ตอนที่ 71 ปราสาทที่กลบดานของนางปีศาจ
ฉันและทุกคนเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อไปยังปราสาทสีทองอร่ามนั่น ฉันคิดว่าเมสซีเรียจะต้องอยู่ที่นั่นแน่ และฉันก็แน่ใจว่าพวกเราจะได้เจอเธอแน่นอน
“ทางข้างหน้าที่จะไปมันอันตรายสำหรับเธอมากเลย ฉันไม่อยากให้เธอไปเลยนะเบอร์ริน”
อยู่ๆเลย์ก็หันมาจับมือของฉันแล้วก็ทำสีหน้าที่เป็นกังวลใส่ฉันเสียอย่างนั้น
“อย่าคิดแบบนั้นสิเราจะก้าวผ่านอุปสรรคไปด้วยกันเข้าใจไหม ฉันจะไม่ยอมทิ้งนายไปไหนแน่”
ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและดูดุดันเลย์จะได้มีกำลังใจและยอมให้ฉันไปกับเขาด้วย
“อืมก็ได้ฉันจะให้เธอด้วยก็ได้ แต่เธออย่าวู่วามแล้วก็อยู่ข้างหลังพวกเราเอาไว้เข้าใจไหม ฉันจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรเด็ดขาดเลย”
ฉันยิ้มให้เขาพร้อมกับส่งกำลังใจด้วยการหอมแก้มเขาครั้งหนึ่ง
“พวกเราไปกันเถอะครับเยอะกว่านี้ผมว่าผมคงต้องนอนดิ้นตายเป็นแน่เลย ดูแล้วพวกผมก็อิจฉาเหมือนกันนะครับ”
ดาโล่พูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าหมดอารมณ์ใส่พวกเรา มันทำให้ฉันหัวเราะออกมาได้นิดหน่อย
“งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะก่อนที่พวกนายทุกคนจะหนาวขึ้นมาอีก รีบทำตัวให้อุ่นๆซะนะ”
เมื่อฉันพูดจบเลย์ก็จับฉันอุ้มขึ้นก่อนจะพาฉันโดดลงไปอย่างปราสาทอย่างรวดเร็ว //ตุบ// เสียงลงที่เบามากนั้นทำให้มังกรไม่รู้ว่าพวกเราได้ตามมันมาถึงที่นี่ พวกเราอยู่นอกกำแพงของปราสาทเพราะข้างในปราสาทนั้นไม่รู้ว่าจะมีอะไรอยู่บ้าง
“เอาล่ะนับจากตรงนี้ไปเราจะแยกกันไปคนละทางก่อนนะ ถ้าเกิดพวกเราไปเป็นกลุ่มพวกมันอาจจะเห็นพวกเราได้”
จะให้พวกเราแยกกันอย่างนั้นหรอมันเป็นความคิดที่โง่มากเลยนะ แต่ในเมื่อเลย์สั่งพวกเราก็ต้องทำตามขัดนางไม่ได้เดี๋ยวนางงอน
“ฉันจะพาเบอร์รินไปทางนู้น ส่วนพวกนายก็อ้อมไปทางนั้น แล้วเราจะไปเจอกันที่ข้างในปราสาทนะ”
พวกเขาดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เลย์พูด ก่อนจะเริ่มแยกกันเดินไปคนละทาง ฉันสั่งให้มัลเลย์เข้ามาอยู่ในใจของฉันก่อน เวลาเดินพวกเราจะได้ดูน้อยๆแถมมัลเลย์ก็ตัวใหญ่และซุกซนด้วยจะได้ไม่ดูขวางหูขวางตา
“งั้นเราไปกันเถอะ อย่างแรกเราจะเข้าไปทางไหนแล้วจะไปตรรงไหนกันล่ะ ทางนอกกำแพงมันก็ใหญ่และกว้างมากด้วย ขืนให้ปีนขึ้นไปคงจะเหนื่อยตายก่อนแน่เลยอะ”
อย่างที่ฉันคิดข้างต้นก็คือว่าถ้าเกิดพวกเราปีนกำแพงขึ้นไปพวกเราอาจจะเจอกับพวกนั้นได้ง่าย แต่ว่ามันจะเหนื่อยมากเพราะกำแพงมันสูงแหละใหญ่สุดๆ แถมเราไม่รู้ด้วยว่าทางเข้าปราสาทมันอยู่ตรงไหนแล้วมันอันตรายมากหรือเปล่า
“นี่ทางเข้าอยู่ตรงนั้นไงเธอไม่เห็นหรือไงเบอร์ริน”
เขาว่ายังไงนะทางเข้าอยู่ตรงไหนนะฉันลองมองไปตามที่นิ้วเขาชี้ก็พบว่าทางเข้ามันโล่งแบบผิดปกติ เหมือนกับว่ามันไม่มีคนเฝ้าอยู่เลย
“ตรงนั้นเนี่ยนะเป็นทางเข้าฉันไม่คิดเลยว่ามันจะมีทางเข้าตรงนั้น แต่ว่ามันจะดูง่ายๆเกินไปไหมแถมไม่มีคนมาคุมที่หน้าประตูเลย มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้นะเลย์”
ยังไงเราสองคนก็ต้องระมัดระวังเรื่องพวกนี้ เพราะคนอย่างเมสซีเรียมันไม่ให้พวกเราเข้าไปในปราสาทได้ง่ายๆหรอก
“งั้นเธอรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนฉันจะเข้าไปดูเสียนิดหนึ่งเผื่อว่ามันจะมีสัตว์ประหลาด หรือตัวอันตรายอยู่แถวนั้น รอฉันอยู่ตรงนี้นะอย่าไปไหนล่ะ”
ฉันพยักหน้าให้กับเลย์เพื่อให้รู้ว่าฉันรับรู้และเข้าใจเขาทุกอย่าง จากนั้นเลย์ก็เดินย่องไปทางหน้าทางเข้าปราสาทอย่างใจเย็น ก่อนจะเริ่มใช้พลังของเขาในการยกหินยักษ์ขึ้นมาป้องกันตัวเอาไว้ด้วย ฉันเหลือบไปมองเขาเขาหันมาพยักหน้าให้กับฉัน ซึ่งฉันก็พยักหน้าตอบรับเลย์ แล้วเลย์ก็กระโดดเข้าไปยังหน้าทางเข้าอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใช้พลังของเขา แสดงว่าข้างหน้าของเลย์มันปลอดภัยไม่มีตัวอะไร
“เป็นยังไงบ้าง ??” ฉันหันไปถามเลย์
“ไม่มีอะไรเลยที่นี่ ฉันว่าพวกเราเข้าไปกันเถอะ” เลย์พูดขึ้นฉันจึงเดินเข้าไปหาเขาแต่แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเราต้องประสบปัญหาความยากลำบากในการเข้าไปอีกแล้ว
“ผู้แปลกหน้า ผู้แปลกหน้า จัดการมันเดี๋ยวนี้” เสียงที่ดังออกมาจากข้างหลังของเราทำให้ฉันรู้ตัวเลยว่ามันจะต้องมีงานหยาบแน่นอน แล้วทำไมตอนแรกพวกเราถึงไม่เห็นมันเลย พอเราเข้ามาพร้อมกันมันดันมาเสียอย่างนั้น
“สงสัยปาร์ตี้จะเริ่มแล้วล่ะมั้งที่รัก” เลย์ยิ้มเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องสนุกของเขา นี่เขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นหรือเปล่า หรือว่าเขารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอพวกมันแต่เขาทำเป็นไม่รู้เรื่องกันนะ
“นี่เลย์นายรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ฉันมองไปที่หน้าของเขาอย่างตั้งใจ
“ก็นิดหน่อยน่ะเจ้าพวกนี้มันไม่ได้โหดอะไรมากหรอกเชื่อฉันสิ ถ้าไม่เชื่อลองดูนี่เดี๋ยวฉันจัดการพวกมันให้เธอดูเอง”
พอเลย์พูดจบเลย์ก็ปาหินที่เขาเอามาด้วยไปใส่ที่เจ้าตัวปีศาจตัวนั้น //ตู้มมม// ฝุ่นฟุ้งสักพักหนึ่งก่อนมันจะจางหายไป แล้วพบว่าเจ้าตัวนั้นมันใช้แค่หมัดของมันในการชกหินยักษ์ให้แตกอย่างง่ายดาย
“งานหยาบแล้วแฮะ” ฉันกะแล้วว่าจะต้องเจอเรื่องแบบนี้!!!