Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 33 - การเปลี่ยนจากความหยิ่งยโสเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตน (1)
Chapter 33 - การเปลี่ยนจากความหยิ่งยโสเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตน (1)
การปรากฏตัวของเซี่ยวหยูเอ๋อทำให้ทุกคนตกใจ
ปัจจุบันผู้เล่นทุกคนรู้ว่าใครเป็นเซี่ยวหยูเอ๋อ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอยังเป็นเพื่อนร่วมปาร์ตี้ของเทพธิดา ด้วยการผูกเข้าคู่กันของความงดงามและความบริสุทธิ์ของเซี่ยวหยูเอ๋อ เธอได้ถูกปลูกฝังเข้าอย่างหนาแน่นในความทรงจำของทุกคน
อย่างไรก็ตาม ทำไมหญิงสาวที่บริสุทธิ์จะต้องเชิญมือใหม่ด้วย? นอกจากนี้ สิ่งที่ยากจะจินตนาการได้คือ ... คนที่เชิญมือใหม่ไม่ใช่เซี่ยวหยูเอ๋อแต่เป็นเทพธิดา หิมะผู้อ่อนโยน
ใครคือหิมะผู้อ่อนโยน?
เธอเป็นเทพธิดาหิมะที่เป็นที่ยอมรับโดยส่วนรวมในโลกเกมเสมือนจริง มีคนอยู่นับไม่ถ้วนที่เป็น 'มิสเตอร์. สมบูรณ์แบบ' ที่ต้องการจะเข้าหาเธอ มีแม้แต่เด็กจากครอบครัวที่ร่ำรวยที่ได้เสนอให้สิบล้านเครดิตเพื่อที่จะได้รับประทานอาหารร่วมกับหิมะผู้อ่อนโยน แม้กระนั้นคนๆนั้นก็ไม่ได้รับแม้แต่คำพูดจากเธอ
ไสหัวไป! เด็กจากครอบครัวที่ร่ำรวยนั้นเป็นธรรมดาที่จะโกรธแค้น ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะแก้นแค้นและเปลี่ยนหิมะผู้อ่อนโยนเป็นสมบัติของเขา อย่างไรก็ตามไม่กี่วันต่อเด็กจากครอบครัวที่ร่ำรวยได้นี้ก็ต้องตกตะตึง พ่อของเขาเป็นคนที่สร้างตนเองให้มั่งคั่ง แต่ก็ได้ก็กลายเป็นคนจนที่น่าสงสารทันที ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่พ่อของเขามี ภายในคืนเดียว ก็ได้กลายเป็นทรัพย์สมบัติของคนอื่น เมื่อพ่อของเด็กจากครอบครัวที่ร่ำรวยได้สืบหาสาเหตุ เขาแทบจะเฆี่ยนตีลูกของเขาจนตาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้ถึงความน่ากลัวของหิมะผู้อ่อนโยน อย่างไรก็ตาม แฟนๆของหิมะผู้อ่อนได้เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากเหตุการณ์นี้ หิมะผู้อ่อนโยนเหมือนกับเทพธิดาจากตำนาน ทั้งศักดิ์สิทธิ์และล่วงล้ำไม่ได้
เทพธิดาเช่นนี้ได้เชิญมือใหม่อย่างแข็งขันแบบนี้ มันจะไม่ทำให้ผู้คนตกใจได้อย่างไร?
ปัจจุบัน ทุกคนไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะหัวเราะได้อีกต่อไป มันมีเพียงแค่ความริษยาและความไม่ชอบใจเม่านั้น ความดีและความสามารถของมือใหม่อะไรกันที่ทำให้ได้รับเชิญเพื่อพูดคุยจากเทพธิดา?
“เชี้ย มือใหม่แบบนี้จะต้องโชคดีแหงแซะ! ทำไมเป็นเขา! ฉันน่ะหล่อมาก แต่เทพธิดาก็ไม่ได้พูดกับฉันแม้แต่คำเดียว”
“ฉันต้นไม้กังหันหยกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญใน God's Domain แต่ทำไมเทพธิดาถึงไม่ได้มาพูดคุยกับฉัน? มันเป็นไปได้ว่าฉันหล่อเกินไป? หรือเทพธิดาเป็นประเภทที่ชอบความป่าเถื่อน?”
“เทพธิดาต้องอยากจะเข้าใจสถานการณ์ภายในดันเจี้ยนโหมดนรกแน่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมองหาเขา ฉันไม่เคยจินตนาการเลยว่าแม้แต่มือใหม่ก็มีผลประโยชน์แบบนี้ ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ ฉันก็จะเข้าสู่โหมดนรกสักครั้งหนึ่ง”
ทุกคนเริ่มการสนทนาของพวกเขาเอง พวกเขาได้จ้องมองไปยังซือเฟิง มีความคิดของความดูหมิ่นและริษยาไปยังเขา พวกเขาต้องการจะฆ่าเขาในทันทีอย่างช่วยไม่ได้
“หันหน้าเวฟวิ่งสโลลี่ ผมไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม? มือใหม่นั้นได้รับคำเชิญจากเทพธิดาจริงๆ ฉันต้องได้ยินผิดไปแน่ๆ” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำหยิกแก้มหนาของเขา แล้วพูดด้วยการแสดงออกที่โง่เขลา
“มันควรจะถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เทพธิดาต้องมีสิ่งที่เธอต้องการจะถาม เขาก็แค่โชคดีเท่านั้น นั่นก็คือทั้งหมด” เวฟวิ่งสโลลี่ที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งถือว่าซือเฟิงสามารถสนทนากับเทพธิดาได้นั่นทั้งหมดก็เพียงเพราะโชคของเขา ต่อสู้เพื่อจุดสิ้นสุดพยักหน้าของเขาด้านข้าง เห็นด้วยกับการแสดงความคิดเห็นของเวฟวิ่งสโลลี่บัตชัวร์ลี่
หิมะผู้อ่อนโยนเป็นการดำรงอยู่ที่พวกเขาจะต้องมองขึ้นไป พวกเขาเป็นคนที่อยู่ในโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ต้องพูดถึงการได้คุยกับเธอ พวกเขารู้สึกโชคอย่างน่าเหลือเชื่อเพียงแค่ได้อยู่ในป่าแห่งความตายกับหิมะผู้อ่อนโยน
เมื่อทุกคนคิดว่าซือเฟิงจะพอใจในการตกลงคำเชิญนี้ กลับกันซือเฟิงได้ให้คำตอบที่ตรงกันข้าม
“ไม่สนใจ ฉันกำลังรีบอยู่ในเวลานี้” ซือเฟิงหันหน้าไปแล้วออกไปทันทีหลังจากที่ตอบกลับ เขาไม่ได้สนใจเรื่องเซี่ยวหยูเอ๋อที่อยู่ข้างหน้าของเขาเลย และเขาก็ใส่ใจกับคำเชิญของหิมะผู้อ่อนโยนน้อยกว่านั้น
ตอนนี้แบบการตีขึ้นรูปได้อยู่ในมือของเขาแล้ว เขาขาดเพียงแค่แร่เท่านั้น เกราะกองทหารรักษาการณ์กำลังจะได้รับการเปิดตัวอย่างรวดเร็ว รายได้ของซือเฟิงจะมากขึ้นเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าเขาพลาดโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ เขาจะสูญเสียยอดเหรียญเป็นจำนวนมาก
แบล็คกี้ตื่นเต้นอย่างยิ่งเมื่อเขาคิดว่าเขาจะสามารถเข้าใกล้เทพธิดาได้ แต่คำตอบของซือเฟิง อย่างไรก็ตาม เกือบจะขับไล่เขาไปสู่ความบ้า มันต้องมีเส้นประสาทอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกในสมองของซือเฟิงที่ปฏิเสธคำเชิญ
มันไม่ใช่แค่แบล็คกี้เท่านั่นที่ตกตะลึง แม้กระทั่งเซี่ยวหยูเอ๋อก็ตกใจนิ่ง มันเป็นครั้งแรกที่เธอพบกับผู้ช่นที่ปฏิเสธคำเชิญของพี่สาวหิมะจริงๆ ผู้ชายจำนวนมากร้องขอเพื่อคำเชิญดังกล่าว แต่พวกเขาทุกคนเหลือไว้แค่มือเปล่า ผู้ชายคนนี้โง่รึเปล่า?
“ไปกันเถอะ นายกำลังฝันกลางวันถึงอะไร?” เขาหันมาแล้วถามสมาชิกปาร์ตี้ที่อยู่นิ่งเมื่อซือเฟิงพบว่าไม่มีใครตามเขามา
“พี่เฟิง นั่นเป็นคำเชิญจากเทพธิดาหิมะนะ พี่จะไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกหน่อยเหรอ?” แบล็คกี้ร้องขอ จิตใจของเขาใกล้จะเสียสติเต็มทีแล้วตอนนี้ ในเวลาเดียวกัน หัวใจของเขาสวดอ้อนวอนต่อซือเฟิงเพื่อให้ตกลงอย่างรวดเร็ว โอกาสยิ่งใหญ่เช่นนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมาอีกในอนาคต
“ฉันพูดแล้วว่าฉันไม่มีเวลา” ซือเฟิงตอบด้วยร้อยยิ้ม ซือเฟิงกลายเป็นไร้คำพูดเมื่อเขามองไปยังดวงตาที่เต็มไปด้วยการสวดอ้อนวอนของแบล็คกี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความนับถือบูชาของแบล็คกี้ต่อเทพธิดาหิมะก็จะไม่เปลี่ยนสักนิดเดียว
ขณะนี้ หิมะผู้อ่อนโยนและจ้าวหยูรู่ได้เดินผ่านมา หุ้มด้วยเกราะนักโบราณสีเงินยวง หิมะผู้อ่อนโยนเป็นจุดสนใจของทั่วทั้งป่าแห่งความตายอย่างไม่ต้องสงสัย ดวงตาของทุกคนถูกติดแน่นไว้กับร่างกายที่โก่งโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ปากของพวกเขามีน้ำลายไหลออกมา
ไม่มีใครเคยจิตนาการว่าหิมะผู้อ่อนโยนจะแสดงตัวเป็นการส่วนตัว
ความอิจฉาและความเกลียดชังของทุกคนสำหรับซือเฟิงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“คุณสามารถสบายใจได้ ฉันจะไม่ให้คุณเสียเวลามากเกินไป ชิ้นส่วนอุปกรณ์สัมฤทธิ์ชิ้นนี่สามารถเป็นค่าตอบแทนได้” หิมะผู้อ่อนโยนเฝ้ามองซือเฟิงอย่างระมัดระวัง เธอค้นพบว่าซือเฟิงได้แตกต่างไปจากคนอื่นๆอย่างแท้จริง ถึงแม่ว่าซือเฟิงจะมีรูปลักษณ์ทั่วไป แต่ร่างกายของเขาทำให้รู้สึกสงบและคงที่ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายฆ่าฟันเบาบางจากร่างกายของเขาด้วย อารมณ์ดังกล่าวจะต้องขัดเกลาหลังจากผ่านประสบการณ์การต่อสู้ของความเป็นตายที่ไม่สิ้นสุด
“หิมะ?” จ้าวหยูรู่ตกใจมาก เธอไม่เคยคิดว่าหิมะผู้อ่อนโยนจะมากเกี่ยวกับซือเฟิง ดวงตาสวยงามที่ไม่เต็มใจของเธอหันไปทางซือเฟิง คิ้วของเธอย่นเล็กน้อย และเธอก็พูดน้ำเสียงรังเกียจ “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสหายคนนี้จะมีค่าถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์สัมฤทธิ์ แค่ชิ้นส่วนอุปกรณ์สีเทาก็ดีสุดแล้วล่ะ”
พวกเธอได้ส่งคำเชิญให้ซือเฟิงเข้าร่วมการสนทนาด้วยความเคารพนับถือแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแต่ซือเฟิงจะไม่ซาบซึ้งในบุญคุณของพวกเธอเท่านั้น เขาแม้แต่ปฏิเสธพวกเธอทันที ถ้าใครคนอื่นได้รับคำเชิญเช่นนั้น พวกเขาคงจะวิ่งมาเลียแข้งพวกเธอนานแล้ว มันเป็นครั้งแรกที่จ้าวหยูรู่ได้พบกับผู้ชายขี้เหร่เช่นนี้ได้กระทำการดังกล่าว เธอเชื่อมั่นว่าซือเฟิงมีแผนการบางอย่างในใจและนั้นจะไม่มีอะไรดีกับเขาแน่
“ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สัมฤทธิ์ ฉันหาสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง” ซือเฟิงโบกมือของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่เกรงใจ เขาไม่เคยพยายามที่จะประจบสอพลอแม่มดตั้งแต่ต้น แต่เขาไม่เคยจินตนาการว่าเธอจะพูดกับเขาด้วยวิธีเช่นนี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เป็นผีร้าย เขาไม่จำเป็นต้องมีความใจบุญใดๆให้กับดวงตาที่สวยงามของจ้าวหยูรู่ที่กำลังไตร่ตรองซือเฟิง เธอหัวเราะเบาๆอย่างช่วยไม่ได้ พูดอย่างสนุกสนานว่า “จิตวิญญาณหัวแข็งแบบนี้ นายต้องการมันอย่างชัดเจน แต่นายก็ยังปฏิเสธที่จะรับมัน หิมะ สหายคนนี้หน้าไหว้หลังหลอกจริงๆ”
“หยูรู่” หิมะผู้อ่อนโยนเหลือบมองอย่างใจร้อนไปยังจ้าวหยูรู่ พูดเป็นนัยว่าไม่ให้เธอทำให้มันเลยเถิดเกินไป ในการเริ่มต้น พวกเธอเป็นคนที่เริ่มส่งคำเชิญไปก่อน มันไม่เหมาะสมที่ดูถูกคนอื่นในตอนนี้
จ้าวหยูรู่บุ้ยปาก เธอเล็งสายตาไปยังซือเฟิง ทำให้ยอดเขาคู่ที่ภาคภูมิใจของเธอพองออกขณะที่เธอหันหัวของเธอออกไปอย่างหมดหนทาง เธอไม่ได้คิดว่าสหายยากจนเช่นซือเฟิงจะมีอะไรที่พวกเธอต้องการ
“ขอโทษด้วย ได้โปรดรับชิ้นส่วนอุปกรณ์นี้เป็นคำขอโทษ” หิมะผู้อ่อนโยนได้เอาเข็มขัดสัมฤทธิ์เลเวล 0 ออกมาซึ่งใช้กับนักดาบและแลกเปลี่ยนมันกับซือเฟิง ซือเฟิงต้องการที่จะยุติเรื่องนี้
ซือเฟิงไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้หลังจากได้เห็นความจริงใจของหิมะผู้อ่อนโยน ถ้าเขาปฏิเสธมัน มันจะแสดงให้เห็นว่าเขานั้นเป็นผู้ชายที่ใจแคบแค่ไหน ในเวลาเดียวกันเขาจะทำให้หิมะผู้อ่อนโยนคิดว่าเขาไม่ต้องการที่จะไกลเกลี่ยได้ เขาไม่สามารถปฏิเสธน้ำใจของคนอื่นได้ นอกเหนือจากนี้เขายังขาดเข็มขัดสัมฤทธิ์โดยแท้จริง “ฮี่ฮี่ และแล้วที่ฉันคิดว่านายมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ในท้ายที่สุดนายก็ยังต้องการมัน” จ้าวหยูรู่กล่าวด้วยความรังเกียจ เธอรู้สึกโชคร้ายอยู่ภายในที่สูญเสียชิ้นส่วนอุปกรณ์สัมฤทธิ์ไป
พวกเธอได้รับชิ้นส่วนอุปกรณ์นี้หลังจากได้สังหารชนชั้นสูงหายากด้วยความยากลำบากอย่างมาก ตอนนี้ความพยายามของพวกเธอที่ได้สูญเสียไปได้กลายเป็นประโยชน์อย่างมากกับซือเฟิง
ซือเฟิงย่นคิ้วเล็กน้อย ไม่ใช่แม้แต่ผู้ชายที่จะสามารถยืนอยู่บนความล้อเลียนและยั่วเย้าได้เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนที่กลับมาเกิดใหม่แบบซือเฟิง
“เนื่องจากท่านหญิงหิมะได้ให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์สัมฤทธิ์กับผม มันก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมกับผมที่จะตอบแทนในประเภทนี้ นี่เป็นไอเทมที่ให้คืนเป็นของขวัญ”