Chapter 72 - ราชันย์ผีดิบพันปี
Chapter 72 - ราชาผีดิบหนึ่ง 1,000 ปี
ปล. ดาบกลืนโลหิต = ดาบดื่มหิมะ เอาชื่อ ดาบกลืนโลหิต เพราะว่าน่าจะโหดกว่านะ
“เสียงดังอะไรขนาดนี้?”
ฟางเล่ยเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเช็ดเลือดออกจากที่มือขวาของเขา ภาพลักษณ์ปัจจุบันของเขาไม่ต่างจากเด็กเช็กน้ำมูกตัวเอง เขากระพริบตาขณะที่มองไปยังป่าที่มืดมิดและพูดกับตัวเอง: “นายท่านคงไม่เจอกับอันตรายใดๆ?”
“ไม่มีทาง!”
“ควรจะไปดูสักครั้ง!”
ทัดใดหลังจากนั้น...
ฟางเล่ยกำหมัดขึ้นและเริ่มวิ่งไปทางเสียงนั้น.
ด้านหลังของเขาเป็นภูเขาขนาดใหญ่ของศพสัตว์ปีศาจที่ถูกกัดคอมีเลือดมากมายไหลนองไปทั่วพื้น.
สัตว์ร้ายที่อยู่หลังศรีษะทีี่ล้านเลี่ยนของเขาได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
มีเขียวเล็กๆที่ทำให้ภาพมันน่ากลัวขึ้นเป็นอย่างมาก- มันเหมือนกับเทพโบราณที่กำลังเกรี้ยวโกรธ.
-------------
“วูซ~”
“วูซ~”
ลั่วเทียนซ่อนตัวขณะที่กำลังเดินผ่านป่า เขาต้องการที่จะเห็นว่ามันเป็นมอนเตอร์ตัวไหนที่สามารถฆ่าหุ่นเหล็กทั้งสามของเขาได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน.
เขาโกรธอย่างมากเมื่อหุ้นเหล็กทั้งสามของเขาพัง!
เขาคิดเสมอว่าหุ่นเหล็กทั้งสาามคือบอทที่คอยเก็บค่าExpส่วนตัว หนึ่งในเหตุผลที่เข้ามาในเทือกเขาวิญญาณคือเข้ามาซ่อมแซมพวกมันทั้งสามและทำให้พวกมันเพิ่มการเติบโตของเขาได้ต่อไป.
ใครจะคิดว่าพวกมันถูกฆ่าตาย!
ดั่งเงาและสายลม ลั่วเทียนพุ่งผ่านป่าอย่างรวดเร็ว.
ประมาณ 2 ชม....
ลั่วเทียนเริ่มลดสปีดลง
มันไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการรักความรวดเร็วแม้ว่าเขาต้องการเร็วขึ้นอีก แต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้.
ขณะที่เขาใกล้เข้ามาจิตใจของเขาก็ได้รับผลกระทบจากเจตนาสังหารที่รุนแรง ความต้องการฆ่าเหล่านี้คล้ายคลึงกับแรงกดดันที่ถาโถมทับร่างกายของเขา มึนอึดอัดอย่างมาก.
ในจุดอื่น...
ลั่วเทียนได้ยินเสียงเรียกของดาบกลืนโลหิตด้วยความตื่นเต้น.
โลกสังหาร - ใบมีดมากมายที่จะกลุ้มรุมและทำลายทักสิ่งทุกอย่าง!
มันเป็นสังหารภายในดาบกลืนโลหิต. ประเภทที่พัดผ่านไปทั่วสวรรค์ทั้ง9และแนวโน้มที่จะสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและเป็นตัวตนที่ทำให้คนอื่นต้องหวาดกลัว.
เมื่อลั่วเทียนเริ่มที่จะคิดถึงกองซากศพที่ทับถมเป็นภูเขาหลายพัรเมตรและยังมีแม่น้ำที่ทำจากเลือดสดที่ไหลนองตลอดเวลา มันช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ลั่วเทียนสั่นสะท้าน.
มันไม่ใช่ความกลัว แต่มันเป็นความรู้สึกจากจินตนาการของเขา!
เจตนาฆ่าที่เขาพบเจอตอนนี้แตกต่างจากเจตนาฆ่าที่ปล่อยออกมจากดาบกลืนโลหิต.
มีร่องรอยของความรุนแรงที่โหดเหี้ยม.
กลิ่นอายของดาบกลืนโลหิตมาจากการฆ่าตามธรรมชาติที่ถาโถมอย่างเห็นได้ชัดซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเป็นหมายเลขหนุ่งของโลก.
ทั้งสองต่างกัน แต่ก็ไม่ได้สะท้อนให้เห็นแบบเดียวกันของพวกมัน ในแง่ของความเรียบง่ายอาจจะบอกได้ว่า ดาบกลืนโลหิต เหมือนกับเสือโคร่งที่มีกลิ่นเหม็นของเลือดและเริ่มดูดซึมเจตนาฆ่าของจากส่วนลึกของป่า.
ลั่วเทียนกำลังมุ่งมั่นที่จะยับยั้งตัวเองจากเจตนาฆ่าของดาบกลืนโลหิต เพราะเขากลัวว่าตัวเองจะไปติดอยู่ในโลกแห่งการฆ่าอีกครั้ง ตอนนี้เขายังขาดความสามารถในการยับยั้งมัน ดังนั้นเมื่อเขาเข้าสู่โลกของมันแล้วความคิดต่างๆจะทำให้เขากลายเป็นเครื่องจักรแห่งการฆ่า.
ต้องขอบคุณความคิดที่หยิ่งผยองและการครอบงำของดาบกลืนโลหิต ทำให้ลั่วเทียนรู้สึกตื่นเต้น. “ไม่ช้าก็เร็วข้าจะบังคับให้เจ้าเป็นของข้า เมื่อถึงตอนนี้ลองดูกันว่าเจ้าจะดุดันเบื้องหน้าบิดาคนนี้ได้หรือไม่!”
“ฟู่~...”
ลั่วเทียนถอนหายใจอย่างนุ่มนวลขณะที่เขาค่อยๆก้าวเข้าไป
เขาเกือบจะถึงจุดที่กระจายเจตนาฆ่า.
เขาได้ยินเสียงดัง จากการหายใจของมันทำให้สามารถจินตนาการได้ว่าปีศาจตนนี้น่ากลัวแค่ไหน.
หนึ่งก้าว สองก้าว...
วงกว้างที่ถูกปัดกวาดจนเป็นที่โล่งขนาดใหญ่ถูกเปิดเผยขึ้น.
บริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยเลือดที่กระจายเหมือนกับใยแมงมุม มันปกคลุมไปทั่วทั้งต้นไม้ พื้นดิน แม้กระทั่งก้อนหิน มีเลือดกระจายไปทั่วทุกที่.
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยแขนขาของสัตว์ปีศาจ
ภาพด้านหน้าที่มีเลือดไหลนองราวกับเป็นนรกโลหิตที่มีเลือดไหลซึมอยู่ทุกที่.
ทุกคนที่เห็นฉากเหล่านี้อาจจะต้องคลื่นไส้ ลั่วเทียนพยายามระงับอาการและไม่กล้าที่จะเดินไปเบื้องหน้า ดวงตาของเขาจดจ่อไปยังพื้นที่ๆอยู่ไม่ไกล...
ทันใดนั้น...
ลั่วเทียนกลายเป็นตื่นเต้น!
“มันเป็นบอส!”
“บอส!”
“สัตว์ปีศาจ ระดับ 5 ราชันย์ซอมบี้พันปี!”
มันสูงกว่าสองเมตรและทั้งตัวก็คล้ำเหมือนกับเหล็ก ใต้ผิวหนังของมันมีหลอดเลือดสีแดงที่ใสและสามารถเห็นเลือดที่กำลังไหลเวียนได้อย่างง่ายๆ เขี้ยวของมันคู่หนึ่งที่ออกจากมันยาวกว่าสิบเซนติเมตร ความคมของเขี้ยวที่ทำให้เกิดแสงสีขาวที่หนาวเย็น การหายใจออกของแต่ละครั้งมีควันสีขาวออกที่ออกจากจมูกของมันและสิ่งที่ถูกมัสัมผัสก็เริ่มเหี่ยวจนกลายเป็นขี้เถ้า.
ควันสีขาวที่ถูกพ่นออกมาเต็มไปด้วยก๊าซพิษ.
สิ่งที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดเลยก็คือมันมีตา 6 ดวง ดวงตาที่เต็มใบหน้าซึ่งน่ากลัวมากๆ.
เจตนาฆ่าที่ออกจากร่างกายทุกครั้งที่หายใจเข้า-ออก.
“เจตนาฆ่านั่นความจริงแล้วมันออกมาจากร่างกายของมัน.”
“ผีดิบถือว่าเป็นสัตว์ปีศาจรึเปล่า?”
“มันจะมีแกนปีศาจไหมนะ?”
ลั่วเทียนตามตัวเอง เขาอดไม่ได้ที่จะกำหมัดเมื่อมองไปยังราชันย์ผีดิบพันปี: “ฉันต้องการฆ่าแกจริงๆ.”
มันเป็นสิ่งเดียวที่ต้องการ แต่ลั่วเทียนไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน.
ย้อนกลับมาที่สนามประลองกับกิ้งก่าลาวาที่ความแข็งแกร่งสูงสุดของมันเท่ากับสัตว์ปีศาจระดับ 5 แต่มันก็ยังคงเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 4 ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสัตว์ปีศาจระดับ 5 เพียวนั้นยังคงคนละดับกับมันมาก.
เวลานี้มันเป็นสัตว์ปีศาจระดับ 5 และเป็นสัตว์ปีซาจที่มีเจตนาฆ่าออกจากร่างกายของมัน.
คนที่อยู่ในระดับ ปราณเชี่ยวชาญ ขั้น 4 ไม่ใช่คู่ต่อกรมันแน่นอน!
ความแตกต่างของระดับนั้นแตกต่างกันเกินไป.
ถ้าเขาอยู่ปราณเชี่ยวชาญขั้น 5...
ลั่วเทียนยิ้มและบิดปากด้วยความเจ็บปวด สิ่งหนึ่งที่เจ็บปวดคือการเห็นบอสและไม่สามารถเข้าไปฆ่าได้ มันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากๆสำหนับโอตาคุ?
ราชันย์ผีดิบพันปีไม่พบลั่วเทียน.
ขณะนี้มันกำลังเล่นกับแขนของเมกะทรอนก่อนที่จะฉีกหัวมันออกเล็กน้อย จากนั้นมันก็หย่อยเศษหัวของเมกะทรอนเข้าไปในปากและเริ่มเคี้ยว.
เคษเหล็กขนาดใหญ่เริ่มถูกเคี้ยวเหมือนกับลูกอม.
หลังจากที่มันเริ่มเคี้ยวมาสักพักก็พบว่ามันไม่ได้คายลงพื้น ลั่วเทียนกำลังงงกับเรื่องนี้และเริ่มพูดกับตัวเอง: “น้องสาวเจ้า เจ้าใช้ยาสีฟันอะไร? ทำไมฟันเจ้าถึงแข็งแกร่งนัก?!”
มันหยิบเศษที่เหลือของเมกะทรอนและโยนออกไป.
“ฟิ้ววว~...”
“ปังงง!”
เมกะทรอนที่หนักหลายพันจินถูกโยนทิ้งราวกับไม่มีน้ำหนักมันลอยไปไกลกว่าหลายเมตรก่อนที่จะตกลงพื้น มันสามารถบอกได้ว่าราชันย์ผีดิบพันปีนี้แข็งแกร่งแค่ไหน!
ราชันย์ผีดิบพันปีก็ได้มาถึงซากโอเมก้าสุพรีมและเริ่มเล่นกับมัน เมื่อมันตระหนักว่ามันไม่ได้มีรสชาติใดๆมันก็เริ่มโกรธและเริ่มทุบซากเหล็กหลายพันจินของโอเมก้าสุพรีมจะกลายเป็นลูกเหล็กใหญ่ๆ.
“ผิดปกติมากแล้ว!”
“พลังของมันบ้าเกินไปแล้ว!”
แต่เดินลั่วเทียนวางแผนที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของบอสที่โจมตีออกมา อย่างน้อยเขาก็สามารถประเมิณความแข็งแกร่งความต่างของพลังหลังจากที่เขาเลเวลอัพเพื่อฆ่ามัน.
แต่ตอนนี้ลั่วเทียนยอมแพ้โดยสมบูรณ์.
ความแข็งแกร่งของราชันย์ผีดิบมากเกินไป.
ทันใดนั้น...
ตาของลั่วเทียนจ้องมองก่อนที่จะขยับถอยออกอย่างระมัดระวังและพูดกับตัวเอง: “แต่รอให้บิดาคนนี้กลับมาสัก 2-3 วัน.”
เขาเห็นบอสแต่เขาไม่อาจฆ่าได้...
เขามีแต่ต้องอดทนเท่านั้น!
ไม่มีทางไหนที่ลั่วเทียนจะเผชิญโอกาสนี้ในการกำจัดราชันย์ผีดิบพันปี และเขาก็ค่อนค้าวสนใจกลิ่นอายที่มีเจตนาฆ่าออกมาจากราชันย์ผีดิบตัวนี้.
“ตอนนี้ข้าจะถอนตัวก่อน.”
ลั่วเทียนถอยออกไปเงียบๆ เขาเพิ่งกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้และรีบออกจากที่นี่...
ในเวลานั้น..
ฟางเล่ยวิ่งเข้ามาพร้อมกับเหงื่อและรอยยิ้มโง่ๆก่อนที่จะตะโกนดังๆว่า “นายท่าน ท่านก็มาที่นี่!”
ราชันย์ผีดิบพันปีก็หันมามองด้วยดวงตาทั้ง 6 ที่ลั่วเทียนอยู่.
ลั่วเทียนใจสั่นทันทีและพูด, “เชี่ย!”