่อ
“แน่นอน ไม่งั้นพวกเราจะรู้ได้ไงว่าวันนี้เวลาบ่าย2 จะมีการอธิบายเนื้อหาและเกณฑ์การประเมินจากผู้คุม?”
ชายอ้วนคิดถึงคำถามของหลิน ฮวง ด้วยความแปลกใจ จากนั้นเขาก็มองมาที่เขาด้วยดวงตาที่สงสัย “อย่าบอกนะว่านายเข้ามาที่นี่โดยไม่ลงทะเบียน?”เขาถาม
“เอ่อ...”ก่อนที่หลิน ฮวง จะได้ตอบเขา หญิงสาวที่ใส่ส้นสูงก็ได้เดินขึ้นไปที่แท่นพูด
ห้องประชุมที่ส่งเสียงดังจู่ๆก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดเมื่อความสนใจของทุกคนถูกดึงไปโดยหญิงสาวบนเวที
เธอเป็นหญิงสาวที่มีพลังอันกล้าแกร่งรอบตัวเธอ เธอไว้ผมหางม้าและสวมกระโปรงสั้นที่เผยให้เห็นขาเรียวยาวอันแสนงดงามของเธอ เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีดำที่มีความสูงประมาณ20เซนติเมตร
เธอนั้นสูงอย่างน้อย1.7เมตร และบวกกับรองเท้าส้นสูงของเธอ มันทำให้เธอสูงเกือบ2เมตร และทุกคนในห้องประชุมก็ตกอยู่ภายใต้เธอ
ถึงแม้ว่าสิ่งที่น่าดึงดูดที่สุดเกี่ยวกับเธอจะไม่ใช่ความสูง แต่หน้าอกของเธอนั้นมันถูกซ่อนไว้ภายใต้เสื้อเชิ้ตติดกระดุมของเธอ นั่นจึงทำให้หน้าอกหน้าใจของเธอไม่ได้เผยออกมาเลย แต่การสั่นไหวของพวกมันระหว่างที่เธอเดินันก็พอที่จะทำให้ชายทุกคนในห้องประชุมน้ำลายหก
หญิงสาวคนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นกระสุนปืนใหญ่
“แม่มด หยี่ เยว่หยู่...”ชายอ้วนกล่าว ขณะที่น้ำลายไหล
มองไปที่พฤติกรรมของเขา หลิน ฮวง นั่งเงียบๆ และหันหน้าหนีเพื่อหลบหลีกน้ำลายที่สาดกระเซ็นของชายอ้วน
หญิงสาวมองไปที่ฝูงชนและหยุดเมื่อดวงตาของเธอสบกับหลิน ฮวง เมื่อเขาเป็นเพียงคนเดียวในห้องที่ยังไม่ถึงระดับเหล็ก เธอไม่ได้พูดอะไร แต่กลับแนะนำตัวเธอเอง
“สวัสดี ฉันคือหยี่ เยว่หยู่ ผู้ตรวจสอบหลักในการประเมินของพวกคุณในวันนี้ มีคนจำนวนทั้งสิ้น133คนที่ผ่านรอบแรก ตอนนี้ มันถึงเวลา4โมงแล้ว มีเพียง127คนที่อยู่ที่นี่ อีก6คนที่ยังไม่ถึงจะถูกตัดสินออก”เธอพูดด้วยเสียงดังและเข้มงวด
“มันจะเป็นการบอกพวกคุณถึงกฏของการประเมินในวันพรุ่งนี้ ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จงฟังให้ดี เมื่อฉันกำลังพูด จงเงียบ หากคุณมีคำถามใดๆ คุณสามารถถามได้หลังจากที่ฉันพูดจบ”เธอกล่าว
“พรุ่งนี้ตอน8โมง... ทุกคนจะมารวมกันที่ห้องนี้ คนที่มาสายจะถูกตัดสิทธิ์ คุณไม่ได้รับอนุญาติให้นำอุปกรณ์ใดๆที่มีระดับมากกว่าเหล็กเข้ามา ห้ามมียาหรือสิ่งของต้องห้ามอื่นๆในช่องเก็บของ ก่อนที่การประเมินจะเริ่ม สิ่งของต้องห้ามทั้งหมดจะถูกยึดชั่วคราว หากพวกคุณไม่เชื่อถือเรา โปรดเก็บไว้กับคนอื่นจนกว่าคุณจะประเมินเสร็จสิ้น”เธอพูดต่อ
“เนื้อหาที่เป็นรูปธรรมของการประเมินจะไม่ถูกเปิดเผยในวันนี้ หลังจากที่ทุกคนมารวมกันในวันพรุ่งนี้ ฉันจะเปิดเผยมัน”เธอกล่าวขณะที่มองไปรอบๆข้อความจากหยี่ เยว่หยู่ นั้นสั้นและหวาน หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็มองไปยังฝูงชนอีกครั้งและถาม“หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ คุณสามารถถามได้แล้ว”
ทุกคนในห้องต่างหันมามองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไร ที่ด้านหลังของห้องประชุม มันกลับมีมือหนึ่งที่ค่อยๆยกขึ้นอย่างช้าๆและ.....มันคือหลิน ฮวง
“คุณมีคำถามอะไร?จงบอกฉัน”เธอถามหลิน ฮวง พร้อมกับลูบคางของเธอ
“อ่อคือ....ผมยังไม่ได้ลงทะเบียนเลย มันไม่สายเกินไปใช่มั้ยที่จะลงทะเบียนตอนนี้?”หลิน ฮวง ถามจากด้านหลังห้อง
ผู้คนกว่า100คนที่อยู่ในห้องต่างขมวดคิ้วแน่นให้กับคำพูดของหลิน ฮวง