TXV – 81 ความขัดแย้ง !
TXV – 81 ความขัดแย้ง !
ที่ดินผืนนี้มันมีขนาด 20 แปลง ราคาของมันถูกกำหนดไว้โดยรัฐบาล มีราคา 6,000 หยวนต่อตารางเมตร ทำให้ที่ดินแปลงนี้มีมูลค่าขั้นต่ำ 80 ล้าน ถ้ารัฐบาลทำการเปิดประมูลที่ดินผืนนี้ จะมีพวกนักลงทุนต่างๆมาประมูลราคาอาจจะเพิ่มเป็น 2 เท่าหรืออาจจะเหยียบ 200 ล้าน สถานที่ตั้งแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือและเป็นสถานที่ทำเลดีมากๆคงจะมีนักลงทุนมากมายเต็มใจที่จะซื้อที่ดินผืนนี้..
หลางซือเหยามีรอยยิ้มแปลกๆออกมาบนหน้าตาของเธอหลังจากที่มองไปยังที่ดินผืนนี้ “มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่จะตั้งบริษัทสำหรับผลิตชิ้นส่วนบนที่ดินผืนนี้ ถ้าเป็นฉัน ฉันคงสร้างคอนโดขึ้น สถานที่นี้ทำเลดีมากๆเพราะอยู่ติดกับโรงเรียนและมีโรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ ฉันสามารถกำหนดขายในราคา 10,000 หยวนต่อตารางฟุตได้อย่างสบายๆ มันจะทำให้ฉันรวยเป็นมหาเศรษฐีชั่วข้ามคืน”
เซี่ยเหล่ยหัวเราะออกมาและพูดว่า “ฮวงยี่หู่คงต้องการซื้อที่ดินแปลงนี้เพื่อสร้างคอนโดเหมือนกับสิ่งที่คุณคิดนั่นแหละแต่อย่างไรก็ตามผมยืนยันจะสร้างบริษัทของผมขึ้นบนที่ดินผืนนี้...”
“คุณพยายามจะทำให้เขาโกรธมากขึ้น คุณกำลังจะฆ่าตัวตายเหรองั้นเหรอ ?” หลางซือเหยาถาม
“มันคงจะดีถ้าเขาโกรธจนช็อคตายแต่คนประเภทนั้นคงไม่ตายง่ายๆหรอกคนดีๆส่วนใหญ่มักจะอายุสั้นในขณะที่คนชั่วจะมีอายุยืนยาว” เมื่อเซี่ยเหล่ยพูดถึงเรื่องนี้ทำให้เขาคิดถึงหม่าเสี่ยวอันอีกครั้ง
หลางซือเหยาพยายามปลอบใจเซี่ยเหล่ย “อย่าเศร้าไปเลยฉันกลัวว่านักลงทุนหลายคนคงจะสนใจที่ดินผืนนี้เช่นกัน ถ้าเพื่อนของคุณทั้งสองคนไม่สามารถซื้อที่ดินผืนนี้ให้กับคุณได้ พวกเราก็คงไม่มีเงินซื้อเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมา “อย่าห่วงไปเลย เราไปหาร้านน้ำชาดื่มเพื่อเฉลิมฉลองในการก่อตั้งบริษัทของผมกันเถอะ”
“ได้เลย หยุดเรียกฉันว่า คุณหลางได้แล้ว” หลางซือเหยายิ้มและพูดว่า “ให้เรียกว่าซือเหยาแทน”
“ตกลงงั้นอย่าเรียกผมว่าคุณเหล่ย ให้เรียกผมว่าเหล่ยแทน” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“เหล่ย !” หลางซือเหยาได้สบตากับเซี่ยเหล่ยจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมา
พวกเขาทั้งสองคนเดินตรงไปที่รถของพวกเขาจอดอยู่ทันใดนั้นเขาก็ต้องหยุดลงเพราะมีรถหรู 3 คันจอดอยู่ตามถนน รถทั้ง 3 คันนั้นมีราคาแพงคนทั่วไปไม่สามารถซื้อมาขับในเมืองได้ !
ประตูรถคันหนึ่งก็เปิดออก จากนั้นมีชายหนุ่มใส่ชุดสูทสีดำก้าวออกมาจากรถจากนั้นเขาเดินไปเปิดประตูหลังรถจากนั้นมีชายวัยกลางคนเดินออกจากรถ ชายคนนี้แต่ตัวดีและดูมีฐานะร่ำรวยมาก
เมื่อเซี่ยเหล่ยจ้องมองไปยังชายวัยกลางคนนั้น เขาก็หยุดเดินในทันที
ชายที่ออกมาจากรถคันนั้นคือ ฮวงยี่หู่ เซี่ยเหล่ยจำรูปลักษณ์ของตัวเขาได้ จากการที่ไปแสดแนมบ้านของฮวงยี่หู่เมื่อคืนที่ผ่านมา
คนอื่นก็ทยอยลงจากรถอีก 2 คันรถทุกคันมีบอดี้การ์ดเป็นคนขับและมีผู้บริหารระดับสูงอีก 2-3 คนมันไม่ง่ายเลยที่จะบอกว่าตัวตนของแต่ละคนคือใคร
เมื่อผู้หญิงคนนั้นลงจากรถ เธอคนนั้นคือ ลี่หยู่หลาน
ทั้งฮวงยี่หู่และลี่หยู่หลาน ยังไม่เจอตัวของเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยา ทั้งคู่เดินไปตามทางของที่ดินผืนนี้และวางแผนการก่อสร้างบนที่ดินผืนนี้ตลอดทาง..
“ผู้บริหารหวาง ฉันจะให้โครงการของหลิวหยิงแก่คุณ หลังจากที่ฉันได้รับที่ดินผืนนี้” ฮวงยี่หู่พูดกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
“ขอบคุณ ขอบคุณครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทหลิงหยินของเราได้ร่วมงานกับคุณ” เขาตอบกลับมา
ลี่หยู่หลานได้พูดกับเจ้าหน้าที่อีกคนว่า “ผู้บริหารจู ทางเราจะทำสัญญาการก่อสร้างทั้งหมดกับบริษัทของคุณ”
ผู้บริหารจูยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหาเลยครับนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ทำงานร่วมกัน คำตอบของผมจะเหมือนกับคนรึเปล่า ?”
ฮวงยี่หู่หยุดเดินและหัวเราะออกมา “ตั้งแต่ผู้บริหารจูพูดจะปฏิบัติตามข้อกำหนดของผมพวกเราก็ได้ร่วมงานด้วยกันมาตลอดเลยเนอะ”
ผู้บริหารจูกล่าเสริมอีกว่า “ท่านหู่ ทางเราสามารถปฏิบัติงานให้ท่านได้อยู่แล้วแต่ก็มีนักธุรกิจหลายคนที่เล็งที่ดินผืนนี้อยู่ ผมไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาได้ คุณสามารถรับมือกับคนเหล่านั้นได้ใช่ไหม ?”
“ไม่มีใครกล้ามาแย่งที่ดินผืนนี้หรอก ! ไม่มีที่ไหนในเมืองห่ายจูที่ผมอยากได้แล้วไม่ได้ ! ผมจะซื้อที่ดินผืนนี้ด้วยราคาที่ต่ำที่สุด” ฮวงยี่หู่กล่าว
“แล้วนักธุรกิจคนอื่นๆล่ะเขาไม่เสนอราคาที่ดินผืนนี้เลยหรือ ?” ผู้บริหารหวางถามด้วยความสงสัย
ฮวงยี่หู่หัวเราะออกมา “มีใครกล้า ? ผมจะไปหาพวกมันทีละคนและดูสิว่าใครกล้ายุ่งกับผมบ้าง ผมจะถามพวกมันทีละคนว่าใครจะกล้าเสนอราคาที่ดินผืนนี้มากกว่าผม !”
ทั้งผู้บริหารหวางและผู้บริหารจูยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
มันคือความจริง ! ใครจะกล้างัดข้อกับฮวงยี่หู่ ผู้มีอิทธิพลในเมืองห่ายจูนี้ล่ะ ?
หลางซือเหยามองที่ลี่หยู่หลานแล้วพูดเบาๆว่า “เหล่ย อย่าไปยุ่งกับคนเหล่านี้เลย”
“ทำไมถึงยุ่งไม่ได้ ? ที่ดินผืนนี้ไม่ใช่ของพวกมันซะหน่อย” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ก็ได้” หลางซือเหยาเป็นผู้หญิงที่ไม่กลัวอะไรอยู่แล้วเธอมองไปที่ฮวงยี่หู่ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับลี่หยู่หลานและถามว่า “เหล่ย ชายคนนั้นคือ ฮวงยี่หู่ ที่คุณพูดถึงอยู่บ่อยๆใช่มั้ย ?”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ใช่แล้ว คุณได้ยินสิ่งที่เขาพูดหรอ ? ฮวงยี่หู่หัวกำลังวางแผนก่อสร้างบนที่ดินผืนนี้ ?” หลางซือเหยาถาม
ฮวงยี่หู่กำลังมองเห็นที่ดินผืนนี้เป็นของตนเองโดยสมบูรณ์จากนั้นเขาได้ติดต่อบริษัทรับเหมาก่อสร้างและบริษัทจัดหาวัสดุการก่อสร้างเพื่อมาพูดคุยธุรกิจที่นี่
“เขามีหน้าดวงตาที่เจ้าเล่ห์และดูไม่น่าไว้ใจ ฮวงยี่หู่ คงไม่ใช่คนดีแน่ๆ” หลางซือเหยากล่าว
ขณะนั้นบอดี้การ์ดของฮวงยี่หู่หันมาเห็นเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยา เขาเดินลงไปหาทันทีและพูดว่า “ใครให้คุณเข้ามาที่นี่ ? ที่นี่มันเป็นสถานที่ก่อสร้าง คุณมีสิทธิ์เข้ามาได้ยังไง ?”
ทั้งฮวงยี่หู่ ลี่หยู่หลานและคนอื่นๆ หันมามองเซี่ยเหล่ยและลี่หยู่หลานในช่วงเวลานั้นสายตาที่มีความสุขของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสายตาที่รังเกียจออกมาทันที
นี่เป็นครั้งแรกของฮวงยี่หู่ที่เห็นเซี่ยเหล่ย เขารู้อยู่แล้วว่าเซี่ยเหล่ยเคยทำอะไรให้เขาไม่พอใจบ้าง แถมเซี่ยเหล่ยยังรู้ตัวตนของเขาทุกอย่างและเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสำนักงานการค้าและการพาณิชย์มันทำให้เขาเหมือนถูกตบหน้า เมื่อเขาเห็นเซี่ยเหล่ยในครั้งนี้ทำให้ความเกลียดชังและความโกรธพุ่งทยานขึ้น ดูเหมือนว่าเขาตอนนี้อยากจะกระโดดเข้าไปฉีกเนื้อของเซี่ยเหล่ยออกเป็นชิ้นๆ
“ผมกำลังพูดกับคุณ คุณหูหนวก ?” บอดี้การ์ดของฮวงยี่หู่เริ่มหงุดหงิด
“ผมไม่อยากพูดกับคุณเพราะคุณไม่ได้สำคัญอะไรกับผม คุณก็ไม่ได้ตาบอดหนิ ? มองไม่เห็นหรอว่าผมไม่อยากคุยกับคุณ” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ไอ้เหี้X !” บอดี้การ์ดของฮวงยี่เดินตรงไปหาเซี่ยเหล่ยใกล้กว่าเดิม
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ขยับตัวไปไหนเพียงแต่เฝ้าดูการกระทำบอดี้การ์ดของฮวงยี่อย่างเงียบๆ
มีรอบยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของฮวงยี่หู่ เขารู้ว่าบอดี้การ์ดของเขานั้นเก่งกว่าพวกอันธพาลเฉินฉัวหู่ที่เขาส่งไป เขามั่นใจว่าบอดี้การ์ดคนนี้สามารถจัดการเซี่ยเหล่ยและผู้หญิงคนนั้นได้อยู่หมัดเพียงไม่กี่วินาที เขาก้าวไปข้างหน้าเซี่ยเหล่ย..
“ตายซะ !” บอดี้การ์ดของฮวงยี่ออกกำปั้นไปที่ศีรษะของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยนำมือขวาของเขามาบล็อกการโจมตีจากบอดี้การ์ดคนนั้น จากนั้นเขาใช้มืออีกข้างไปปัดการโจมตีที่เขาปล่อยออกมาไปโดนหน้าอกของเขาซะเอง…
ปั๊ก ! มีเสียงงึมงำเกิดขึ้นในขณะที่ร่างกายของบอดี้การ์ดคนนั้นถอยหลังออกไปแต่ก่อนที่เขาจะถอยหลังไปเพียงไม่กี่ก้าว เซี่ยเหล่ยพุ่งไปประชิดตัวเขาและใช้หมัดทั้งสองข้างต่อยอย่างรวดเร็วไปที่หน้าท้อง 10 ครั้ง ภายในชั่วพริบตา
“เฮือก….” เลือดทะลักออกจากปากของบอดี้การ์ดคนนั้นและเขาล้มลงจนหัวฟาดพื้นเขาพยายามจะดึงตัวขึ้นมาแต่เมื่อเขาพยุงตัวขึ้นมาได้ 10 เซนติเมตร เขาก็ร่วงลงไปนอนที่พื้นอีกครั้ง
เพียง 5 วินาทีที่เซี่ยเหล่ยใช้เวลาในการต่อสู้กับบอดี้การ์ดของฮวงยี่หู่ เขาสามารถจัดการบอดี้การ์ดคนนี้ได้ในเพียงชั่วพริบตาความสามารถระดับนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาซะแล้ว เซี่ยเหล่ยเรียกได้ว่าเป็นมือสังหารระดับมืออาชีพเลยทีเดียว !
สายตาทุกคนต่างจับจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยพวกเขาเกิดความกลัวและความประหลาดใจไปพร้อมพร้อมกัน
คนเดียวที่มีสีหน้าปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คือหลางซือเหยา เพราะเธอรู้ความสามารถของเซี่ยเหล่ย ที่สามารถเอาชนะลู่ชางซึ่งเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพได้อย่างสบายๆ
“ถุ้ย !” เซี่ยเหล่ยถ่มน้ำลายใส่บอดี้การ์ดของฮวงยี่หู่และสาบเช่งเขา “ไอ้กระจอก ! มึงมาได้ถูกจังหวะจริงๆนะ กูอยากระบายความโกรธของกูอยู่พอดีเลย มึงคิดว่ากูจะกลัวเหรอ ถ้ามึงมีเจ้านายที่ยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า ? กูจะบอกมึงให้นะถึงแม้ว่านายใหญ่ของมึงจะอยู่ที่นี่กูก็สามารถเอาชนะพวกมึงได้อย่างสบายๆ”
ยังมีผู้บริหารอีก 2 คนที่อยู่ข้างฮวงยี่หู่ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ดวงตาเขากำลังเต็มไปด้วยความกลัว มึงกำลังรับใช้เจ้านายใต้ดิน ? มึงจะยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อทำแบบนั้นหรอ ?
ฮวงยี่หู่รู้สึกโกรธมากใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เขารู้สึกอึดอัดมากที่นำบอดี้การ์ดมาเพียงแค่คนเดียว เซี่ยเหล่ยกำลังยั่วโมโหฮวงยี่หู่แต่การทำแบบนี้มันไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวเขาเลย
ยังมีผู้บริหารอีก 2 คน ซึ่งพวกเขาก็มีบอดี้การ์ดประจำตัวด้วยแต่การแสดงฝีมือของเซี่ยเหล่ยก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจกลัวและไม่กล้าท้าทายเซี่ยเหล่ยอีก แม้ว่าเจ้านายจะสั่งให้พวกเขาไปจัดการเซี่ยเหล่ยก็ตาม
บรรยากาศตอนนี้เริ่มตึงเครียด….
ฮวงยี่หู่เอื้อมมือไปที่เอวของเขา
เซี่ยเหล่ยมองไปที่บริเวณเอวของฮวงยี่หู่ และดวงตาของเขาเห็นปืนพกสีดำอยู่ที่เอวของเขา เซี่ยเหล่ยรู้สึกกระวนกระวายใจและเริ่มคิดถึงวิธีการตอบโต้ ถ้าเขาเผชิญหน้ากับปืน เขาหันไปมองที่ลี่หยู่หลานกำลังพูดอะไรบางอย่างกับฮวงยี่หู่ขณะที่ฮวงยี่หู่หยิบปืนออกมา เซี่ยเหล่ยคิดว่าเขาจะรีบพุ่งตัวเข้าไปแย่งปืนจากมือเขาทันที
มันมีความเสี่ยงอย่างมากที่ทำเช่นนี้แต่มันก็เป็นวิธีเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้
ทันทีที่ลี่หยู่หลานเห็นฮวงยี่หู่หยิบปืนออกมา เธอกระซิบข้างๆหูของฮวงยี่หู่
เซี่ยเหล่ยมองไปที่ริมฝีปากของเธอ จากนั้นเริ่มอ่านปากเธอโดยทันที !
‘หู่ เด็กคนนี้กำลังยั่วโมโหคุณ เขามีคนหนุนหลัง ถ้าคุณเอาปืนยิงเขาและถ้าเขาตาย งานที่กำลังวางแผนจะจบสิ้นโดยทันที ยิ่งถ้าคุณยิงเขาตอนกลางวันแสกๆมันจะไม่ส่งผลดีต่อครอบครัวของเราแน่ มีโอกาสอีกมากมายที่เราสามารถจัดการเขาได้’
ฮวงยี่หู่เอามือของเขาลงและจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ยจากนั้นพูดอย่างดุเดือดว่า “มึงรู้มั้ยว่ากุเป็นใคร ? ไอ้เศษสวะ”
เซี่ยเหล่ยผ่อนคลายลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเช่นกันว่า “ฮวงยี่หู่ มึงจำได้ไหมว่ามึงทำอะไรลงไป วันนี้กูจะมาบอกมึงว่า มึงจะต้องชดใช้ชีวิตของเพื่อนกูที่ตายไป !”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า …….” ฮวงยี่หู่หัวเราะออกมา “กูจะต้องชดใช้ ? มึงจะทำได้หรอ ?”
เซี่ยเหล่ยหัวเราะเช่นกัน “เดี๋ยวมึงก็รู้เอง ไม่นานเกินรอ !”
ฮวงยี่หู่ชี้ไปที่เซี่ยเหล่ย “ดีเลย มึงมีอะไรก็แสดงออกมาให้กูเห็นทั้งหมด กูจะรับไว้ทั้งหมดเอง กูอยากเห็นมึงหัวเราะเป็นครั้งสุดท้าย !”
ลี่หยู่หลานพยายามควบคุมสติและเธอถามเซี่ยเหล่ยอย่างใจเย็นว่า “คุณเซี่ย ฉันหวังว่าคงจะไม่เจอคุณในเร็วๆนี้นะ งั้นฉันถามคุณหน่อย คุณมาทำอะไรที่นี่ ?”
“ผมมาที่นี่เพื่อดูที่ดินผืนนี้” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ดูที่ดินผืนนี้ ?” ลี่หยู่หลานมองเซี่ยเหล่ยด้วยความประหลาดใจ
ทั้งฮวงยี่หู่และผู้บริหารอีก 2 คนก็มองเซี่ยเหล่ยด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
ติดตามตอนต่อไป…..