ตอนที่ 31 คู่ซ้อม
'ไม่เป็นไรแค่สู้กับเธอ เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง' หนาเซิ่นคิดในใจ
หานเซิ่นรู้ว่าซินเสวียนจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ ไม่ว่าเขาจะพยายามอดทนยังไง ดังนั้นเขาจะไม่ยอมทนอีกต่อไป เขาเกือบจะเชี่ยวชาญวิชาปีศาจพันธนาการแล้ว และมันคงจะดีไม่น้อย ถ้าได้ลองฝึกใช้กับเธอ
เมื่อหานเซิ่นยืนอยู่ต่อหน้าซินเสวียนในชุดต่อสู้ เธอไม่ปล่อยให้หานเซิ่นมีเวลาได้ตั้งตัว เธอเปิดฉากเตะไปที่ขาของเขา
สำหรับหานเซิ่นที่ถนัดลอบโจมตี ตราบใดที่เขาไม่มีจังหวะให้ลอบโจมตี ก็ยากที่เขาจะเอาชนะเธอได้ ดังนั้นซินเสวียนจึงเลือกที่จะเปิดฉากก่อน
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เธอไม่ได้จริงจังกับการต่อสู้มากพอ และไม่ได้คิดว่าหานเซิ่นเป็นคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ เธอแค่ต้องการจะสั่งสอนเขา และเล่นงานเขาเพื่อระบายความแค้นเท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงใช้แรงไปแค่ครึ่งเดียว
ในความคิดของซินเสวียน หานเซิ่นเป็นแค่คนอ่อนหัดคนหนึ่ง ใจจริงเธอก็ไม่ได้อยากจะทำร้ายเขานัก ก็เลยไม่ได้ใส่เต็มแรง
แต่ที่เธอไม่รู้ก็คือ หานเซิ่นนั่นมีจีโนพ้อยเลือดศักดิ์สิทธิ 18 และกำลังฝึกกายหยก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่าเธอ แต่ก็ห่างชั้นกับเธอไม่มากอย่างที่คิด
เมื่อเห็นเธอเตะตัดขามา หานเซิ่นกระโดดถอยหลังออกมา และบิดขาของเธอ จนเธอเสียการทรงตัวแล้วก็ล้มลงไป
หานเซิ่นพุ่งเข้าไปใกล้เธอ และเริ่มล็อคแขน ล็อคขาของเธอทันที จากนั้นก็กดเธอลงกับพื้น จนเธอไม่สามารถขยับไปไหนได้
ซินเสวียนทั้งโกรธ และอับอาย เธอพยายามดิ้นสุดแรง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะวิชาปีศาจพันธนาการของหานเซิ่น ถ้าเธอยิ่งดิ้นแล้วใช้แรงมากขึ้น แขนเธออาจจะหลุดหรือหักได้เลย เธอติดกับดักของหานเซิ่นเข้าเต็มๆ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะถูกเล่นงาน ตั้งแต่เริ่มสู้ได้ไม่นาน เธอแค่ต้องการจะสั่งสอนหานเซิ่น แต่ทุกอย่างผิดพลาด
"หัวหน้าสถานี ผมชนะแล้วใช่ไหม?" หานเซิ่นพูด
"ฉันยังไม่แพ้" ซินเสวียนพูดออกมาด้วยโกรธ และยังไม่ยอมยกธงขาว
ถ้าเป็นคนอื่นเธออาจจะไม่คิดอะไร แต่สำหรับหานเซิ่นเธอจะไม่มีทางยอมแพ้เขา
ซินเสวียนคำราม และเปลี่ยนร่างเป็นสิงโตทอง ที่มีขนาดใหญ่กว่าหานเซิ่น หานเซิ่นรีบเหวี่ยงเธอออกไปทันที แต่สิงโตก็กระโดดเข้ามาตะขบหานเซิ่น
"ผิดกติกา ไหนบอกว่าพวกเราจะไม่ใช้วิญญาณอสูรไง"
หานเซิ่นรีบตะโกนออกมา
ซินเสวียนหยุดอุ้งมือของเธอเอาไว้ก่อนถึงหน้าหานเซิ่น เธอเป็นคนสัญญาไว้ในครั้งที่แล้วว่าจะไม่ใช้วิญญาณอสูร แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ทำให้เธอลืมเรื่องสัญญาจนหมด
"ก็ได้ๆ ไม่ใช้วิญญาณอสูร" ซินเสวียนหน้าแดงด้วยความอับอาย เธอเรียกวิญญาณอสูรกลับไป และเริ่มออกหมัดใส่หานเซิ่น
หานเซิ่นยังไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาปีศาจพันธนาการแบบสมบูรณ์ จี้โนพ้อยกับประสบการณ์ของเขายังด้วยกว่าซินเสวียน ถึงแม้ว่าเขาจะต้านเธอได้ 20 กระบวนท่า แต่เขาก็ยังแพ้เธออยู่ดี
ซินเสวียนไม่พูดอะไร และหันหลังจากไป จริงๆแล้วเธอรู้สึกอับอายเพราะว่าถ้าเธอไม่ใช้วิญญาณอสูร เธอจะไม่สามารถดิ้นหลุดออกจากปีศาจพันธนาการของหานเซิ่นได้
"ผมยังแข็งแกร่งไม่พอ ทั้งจี้โนพ้อย และทักษะการต่อสู้ยังเทียบชั้นกับเธอไม่ได้"
หานเซิ่นรู้ว่าเขาคงไม่สามารถไล่ตาม 1 ใน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสตีลอาเมอร์ได้ทันในเวลาอันสั่น เขาผิดหวังเล็กน้อย จากที่เขาคิดไว้ว่าเขาน่าจะต้านได้สัก 30 กระบวนท่าเป็นอย่างน้อย
หลังจากอาบน้ำเสร็จซินเสวียนยังคงไม่หายจากความรู้สึกอับอาย ที่ต้องเจอกับสถานการณ์ลำบากจากการต่อสู้กับหานเซิ่น ที่เธอคิดว่าอ่อนปวกเปียก
'มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ถึงแม้ว่าเทคนิคในการล็อคคู่ต่อสู้ในระยะประชิดจะไม่ธรรมดา แต่เขาไม่น่าจะเอาเราลงได้ถ้าหากร่างกายของเขาไม่แข็งแกร่งพอ เขามีจีโนพ้อยเท่าไหร่กันนะ?' ซินเสวียนคิดอยู่ในหัว จากนั้นเธอก็รีบดึงข้อมูลที่ถูกรวบรวมไว้ในชุดต่อสู้ของหานเซิ่น
ซินเสวียนกำหมัดแน่น และพูดออกมาอย่างขมขื่น
"ไอ้บ้านั่นต้องมีจีโนพ้อยกลายพันธ์เต็มแล้วอย่างแน่นอน เขากำลังแกล้งทำตัวอ่อนหัดเพื่อหลอกให้เราตายใจ ไอ้โรคจิตนี่ ฉันจะไม่มีทางออมมืออีกต่อไปแล้ว"
จากนั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่หานเซิ่นผ่านไปที่สถานีจะถูกซินเสวียนเรียกไปที่ห้องต่อสู้เสมอ
หานเซิ่นยินดีที่จะถูกบังคับ เพราะวิชาปีศาจพันธนาการต้องการคู่ซ้อมถึงจะได้ฝึกฝนอย่างจริงๆจังๆ และด้วยคู่ซ้อมชั้นดีอย่างซินเสวียน ถ้าเขาไม่ซ้อนกับซินเสวียน เขาอาจจะต้องไปฝึกแบบเสี่ยงชีวิตกับมอนสเตอร์ และมันจะอันตรายกว่าการที่ฝึกกับเธอมาก
และแน่นอน หานเซิ่นคอยระวังไม่ให้เธอรู้ตัวว่าเขากำลังใช้เธอสำหรับฝึกวิชา หานเซิ่นจะพยายามทำอะไรที่เป็นการขัดใจเธอเสมอ ก่อนที่ถูกเรียกมาในห้องต่อสู้