ตอนที่ 4 : การปลอมเอกสารทางการแพทย์!
หลังจากที่พวกเขาได้รับกุญแจห้องและเดินออกจากทำการของหอพัก หลิงยูโม่กระซิบและถามว่า "รุ่นพี่ หอพักนักศึกษาปริญญาเอกคืออะไร? "
"เสี่ยวโม่ สำหรับคำถามนี้ เธอต้องดูด้วยตาตัวเองเมื่อเราไปถึงที่นั่น!"
ชิเล่ย ได้ให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเองต่อหลิงยูโม่ ตลอดทางจนถึงหอพักนักศึกษาปริญญาเอก
หอพักนักศึกษาปริญญาเอกมีทั้งหมดสองช่วงตึก แต่ละตึกมีเก้าชั้นและในหนึ่งชั้นมีหกห้อง
ห้องที่หนึ่งและห้องสองคือห้องที่มีสองห้องนอนในขณะที่ห้องที่เหลืออยู่ตั้งแต่ห้องที่สามถึงห้องที่หกมี 1 ห้องนอน
นอกจากนักศึกษาปริญญาเอกแล้ว ยังมีอาจารย์ประจำที่อาศัยอยู่ในหอพักเอก
หลิงยูโม่และมู่ชวง อยู่ห้อง 502 ชิเล่ยและลิไค อยู่ห้อง 501 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันในอาคารเดียวกัน
ในลิฟต์หลิงยูโมแสดงความกังวลเล็กน้อย
"รุ่นพี่ ฉัน...."
ชิเล่ยยกนิ้วขึ้น "ชู่.... "
ลิฟท์หยุดลงที่ชั้นห้า ด้านซ้ายหลังจากลิฟต์เปิดเป็นห้อง 502
"เสี่ยวโม่, เปิดประตูสิ!"
หลิงยูโม่ ตอนนี้กำลังหน้าแดง หัวใจของเธอกำลังต่อสู้กันว่าจะยอมให้ชิเล่ย เข้าไปดีหรือไม่
เธอมองขึ้นและสังเกตเห็นว่าภายในทางเดินที่สว่างไสว มีกล้องสองตัวกำลังทำงานอยู่ มันทำให้เธอสงบลงเล็กน้อย
“เฮ้อ!”
หลิงยูโม่ เอากุญแจออกมาและเปิดประตูห้อง
ชิเล่ย ช่วยตัวเองและลากกระเป๋าเดินทางเข้าห้อง
หลิงยูโม่ เดินตามหลัง ขณะที่เธอเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเธอถึงกับตะลึง!
ภายในห้องนั่งเล่น มีโซฟาผ้าเรียบง่ายแต่หรูหราและมีโต๊ะกาแฟแก้วอยู่ในนี้
ติดตั้งทีวีจอแอลซีดีติดผนังไว้มีฟิล์มพลาสติกป้องกัน เครื่องปรับอากาศแบบพกพาหนึ่งเครื่องตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องนั่งเล่น นอกจากนี้ ยังมีตู้เย็นพิงอีกมุมหนึ่ง
บนเพดาน โคมไฟที่เรียบง่ายส่องแสงเปล่งประกายในทางตรงกันข้ามกับวอลล์เปเปอร์สีเบจอ่อนที่ทำห้คนรู้สึกอบอุ่น
หลงยูโม่ร้องว่า "รุ่นพี่ คุณทำอะไรลงไป?"
"นี่ ... จะเป็นหอพักนักศึกษาได้อย่างไร!"
ชิเล่ย หัวเราะออกมาเขาไม่ตอบ แต่กลับพูดว่า "มาดูห้องนอนของเธอกันเถอะ!"
การแสดงออกทางสีหน้าของหลิงยูโม่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เธอยังคงแคลงใจอยู่แล้วเอากุญแจออกเพื่อเปิดประตูห้องที่ติดป้ายตัวอักษร A
ห้องนอนประมาณ 20 ตารางฟุตและยังมีระเบียงขนาดเล็กปรากฏขึ้นภายในดวงตาองเธอ!
ภายในห้องมีเครื่องปรับอากาศติดผนังคลุมด้วยที่ป้องกัน เตียงสองเตียงที่แสนสะดวกสบาย ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และตู้ข้างเตียงที่ดีพร้อมกับโคมไฟข้างเตียงที่อยู่ใกล้มือ
ปลายเตียงของเตียงมีโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่มีพื้นผิวกระจกสีเข้มและที่ต่อแบบบรอดแบนด์
สิ่งของเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเหมือนบ้านมากกว่าหอพักนักศึกษา!
หลิงยูโม่ ดูเหมือนจะมึนงงกับทัศนียภาพเหล่านี้
ชิเล่ย ยกมือขึ้นดันแว่นตาของเขา "เสี่ยวโม่, เราไปดูห้องครัวและห้องน้ำกันเถอะ!"
ภายในห้องครัวมีเทอเรซที่วางเครื่องซักผ้า นอกจากนั้นแล้วยังเตรียมเครื่องใช้ในการปรุงอาหารมากมายไว้ในตู้ซึ่ง ได้แก่ เตาอบไมโครเวฟและเตาไฟฟ้า
ห้องน้ำมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น ห้องน้ำขนาดใหญ่มีแม้กระทั้งอ่างอาบน้ำที่ใหญ่โตอยู่ในนั้น
หลิงยูโม่ มองไปของเหล่านี้และจากนั้นก็เดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อไปนั่งโซฟา
ชิเล่ย เดินมานั่งอยู่บนอีกฟากหนึ่งของโซฟาแล้วเอาขาของเขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะกระจก
"เสี่ยวโม, พอใจไหม?"
หลิงยูโม่ ในน้ำเสียงของเธอดูเหมือนจะโกรธมาก "รุ่นพี่ คุณทำอะไรลงไปกันแน่!"
"คุณแน่ใจแน่นะว่าหอพักของฉันอยู่ที่นี่?"
"หอพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างดีพวกนี้ ต้องเป็นของอาจารย์ใช่มั้ย?"
ชิเล่ยยักไหล่ "เธอพูดถูก!"
"แน่นอนของเหล่านี้เตรียมไว้สำหรับอาจารย์โดยเฉพาะคนที่แต่งงานแล้ว!"
หลิงยูโม่ ตอนนี้เครียดมาก "เราต้องรีบไปหาพี่สาวเชา และอธิบายสถานการณ์ตอนนี้!"
ชิเล่ย หัวเราะออกมา
"เสี่ยวโม่ อย่ากลัวไปเลย!"
"ในปีนี้ จำนวนคนสมัครเข้าใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากหอพักของนักศึกษาไม่สามารถรองรับได้ทั้งหมด ดังนั้นมหาลัยจึงจัดห้องพักชั่วคราวไว้สองห้อง"
หลิงยูโม่ มองไปที่ชิเล่ย อย่างเคลือบแคลง
"รุ่นพี่ ฉันสามารถเชื่อคุณได้จริงหรอ?"
"แน่นอน!" ชิเล่ย ตบไปที่หน้าอกของเขา "ฉันรับประกับเธอด้วยความซื่อสัตย์ของฉัน!"
หลิงยูโม่พูดกับตัวเองเบาๆ "ใครจะรู้ว่าคุณมีความซื่อสัตย์จริงหรือเปล่า!"
ชิเล่ย เอียงศีรษะของเขามองไปที่หลิงยูโม่
"เสี่ยวโม เธอกำลังพูดอะไรเหรอ?"
หลิงยูโม่ หัวเราเจือนๆออกมา "ขอโทษนะ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรทั้งนั้น"
"โอ้ใช่รุ่นพี่ ใครเป็นรูมเมทของฉัน? "
ชิเล่ย เลียริมฝีปากของเขาและหัวเราะอย่างแปลกประหลาดแล้วยักคิ้วขึ้น "เธอลองเดา?"
หลิงยูโม่ หน้างอถามด้วยเสียงปละหลาดพิกล "รุ่นพี่ คงไม่ใช่…..ไม่ใช่คุณใช่ไหม!"
"ขอแสดงความยินดีด้วย!"
“บิงโก!”
ชิเล่ยปรบมือ
หลิงยูโม่ หน้าเปลี่ยนสีทันที "รุ่นพี่... นี่…นี่..."
ตอนแรก หลิง ยูโม่ มีความประทับใจที่ดีต่อ ชิ เล่ย แต่ในตอนนี้ความประทับใจที่ดีทั้งหมดพังทลายลงไป
ชิเล่ย ลุกขึ้นยืนแล้วทำเหมือนกำลังมองหญิงขายบริการ "ลูกเจี๊ยบตัวน้อย จากนี้ไปเธอจะต้องอยู่กับลุงคนนี้!"
สายตาของหลิงยูโม่ กลายเป็นชืดชา เธอพูดเสียงต่ำว่า "รุ่นพี่, ให้เกียรติกันด้วย!"
ชิเล่ยหัวเราะและเขากลับมามองดูซุกซน
"เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันไม่แกล้งเธอแล้ว!"
"รูมเมทของเธอเป็นคนสวยจากคณะบริหารธุรกิจ"
หลิงยูโม่ รู้สึกสับสนโดยชิเล่ย เธอก็โกรธเขาในเวลาเดียวกัน แต่ภาพลักษณ์ที่น้อยมากของเขาได้มีสัญญาณคืนกลับมา
"จริงๆ?"
"แน่นอนมันเป็นความจริง!"
ชิเล่ย เปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเองเอาแล็ปท็อปออกมาแล้วพูดว่า "เสี่ยวโม่ ตอนนี้เธอก็ค่อยๆทำความสะอาดที่พักไปละกัน!"
"ในฐานะรุ่นพี่คนนี้ ไม่ได้รังเกียจและไม่ได้ไม่เต็มใจที่จะช่วยเธอในการทำความสะอาด เป็นเพราะฉันยังมีเรื่องสำคัญต้องไปทำ"
"กระเป๋าเดินทางของฉัน จะวางไว้ที่นี่ก่อน ฉันจะกลับมาในภายหลังและเอามันกลับไป"
"โอ้ใช่ เกี่ยวกับเรื่องหอพัก อย่าบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้!"
ชิเล่ย หนีบแล็ปท็อปไว้ใต้รักแร้ข้างซ้ายและยกมือขวาโบกมือลาเธอ
มองไปที่ชิเล่ย ออกจากห้องอย่างรีบร้อนหลิงยูโม่ รู้สึกผิดหวังในใจของเธอ
แต่มันก็ถูกหักล้างทันทีด้วยความสุขในการทำความสะอาดห้องพักใหม่ของเธอ
ชิเล่ย ถือแล็ปท็อปมาที่ห้องสมุดมหาลัยแต่ยังไม่สามารถที่จะเข้าห้องสมุดได้เพราะตอนนี้เขาไม่มีบัตรนักศึกษาอยู่ถึงแม้ว่าจะเข้าไปได้แต่หลังจากเข้าไปแต่ไม่สามารถออกมาได้!
ชิเล่ย นั่งบนเก้าอี้นอกห้องสมุด เปิดแล็ปท็อปจากนั้นก็เข้าไปในเว็ปไซต์ของมหาลัยอย่างรวดเร็วและแจ้งการลงทะเบียนเรียนและลงชื่อของเขาลงในระบบลงทะเบียนของมหาลัย
โชคดีที่ระบบการลงทะเบียนของมหาลัยซึ่งอาจารย์จากภาควิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์มีมาตรฐานเป็นอย่างมากและไม่ใช้ชื่อไฟล์ตลกบางอย่างเช่นที่ห้องจัดสรรหอพัก
ก่อนคืนชีพมาใหม่ชิเล่ย เป็นหนึ่งในแฮกเกอร์ชั้นนำของโลก ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำโดยอาจารย์ของมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง เป็นเหมือนแหตกปลาที่เต็มไปด้วยช่องโหว่!
หลังจากกรอกรายละเอียดทั้งหมดลงในระบบการลงทะเบียนแล้วชิเล่ย ผิวปากและปิดแล็ปท็อปลุกออกจากที่นี่
ในวันที่ 3 กันยายนจะมีพิธีต้อนรับน้องใหม่ วันที่ 4 กันยายนเป็นต้นไปจะเริ่มฝึกทหารเป็นเวลา 26 วัน
ชิเล่ยตามปกติแล้วจะไม่ต้องการที่จะเข้าร่วม!
ไม่ใช่ว่าชิลีไม่เต็มใจที่จะรับความทุกข์ทรมานระหว่างการฝึกทหาร แต่ในระหว่างการฝึกทหารมีเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งมหาวิทยาลัยรู้สึกตกใจ
แน่นอนว่าชิเล่ยต้องหยุดมัน!
ถ้าเกิดเขาเข้าร่วมในการฝึกทหารแล้วละก็เขาจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป!
ดังนั้นชิเล่ยไม่ต้องการเข้าร่วมในการฝึกทหาร
อย่างไรก็ตามการฝึกทหารไม่ใช่สิ่งที่คุณอาจพูดว่าไม่ต้องการเข้าร่วมแล้วคุณก็ไม่ต้องเข้าร่วม!
เว้นแต่จะมีใบรับรองทางการแพทย์ที่ระบุว่าไม่สามารถเข้าร่วมการฝึกอบรมที่ออกโดยโรงพยาบาลได้และการรับรองจากมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง แล้วการฝึกทหารนี้สามารถได้รับการยกเว้น
เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายให้ไม่ต้องเข้าร่วมร่วมในการฝึกทหารชิเล่ยต้องการใบรับรองทางการแพทย์!
มหาวิทยาลัยชวนกิ่งตั้งอยู่ที่เมืองชวนกิ่งในเขตชวนฮู โรงพยาบาลที่ได้รับการยอมรับจาก มหาวิทยาลัยชวนกิ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลในเขตเช่นโรงพยาบาลดีไอวายไอ
ด้วยการติดต่อบางอย่าง คุณยังสามารถทำอะไรบางอย่างเบื้องหลังได้ที่โรงพยาบาลดีไอวายไอ โดยการติดสินบนและการปลอมแปลงใบรับรองเพื่อหลอกฝ่ายการจัดการมหาวิทยาลัยแต่มันเป็นไปไม่ได้
แต่เมื่อคุณถูกจับได้ว่าทำเช่นนั้นแล้วคุณจะต้องถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง
ชิเล่ยไม่ต้องการถูกไล่ออกจากมหาลัยทั้งที่ยังไม่ได้เปิดเทอม
ชิเล่ยโดยสารรถสาธารณะ เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อแวะไปที่โรงพยาบาลกลางกรุงปักกิ่ง
โรงพยาบาลปักกิ่งในเมืองชวนกิ่ง มีชื่อเสียงอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดการกับกรณีที่ยากลำบากเช่นนี้
ชิเล่ย นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของทางเดินเก้าอี้อยู่ในจุดบอดของกล้องวงจรปิด เขาเปิดแล็ปท็อป
แม้ว่าโรงพยาบาลนี้จะเป็นโรงพยาบาลทั่วไป แต่โรงพยาบาลแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยที่สุด ไม่เพียงเท่านี้โรงพยาบาลทั้งหมดใช้บัตรแม่เหล็ก แม้แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็มีความก้าวหน้ามากเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น WIFI!
ชิเล่ย เปิดใช้โมดูลเครือข่ายแบบไร้สายในแล็ปท็อป สแกนเครือข่ายไร้สายของโรงพยาบาล
"ฮิฮิ, ยังคงใช้การเข้ารหัสแบบ WEP!"
ในใจ ชิเล่ย เขากำลังเยาะเย้ย อาศัยประสิทธิภาพที่จำกัดของแล็ปท็อปของเขาอาจจะต้องใช้ความพยายามนิดหน่อยอย่างไรก็ตามการเข้ารหัสเครือข่ายแบบไร้สายซึ่งใช้โดยโรงพยาบาลไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากแบบ WEP ซึ่งเก่าแล้วตั้งแต่ปี 03
ความปลอดภัยของโรงพยาบาลปักกิ่งถูกเจาะได้อย่างง่ายดายชิเล่ยได้เริ่มค้นข้อมูลทางการแพทย์และแผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาลกลางกรุงปักกิ่งโดยตรงจากประวัติ
"ภูมิแพ้ อืม... .. ฉันไม่มีปัญหากับประสาทสัมผัสทั้ง 5!"
"แผนกสูตินารีเวช... . ว๊อท!"
"ทันตกรรม ไม่น่าได้ โรคที่เกี่ยวข้องกับฟันไม่ดีพอที่จะเป็นเหตุผลที่จะได้รับการยกเว้นจากการฝึกทหาร! "
ชิเล่ย เลือกเข้ารับการรักษาในแผนกการแพทย์แผนจีน (TCM) โดยทันทีและมองช้าๆ ไปที่แผนก TCM ของโรงพยาบาลปักกิ่ง
เหตุผลที่เขาเลือกเข้ารับการรักษาแบบจีนโบราณซึ่งมีประวัติมานับพันๆปี ไม่เลือกอย่างอื่นเพราะเขาได้วางแผนไว้แล้ว
ประการแรก โรงพยาบาลปักกิ่งเป็นโรงพายาบาลที่ใหญ่ที่สุดในโรงพยาบาลทั้งหมด จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่แผนก TCM ของโรงพยาบาลปักกิ่ง...ฮ่าฮ่าฮ่า.... เป็นธรรมดาที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจำพนักงานได้หมดทุกคน ดังนั้นแผนก TCM จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะแก้ปัญหา
ชิเล่ย จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าประวัติทางการแพทย์ปลอมเป็นของจริงซึ่งสามารถผ่านการทดสอบทุกอย่าง ที่ทำเพื่อป้องกันการปลอมแปลง
ประการสอง ใน TCM มันเป็นเรื่องยากมากที่จะรักษาโรคที่รักษาไม่หาย โรคที่รักษาไม่หายหลายชนิดเช่นนี้ยากที่จะตรวจพบได้ด้วยอุปกรณ์ใด ๆ TCM อาศัยเพียงคำอธิบายของผู้ป่วยอนุมารอาการเจ็บป่วย
ดังนั้นแม้ฝ่ายการจัดการของมหาวิทยาลัยยังคงสงสัย ชิ เล่ย ยังคงแกล้งทำเป็นโรค อย่างไรก็ตามไม่มีอุปกรณ์ใดที่จะพิสูจน์ได้ว่าเขาแกล้งป่วยหรือไม่
จากผู้เชี่ยวชาญในแผนก TCM ชิเล่ยเลือกคนที่มีอายุมากคนหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญไกล้เกษียณอายุหรือบางทีอาจเป็นหนึ่งในคนที่ตาฝ้าฟาง บางที!
ผู้เชี่ยวชาญไกล้เกษียณอายุ โดยทั่วไปความทรงจำของพวกเขาจะไม่ดีเท่าคนหนุ่มสาว
หลังจากกำหนดเป้าหมายชิเล่ยเริ่มปลอมแปลงเอกสารทางการแพทย์ของเขา
เขาไม่มีประวัติทางการแพทย์มานาน หากมีประวัติทางการแพทย์ที่ยาวนาน แม้แต่คนแก่ก็ยังสามารถจับพิรุธเขาได้
ดังนั้นชิเล่ยเพียงปลอมประวัติทางการแพทย์ 6 เดือนโดยรวมเพียงสี่ครั้งในการรักษา เฉลี่ยทุกๆครึ่งเดือน
โรคที่เลือกโดยชิเล่ย ผ่านฐานข้อมูล TCM เลือกออกมาอย่างหนึ่งในฐานข้อมูลคือ 'Meniere's syndrome'! (เมเนีย ซินโดรม)
อาการที่เรียกว่า เมเนียซินโดรม อาการปกติของอาการดังกล่าวคืออาการวิงเวียนศีรษะหูอื้อการสูญเสียการได้ยินและอาการคลื่นไส้
โรคเมเนีย เหมือนถูกล็อตเตอรรี่ เป็นเพราะยังไม่มีสาเหตุที่ทราบ ระยะเวลาการเกิดอาการและแม้กระทั่งการรักษาไม่เป็นที่รู้จักมาก การรักษาที่แนะนำในปัจจุบันเพียงกินยาบางอย่างเท่านั้น
นอกจากนี้จุดที่สำคัญที่สุดคือไม่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคดังกล่าว!
ทั้งหมดนี้เหมาะกับความต้องการของชิเล่ย!
"อ่า มีฉันเป็นคนเดียว!"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4 ตอนนี้ ผมมีอันเรียบเรียงแล้ว แก้ใหม่เรียบร้อยแต่มันอยู่ใน คอม แต่คอมมันดันเป็นไรไม่รู้สรุปง่ายๆ คือ พัง ผมเลยเอาแปลอันเก่ามาลงให้อ่านเล่นก่อนนะครับ เริ่มตอนหน้า ค่อยติ ค่อยบอกให้แก้ตรงไหนละกัน เพราะผมแก้มาหลายรอบละ 4 ตอนนี้ เอียนเลย 555 มือใหม่ จุ๊ป ๆ