TXV – 86 การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว !
TXV – 86 การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว !
เซี่ยเหล่ยยังคงมีพันธะบางอย่างที่ได้มีกับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน นั่นก็คือการผลิตชิ้นส่วนให้กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาแต่ละชิ้นนั้นต้องมีคุณภาพสมกับราคาที่เขาเสนอไปนั่นก็คือที่ดินที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ส่วนหลางสือเหยาสามารถช่วยจัดการคนและรับพนักงานใหม่เข้ามาในบริษัท เธอสามารถจัดการสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเธอเองทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้ภาระของเซี่ยเหล่ยลดลงเป็นอย่างมาก
หลงบิงปรากฏตัวขึ้นมาครั้งหนึ่งและหลังจากนั้นก็ไม่เจอเธออีกเลย เซี่ยเหล่ยพยายามติดต่อเธอหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้ มันไม่ใช่เพราะว่าเขากังวลเรื่องที่เธอเริ่มสืบสวนเขา แต่เขาอยากรู้มากกว่าว่าเธอจะสืบสวนเขาทำไมและสืบสวนไปให้ใคร ?
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วแค่พริบตาเดียวเวลาผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว….
ช่วงเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมาเซี่ยเหล่ยทำงานเกินเวลาของทุกๆวัน เขาสามารถผลิตชิ้นส่วนให้กับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากจูเสี่ยวหงที่อยู่ในเวิกค์ช็อปจนถึงตอนเย็นเป็นคนท้ายๆแล้วก็คงจะมีแต่เซี่ยเหล่ยนี่แหละที่กลับบ้านเป็นคนสุดท้ายของทุกๆวัน…
ช่วงเวลาครึ่งเดือนก็มีใบสั่งซื้อจำนวนมากที่มาจากกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนและเซี่ยเหล่ยสามารถทำมันได้อย่างดีเยี่ยม ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยทำชิ้นส่วนคุณภาพสูงให้กับบูรพาอุตสาหกรรมมันเคยเป็นอดีตไปแล้ว ในครั้งนี้เขาสามารถทำมันได้ดีกว่าเดิมเและมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีกจากที่เคยทำให้บูรพาอุตสาหกรรม....
หลางซือเหยาก็พยายามหาพนักงานเข้ามายังบริษัทของเซี่ยเหล่ย เธอตระเวนไปโรงเรียนเทคนิคหลายหลายแห่งและมีนักเรียนจบการศึกษาเกือบร้อยคนที่สมัครเข้ามา...
แค่นั้นยังไม่พอเธอยังแสวงหาพนักงานที่มีพรสวรรค์ เธอเดินทางไปที่โรงเรียนสอนวิทยาศาสตร์และคณะวิศวกรรมของเมืองห่ายจูเพื่อหานักเรียนที่จบการศึกษาที่มีพรสวรรค์และมีความสามารถ นอกจากนี้เธอยังพูดโน้มน้าวให้นักศึกษาฟังว่างานที่บริษัททำอะไรบ้างให้กับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนซึ่งเป็นบริษัทระดับประเทศชาติ เธอพูดชักชวนนักเรียนสนใจเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้ ซึ่งพวกนักเรียนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันบริษัทให้เดินไปข้างหน้าได้
หลังจากนั้นเพียงครึ่งเดือนรัฐบาลแห่งเมืองห่ายจูได้เปิดการประมูลที่ดินผืนนั้นเพื่อให้นักลงทุนต่างๆมาเข้าร่วมการประมูล
ทั้งเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยามาถึงห้องประชุมด้วยความตื่นเต้น….
ในห้องประชุมแห่งนี้เต็มไปด้วยนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และนักธุรกิจที่ร่ำรวยหลายคน คนเหล่านี้แต่งกายด้วยชุดสูทอย่างหล่อเหลาและมีเลขาที่หน้าตาสวยงามข้างๆพวกเขาทุกคน พวกเขาล้วนแล้วแต่มีรัศมีของความร่ำรวยออกมา….
“ทำไมท่านอวุโสมู๋ยังไม่มาอีกล่ะ ?” ดวงตาของหลางซือเหยากวาดดูไปทั้งห้องประชุมแต่ก็ไม่เจอเขา “เขาจะไม่มาอย่างงั้นหรอ ?” เธอถามอย่างกังวล
เซี่ยเหล่ยไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย “เขาอาจจะติดธุระอยู่หรือไม่ก็รถติด ไม่ต้องห่วงไปหรอกเขาต้องมาอย่างแน่นอน !”
หลางซือเหยายิ้มแบบเก้ๆกังๆพร้อมพูดว่า “นี่มันเป็นเรื่องสำคัญกับพวกเรามากนะ ฉันต้องกังวลกับเรื่องนี้อยู่แล้วพวกเราต้องคิดถึงกรณีที่ผิดพลาดเอาไว้ด้วย”
เซี่ยเหล่ยหัวเราะออกมา “เราต้องกังวลอะไรอีกล่ะ ? สถานะความสัมพันธ์ของพวกเรากับท่านอวุโสมู๋มันก็ชัดเจนอยู่แล้วหนิ”
ทันใดนั้นมีกลุ่มคนเดินเข้ามายังประตูทางเข้าคนเดินนำหน้าคือฮวงยี่หู่และถัดไปเป็นลี่หยู่หลานหลังจากพวกเขาทั้งสองคนเต็มไปด้วยบอดี้การ์ดผู้น่าเกรงขาม ทันทีที่เซี่ยเหล่ยเห็นบอดี้การ์ดเหล่านั้นเขานึกขึ้นได้ทันที พวกนี้เป็นพวกที่คอยปกป้องฮวงยี่หู่ขณะที่เขาอยู่ในบ้าน.....
สายตาของเเซี่ยเหล่ยเพ่งเล็งไปที่เอวของบอดี้การ์ดเหล่านั้นของฮวงยี่หู่ ทุกคนน่าจะมีปืนเหน็บไว้ที่เอว พวกเขาคงทำเรื่องไปยังกรมตำรวจและขออนุญาตให้บอดี้การ์ดเหล่านี้นำปืนเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้….
มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเพราะว่าที่นี่ไม่สามารถนำปืนชนิดใดๆเข้ามาได้ แม้ว่าฮวงยี่หู่มีอำนาจขนาดไหนแต่ก็ไม่มีใครกล้าใช้อำนาจในทางที่ผิดๆต่อหน้ารัฐบาล
ฮวงยี่หู่และลี่หยู่หลานเห็นหน้าเซี่ยเหล่ยแต่พวกเขาก็ไม่สนใจอะไร พวกเขาเดินผ่านหน้าเซี่ยเหล่ยไปราวกับว่าเซี่ยเหล่ยไม่มีตัวตน
“คุณเซี่ย ฟังเอาไว้ดีๆนะ” ลี่หยู่หลานหัวเราะเยาะเย้ย “ฉันไปถามฝ่ายทะเบียนแล้วไม่มีชื่อของประธานเซี่ยวางเงินมัดจำไว้เลยหนิ ?”
ฮวงยี่หู่กล่าวเสริมว่า “ประธาน ? คนที่ไม่สามารถวางเงินมัดจำ 50,000,000 เรียกว่าประธานได้เต็มปากหรอ ?”
“มันก็เป็นความจริงนะ ที่ผมไม่สามารถวางเงินมัดจำมากมายขนาดนั้นได้ แต่นั่นเป็นเพราะว่าผมไม่ทราบวิธีการคดโกงผู้อื่น ผมไม่ได้เรียนรู้วิธีการขูดรีดหรือการขโมยสินทรัพย์ของผู้อื่นจากคุณหนิ ที่จะวางเงินได้มากมายถึง 50,000,000 และจากนั้นก็แสร้งทำตัวเป็นคนดีเพื่อเข้าร่วมการประมูล ?”
บอดี้การ์ดของฮวงยี่หู่เดินเข้ามาใกล้ๆเซี่ยเหล่ย
ฮวงยี่หู่จ้องมองไปที่พวกเขาและสั่งให้พวกเขาทั้ง 4 คนก้าวถอยหลังไป
ฮวงยี่หู่จ้องมองที่เซี่ยเหล่ย “ไอ้เศษสวะ ! ผมจะรอให้คุณมาคุกเข่าต่อหน้าผมอย่าลืมล่ะ หลังจากการประมูลสิ้นสุดลง คุณจะต้องคุกเข่าต่อหน้าผม”
“คุณก็เหมือนกัน อย่าลืมล่ะหลังจากการประมูล ผมจะพาคุณไปที่หลุมฝังศพของเพื่อนผม จากนั้นผมจะให้คุณคุกเข่าและกล่าวขอโทษเขา”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ฮวงยี่หู่หัวเราะเยาะเย้ยออกมาอย่างมีความสุข
หลางซือเหยาพูดว่า “ผู้ชายคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวสำหรับพวกคุณในอนาคต ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีเงินมากมายขนาดพวกคุณแต่เขาไม่เคยดูถูกใคร !”
“ไม่ต้องไปถือสากับคนประเภทนี้หรอก หาที่นั่งกันดีกว่า” เซี่ยเหล่ยกล่าว
เซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาเลือกที่นั่งในมุมหนึ่งเพื่อรอการประมูลเริ่มต้นขึ้นขณะที่รอหลางซือเหยาหยิบเท็ปเล็ตออกมาจากกระเป๋าทำงานของเธอส่วนเซี่ยเหล่ยหยิบสมุดออกมาพร้อมกับปากกา เขาก้มหน้าก้มตาเขียนอย่างขมักเขม้น เขากำลังเขียนอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่ากำลังเขียนอะไร....
มีผู้บริหารมากมายสนทนาอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ถึงแม้ว่าเสียงจะดังมาก แต่เซี่ยเหล่ยและหลางซือไม่ได้สนใจกับเสียงรอบข้างเลยทั้งสองคนจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำเพียงอย่างเดียว
มีช่วงเวลาหนึ่งที่หลางซือเหยาเห็นเซี่ยเหล่ยกับสมุดเล่มเล็กๆที่อยู่ในมือของเขามือของเซี่ยเหล่ยกำลังกวัดแกว่งเขียนอย่างรวดเร็วลงในสมุด จนทำให้เธอสงสัยและเอ่ยถามว่า “คุณเขียนอะไรหน่ะ ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมา “ไม่มีะไรหรอก ผมกำลังฝึกเขียนอะไรบางอย่าง”
“ฝึกเขียน ?” หลางซือเหยามองไปที่ลายมือตวัดๆของเซี่ยเหล่ยด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น “ฉันเห็นลายมือของคุณเขียนออกมาได้ไม่สวยเลย ฉันคิดว่ามันเป็นลายมือเด็กประถมซะอีกคุณพยายามจะทำอะไร ? ฝึกลายมือแบบนี้หน่ะหรอ ?”
เซี่ยเหล่ยแอนตัวไปบยังใบหูของหลางซือเหยาพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “นี่ไม่ใช่ลายมือผม มันเป็นลายมือของคนอื่น”
หลางซือเหยานิ่งไปขณะหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “คุณกำลังเลียนแบบ…..ลายมือของฮวงยี่หู่ ?”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า เขาได้ฝึกฝนการลอกเลียนแบบลายมือของฮวงยี่หู่เป็นเวลาครึ่งเดือน เขาก็สามารถทำสำเนารายมือชื่อของฮวงยี่หู่และเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรและคำอื่นๆในลายมือของฮวงยี่หู่เสมือนว่า ฮวงยี่หู่เขียนเองจริงๆ
“คุณจะทำอะไร ? คุณจะเลียนแบบลยมือของฮวงยี่หู่ไปทำไม ?” หลางซือเหยามองไปที่เซี่ยเหล่ย
“ไม่มีอะไรหรอก ! คุณอย่ากังวลเรื่องนี้ไปเลย” เซี่ยเหล่ยไม่อยากให้หลางซือเหยาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้
“ฉันรู้ว่าคุณอยากแก้แค้นให้กับเพื่อนของคุณแต่คุณต้องระมัดระวังตัวด้วยและก็อย่าทำอะไรผิดกฎหมายล่ะ” หลางซือเหยากล่าว
“ผมมีขอบเขตการกระทำของผม ไม่ต้องกังวลไปหรอก” เซี่ยเหล่ยกล่าว
หลางซือเหยาก็ไม่ได้จู้จี้ถามเซี่ยเหล่ยถึงการลอกเลียนแบบลายมือของฮวงยี่หู่อีก เธอหันแท็บเล็ตในมือของเธอให้เซี่ยเหล่ยดูและพูดว่า “ลองดูนี่สิ นี่คือแผนงานที่ฉันจะจ้างคนงานและคัดเลือกคนงานในช่วงเวลานี้ เราจำเป็นต้องมีผู้ดูแลคนงานเหล่านี้ เรายังต้องมีฝ่ายผลิตภัณฑ์และฉันก็ได้หาพนักงานเพิ่มเข้ามาจากประวัติของพวกเขาที่มีความสามารถด้านนี้จริงๆ แผนการนี้คุณคิดว่าโอเคไหม ?”
เซี่ยเหล่ยมองไปที่แท็บเล็ตสักครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะยิ้มและพูดว่า “ผมเคยบอกคุณไปแล้วหนิ คุณสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ได้เลย”
“คุณไม่กลัวที่ฉันจะโกหกคุณหรอ ?” หลางซือเหยามองไปที่เซี่ยเหล่ย
“พวกเราเป็นครอบครัว เราจะไม่โกหกกันถึงแม้ว่าคุณจะทำผมก็ไม่สนใจมันหรอก” เซี่ยเหล่ยกล่าว
แก้มของหลางซือเหยาเริ่มแดงโดยไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ‘ครอบครัว’ มีความหมายลึกซึ้งมากแต่ละคนสามารถตีความหมายได้หลากหลายรูปแบบ
ในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่พนักงานของรัฐบาลขึ้นไปยังแท่นประมูล เขากำลังทดสอบไมโครโฟนและพูดว่า “ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบการประมูลที่ดินรัฐบาลหรือนี้กำลังจะเริ่มขึ้นให้ทุกคนเตรียมตัวให้เรียบร้อยและปฏิบัติตามกฎการประมูลของเรา”
เสียงในห้องประชุมเงียบลง…..
หลางซือเหยาพยายามมองหามู๋เจียนเฟิง แต่ก็ไม่มีร่องรอยที่เขาจะมาที่นี่เลย
เซี่ยเหล่ยเริ่มสงสัยแล้วคิดว่า ‘พวกเราตกลงกันแล้วนะเมื่อวานนี้ ? มันเป็นไปไม่ได้ที่ท่านมู๋เจียนเฟิงจะผิดคำพูดกับเรา !’
ไม่ว่าเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาจะคิดอย่างไร ประตูทางเข้าของห้องประชุมนี้ก็ยังว่างเปล่าไร้วี่แววของมู๋เจียนเฟิง….
การประมูลที่ดินแห่งนี้กำลังจะเริ่มขึ้นผู้ช่วยของรัฐบาล เขากำลังแสดงรายละเอียดของที่ดินผืนนี้ เพื่อให้ทุกคนในห้องประมูลนี้ได้เห็นว่าที่ดินผืนนี้มีราคามากมายแค่ไหน..
เซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยายังจ้องมองไปที่ประตูห้องประชุมครั้งแล้วครั้งเล่าแต่มู๋เจียนเฟิงก็ยังไม่มาสักที !
ฮวงยี่หู่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาหันไปมองที่เซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาด้วยการดูถูกและกำลังหัวเราะเยาะเย้ย เขากำลังพูดกับตัวเองว่า ‘เซี่ยเหล่ย คุณแพ้แล้วล่ะ’
“ดูเหมือนว่าท่านมู๋ จะไม่ได้มานะเขาโกหกพวกเรา” หลางซือเหยาบ่นพึมพัมออกมา
แต่ก่อนเซี่ยเหล่ยจะบอกเธอว่าไม่ต้องเป็นกังวลไปกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถพูดคำนั้นออกมาได้เพราะความกังวลก็เต็มอยู่ในใจของเขาเหมือนกัน...
ที่ดินหมายเลข 12 มีประมูลไปอย่างรวดเร็วด้วยราคา 120,000,000 หยวน จากนั้นเจ้าหน้าที่พนักงานได้แสดงในรายละเอียดที่ดินหมายเลข 13 และพูดว่า “ตอนนี้เราจะทำการเริ่มประมูลที่ดินหมายเลข 13 ที่ดินผืนนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของถนนริงส์โรส มีเนื้อที่ 20 แปลงล้อมรอบไปด้วยโรงเรียนและมีโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำเลดีมากๆที่ดินผื่นนี้มีมูลค่าประมูลเริ่มต้นที่ 80,000,000”
เมื่อเสียงของผู้ช่วยรัฐบาลสิ้นสุดลง…
ฮวงยี่หู่เป็นเพียงคนที่เดียวที่เสนอราคา “81,000,000” จากนั้นทั้งห้องประชุมเงียบกริบไม่มีใครสู้ราคาของเขาต่อเลยสักคน…
ฮวงยี่หู่และลี่หยู่หลานกำลังจะได้ที่ดินผืนที่เขาต้องการ ?
“มีใครเสนอราคาอีกมั้ย ? ถ้าไม่มีใครเสนอราคาต่อสุภาพบุรุษคนนี้จะได้ที่ดินผืนนี้ไปในราคา 81,000,000 หยวน” ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ร่วมประมูลคนอื่นๆจากนั้นผู้ช่วยรัฐบาลเริ่มนับ “81,000,000 ครั้งที่หนึ่ง 81,000,000 ครั้งที่สอง……..”
“เดี๋ยวก่อน !” ทันใดนั้นมีเสียงชายสูงอายุดังมาจากประตูทางเข้าห้องประชุม
ติดตามตอนต่อไป…..