TXV – 83 คุณเป็นของฉัน !
TXV – 83 คุณเป็นของฉัน !
“กรุณารับน้ำชาถ้วยนี้ด้วยเถอะครับท่านอาจารย์” เซี่ยเหล่ยคุกเข่าทั้งสองข้างลงบนพื้นของสำนักสอนศิลปะการต่อสู้ และยกถ้วยน้ำชาเอาไว้เหนือศีรษะ
หลางเฉิงชุนรับถ้วยน้ำชานั้นมาและยกขึ้นจิบเล็กน้อย ท่าทางของเขาดูเคร่งขรึมแต่ภายในนั้นเขากลับรู้สึกมีความสุข ลูกศิษย์อย่างเซี่ยเหล่ยเป็นคนพิเศษที่ครูฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างเขาจะสามารถเจอได้ในรอบหนึ่งร้อยปีเท่านั้น ดังนั้นแล้วการได้กับพบเขาจึงถือเป็นเรื่องบังเอิญและเป็นความโชคดีอย่างมาก
เสียงปรบมือดังสนั่นโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ นักเรียนทุกคนทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่ต่างมีความสุขไปกับอาจารย์หลางและเซี่ยเหล่ย
ลู่เชิงเองก็ปรบมือด้วยแต่รอยยิ้มของเขาดูเหมือนจะเป็นการฝืนใจเล็กน้อย...
หลางซือเหยาถือถาดที่เต็มไปด้วยซองกระดาษสีแดงไปแจกให้เหล่านักเรียนทุกคน ในซองนั้นมีเงินจำนวนเล็กน้อยเพียงแค่หนึ่งร้อยหยวนเท่านั้น แต่นี่เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่ และพวกเขาจะไม่ใส่ใจจำนวนเงินที่ถูกใช้เพื่อความเป็นสิริมงคล....
หลางซือเหยาให้ซองกระดาษสีแดงกับลู่เชิงและพูดเสียงนิ่งๆ “ผู้ฝึกตน ฉันรู้ว่าคุณไม่มีความสุข แต่บางสิ่งบางอย่างมันก็ไม่สามารถบังคับกันได้ มันจะดีกว่าถ้าคุณรู้จักปล่อยวางเสียบ้าง”
“ผมไม่เป็นไร เซี่ยเหล่ยแข็งแกร่งกว่าผม ถึงแม้ว่าผมจะฝึกหวิงชุนมานานหลายปีแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เขาเหมาะสมแล้วล่ะที่จะเป็นผู้สืบทอดของท่านอาจารย์ ผมเป็นคนที่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้แต่สำหรับเซี่ยเหล่ยเขาสามารถยอมรับมันได้”
“อืม ดีนะที่คุณคิดแบบนี้” หลางซือเหยายิ้ม
เซี่ยเหล่ยคำนับโดยก้มศีรษะแตะพื้นสามครั้ง และเรียก “ท่านอาจารย์”
หลางเฉิงชุนวางถ้วยชาลงและช่วยพยุงเซี่ยเหล่ยให้ลุกขึ้นยืน เขาไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มไว้ได้อีกต่อไป เขายิ้มกว้างในขณะที่พูดว่า “อาจารย์มีคำแนะนำบางอย่างให้กับคุณ จงเป็นคนดีและมุ่งมั่นในสิ่งที่คุณคิดจะทำนะ”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ผมจะจำไว้ครับ ท่านอาจารย์”
หลางเฉิงชุนตบไหล่เซี่ยเหล่ยเบาๆ “คุณเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของผมแล้ว หลังจากคุณก้าวผ่านเข้าไปในประตูของหวิงชุน ผมจะไม่ปล่อยให้คุณกลับเข้ามาอีกถ้าคุณคิดจะใช้สิ่งที่ผมสอนเพื่อทำชั่วหรือทำร้ายคนอื่น”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าอีกครั้งและคิดว่า “ปกติท่านอาจารย์ไม่ใช่คนชอบพูดมากนี่ แต่ทำไมวันนี้เขาถึงได้พูดเยอะนักล่ะ?”
หลางเฉิงชุนก้มหน้ามาพูดข้าวหูเซี่ยเหล่ย “ซือเหยาบอกผมว่าเธอทำงานอยู่ในบริษัทของคุณ นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าอีกครั้ง “ครับ เป็นเรื่องจริง”
หลางเฉิงชุนเงียบไปราวสองวินาทีก่อนจะพูดต่อ “ดูแลเธอให้ดี ถ้ามีผู้ชายคนไหนกล้าทำร้ายเธอหรือมีจุดประสงค์ร้ายกับเธอ ผมอยากขอให้คุณช่วยจัดการพวกเขาซะ”
เซี่ยเหล่ยนิ่งไปและพยักหน้าอีกครั้ง
ผู้ชายที่มีลูกสาวที่ยังไม่แต่งงานโดยส่วนใหญ่แล้วก็จะกลัวลูกไปเสียท่าให้กับพวกผู้ชายเลวๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลางเฉิงชุนจะมีความคิดเช่นนั้นเหมือนกัน
หลางซือเหยาเดินเข้ามาหลังจากแจกซองสีแดงเสร็จหมดแล้ว “พวกคุณกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่?”
หลางซือเหยายิ้ม “อย่างงั้นหรือ จริงสิ พวกคุณมีเวลาว่างมากนี่ คืนนี้มาทำหม้อไฟกันดีไหม?”
ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะตอบ ลู่เชิงก็พูดขึ้นมาเสียงดัง “ก็ดีนะ วันนี้เป็นวันดีสำหรับเซี่ยเหล่ย ให้เด็กใหม่เลี้ยงอาหารเรากันดีไหมล่ะ?”
“ดี!” เสียงเชียร์ดังมาจากเหล่าเด็กนักเรียน
เซี่ยเหล่ยหัวเราะขณะพูด “ก็ได้ ก็ได้ มือนี้ผมเลี้ยงเอง ไม่ต้องเกรงใจ เชิญพวกคุณทานกันได้เต็มที่เลย”
โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข...
เซี่ยเหล่ยดื่มไปหนักมาก เขาขับบรถกลับเองไม่ไหวหลังจากไปกินหม้อไฟกัน ดังนั้นหลางซือเหยาจึงขับรถของเซี่ยเหล่ยมาส่งเขาที่บ้าน
“คุณพักอยู่ชั้นไหน?” หลางซือเหยาช่วยพยุงเซี่ยเหล่ยออกมาจากรถ แต่เธอไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหนในตึกมากมายเหล่านี้
เซี่ยเหล่ยชี้ไปที่บันไดที่อยู่ด้านหน้าที่จอดรถและพูดด้วยเสียงที่ฟังไม่ชัดนัก “ชั้นหก…”
เขาเมามากจนไม่สามารถบอกได้ว่าพักอยู่ชั้นไหน
“ฉันจะพาคุณกลับบ้านเดี๋ยวนี้ล่ะ” หลางซือเหยาพยุงเซี่ยเหล่ยตรงไปยังบันได
เมื่อเข้ามาใกล้บันได หลางซือเหยาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นหนึ่ง เธอกำลังกินแตงโมและจ้องมองมาทางเธอและเซี่ยเหล่ย เธอจ้องเขม็งจนหลางซือเหยาคิดว่า ‘ผู้หญิงคนนี้แปลกมาก เธอไม่รู้หรือไงว่าการจ้องคนอื่นด้วยสายตาแบบนั้นมันหยาบคายมาก?’
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้นเอง ผู้หญิงคนนั้นก็ขว้างแตงโมทิ้งและเดินกลับเข้าไปในบ้าน
หลางซือเหยาเพิ่งพยุงเซี่ยเหล่ยมาถึงแค่บันไดเท่านั้นเมื่อผู้หญิงที่กินแตงโมเมื่อครู่นี้เปิดประตูห้องและเดินออกมา เธอยิ้มขณะที่มองหลายซือเหยาและเซี่ยเหล่ย เธอยืนขวางทางขึ้นเอาไว้และดูเหมือนเธอจะไม่ยอมหลีกทางซะด้วย
“คุณช่วยขยับออกไปด้านข้างหน่อยได้ไหมคะ” หลางซือเหยาพูดอย่างสุภาพ เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือเจียงหยูยี่ ที่กำลังมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับเซี่ยเหล่ย
“โอ๊ะ! นี่ใช่เหล่ยของเราหรอกหรือ?” เจียงหยูยี่พูดราวกับว่าเธอเพิ่งมาเจอพวกเขาอย่างบังเอิญที่บันได
“เหล่ยของเรา?” หลางซือเหยาถามด้วยความอยากรู้ “คุณเป็นใคร?”
“เขาไม่ได้บอกเรื่องของฉันกับคุณอย่างงั้นหรือ?”
“เปล่า” หลางซือเหยาตอบ
เจียงหยูยี่ก้าวมาข้างหน้าและตบหัวเซี่ยเหล่ย “เจ้าคนสารเลว คุณรู้แค่วิธีกินเหล้าให้เมาหรือทำไมคุณถึงไม่บอกฉันว่าคุณมีเพื่อนใหม่?”
“ใคร…ตบผม?” เซี่ยเหล่ยพึมพำและปิดตาลงอีกครั้ง
‘ผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของเซี่ยเหล่ยงั้นหรือ?’ หลางซือเหยาคิด
“ฉันต้องขอโทษด้วยที่เหล่ยไปสร้างปัญหาให้กับคุณ ส่งเขามาเถอะ ฉันจะดูแลเอง” เจียงหยูยี่พูด
หลางซือเหยาลังเล แม้ว่าเธอจะสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของเซี่ยเหล่ย แต่มันก็เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น และเธอรู้สึกไม่สบายใจที่จะส่งเซี่ยเหล่ยให้กับผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้
เจียงหยูยี่คว้าแขนอีกข้างของเซี่ยเหล่ยมาจับไว้และพูด “คุณรู้ไหมว่าเหล่ยจะเสียงดังและอาเจียนไปทั่วเมื่อเขาเมา แล้วเขายังชอบถอดเสื้อผ้าและลงไปนอนกองกับพื้นอีกด้วยนะ นี่มันน่ากลัวมากๆ”
“นี่…” หลางซือเหยาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอคิดภาพเซี่ยเหล่ยถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปนอนกองกับพื้นไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ยอมปล่อยให้เขาไป
เจียงหยูยี่พยายามดึงเซี่ยเหล่ยออกมาแต่กลับพบว่าหลางซือเหยาไม่ยอมปล่อยเขา และดูเหมือนว่าเธอจะไม่อยากปล่อยให้เขาไปด้วย ทันใดนั้นเองเจียงหยูยี่ก็หยิบเอกสารบางอย่างออกมาและกางมันให้หลางซือเหยาดู “ดูซะสิ ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้จะเชื่อฉันได้หรือยัง?”
หลังจากหลางซือเหยารู้ว่าเจียงหยูยี่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ความกังวลในใจเธอก็หายไปและเธอก็ปล่อยมือออกจากแขนเซี่ยเหล่ย “โอเค ฉันจะปล่อยให้คุณดูแลเขา ช่วยบอกเขาด้วยว่าฉันขับรถเขากลับไปและจะเอามาคืนในเช้าวันพรุ่งนี้”
เจียงหยูยี่กลับยื่นมือของเธอออกมาแทน “เอากุญแจมาให้ฉัน ส่วนคุณก็นั่งแท็กซี่กลับไป”
หลางซือเหยาลังเล แต่สุดท้ายก็ส่งกุญแจไปให้เจียงหยูยี่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นถึงหัวหน้าตำรวจ
เจียงหยูยี่ไม่ได้พาเซี่ยเหล่ยไปที่ชั้นสอง แต่กลับพาไปยังห้องของเธอเอง เธอวางเขาลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น และตบหน้าเขาเบาๆ “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”
“อือ…จะนอน…” เซี่ยเหล่ยไม่แม้แต่คิดจะลืมตา
เจียงหยูยี่ขยับออกมาและถีบไปที่เอวของเซี่ยเหล่ย “เจ้าคนสารเลว คุณมีเพื่อนบ้านที่ดีเลิศแบบฉันแต่คุณก็ยังออกไปดื่มและสังสรรค์กับเพื่อนอีก โดนถีบแบบนี้บ้างเป็นไง?”
“คร่อก…คร่อก…” เซี่ยเหล่ยเริ่มกรน
“นอนหลับสบายโดยที่ไม่รู้สึกผิดอะไรเลยนะ” เจียงหยูยี่ด่าเขาแต่ใบหน้าของเธอกลับมีรอยยิ้ม เธอเอนตัวลงพิงไหล่ของเซี่ยเหล่ยและพูดกับตัวเอง “คุณเป็นคนเลวที่บุกเข้าบ้านของฉันหลังจากไปเมามา คุณตั้งใจจะทำอะไร?”
“คร่อก…คร่อก…” เซี่ยเหล่ยยังคงกรนต่อไป
มือของเจียงหยูยี่สัมผัสไปทั่วร่างกายของเซี่ยเหล่ยขณะที่แก้มของเธอแดงขึ้นเรื่อยๆ “เจ้าคนเลว ตอนเรายังเด็กๆคุณผอมมากเลย แต่ตอนนี้คุณกลับหุ่นดีมาก คุณจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน? เพื่อยั่วฉันงั้นหรือ? ฉันไม่ตกหลุมพรางเพราะเรื่องนี้หรอกนะ”
เซี่ยเหล่ยไม่รับรู้ถึงมือของเธอที่กำลังสัมผัสตัวเขา เขาหลับลึกมาก.....
เจียงหยูยี่ยังคงสัมผัสตัวเซี่ยเหล่ยต่อไปอีกสักพักก่อนจะลุกขึ้นยืน “ลืมเรื่องนี้ไปซะเถอะ ฉันจะไปเตรียมน้ำไว้ให้และกลับมาพาคุณไปอาบน้ำ” ก่อนจะเดินออกไป เธอหันกลับมาหยิกต้นขาเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง “ฉันยังคงดีกับคุณแม้ว่าคุณจะออกไปเที่ยวดื่มเหล้าและปล่อยเนื้อปล่อยตัวขนาดนี้ แล้วฉันจะเป็นหนี้ชีวิตคุณได้ไงกัน?”
เซี่ยเหล่ยพึมพำบางอย่างออกมา แต่เสียงก็อู้อี้อยู่ในลำคอ ฟังไม่ออกว่าเป็นคำพูด
เจียงหยูยี่หัวเราะคิกคักและเดินไปยังห้องน้ำ
เสียงน้ำไหลดังมาจากทางห้องน้ำพร้อมกับเสียงร้องเพลงจากหัวหน้าเจียง เธอร้องเพลง ‘Little Apple’
ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออกและผู้หญิงที่สวมเสื้อโค้ทตัวยาวก็ก้าวเข้ามาในห้อง เธอดึงเซี่ยเหล่ยขึ้นมาจากโซฟา จากนั้นจึงก้มตัวลงเอาแขนของเขามาวางไว้บนไหล่และพยุงออกจากห้องไป.....
ประตูถูกปิดลงโดยไม่มีเสียง ทุกทิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาแค่ 15 วินาทีเท่านั้น
“You are my little, little apple…” เจียงหยูยี่เดินออกมาจากห้องน้ำและตกตะลึงเมื่อมองไปที่โซฟา “เขา…ไปแล้ว?”
เธอนิ่งไปสักพักก่อนจะวิ่งไปยังชั้นสองเพื่อเคาะประตูเรียกเซี่ยเหล่ย
ในห้องของเซี่ยเหล่ย ผู้หญิงที่สวมเสื้อโค้ทยาวได้พ่นสเปรย์ใส่จมูกเซี่ยเหล่ยถึงสองครั้ง
“ฮัดชิ่ว!” เซี่ยเหล่ยจามออกมาอย่างรุนแรงและลืมตาขึ้นมา
“เหล่ย! เหล่ย!” เสียงของเจียงหยูยี่ดังมาจากหน้าประตู
เซี่ยเหล่ยส่ายหัวอย่างแรงและมองเห็นหลงบิงยืนอยู่ต่อหน้าเขา
“เหล่ย? คุณอยู่ในบ้านไหม?” เสียงของเจียงหยูยี่ดูเป็นกังวล
เซี่ยเหล่ยเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้เขาจึงตอบเธอ “ผมอยู่บ้าน คุณมีอะไรหรือเปล่า?”
“ฉัน…ฉันตัดขาดกับคุณแล้ว!” เสียงของเจียงหยูยี่ตอบกลับมา ตามด้วยเสียงก้าวลงบันไดกลับไปชั้นล่าง
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขำๆ เจียงหยูยี่บอกว่าจะตัดขาดกับเขาเป็นร้อยครั้งแล้วตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก แต่ไม่มีครั้งไหนที่มันเป็นเรื่องจริงเลย เขารู้จักเธอดีราวกับว่าเธอเป็นอวัยวะหนึ่งภายในร่างกายของเขาเลยทีเดียว
หลังจากเงียบไปสักครู่ เซี่ยเหล่ยพูด “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“งานของฉัน” หลงบิงตอบ
เซี่ยเหล่ยนิ่งไป “งานของคุณ? มันเกี่ยวข้องกับผมหรือเปล่า?”
หลงบิงพยักหน้า “ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน งานของฉันเกี่ยวข้องกับคุณ”
“เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยเหล่ยถาม
หลงบิงนั่งลงและมองไปยังเซี่ยเหล่ย “ฉันไม่ควรจะบอกคุณ แต่…ฉันคิดว่ามันคงไม่ดีถ้าฉันทำแบบนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศจีนได้ส่งรายงานฉบับนี้มาและมันมีการกล่าวถึงคุณด้วย คุณเป็นคนผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่สำคัญมากให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศจีน และพวกเขาคิดว่าคุณสามารถปรับปรุงเครื่องกลึงธรรมดาให้ได้มาตรฐานเดียวกับอเมริกาและยุโรปได้ มีหลายๆคนสนใจเรื่องนี้ และพวกเขาส่งฉันมาตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคุณ”
เซี่ยเหล่ยรู้สึกแปลกใจกับการปรากฏตัวของหลงบิง แต่มันก็หายไปหลังจากเธอบอกเหตุผลว่ามาที่นี่ทำไม การทำงานร่วมกันของเขาและกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศจีนดูเหมือนจะเป็นการร่วมมือกันระหว่างสองบริษัท แต่จริงๆแล้วมีแค่เขาที่ทำงานให้กับบริษัทนั้น เห็นได้ชัดว่าเขามีค่ากับกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศจีนในเรื่องของการเป็นคนพัฒนาเทคโนโลยี และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาต้องใช้ใบสั่งซื้อสินค้าเป็นเครื่องต่อรองให้พวกเขาซื้อที่ดินเพื่อสร้างบริษัทให้
แน่นอนว่าทุกๆอย่างมีทั้งข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบ ดังนั้นเขาจึงใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อหาผลประโยชน์จากกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศจีน แต่มันก็ทำให้บางคนไม่พอใจจนต้องส่งหลงบิงมาตรวจสอบเขา
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “ผมอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว คุณต้องการตรวจสอบอะไรล่ะ? เริ่มจากอะไรดี?”
“ฝันดี” หลงบิงพูด เธอลุกขึ้นและเดินตรงไปยังประตู
“เฮ้?” เซี่ยเหล่ยยืนขึ้น “คุณจะออกไปแบบนี้เลยหรือ?”
หลงบิงเปิดประตูและปิดประตูออกไป..
เซี่ยเหล่ยมองประตูที่ปิดสนิทและยืนนิ่งไม่ขยับตัว
ทำไมเธอต้องทำตัวลึกลับตลอดเวลาเลยนะ? เป็นคนที่ยากที่จะเข้าถึงจริงๆ
ติดตามตอนต่อไป...........