ตอนที่แล้วตอนที่ 12 : หาเงินเข้ากระเป๋า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 : ไก่หมัก เล่าเจียง

ตอนที่ 13 : กู้คืนภาพดิจิตอล


[จากนี้ไปจะเรียกพระเอกว่าชิโตะละกัน ขี้เกียจเปลี่ยนเป็นหินละ ซึ่งชิโตะก็แปลว่าหินครับ]

 

ด้านนอกของร้านซ่อมฟลอริชชิ่งอิเล็คทรอนิค ชายวัยกลางคนที่ดูธรรมดากำลังชี้กระดาษ A4 ซึ่งติดไว้เมื่อสักครู่นี้

 

ชิเล่ยวางแป้นพิมพ์และเมาส์ไว้แล้วหันกลับไปเดินไปหาชายคนนั้น

 

"ใช่ เราจะให้การกู้คืนข้อมูลและการประมวลผลภาพระดับมืออาชีพ!"

 

ในทางตรงกันข้าม ซันเฟิงผู้ซึ่งกำลังจ้องมองพิจารณารูปลักษณ์ของชายวัยกลางคน

 

ชายวัยกลางคนแนะนำตัวเองด้วยความเต็มใจว่า "นามสกุลของผมคือเฟง ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณในการช่วยกู้ภาพดิจิทัลบางอย่าง"

 

"ถ้าคุณสามารถกู้คืนได้ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา!"

 

ชิเล่ยยิ้มเมื่อเขาได้ยิน

 

ประตูแห่งโชคลาภได้เปิดขึ้นแล้ว อุปสรรคใดๆก็ตามจะไม่สามารถขัดขวางเขาได้!

 

เขาเพิ่งได้รับเงินไปหนึ่งพันและตอนนี้อีกโอกาสทางธุรกิจที่รอเขาอยู่!

 

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเฟง"

 

ชิเล่ยจับมือกับชายวัยกลางคนที่ชื่อเฟง

 

"คุณเฟง ตามที่เราระบุไว้ก่อนหน้านี้ เราให้บริการระดับมืออาชีพ ดังนั้นค่าใช้จ่ายอาจจะสูงสักหน่อยนะครับ!"

 

"ถ้าเป็นการกู้คืนข้อมูลง่ายๆ ผมขอแนะนำให้คุณขึ้นไปที่ชั้นสี่และหาสตูดิโอบางแห่งเพื่อทำการกู้คืนข้อมูล"

 

ทันใดนั้นซันเฟิงก็ตีมือออก มองไปที่ชายวัยกลางคน ใบหน้าของเขายิ้มขณะที่เขาส่งเสียงเรียกออกมาว่า "หัวหน้าเฟง!"

 

"ยินดีที่ได้พบคุณครับ!"

 

ชายวัยกลางคนที่มีนามสกุลว่าเฟง มองไปที่ซันเฟิงอย่างใจเย็น ไม่แสดงความไม่เป็นมิตรออกมาหรือแม้แต่รอยยิ้ม

 

ซันเฟิงแนะนำตัวเขาเอง "ลุงเฟง ผมเสี่ยวซันครับ!"

 

"วันนั้น พ่อของผมซันเฉินไห่และผม ได้เข้าร่วมในงานเลี้ยงที่คุณจัดไว้!"

 

หัวหน้าเฟง คิดสักอยู่ครู่ก่อนที่จะเปิดเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

"ดังนั้น เธอก็เป็นลูกชายของครอบครัวซันสินะ"

 

ซันเฟิง ตบไหล่ของชิเล่ยเบาๆและแนะนำเขาว่า "หิน นี่คือผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงในเมืองชวนกิ่งของเรา ซึ่งเป็นผู้บริหารของฮวานชิอังฟาง คุณเฟง เค"

 

"หัวหน้าเฟง นี่เป็นเพื่อนของผมเอง ชื่อของเขาคือชิเล่ย คุณสามารถเรียกเขาว่าเสี่ยวชิหรือไม่ก็ชิโตะก็ได้ครับ"

 

เฟง เค พยักหน้าเล็กน้อย

 

"คุณชิ มันเป็นเรื่องดีที่ได้พบคุณ!"

 

ซันเฟิง ที่ซึ่งอยู่ด้านข้างได้เปิดปากของเขาว่า "ชิโตะ นายมีความมั่นใจไหม? นายต้องช่วยหัวหน้าเฟงให้ได้!"

 

ชิเล่ยยักไหล่ของเขา "ฉันต้องดูสภาพก่อน!"

 

"หัวหน้าเฟง เชิญเข้าร้านของผมก่อนครับ จากนั้นค่อยคุยกันเกี่ยวกับภาพดิจิตอลที่คุณต้องการเรียกคืน"

 

ซันเฟิงต้อนรับเฟงเคอย่างตั้งใจและเขาก็บอกเสี่ยวหลิวให้ไปเตรียมน้ำชา

 

เฟงเค ได้หยิบเอาเพนไดร์ออกมาและยื่นให้ชิเล่ยอย่างระมัดระวัง

 

"คุณชิ ผมต้องการกู้คืนข้อมูลทั้งหมดและภาพจากเพนไดร์อันนี้!"

 

คำนึงถึงรูปลักษณ์และสถานะของเฟงเคแล้ว ชิเล่ยรู้สึกลังเลใจในใจ ถ้ามีภาพที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาชญากรรมหรือฉากบนเตียง มันจะไม่ดีเอามากๆ!

 

เฟงเค ได้เป็นผู้บริหารมานานเป็นสิบปีแล้ว จากการแสดงออกทางสีหน้าของชิเล่ย เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่าชิเล่ยกำลังกังวลอะไรอยู่

 

"คุณชิ คุณไม่ต้องเป็นห่วง ในเพนไดร์อันนี้ มันไม่ได้มีอะไรที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดู"

 

"มันเป็นแค่ภาพของพ่อที่ตายแล้วของผมเท่านั้น!"

 

เฟงเค ถอนหายใจและพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เศร้า "ในเวลานั้น พ่อของผมได้ด่วนจากไปรวดเร็ว ดังนั้นทำให้ภาพทั้งหมดของเขามีเฉพาะในรูปแบบดิจิตอลเท่านั้น"

 

"ตอนแรก ผมตั้งใจที่จะย้ายภาพถ่ายไปยังคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อเสียบเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว มันก็อ่านไม่ได้และกลายเป็นข้อมูลเออเร่อ"

 

"บางทีเพนไดร์อาจติดไวรัสบางชนิดมาหรือไม่ก็อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น"

 

"ผมได้ไปที่สตูดิโอกู้คืนข้อมูลหลายแห่งแล้วแต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้"

 

"ผมหวังว่า คุณชิจะสามารถช่วยกู้ข้อมูลทั้งหมดในเพนไดร์อันนี้ให้ผมได้!"

 

ซันเฟิง ที่อยู่ข้างๆพวกเขาพูดเสริมว่า "ชิโตะ ทำให้ดีที่สุดนะ!" [เจ้าของร้าน คุณเอิ่มทำอะไรเป็นมั่งเนี่ย]

 

ชิเล่น พูดติดตลกในขณะที่เขาถือเพนไดร์อยู่ "พี่เฟิง โชคดีที่คุณมีคอมพิวเตอร์สองเครื่องนี้อยู่ที่นี่!"

 

หลังจากที่จบประโยคแล้ว ชิเล่ยก็เดินกลับไปที่โต๊ะซ่อม เฟงเคยืนขึ้นและเดินตามไปด้วย ใบหน้าของเขาแสดงออกด้วยความตึงเครียด

 

เสียบเพนไดร์ของเฟงเคลงในพอร์ต USB

 

"ดิงดอง ~"

 

เสียงจากลำโพงของการเชื่อมต่อ USB สะท้อนออกมา

 

จากนั้นหน้าต่างก็โผล่ออกมาจากมุมขวาล่าง

 

"อุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก!"

 

ชิเล่ย เปิดหน้าต่างตัวจัดการอุปกรณ์(ไดร์ แมนเนเจอ วินโดว์)ขึ้นมา กำลังมองหาตัวเลือกเพนไดร์ในแท็บตัวจัดการอุปกรณ์ เขาเลือกคำสั่งเริ่มต้นอุปกรณ์อีกครั้ง

 

แต่แม้หลังจากที่เขาทำเช่นนั้นคอมพิวเตอร์ยังไม่สามารถระบุอุปกรณ์ได้

 

สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นจะ มีความเป็นไปได้ทั่วไปอยู่สองอย่าง

 

ประการแรกเพนไดร์มีความเสียหายที่ฮาร์ดแวร์ ตัวอย่างเช่นการสัมผัสกับน้ำทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรภายในหรือเหตุผลอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตาม ความน่าจะเป็นสำหรับความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์มีน้อยมาก!

 

บวกกับความจริงที่ว่าภายในเพนไดร์ มีรูปถ่ายของพ่ออยู่ คนส่วนมากจะดูแลมันเป็นอย่างดี

 

ดังนั้นจึงควรเป็นเหตุผลที่สอง - การติดไวรัส การติดไวรัสจะทำให้เพนไดร์ไม่สามารถระบุความเสียหายได้

 

ชิเล่ย ไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใดๆ ที่ติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์

 

แม้ว่าในปี 2006 Rising Antivirus ยังคงเป็นทางเลือกหลัก แต่ความสามารถของซอฟต์แวร์นี้เป็นของธรรมดาเท่านั้น

 

เชื่อมต่อกับเพนไดร์ของตัวเอง ชิเล่ยได้เปิดใช้งานซอฟต์แวร์วิเคราะห์ไวรัสภายในเพนไดร์ของเขาและเริ่มสแกนเพนไดร์ของเฟง เค

 

หลังจากครู่หนึ่งซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นโดยชิเล่ยได้ตรวจพบไวรัสทันที

 

จากการวิเคราะห์โค้ด หน้าที่ของไวรัสตัวนี้คือการจำลองการขาดพลังงานจาก USB เมื่อได้รับการตอบรับจากคอมพิวเตอร์ตัวหลักอุปกรณ์ดังกล่าวจะทำให้อุปกรณ์ของคุณทำให้คอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านได้

 

ชิเล่ยลบไวรัสด้วยตนเอง จากนั้นเขาก็เสียบเพนไดร์ของเฟงเคลงในพอร์ต USB

 

"ดิงดอง ~"

 

คราวนี้เจอเพนไดร์ของเฟงเคเรียบร้อย

 

อย่างไรก็ตามเมื่อชิเล่ยเปิดไฟล์ในเพนไดร์ เขาก็ขมวดคิ้ว

 

ในพื้นที่จัดเก็บของเพนไดร์ มีไฟล์ที่จัดเก็บอยู่ภายในจำนวนมาก บางส่วนเป็นไฟล์จากระบบและบางส่วนเป็นไฟล์ขยะ

เห็นได้ชัดว่า ไฟล์ในเพนไดร์ถูกลบไปแล้วหลายครั้งและเขียนใหม่นับครั้งไม่ถ้วน

 

การกู้คืนข้อมูลนี้ ไม่ต้องสงสัยเลย มันเป็นงานที่ยากมาก!

 

โปรแกรมเช่น EasyRecovery และอื่น ๆ พวกมันก็ไร้ประโยชน์ที่จะใช้ในการเรียกไฟล์คืนมา

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสตูดิโอธรรมดาใช้วิธีกู้คืนข้อมูลแบบปกติมันไม่สามารถทำได้

 

ชิเล่ยถอนหายใจยาว

 

แน่นอนว่า มันใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะได้เงินมา

 

"หัวหน้าเฟง คุณจำได้ไหมว่ามีภาพอยู่กี่ภาพที่อยู่ในเพนไดร์ แล้วก็ชื่อโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพและชื่อทั่วไปของแต่ละภาพไหม?"

 

เฟงเคครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "คุณชิ ข้อมูลที่ว่ามามันเป็นประโยชน์ในการกู้คืนข้อมูล?"

 

"แน่นอนสิ!"

 

ชิเล่ยเริ่มอธิบาย

 

หากต้องการค้นหาไฟล์ที่ต้องการจากทะเลไฟล์ที่ถูกลบไปนับไม่ถ้วน ถ้าไม่มีคำใบ้เลยมันจะเรื่องที่ยากมาก!

 

เพราะเขาต้องการยืนยันก่อนที่จะคืนค่าไฟล์ใดๆ นอกจากนี้ในระหว่างกระบวนการกู้คืนข้อมูลยังคงเป็นไปได้ว่าบังเอิญไปทำลายไฟล์ที่ยังไม่ได้กู้คืนมา

 

"ถ้าคุณรู้จักชื่อโฟลเดอร์และชื่อภาพทั่วไป คุณจะสามารถตรวจหาร่องรอยของไฟล์ที่กำลังค้นหาจากไฟล์ที่ถูกลบได้ง่ายขึ้น"

 

"วิธีนี้ งานในการกู้คืนข้อมูลจะมีขนาดเล็กมากและอัตราความสำเร็จจะสูงขึ้น!"

 

ในที่สุดเฟงเคก็จัดการเรียกคืนความจำมาได้ "ภาพพ่อของผมมีทั้งหมด 62 ภาพ ถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ชื่อ 'พ่อ' "

 

"สำหรับชื่อทั่วไปของภาพถ่าย ฉันไม่แน่ใจ"

 

"อย่างไรก็ตาม มันตัวเลขสุ่มอยู่ด้วย"

 

ชิเล่ย ถามต่อไปว่า "หัวหน้าเฟง คุณใช้อุปกรณ์อะไรในการถ่ายรูปพวกนี้?"

 

เฟงเค ขมวดคิ้วขณะที่เขาขบคิด หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดหมายเลขโทรออก

 

"สวัสดี เสี่ยวเชียง วันนั้นที่คุณถ่ายรูปพ่อของฉัน คุณใช้กล้องยี่ห้ออะไรและรุ่นอะไร?"

 

ขณะที่ถือโทรศัพท์ด้วยมือซ้ายของเขา เฟงเคจดรายละเอียดด้วยปากกาในมือขวาของเขา

 

"เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว!"

 

เฟงเควางหูโทรศัพท์แล้วส่งมอบแผ่นกระดาษที่มีข้อมูลให้แก่ชิเล่ย

 

ชิเล่ย มันมาอย่างรวดเร็ว "รูปแบบการตั้งชื่อทั่วไปของกล้องยี่ห้อนี้ของภาพถ่ายนั้นขึ้นต้นคำนำหน้าว่า DSC และองค์ประกอบการเรียงเลขจะเป็นแบบที่เฉพาะเจาะจง"

 

"หัวหน้าเฟง รอสักครู่ ก่อนอื่นผมจะดูบันทึกของไฟล์ที่ลบไปแล้ว "

 

ชิเล่ยไม่ได้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลใดๆจากอินเทอร์เน็ต แต่เขาเปิดเครื่องมือเขียนโปรแกรมและเริ่มเขียนโค้ดด้วยตนเอง

 

ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ชิเล่ยไม่แค่มีความน่าสะพรึงกลัวในการแฮ็ก การประมวลผลภาพกราฟิกและการกู้คืนข้อมูลของเขา ยังอยู่ในระดับที่เทียบเท่ากับทักษะแฮ็คของเขาอีกด้วย

 

ความเร็วนิ้วมือของชิเล่ยสูงมาก และมีความแม่นยำในการพิมพ์ก็เหมือนกัน อาจกล่าวได้ว่าแทบไม่มีทำผิดพลาดใดๆเลยเมื่อกดปุ่ม

 

ด้วยเสียงที่หนักแน่นอย่างต่อเนื่องของแป้นพิมพ์ มีร่องรอยแห่งความหวังถูกสร้างขึ้นมาภายในหัวใจของเฟงเค

 

อย่างน้อย ชิเล่ยก็ไม่เหมือนกับพวกสตูดิโอกู้คืนข้อมูล ธรรมดาพวกนั้น เพียงแค่มองไปที่เพนไดร์ตัวเอง ที่ถูกพวกมันเรียกร้องค่าบริการที่สูงมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแม้แต่จะเปิดเพนไดร์ขึ้นมาได้!

 

หลังจากผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง ชิเล่ยไม่ได้ขยับหัวเลย "บอสเฟิง เอาน้ำแร่ให้ผม!"

 

ซันเฟิงหันไปรอบๆ และกล่าวว่า "เสี่ยวหลิว ไปซื้อน้ำแร่มาหลายๆขวด"

 

เสี่ยวหลิว วางเครื่องมือไว้ในมือแล้วรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันที

 

ในตึกเบนาวพาณิชย์แห่งนี้ ไม่มีร้านขายน้ำแร่ เฉพาะนอกอาคารเท่านั้นที่สามารถหาซื้อน้ำแร่ได้

 

อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ชิเล่ยยังคงเคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยพลัง

 

ซันเฟิงและเฟงเคที่กำลังนั่งรอเขาอยู่ พวกเขาจึงขั้นเวลาแก้เบื่อด้วยการสนทนาเล็กๆน้อยๆ

 

สำหรับเสี่ยวหลิว ที่ทำทุกงานทุกอย่าง เขายืนอยู่ข้างหลังของชิเล่ยและเฝ้าดูเขาเขียนโค้ด

 

 

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มีความรู้พื้นฐานในภาษาสำหรับเขียนโปรแกรม แล้วเขาจะเข้าใจได้อย่างไรว่าชิเล่ยกำลังทำอะไรอยู่?

 

แม้ว่าชิเล่ยจะสังเกตเห็นเขาและรู้สึกประทับใจเล็กน้อยต่อชายหนุ่มคนนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชิเล่ยจะแบ่งปันความรู้ให้กับเขา

 

ภายใต้ฟ้าสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาฟรีๆ!

 

ถ้าคุณต้องการบางสิ่งคุณต้องเสียสละบางอย่างในทางกลับกัน

 

เข็มนาฬิกาหยุดอยู่ที่ 11:30 ซันเฟิงมองไปที่ชิเล่ยและสังเกตเห็นว่าเขายังคงจดจ่ออยู่กับการเคาะแป้นพิมพ์

 

จากนั้นเขาก็มองไปที่เฟงเค "หัวหน้าเฟง ทำไมเราไปกินข้าวก่อนละ?"

 

เฟงเค พูดเสียงเบา "คุณชิ ผมคิดว่าคุณควรหยุดพักสักแปปนะ ออกไปข้างนอกและรับประทานอาหารกลางวันกัน?"

 

ชิเล่ยส่ายศีรษะเป็นเครื่องหมายปฏิเสธ

 

"ไม่มีเวลา!"

 

"พี่เฟิง เพียงแค่สั่งอาหารกล่องให้ผมที่หนึ่ง!"

 

"นายนี่มัน!"

 

ชิเล่ยไม่ได้ขยับหัว เขายังคงจดจ่ออยู่กับการจ้องมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

 

ต้องขอบคุณทุกความกระตือรือร้นของเขาสำหรับเทคโนโลยี ชิเล่ยจึงเป็นหนึ่งในแฮกเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก!

 

ซันเฟิง แสดงออกเป็นเชิงถามเพื่อขอความคิดเห็นในขณะที่เขามองไปที่เฟงเค

 

เฟงเคพยักหน้า

 

"เสี่ยวซัน ไปสั่งอาหารบางอย่างมา เราจะกินในร้าน! "

 

ฮันเฟิง กระแอมสองครั้ง "จะปล่อยให้หัวหน้าเฟงกินอาหารกล่อง เราจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?"

เฟงเคยิ้ม

 

"ฉันก็เป็นคนธรรมดา ทำไมฉันถึงกินอาหารกล่องไม่ได้ละ?"

 

เมื่อถึงเวลา 12.00 น. สาวส่งอาหารสามคนก็มาส่งอาหารกลางวันถึงหน้าร้านซ่อมฟลอริชชิ่งอิเล็คทรอนิค

 

ซันเฟินได้เชิญเฟงเคมาทานอาหารด้วยกัน

 

เฟงเค อย่างที่คาดไว้เดินตรงไปหาชิเล่ยและพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "คุณชิ กินก่อนเถอะ"

 

ชิเล่ยดูเหมือนจะไม่ได้ยิน มือของเขายังคงเต้นอยู่บนแป้นพิมพ์ไม่รู้จบ

 

ซันเฟิง ไม่รู้สึกแปลกใจที่ปฏิกิริยาเย็นชานี้ที่มาจากลีชี "หัวหน้าเฟง คุณไม่จำเป็นต้องไปกังวลกับน้องชิโตะหรอก เขาอาจจะไม่กินจนกว่างานของเขาจะเสร็จ"

 

"ถ้าคุณเรียกเขาอีกครั้ง เขาอาจโกรธเอานะ!"

 

ช่วยไม่ได้เฟิงเคได้แต่กลับไปนั่งที่โต๊ะเท่านั้น

 

"ดี งั้นเราจะรอจนกว่าเขาจะเสร็จ!"

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด