ตอนที่ 2 ทำงาน
ตอนที่ 2 ทำงาน
หลังจากที่เขาได้ขายทุกอย่างที่ได้มาไปกับร้านเกมมือสองแล้ว เซจิก็มีเงินเป็นจำนวนมากจนพอที่จะจ่ายค่าเช่าได้
แต่มันก็เพียงพอสำหรับที่จะค่าเช่าเท่านั้น หลังจากที่เขาจ่ายไป เขาก็มีเงินเหลืออยู่น้อยมาก และถ้าเขาไม่คิดหาทางทำอะไร เขาจะหมดเงินในสามวันหลังจากจ่ายค่าเช่า
แต่เดิม ครอบครัวของเขาได้ให้ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยอย่างพอเพียงสำหรับค่าเช่าและอาหารครึ่งปี แต่ไอ้หมอนี้เสียมันไปในเวลาสองเดือนครึ่ง ไม่ได้คิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันไม่มีเงินซื้ออาหาร!
ถ้าเซจิต้องการที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการกระทำโง่ของคนๆนี้ละก็ เขาสามารถพูดมันได้อย่างไม่รู้จบเป็นเวลาสามวันสามคืนติดต่อกันอีกด้วย... เอาเถอะช่างมันละกัน
เดิมเซจิได้หยุดไปโรงเรียนเป็นเวลานานมากแล้วในระยะเวลาที่ผ่านมา และเซจิเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปโรงเรียนอีกแล้วด้วย ตอนนี้ เขาว่างในทุกๆวัน ดังนั้นเรามาหางานทำกันก่อนดีกว่า แล้วหาเงินที่มากพอจนทำให้เขาไม่หิวตาย
เอาจริงๆ มันก็อยู่หลายวิธีเพื่อที่จะได้เงินจากการเซฟเกมส์และการโหลด แต่เซจิไม่ได้ตั้งใจจะใช้วิธีโกงแบบนั้น เขาไม่ต้องการใช้พลังของเขาเพียงอย่างเดียว
ดังนั้นแล้วสุดท้าย เขาก็ตัดสินใจที่จะหางานทำ แต่ด้วยร่างกายที่อ้วน และไม่มีความสามารถใดๆเลย เขาสามารถทำอะไรได้บ้าง? ถ้าเขาไปที่สถานที่เช่นร้านอาหารแล้วไปหาผู้จัดการปกติคนหนึ่ง เขาอาจจะไม่จ้างเขาก็ได้
เซจิคิดมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็ปิ้งไอเดียขึ้นมา
บริเวณที่อยู่ใกล้ๆถนนมักจะเต็มไปด้วยธุรกิจย่านการค้าและมีร้านค้าจำนวนมากที่ต้องการจ้างคนมายืนแต่งชุดคอสตูม(มาสคอต)ทั้งตัวเพื่อดึงดูดลูกค้า และเซจิรู้สึกเหมือนว่างานนี้จะเหมาะสมกับเขา
เพราะมันจะทำให้ไม่มีใครสามารถเห็นตัวเขาได้ไงละ!
ร่างกายที่อ้วนของเขามีความน่าดึงดูดใจที่ต่ำและปล่อยบรรยากาศอันน่าสยดสยองรอบๆ ตัวเขา ตราบใดที่เขาซ่อนตัวอยู่ชุดคอสตูม ก็ไม่มีปัญหาอะไรนิน่า!
ชุดพวกนี้เต็มไปด้วยความฝันของเด็กๆ ไม่ใช่สิ่งที่โอตาคุอ้วนๆจะใส่มัน! แต่เขาจะได้รับงานนี้จริงๆนะเหรอ?
ในชีวิตก่อนหน้านี้เขาได้ผ่านการทดสอบเพื่อเป็นคนของรัฐบาลมาแล้ว เซจิก็รู้สึกว่าเขาควรจะลองดู แต่ร้านแรก เขาก็ถูกปฏิเสธทันที-ประวัติ(เรซูเม่ resume)ของเขาอยู่ที่ไหน?
แม้แต่งานแบบนี้ต้องการประวัติด้วยเหรอ ...... ดี งั้นเขาจะกลับบ้านแล้วเตรียมตัวมาใหม่
จากนั้นร้านที่สองก็ไม่ได้จ้าง
ร้านที่สามไม่ได้ต่างกัน
ร้านที่สี่......
ในร้านนี้มีเพิ่งจะติดป้ายต้องการจ้างพนักงานคอสตูม!!
และอีกอย่างผู้จัดการร้านนี้ ก็เป็นคนที่สวยเอามากๆด้วย!
"โอ๊ะ! ฉันพึงจะติดป้ายไป ก็มีคนมาสมัครซะแล้ว"
เธอเป็นผู้หญิงที่ดูอายุประมาณสามสิบปีนิดๆ ดูฉลาดหน่อยๆ กับผมหยักสีน้ำตาลเข้มและหน้าอกอันใหญ่บึ้ม เธอแต่งตัวเหมือนสาวออฟฟิศ ด้วยเสื้อผ้าเป็นทางการที่ดูฟิต กระโปรงสั้น ถุงน่องสีดำ รองเท้าส้นสูง พร้อมด้วยร่างกายของเธอที่เต็มไปด้วยยั่วยวน
โดยเฉพาะตอนที่เธอเอามือกอดตรงที่หน้าอกอันใหญ่โตคู่นั้นขึ้นมา-ทำให้หน้าอกของเธอโผล่ออกมาจนเกือบจะทำให้ช่วงล่างของเซจิลุกขึ้นมา
นี้ถ้าเป็นเซจิคนก่อน เขาอาจจะเริ่มลวนลามทางคำพูดกับเธอแล้วก็ได้
เซจิบังคับตัวเองเพื่อควบคุมท่าทางของเขาโดยไม่ให้มีทีท่าเหมือนพวกเลวทราม เพราะถ้าหากมีหลุดออกไปอาจจะทำให้เกิดความรังเกียจอย่างมากก็ได้
ผู้หญิงนั้นหยิบประวัติของเขาขึ้นมา และมองไปที่มันเป็นนาที
"นายยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายอยู่ แล้วทำไมนายถึงมาสมัครงานเต็มเวลาละ?"
หลังจากที่เธอพูดออกมา ก็มีตัวเลือกพวกนี้ปรากฏขึ้น
[A: นี้ไม่ใช่เรื่องของแก ยัยบิช!]
[B: คือมีเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่ทำให้ผมต้องลาออกจากโรงเรียนชั่วคราว และต้องการเงินในตอนนี้นะครับ]
[C: ก็เพราะคุณยังไงละครับ คนสวย!]
เห็นได้ชัดว่าคำตอบที่ถูกต้องคือข้อ B
"ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง ผมจึงเลิกเรียนชั่วคราว... และในตอนนี้ผมต้องใช้เงิน เพราะงั้น ได้โปรดจ้างผมทีเถอะครับ เงินเดือนแรก... จะต่ำกว่าปกติก็ได้ครับ"
เขาเลือกตัวเลือกที่ดูซื่อสัตย์และสุภาพที่สุด และเขาพยายามอย่างมากที่จะขอทำงานด้วยความจริงใจ
* ติ้ง!* [ระดับมิตรภาพเพิ่มขึ้น!]
"อืม... ตามประวัติส่วนตัวของนายแล้ว นายไม่มีประสบการณ์การทำงาน แน่นอน นี้เป็นปัญหาถึงแม้ว่างานนี้จะง่าย แต่ก็ต้องใช้ความอดทนและทักษะในระดับหนึ่งด้วย" เธอถูคางด้วยความลังเลใจ
"ฉันจะให้เงินครึ่งหนึ่งของเงินเดือนปกติในตอนแรก ถ้านายทำผลงานได้ไม่ดี นายจะถูกไล่ออกทันที แต่ถ้าหากนายทำงานได้ดี ฉันจะให้เงินเดือนปกติภายในหนึ่งสัปดาห์ นายจะยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ไหม "
"ยอมรับครับ!" เซจิเห็นด้วยทันที
ดังนั้นแล้วเขาจึงได้งานมา
ชื่อผู้จัดการร้านสาวสวยคนนี้คือ ริกะ อะมามิ (Rika Amami)
ที่นี้เป็นร้านขายขนม-พวกของหวานต่างๆ อย่าง เค้กและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ชุดทางร้านของพวกเขาเป็นลักกี้มาสคอตของอนิเมะที่เป็นที่นิยม และพวกเขาได้รับอนุญาตเพื่อโฆษณามันได้ ดังนั้นชุดพวกนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาด้วยความประณีตซึ่งหมายความว่ามันค่อนข้างเป็นที่นิยมของเด็กๆ หรืแม้แต่วัยรุ่นบางคน
เวลาที่ใช้ทำงานเต็มเวลาคือ 9.00 น. ถึง 12.00 น. และ 14.00 น. ถึง 17.00 น.
หลังจากหนึ่งวันที่ทำงาน เซจิพบว่างานนี้ทำได้ยากกว่าที่เขาคาดไว้
อย่างแรก เป็นเรื่องระบายความร้อนของเขาส่วนใหญ่ เป็นเพราะชุดมันร้อนอบอ้าวมาก แม้ผู้จัดการร้านจะมีน้ำใจให้เขา โดยการใส่น้ำแข็งบางส่วนเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นสักพักเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
นอกจากนั้นยังมีเด็กที่ซนมากกว่าอีกด้วย ดีที่เขาเตรียมไว้แล้ว และเด็กพวกนี้ก็มักจะเตะหรือตีที่ชุดเท่านั้น แม้ว่ามันจะไม่เจ็บ แต่ถ้าเขาไม่ระมัดระวังเขาอาจจะล้มได้และจะเกิดปัญหาใหญ่ได้
การหาเงินนี้มันไม่ง่ายเลยนะเนี่ย...
แม้ว่าเขาจะเหนื่อยมาก แต่เขาต้องอดทนเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงถือว่านี้เป็นการลดน้ำหนักไปในตัว
วันรุ่งขึ้นก่อนที่เซจิจะไปทำงาน เขาได้ไปหามิกะแล้วจ่ายค่าเช่า
มิกะ อุเอะฮาระเธอรู้สึกประหลาดใจกับความเร็วในการจ่ายค่าเช่าของเขา นอกจากนี้สัญชาตญาณของเธอบอกว่าเจ้าอ้วนข้างหน้าเธอนี้ดูแตกต่างไปจากโอตาคุอ้วนเดิมนั้นเล็กน้อย
เขาได้สะท้อนเห็นถึงความรู้สึกนี้และเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองไปจริงๆแล้วนะเหรอ? เธอคิดด้วยความสับสนขณะที่เธอมองเขาจากไป แต่ถึงงั้นเธอก็ลืมเรื่องนี้ไปอย่างรวดเร็ว
ใครสนล่ะ? หลังจากที่เธอได้รับเงินค่าเช่าแล้ว!
เซจิมาถึงตรงเวลากับงานของเขาทุกวัน และเขาก็หยุดกินอาหารว่างหรือพวกอาหารจานด่วน แล้วหันมาซื้อของมาทำอาหารตัวเอง
เพราะตอนที่เขาโสดมา 30 ปี ในชีวิตที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่มีฝีมืออะไร แต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูตัวเองและมันช่วยทำให้เขาประหยัดเงินได้อีก
หลังจากตื่นขึ้นมาและก็นอนอย่างเร็ว ทำงานอย่างหนักและกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
เพียงแค่ใช้ชีวิตปกติแบบนี้ค่าสถานะของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้น!
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
"ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักนะ ฮารุตะคุง"
ในช่วงบ่ายหลังจากที่ทำงานเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างทุกที ผู้จัดการร้านริกะ อะมามิ มอบถ้วยกาแฟเย็นๆให้เขา
นี้เป็นครั้งแรกเลยนะ!
"ขอบคุณครับ ... คุณเองก็ทำงานหนักเหมือนกัน" เซจิหยิบกาแฟขึ้นมาและพบว่ามันมีรสชาติที่อร่อย
"นี้เป็นเงินเดือนของนายของสามวันนี้" ด้วยรอยยิ้มผู้จัดการร้านงสาวสวยนี้ได้ให้ซองแก่เขา
เซจิลองเปิดมันดู
"มันดูเหมือนเพิ่มขึ้นนิดหน่อยนะครับ"
"นั้นเป็นรางวัลนะ นายทำดีกว่าที่ฉันคิดไว้ นายสมควรได้รับมัน"
"ขอบคุณครับ... " เซจิรับเงินด้วยความขอบคุณ
"ฮารุตะคุง ฉันไม่รู้สึกว่ามันเหมาะที่จะถามมาก่อน แต่ที่จริงฉันอยากรู้มากกว่าทำไมนายถึงทิ้งโรงเรียนไป?"
"นี้... " เซจิหัวเราะเบา ๆ "ก็เพราะ... อืม.. ตอนนั้นผมทำตัวแย่มากที่โรงเรียน"
"ฉันคิดว่าฮารุตะคุงจะเป็นเด็กดี ที่ขยันและสุภาพซะอีก" ริกะเบิกตากว้าง
"นั่นเป็นเพราะผมได้เข้าใจถึงการกระทำของผมดีแล้ว และตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ว่าการกระทำของผมในอดีตก็ไม่ได้หายไป"
"ฮ่าๆๆ นายเป็นแค่นักเรียนเองนะ แต่ดูเหมือนว่านายจะมีเรื่องราวยากลำบากค่อนข้างมากเลยนิน่า"
"มันไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นนักเรียนหรือเปล่า แต่นี้เป็นเรื่องเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างหาก" เซจิตอบเบา ๆ
นี้ไม่ใช่ตัวเลือกของระบบ แต่มันเป็นสามัญสำนึกของเขา
"มันไม่มีกับอะไรเกี่ยวทั้งนั้น ไม่ว่าจะชายหรือหญิง อายุน้อยหรืออายุมาก ทุกคนล้วนมีชีวิตเหมือนกันหมด คุณอาจไม่ได้รับอะไรเลยสำหรับความพยายาม แต่ถ้าคุณไม่ลองทำอะไรเลยและยอมแพ้กับทุกอย่างในชีวิตแล้ว นั้นหมายความว่าคุณได้แพ้ให้ชีวิตแบบนั้นแล้ว "
ความคิดนี้ได้โยงไปยังที่ริกะ คำพูดที่เขาพูดออกมาเบาๆ ดูเหมือนจะมีปรัชญาลึกซึ้งแฝงอยู่ในคำพูดพวกนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ออกมาจากพวกหนุ่มสาว
* ตึ้ง! * [คะแนนความชื่นชอบของคุณเพิ่มขึ้น]
เซจิเหลือบไปที่ระบบ ขณะกำลังจิบกาแฟ แล้วเกือบจะสำสักกาแฟออกมา
เพียงแค่ประโยคเดียวที่เขาได้รับคะแนนความพึงพอใจถึง 10 กับผู้จัดการร้านคนสวยนี้แล้ว!?
เขาทำงานหนักที่สุดตลอดทั้งสัปดาห์และในที่สุดเขาได้รับคะแนนความพึงพอใจตั้ง 10 คะแนน!
คำที่เขาพูด มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้จะรู้สึกอย่างไร
ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับคะแนน 10 คะแนนขณะนี้ผู้จัดการร้านจึงมองว่าเขาเป็น "เพื่อน" แล้วในระบบซึ่งหมายความ ริกะ อะมามิไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาในฐานะพนักงานเพียงอย่างเดียวแล้ว
แม้ว่าเซจิรู้สึกว่ามันเยี่ยมยอด แต่มันก็มีความสำคัญไม่มากนักเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะจีบผู้จัดการร้านคนนี้
หลังจากดื่มกาแฟหมดแล้ว เขาก็ขอตัวออกไป
เซจิก็ซื้อส่วนของบางอย่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับบ้าน
ท้องฟ้ามืดลงและอากาศก็เริ่มชื้นเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่าฝนกำลังจะตกดังนั้นเขาจึงเพิ่มความเร็วขึ้น
เมื่อเขาเกือบจะถึงที่อพาร์ตเมนต์ของเขา เขาก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ
"ทำไมเธอถึงปฏิเสธฉันล่ะ ห่ะ!?"
"ปล่อยได้แล้ว อย่ามาพูดมั่วๆ!"
เสียงที่สองฟังดูคล้ายเด็กผู้หญิงที่เขารู้จักและความคิดก็พรวดขึ้นไปในจิตใจของเซจิดังนั้นเขาจึงเซฟไว้ในระบบอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็เดินตามเสียงและเห็นนักเรียนที่มีผมสีบลอนด์ที่สวมเครื่องแบบนักเรียนแบบตะวันตกกำลังผลักดันลูกสาวของเจ้าของบ้านเข้ากับผนังและตบหน้าเธอขณะที่พูดอย่างโกรธเกรี้ยว
"แกทำให้ฉันเสียหน้ารู้ไหม ยัย**** นี้มันเป็นเกียรติของแกแล้วที่ฉันต้องการแก! ยัย***ควรอยู่รอบๆตัวฉันทุกที่เพื่อให้ฉันมีความสุข ถึงแม้ฉันจะไม่สนใจที่ต้องการให้แกเป็นแฟนของฉันจริงๆ แต่แกกล้าปฏิเสธฉันต่อหน้าทุกคน เพราะแกเลยทำให้ฉันขายหน้าต่อทุกคน! "
ภายใต้ผมสีบลอนด์นั้น มิกะ อุเอะฮาระกำลังดิ้นรนขัดขืนย่างสุดกำลัง แก้มของเธอตอนี้นั้นมีแผลและมีเลือดไหลจากการถูกตบ
"หยุดนะ... ฉันไม่ได้... " เธอพยายามจะตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่นักเรียนผมบลอนด์นั้นเอามือปิดปากของเธอไว้
"แกยังจะบอกว่า แกไม่ได้พูดแบบนั้นนะเหรอ... "
*ตุบ! *
เสียงเท้าของผมที่เตะเข้าที่หัว
เซจิแอบย่องเข้าไปข้างหลังของนายผมบลอนด์นั้นจากด้านหลังแล้วเตะจากด้านหลังเข้าที่หัวของหมอนั้นทำให้นายผมบลอนด์นั้นล้มลงทันที
มิกะ อุเอะฮาระรู้สึกประหลาดใจทันทีที่นายผมบลอนด์นั้นล้มลงกับพื้นอย่างจัง แต่แล้วเธอก็สังเกตเห็นร่างใหญ่ข้างหน้าของเธอ
"คุณสบายดีมั้ย คุณอุเอะฮาระ?" เซจิเอื้อมมือไปหาเธอ
มิกะ อุเอะฮาระจ้องที่เขาด้วยความตกใจ
"แกไอ้เวรนี้... แกกล้าทำร้ายฉัน... " ถึงยังงั้น คนผมบลอนด์พึงจะสนใจหลังจากที่โดนเตะอย่างหนัก และเขาพยายามที่จะลุกขึ้นมา
*ตุบ! *
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมเตะอย่างโหดเหี้ยม
ด้วยการแสดงออกที่เย็นชาของเซจิ เตะไปตรงช่างล่างของชายผมบลอนด์นั้นอย่างแม่นยำ
ดูเหมือนตาของชายผมบลอนด์เหมือนจะจะพุ่งออกมา ตามด้วยเสียงร้องแปลกๆ ขณะที่เขากำลังล้มตัวลงไปนอนที่ตำแหน่งเดิมบนพื้นดิน แล้วชักกระตุกไปรอบๆ เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่สามารถยืนขึ้นมาได้อีกแล้ว
"ลุกขึ้นเถอะครับ คุณอุเอะฮาระ คุณต้องการโทรหาตำรวจไหม?" เซจิพูดขึ้นอีกครั้ง
เขาไม่ได้ด่าหรือว่าทำร้ายอย่างรุนแรงกับชายผมบลอนด์นั้น แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ สิ่งที่เขาต้องทำ ก็แค่โหลดเซฟเกมส์อีกครั้ง
บางทีอาจเป็นเพราะความมั่นใจของเขา เลยทำให้มิกะ อุเอะฮาระรู้สึกปลอดภัยดังนั้นเธอจึงดึงมือใหญ่ๆของเขาและปล่อยให้เขาดึงเธอขึ้น
"แก ... แกไอ้เวรนี้ แกไม่รู้รึไงว่าฉันเป็นใคร ... "ชายผมบลอนด์นั้นจ้องมองเขาด้วยแววตาโหดเหี้ยม
"ก็แค่พวกอันธพาลที่ทั่วไปไง" แต่หมอนั้นคิดว่าการที่กำลังเขาข่มขู่ผมจะทำให้ มิกะรู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นผมจึงพูดไปว่า "คุณอุเอะฮาระครับ โทรหาตำรวจให้ที"
"มะ... ไม่จำเป็นหรอก... " มิกะ อูเอะฮาระลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นว่า "เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันเอง ... "
การปล่อยเขาไปไม่ใช่วิธีที่ดี เซจิมองไปที่ท่าทางที่ดูมุ่งร้ายบนใบหน้าของชายผมบลอนด์ตรงหน้านี้ และเชื่อว่าจะมีปัญหาตามมาอีกแน่ในตอนเดินมาที่ถนน แต่เนื่องจากเหยื่อได้พูดออกมาแบบนี้แล้ว เธอต้องกำลังกังวนเกี่ยวกับเรื่องอื่นอยู่แน่
อืม ถ้าพวกเขาไม่ได้โทรหาตำรวจก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่แบบโง่ๆ เซจิรีบดึงแขนของอุเอะฮาระออกจากตำแหน่งนี้ทันที
อพาร์ตเมนต์นั้นไม่ได้ไกลจากที่นี้และมิกะอาศัยอยู่ที่ชั้นแรกเพราะเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของบ้านนั้น
เซจิพาเธอไปที่ประตูสังเกตเห็นว่าเธอไม่สามารถใส่กุญแจของเธอลงในรูกุญแจได้เพราะมือของเธอสั่นอย่างหนัก
"ผมทำเอง" เซจิหยิบกุญแจออกจากมือและเปิดประตูให้
"แม่ของคุณอยู่ที่ไหน?"
"วันนี้เธอไม่อยู่ที่นี้... " มิกะกล่าวว่าอ่อนแรง
"งั้นให้คุณโทรหาเธอ แล้วดื่มน้ำอุ่นๆตาม คุณควรฟังเพลสักหน่อย เพราะมันอาจจะรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่คุณสงบลงแล้ว" เซจิกล่าว
เมื่อนึกถึงความประทับใจเดิมที่เซจิได้ทำกับเธอไว้แล้ว เขาตัดสินใจที่จะไม่ไปกับเธอและหมุนตัวจากไป
"เดี๋ยวก่อน!"
ทันใดนั้นมิกะก็เรียกเขาไว้
เขาหันกลับไปเห็นท่าทางที่น่าสงสารบนใบหน้าของเธอ และสังเกตเห็นว่าเธอยังคงตัวสั่นอบยู่
"นาย... จะไม่เข้ามาข้างในหน่อยเหรอ?"