TWO Chapter 57 ฝ่ายรักษาความปลอดภัย
TWO Chapter 57 ฝ่ายรักษาความปลอดภัย
หลังจากกลับถึงบ้าน โอหยางโชวได้นำดอกไม้ที่ซื้อมาประดับไปทั่วห้อง มันทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้นในทันที
พี่ชายน้องสาวทานอาหารเย็นร่วมกัน หลังจากวิ่งเล่นมาทั้งวัน ปิงเอ๋อเหนื่อยล้ามาก หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เธอก็กลับไปที่ห้องของเธอเพื่อพักผ่อน เธอไม่แม้แต่จะล้างมือ ช่างเป็นเด็กน้อยที่ขี้เกียจจริงๆ
เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลา โอหยางโชวก็เข้าไปดูที่ฟอรัมของเกมส์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมืองซานไห่ได้ทำให้เกิดการปะทุขึ้นในฟอรัม และไม่ใช่แค่ในประเทศจีน ในฐานะที่เป็นเมืองขนาดเล็กแห่งแรกของโลก ทุกคนกำลังพูดคุยและนินทาเกี่ยวกับซานไห่
เพื่อดึงดูดความสนใจ ชื่อของโพสน์นั้นยาวกว่าเนื้อหาสาระข้างในเสียอีก
‘บุรุษลึกลับ และคนโง่น้อย จะบอกเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ฉีเยว่หวู่ยี่ - โดย นินทารายสัปดาห์’
‘เรื่องน่าอับอายสมัยเด็กของฉีเยว่หวู่ยี่ - โดย เพื่อนโง่เง่า’
‘เขาเป็นผู้ส่งสานแห่งสันติสุข หรือเป็นเผด็จการแห่งความโกลาหล? - โดย ผู้นำฮวงซีเหริน(Huang Shiren)แห่งเหลียนโจว’
‘ความลับของเมืองซานไห่ - โดย การถอดผ้าพันคอ’
‘น่ากลัว น่าเกลียด ฉีเยว่หวู่ยี่และเทพธิดาไป๋ฮัวกำลังเดทกัน - โดย ปาปารัสซี่รายสัปดาห์’
‘จากเบื้องล่างสู่เบื้องบน ประวัติศาสตร์เมืองแห่งโชคลาภ - โดย บันเทิงรายสัปดาห์’
‘ข่าวด่วน! ฉีเยว่หวู่ยี่กำลังประชุมลับกับชุนเซิ่นจุ่น - โดย รายงานพิเศษจากคนชั่วร้าย’
‘จากต้นกำเนิดของสปีชี่ สู่ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน จากนั้นก็ฉีเยว่หวู่ยี่ - ตระกูลเกาหลี’
‘คืนนั้น ฉันได้แชร์ความลับกับฉีเยว่หวู่ยี่ - โดย เอมิ’
โอหยางโชวชื่นชมคนเหล่านี้ ที่สามารถปั้นข่าวออกมาได้จากความว่างเปล่า โชคดีที่เผยแพร่เฉพาะในฟอรัม ไม่ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ไม่เช่นนั้นเขาคงฟ้องร้องคนที่ใส่ร้ายเขาได้
ไม่สนใจโพสต์ที่ไร้สาระ เขาพบโพสต์ที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นเป็นโพสต์ของไป๋เสี่ยวเซิ่ง ชื่อโพส์คือ ‘คาดเดาเหรียญระดับทอง เบาะแสของซานไห่’ มันเพียงพอจะดึงดูดสายตาของเขาได้
ไป๋เสี่ยวเซิ่งแตกต่างจากคนอื่นๆที่กุเรื่องขึ้นมา ดูเหมือนเขาจะรู็เรื่องในเกมส์อยู่บ้าง ต่างจากคนอื่นๆที่ไม่รู้อะไรเลย
เขาพูดถึงความตั้งใจของไกอาในการสร้างเหรียญระดับทอง และพูดถึงว่า ซานไห่ได้หยั่งรากที่ชายแดน และเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น
ทุกโพสต์ของเขาอยู่ในพื้นฐานของข้อเท็จจริง สุดท้ายเขาก็สรุปได้ว่า เหรียญระดับทองของประเทศจีนอยู่ในมือของฉีเยว่หวู่ยี่ และเป็นความลับเบื้องหลังการพัฒนาของซานไห่
ถึงแม้ว่า จะมีข้อโต้แย้งบางอย่างที่ไร้สาระโดยสิ้นเชิง ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ข้อสรุปนี้ก็คาดเดาได้อย่างถูกต้อง โอหยางโชวเชื่อว่า อีกไม่นาน ข่าวที่ซานไห่ที่มีเหรียญระดับทอง จะกระจายไปทั่วประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม เขาเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ดี ที่จะให้โลกรู้ว่าเขาไม่กลัว ที่จะถูกท้าทายอีกต่อไป
เขาเลิกดูฟอรัมและปิดแฮนด์เบรนของเขา เดินเข้าไปในเครื่องเล่นเกมส์ เขาเข้าสู่ระบบเมื่อ เวลาก็ 8.00 น.
…………………………………………………………………………………………………………….
ในเช้าวันนี้ พนักงานภาครัฐ และเด็กฝึกงานจากธุรกิจต่างๆที่มีทักษะ พวกเขาได้ชุมนุมกันอยู่ทีจตุรัสกลางเมือง
มีผู้ไปกับกู่ซิวเหวินเพื่อก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ทั้งสิ้น 55 คน คนอื่นๆนอกเหนือจากนี้ เป็นคนงานนาเกลือ 250 คน เมื่อหมู่บ้านเป่ยไห่ก่อตั้งขึ้น ก็จะมีประชากรมากกว่า 300 คน ซึ่งเกินขีดจำกับของหมู่บ้านระกับ 1 ไปแล้ว
เมื่อเวลา 9.00 น. พวกเขาก็เดินทางออกจากจตุรัส ผ่านประตูตะวันออก มุ่งหน้าไปยังทางท่าเรือ ที่ท่าเรือ มีเรือประมงกว่า 40 ลำ เตรียมพร้อมอยู่แล้ว และยังมีเรือขนส่งวัสดุพื้นฐานอีกจำนวนมาก ที่กรมคลังวัสดุเตรียมไว้
โอหยางโชวไปที่ท่าเรือ เพื่อส่งกู่ซิวเหวิน
ทีแรกเขาต้องการไปกับพวกเขา เพื่อเป็นพยานในการก่อตั้งหมู่บ้านสาขา อย่างไรก็ถาม เขามีเวลาไม่มากนัก ตอนนี้เขาต้องใช้เวลาทั้งหมด ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อีก 4 วัน ก่อนถึงวันปีใหม่ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องจัดเตรียมล่วงหน้า
ทุกอย่างที่จำเป็น โอหยางโชวได้กล่าวเมื่อวานนี้หมดแล้ว เขาไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอีก เขาตบไหล่กู่ซิวเหวินเบาๆ ยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ดูแลให้ดี”
กู่ซิวเหวินพยักหน้าอย่างกระปรี้กกระเปร่า คำนับโอหยางโชวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อขอบคุณ ชาวบ้านเป่ยไห่ก็คำนับเขาเช่นกันิเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกเขา โอหยางโชวก็คำนับตอบอย่างเป็นทางการ จากนั้น ภายใต้การนำของกู่ซิวเหวิน พวกเขาก็ขึ้นเรือประมง แล้วออกไป
เขาเฝ้ามองเรือประมงออกไป โอหยางโชวหันมาทางเจ้าหน้าที่ด้านหลังของเขาแล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ, ถึงเวลากลับไปทำงานแล้ว วันนี้มีอะไรให้ทำมากมาย”
กลับมาที่คฤหาสน์ เขาเรียกเจ้ากรมทั้ง 3 มาที่สำนักงานของเขาเพื่อพูดคุย
หลังจากทักทายกันแล้ว โอหยางโชวก็กล่าวขึ้น “วันนี้ที่ข้าเรียกพวกท่านทั้ง 3 มา ก็เพื่อจัดเตรียมหน่วยรักษาความปลอดภัยในดินแดน บอกข้าถึงมุมมองของพวกท่านเกี่ยวกับความคิดนี้”
ฟ่านจงหยานพยักหน้า และกล่าว “ที่จริง การขยายตัวของประชากรในดินแดนเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีผู้อพยพเข้ามา 75 คน ในทุกๆวัน สถานะการณ์ด้านความปลอดภัยเริ่มเลวร้ายมากขึ้น ก่อนการสู้รบ พวกโจรเริ่มแพร่กระจายเป็จำนวนมาก มีความจำเป็นที่ต้องตั้งหน่วยงานที่ดูแลด้านความปลอดภัยในดินแดน”
“ข้าเห็นด้วย แต่กองกำลังรักษาความปลอดภัยจะทำงานได้อย่างอิสระ หรืออยู่ภายใต้กองทักล่ะ?” ขุ่ยหยิงหยูถาม
เทียนเหวินจิงส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ตามมาตรฐาน หน่วยรักษาความปลอดภัยต้องเป็นอิสระ อำนาจของกฎหมาย และการดูกฎระเบียบเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ควรให้กองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยว มิฉะนั้นจะเป็นปัญฆาไม่รู้จบ”
หลังจากฟังมุมมองของเจ้ากรมทั้ง 3 โอหยางโชวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เขากำลังปล่อยให้พวกเขาตัดสินใจด้วยตัวเองมากขึ้น แทนที่จะฟังคำสั่งโดยตรงจากเขาทั้งหมด เขาควรฟังมุมมองของเจ้ากรมและห้วหน้าฝ่ายต่างๆมากขึ้น รวบรวมมุมมองของพวกเขา เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
สติปัญญาของคนคนเดียวมีจำกัด ลอร์ดที่ดีต้องเรียนรู้ที่จะใช้สติปัญญาจากคนของตน ไม่ต้องกล่าวถึงการดำเนินการอย่างเผด็จการ ที่มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความไม่พอใจ, จิตใจที่ปิดกั้นจะนำไปสู่ความไม่เต็มใจรับฟังความเห็นของผู้อื่น
เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่เจ้ากรมเทียนกล่าวนั้นสมเหตุสมผลมาก กองทัพและรัฐบาลจะต้องดำเนินการเป็นอิสระต่อกัน ข้าคิดจะก่อตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัย แต่หลังจากฟังความเห็นของพวกท่าน การจัดตั้งฝ่ายพิเศษดูจะสมเหตุสมผลกว่า”
“หน่วยงานใหม่จะมีชื่อว่า ฝ่ายรักษาความปลอดภัย โดยรับผิดชอบการป้องกัน ปราบปราม และตรวจสอบอาชญากรรมเป็นหลัก เพื่อรักษาความสงบของดินแดน เพื่อจัดการจราจร เพื่อจัดการสินค้าอันตราย เพื่อป้องกันสถานที่สำคัญ และเพื่อป้องกันสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญ”
“การปกป้องสถานที่สำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวก พี่ใหม่หมายถึง สถานที่เช่นธนาคาร 4 สมุทร ใช่หรือไม่?” ขุ่ยหยิงหยูสนใจคำอธิบายในเรื่องนี้อย่างมาก มีสมบัติจำนวนมากอยู่ในธนาคาร แต่ตอนนี้กลับไม่มียามสำหรับพวกมัน เรื่องนี้ทำให้เธอกังวล
“ในตอนนี้ จะมีคฤหาสน์ของลอร์ด และธนาคาร 4 สมุทร ทั้ง 2 แห่งนี้จะมียามเฝ้าเป็นพิเศษ”
ในฐานะเจ้ากรมการบริการ ฟ่านจงหยานยังได้พิจารณาถึงการจัดตั้งฝ่ายดังกล่าว เขากล่าวว่า “ตามความหมายของนายท่าน งานของฝ่ายรักษาความปลอดภัยนั้นหนักมาก นอกเหนือจากหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั่วไปแล้ว พวกเขายังต้องรับผิดชอบการควบคุมสินค้าอันตรายและงานอื่นๆด้วย นายท่านมีแผนจะจัดการเช่นไรหรือ?”
“สำหรับพนักงาน ตอนนี้ข้าตั้งใจไว้ว่าให้มี 20 คน ทุกคนในฝ่ายต้องเป็นตำรวจหรือนักสืบ” โอหยางโชวตอบอย่างรวดเร็ว
“ยี่สิบคนหรือ? นี่นับเป็นฝ่ายขนาดใหญ่ ในปัจจุบัน เราไม่สามารถรับรองคนจำนวนมากขนาดนั้นในตฤหาสน์ได้ ข้าคิดว่าการตั้งสำนักงานพิเศษสำหรับฝ่ายรักษาความปลอดภัยจะเหมาะสมที่สุด” ขุ่ยหยิงหยูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
โอหยางโชวพยักหน้า “ใช่, ข้าเห็นด้วยกับเจ้าในจุดนี้ ด้านหน้าจตุรัส ให้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นสำนักงานสำหรับฝ่ายรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะมีชุดเครื่องแบบ อาวุธ และเกียร์ เรื่องนี้ให้ฝ่ายคลังวัสดุจัดการ”
เทียนเหวินจิงพยักหย้าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้
เรื่องต่อไป คือ การจัดเตรียมบุคลากรที่สำคัญ ในตอนนี้ เจ้ากรมทั้ง 3 มีความสนใจกับคนที่จะรับหน้าที่นี้
ในเวลานั้นเอง เจ้าหน้าที่ดูแลแขกก็ตะโกนขึ้น “รายงานนายท่าน! อดีตทหารอาสาหลี่ไท่ มารายงานตัวตามคำสั่ง!”
ทุกคนประหลาดใจ
“ให้เขาเข้ามา!”
ชายวัยสามสิบเดินเข้ามาในสำนักงานของเขา โอหยางโชวทักทายเขา และบอกให้เขานั่งลง เขายิ้มให้กับหลี่ไท่ขณะที่แนะนำเขาให้กับเจ้ากรมทั้ง 3
หลี่ไท่เกษียนจากทหารเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้น ฟ่านจงหยานและเทียนเหวินจิงยังไม่ได้อยู่ในซานไห่ จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่รู้จักหลี่ไท่ แม้แต่ขุ่ยหยิงหยูก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเขา
การเรียกของโอหยางโชวทำให้หลี่ไท่รู้สึกตื้นเต้นมาก เขาจำได้วันในการต่อสู้กับค่ายโจรครั้งแรก เขาและซ่งยี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องเกษียนจากการเป็นทหาร
เมื่อพวกเขากำลังหดหู่ถึงขีดสุด โอหยางโชวก็มาเยี่ยมพวกเขาที่โรงหมอ ให้กำลังใจพวกเขา เขาบอกว่า เมื่อดินแดนยกระดับเป็นเมืองขนาดเล็กแล้ว เขาจะรับพวกเขาเข้าหน่วยรักษาความปลอดภัย เมื่อวันรุ่งขึ้นหลังการอัพเกรด เขาก็ได้หมายเรียกจากลอร์ดของเขา
โอหยางโชวยิ้ม “หลี่ไท่ คือ คนที่ข้าเสนอให้เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย นอกเหนือจากเขาแล้ว ยังมีซ่งยี่และเจ้ากุ้ย พวกเขาจะรับผิดชอบในการจัดตั้งฝ่ายรักษาความปลอดภัย”
เจ้ากุ้ยได้รับบาดเจ็บสาหัสในการต่อสู้ครั้งที่ 2 เขาถูกบังคับให้เกษียนจากการเป็นทหาร หูซ้ายของเขาถูกตัดออก ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน พวกเขากลายเป็นคนพิการอย่างแท้จริง และไม่สามารถใช้งานในความมั่นคงได้อีกต่อไป
พูดแล้วก็ดูแปลก คนที่โอหยางโชวแนะนำ หลี่ไท่เป็นคนตาบอด ซ่งยี่ถูกตัดนิ้ว 2 นิ้ว และเจ้ากุ้ยหูขาด 1 ข้าง ไม่มีใครสมบูรณ์เลย
ประวัติศาสตร์มักเป็นเรื่องตลก ทั้ง 3 คน ที่ได้รับบาดเจ็บในตอนนี้ เมื่อถึงปีต่อไป พวกเขาจะนำฝ่ายรักษาความปลอดภัยไปสู่ชื่อเสียงอันโด่งดัง หลี่ไท่จะเป็นที่รู้จัก ในฐานะนักสืบตาเดียว, ซ่งยี่จะเป็นที่รู็จัก ในฐานะนักสืบมือเหล็ก และเจ้ากุ้ยจะเป็นที่รู้จักในฐานะ นักสืบหูเดียว พวกเขาจะกลายเป็น 3 เทพ ของนักสืบในดินแดน