MGE.07 - สังหารอัศวินผู้ทรงพลัง
7 – สังหารอัศวินผู้ทรงพลัง
ขณะที่หยางเฟยมองที่ร่างของแบรรี่ที่กำลังขับกระสุนทั้งหกออกมา เขาได้แต่พูดว่า
“น่ากลัวมาก! แม้แต่กระสุนปืนยังเอาออกมาได้!! อัศวินนี่มันอัศจรรย์จริงๆ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงบ่มเพาะพลังยากถึงขนาดนั้น!”
ที่โลก ไม่มีใครที่สามารถทนกระสุนปืนได้ถึง 6 นัดและขับกระสุนออกมาจากร่างกายโดยตรง แบรรี่เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้คนแรกที่หยางเฟยเคยเห็น
อย่างไรก็ตาม แบรรี่ก็ยังคงเป็นอัศวิน ยังมีอีกสามขั้นที่สูงกว่านั้นคือ อัศวินขั้นสูง อัศวินปฐพี อัศวินนภา อัศวินไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่เป็นวอร์ล็อค พวกเขาสามารถเป็นมหาอำนาจที่สามารถยึดครองโลกได้ ขนาดระดับชั้นอัศวินยังมีพลังขนาดนี้ ลองนึกถึงวอร์ล็อคจะมีพลังขนาดไหน ความเข้าใจถึงจุดนี้ทำให้หยางเฟยรู้สึกกลัวต่อโลกใบนี้
ในทวีปทูรันโด ตราบเท่าที่เป็นอัศวินขั้นสูงแล้ว จะเห็นช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างคนธรรมดากับอัศวิน
แบรรี่คำรามด้วยความโกรธ เขาดึงดาบขึ้นมาและพุ่งเข้าหาหยางเฟย
หยางเฟยตอบเสียงเรียบ
“พลดาบ นายไปแลกดาบกับมัน ทำอย่างไรก็ได้ไปเอาหัวของมันมา!”
ชายสวมแว่นกันแดดที่ยืนอยู่ด้านข้างหยางเฟยปรากฏดาบอัลลอยด์สองมือและพุ่งออกไปเหมือนเสือร้าย ในพริบตา พลดาบปรากฏตัวต่อหน้าแบรรี่
แบรรี่ยกดาบใหญ่ขึ้นต้าน
เสียงบาดแก้วหู เสียงของเหล็กกระทบกัน ร่างของแบรรี่ถูกผลักไปด้านหลังอย่างรุนแรง เลือดสดๆไหลออกมาจากใต้ใบหน้าของเขา
“อัศวิน! เป็นไปได้อย่างไร เจ้าไปหาคนระดับอัศวินมาเป็นคนคุ้มกันได้อย่างไร?”
ดวงตาของแบรรี่ช็อกทันที เขาร้องไห้ออกมาโดยไม่ตั้งใจ
การได้รับการสนับสนุนจากอัศวินเป็นเรื่องยากมาก แบรรี่มีชุดเกราะหนักทั้งเซ็ตราคามากกว่า 400 เหรียญทอง นอกจากนี้อัศวินจะได้รับเงินในแต่ละเดือนไม่น้อยกว่า 20 เหรียญทอง และยังมีค่าบำรุงรักษษอาวุธและอุปกรณ์ต่าง เพื่อสนับสนุนอัศวินในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 30 เหรียญทอง โดยพื้นฐาน ไม่มีอัศวินคนใดมารับใช้ลอร์ดอย่างเซี่ยวเจิ้งหรอก
ดวงตาของหยางเฟยเปล่งประกายความตื่นเต้นและพูดเสียงเรียบ
“การโจมตีของหุ่นยนต์ในร่างมนุษย์ มันสุดยอดมาก! ถ้าไม่ติดว่ามีขีดจำกัดของร่างมนุษย์ละก็...”
พลดาบสร้างบาดแผลให้กับแบรรี่ได้ในดาบแรก มันวิ่งขณะที่ถือดาบอัลลอยด์ขนาดใหญ่ พุ่งตรงเข้ามาแบรรี่อีกครั้ง
แบรรี่คำรามออกมาด้วยความโกรธ ร่างของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล เขาเหวี่ยงดาบเข้าต่อกรกับพลดาบอย่างต่อเนื่อง
การระเบิดของพลังลมปราณอย่างต่อเนื่อง แบรรี่แทบไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากคมดาบได้เลย แม้เขาจะอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบ เขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีที่หลากหลายของดาบเล่มนี้ได้เลย
“เข้ามาพร้อมกันเลย! จากนั้นข้าจะยึดเมือง และควักหัวใจมาเซ่นไว้ในสามวัน”
ดวงตาของหัวหน้ากลุ่มโจรลมดำมีประกายความโหดร้ายขึ้นพร้อมกับเสียงคำราม
“ตาย!”
“ตาย!!”
ในสายตาของสมาชิกทั้ง 100 คนเห็นเลือดสาดกระจายเมื่อพวกเขากำลังคว้าเชือกและปีนขึ้นไป
หยางเฟยเหลือบมองไปยังกลุ่มโจรลมดำ เขามองด้วยสายตาเย็นเฉียบ
“พลปืน ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”
ด้วยปืนกลหนักขนาด 12.5 มม.และกระสุนจำนวนมาก พลปืนได้เดินมาถึงกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปลวไฟกระจายออกมาจากปากประบอกปืนกลหนักขนาด 12.5 มม.ที่อยู่ในมือ
เสียงดังสนั่นของปืนกลหนักที่ฉีกกระชากเสื้อเกราะของกลุ่มโจร
โจรคนหนึ่งถูกกระสุนยิงเข้าที่หัวด้วยกระสุนขนาด 12.5 มม. ศีรษะของเขาเปิดออกมาเหมือนกับแตงโม
โจรอีกคนหนึ่งถูกยิงเข้าที่ไหล่ แขนของเขาขาดสะบั้นในทันที
โจรอีกคนหนึ่งถูกยิงที่หน้าอก เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่หน้าอกทันที
การเผชิญหน้ากับห่ากระสุนจำนวนมาก ทำให้เหล่าโจรไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย เลือดสาดกระจายไปทุกหนทุกแห่ง จำนวนศพเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
“หัวหน้า! ถอยเร็ว!!” รองหัวหน้ากลุ่มโจรลมดำมองเห็นลูกน้องตกตายจากห่ากระสุน จึงเกิดความโกรธและเปล่งเสียงพูดออกมา
วินาทีต่อมา กระสุนปืนจำนวนมากเจาะเข้าร่างของรองหัวหน้า ถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ
ในเวลาไม่ถึง 3 นาที กลุ่มโจรลมดำที่เคยบุกยึดครองเมืองไจแอนท์สโตนถูกสังหารตายกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อจำนวนมาก
การต่อต้านห่ากระสุนโดยการใช้โล่มนุษย์ถือเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณ
“เซี่ยวเจิ้ง เจ้าสารเลว เจ้าเอาชีวิตพี่น้องข้า!!”
ดวงตาของแบรรี่เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ
หยางเฟยตอบเสียงเรียบ
“สุนัขเลวก็เหมือนโจร ยังรู้จักภักดีต่อผู้อื่น พลปืน ยิง!!”
พลปืนเล็งปืนกลหนักมาทางแบรรี่
เสียงของกระสุนปืนดังขึ้นอีกครั้ง
กระสุนของปืนกลหนักสามารถเจาะเกราะผ่านชุดเกราะหนักของแบรรี่ได้อย่างง่ายดาย ร่างกายท่อนล่างหายไปพร้อมกับคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนทั่วทุกแห่ง
พลดาบเห็นโอกาส ก้าวเข้าไปและตวัดดาบอัลลอยด์ขนาดใหญ่ลงไปที่หัวของแบรรี่
นักรบที่ยืนอยู่บนกำแพงปราสาทเหมือนกับคนบ้า ฉากตรงหน้าทำให้เขาเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน ปีศาจหรือพระเจ้าเฉกเช่นแบรรี่นั้นเรียกได้ว่าหาจับตัวได้ยาก ถูกฆ่าได้อย่างง่ายดายโดยคนคุ้มกันทั้งสองของหยางเฟย สมาชิกของกลุ่มโจรลมดำเหลือเพียงเศษชิ้นเนื้ออย่างไม่น่าเชื่อ
ผู้จัดการหลิวกระพริบตามอง เขาพูดออกมาเสียงสั่น
“วอร์ล็อค วอร์ล็อคอัลเคมิสต์ นายท่าน ท่านได้รับพลังของวอร์ล็อคอัลเคมิสต์?”
เหล่านักรบที่ยืนอยู่บนกำแพงมองหยางเฟยด้วยความกลัวและนับถือ
วอร์ล็อคเป็นจุดสูงสุดของทวีปทูรันโด พลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ แม้แต่กษัตริย์เฟอร์นานโด้เห็นวอร์ล็อคระดับ 1 เขายังต้องนอบน้อม เพียงแค่ความสามารถของวอร์ล็อคเพียงพอที่จะล้มกลุ่มโจรลมดำลงอย่างง่ายได้
หยางเฟยกล่าวอย่างเรียบง่าย
“ใช่แล้ว ข้าได้รับพลังของวอร์ล็อคอัลเคมิสต์”
“เยี่ยมมาก!! ยอดเยี่ยมไปเลย!! ในที่สุดตระกูลเซี่ยวของเราสามารถเปล่งประกายสู่ความรุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง ดั่งเช่นในอดีต”
ใบหน้าของพ่อบ้านหลิวมีน้ำตาสีขุ่นไหลออกมาจากดวงตาขณะที่เขาพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
ส่วนนักรบที่เหลือของเมืองออทั่มลีฟต่างตะโกนดีใจ เนื่องจากเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของวอร์ล็อค ที่จะนำไปสู่อนาคตที่สดใส
หยางเฟยเดินมาพร้อมกับพลดาบที่ถือหัวของแบรรี่ตรงมาหา Nr.3796 ที่อยู่ในโรงงาน
เมื่อมาถึงหยางเฟยส่งหัวให้กับ Nr.3796 เพื่ออ่านความทรงจำ
ไม่นานหลังจากนั้นความทรงจำของแบรรี่ทีละเรื่องเริ่มไหลเข้ามาปรากฏในหัวของเขาทีละฉาก ทำให้หยางเฟยเริ่มรู้ตื้นลึกของเรื่องที่เกิดขึ้น
กลุ่มโจรลมดำที่แท้คือเมืองทรีเมาท์เทน (เพื่อนบ้านของไจแอนท์สโตน) เป็นของขุนนางชั้นสูง เอิร์ลล็อกกี้และวิสเค้าท์ฮารเลย์ ทั้งสองเป็นศัตรูคู้แค้นกัน
เมืองออทั่มลีฟที่กำลังจะเปลี่ยนมือไปเป็นบารอนไครอฟจากการที่หยางเฟยเข้าไปยืมเงินจำนวนมากมาจากเขา การเข้ามาของบารอนไครอฟทำให้อำนาจของบารอนไครอฟเพิ่มมากขึ้น เอิร์ลล็อกกี้จึงส่งกลุ่มโจรลมดำเข้ามาหมายจะสังหารตระกูลเซี่ยว ถ้าตระกูลเซี่ยวถูกำจัด ความได้เปรียบจะมาตกอยู่ที่เอิร์ลล็อกกี้ ที่สามารถใช้วิธีการต่างในการยึดครองพื้นที่และส่งผลต่อการเข้ายึดพื้นที่ของวิสเค้าท์ฮารเลย์
“ศัตรูของศัตรูของฉัน ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนเสมอไป จุดอ่อนคือตราบาป พลังคือความจริง!”
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
***********************