ตอนที่ 10 : ความเสียใจในอดีตของเขาในที่สุดเขาก็แก้ไขมันได้ในชีวิตนี้!
ทะเลสาบดวงจันทร์
[เข้าใจละ จะใช้อันนี้ละกัน มันเป็นสถานที่หนึ่ง เหมือนสวนสาธารณะตอนกลางคืนไว้...กัน ผมได้กลับไปแก้ตอนก่อนหน้านี้ละ จุ๊บๆ]
ชิเล่ยที่กำลังถือกล้องวิดีโอเดินเข้ามา
เจียงปันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาที่เย็นชาของเขาจ้องมองไปที่ชิเล่ย
"แกเป็นใคร?"
อย่างแรกชิเล่ยมองหลี่เซี่ยหยูว่า "อาจารย์หลี่ คุณไม่เป็นไรนะ?"
หลี่เซี่ยหยูรีบส่ายหัวและเตือนทันทีว่า "ชิเล่ย ในขวดนั้นเป็นกรดซัลฟิวริค เธอกำลังป่วยอยู่ ระวังตัวด้วย! "
เจียงปันพูดอย่างเย็นชา
"ป่วยอยู่แท้ๆ ยังอยากทำตัวเป็นฮีโร่?"
"ไอ้อมโรคไปตายซะ!"
ขณะที่เจียงปันถือซัลฟิวริคด้วยมือซ้ายและกำหมัดขวาพุ่งไปที่ชิเล่ย
หลี่เซี่ยหยูอุทานว่า "ชิเล่ย ระวัง!"
"ก่อนหน้านี้เจียงปันไปเรียนเทควันโดมา!"
จากคำแนะนำภายใต้การจ้องมองอย่างดูถูกของชิเล่ย
เทควันโด?
นี่มันแสดงศิลปะการเต้นรำ?!
เมื่อเทียบกับการฝึกพิเศษที่เขาเคยเข้ารับการฝึกในองค์กรลึกลับแล้วนี่เป็นเพียงการละเล่นของเด็ก
เมื่อเจียงปันกำลังเข้ามาใกล้มากขึ้น ชิเล่ยก็ก้าวเท้าหลีกเลี่ยงและหลบหมัดที่ต่อยเข้ามาจากเจียงปัน แล้วโจมตีด้วยเคาน์เตอร์ขณะที่เขาหลบไปด้วย ต่อยหมัดขวาไปที่หน้าอกซ้ายของเจียงปัน
ความเจ็บปวดสุดขีดบนหน้าอกของเขาทำให้เจียงปันล้มลงเหมือนเขาเป็นร่างที่ไร้วิญญาณนอนอยู่บนพื้น
เผชิญหน้ากับเจียงปันที่ซึ่งได้ทำลายชีวิตของหลี่เซี่ยหยู ในใจของชิเล่ยเต็มไปด้วยความโกรธ
ด้วยการเหยียบลงไปบนหน้าอกของเจียงปันซึ่งไม่มีการป้องกันใดๆ อาการปวดอย่างรุนแรงทำให้หน้าผากของเจียงปันผุดเหงื่อเย็นออกมา
"F * ck มารดาแกเถอะเจียงปัน! ฉันคิดว่าแกจะทำได้มากกว่านี้ซะอีก? "
"อย่าได้ฝันที่จะทำร้าย เซี่ยหยูได้!"
"แกมันไอ้ปัญญาอ่อน!"
อีกครั้งชิเล่ยกระทืบลงบนหน้าอกของเจียงปัน การกระนี้ทำให้ร่างกายเจียงปันสั่นสะท้านเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
หลี่เซี่ยหยูพยายามจะหยุดเขาทันที "ชิเล่ย ลืมมันไปซะ!"
"อย่าทำร้ายเขาเกินกว่าเหตุ! นายจะมีปัญหาเอาได้นะ!"
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเจียงปัน ชิเล่ยเขาไปตบทีนึงซึ่งทำให้เจียงปัน ค่อยๆดีขึ้นทันที
เขาเดินตรงไปยังหลี่เซี่ยหยู มือขวาของเขายกขึ้นลูบใบหน้าที่สวยงามของหลี่เซี่ยหยูโดยไม่รู้ตัว
"เซี่ยหยู เธอไม่เป็นไรนะ?"
เสียงของชิเล่ยเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างมาก ถายใต้การจ้องมองของเขาเต็มไปด้วยความกังวลไม่มีแม้แต่ความคิดที่สกปรก นี่ทำให้หัวใจของ หลี่เซี่ยหยูเต้นไม่เป็นจังหวะ
รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของฝ่ามือของชิเล่ย ในที่สุดหลี่เซี่ยหยูก็ดันมือชิเล่ยออกไป
"ฉัน ... ฉันสบายดี"
ขณะที่พูดหลี่เซี่ยหยูก้มศีรษะลง
ชิเล่ย ขอโทษพร้อมส่ายหัว "ขอโทษสำหรับการกระทำที่หยาบคายของฉันตอนนี้"
หลี่เซี่ยหยู ส่ายหัวของเธอเล็กน้อยเพื่อเป็นสัญญาณว่าไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ "ชิเล่ย ทำไมนายถึงมาที่นี่ได้?"
ชิเล่ย เงียบอยู่ครู่นึง แล้วเริ่มอธิบายด้วยเสียงนุ่มลึกและจริงจัง
"เซี่ยหยู เธอเชื่อในการเกิดใหม่?"
หลี่เซี่ยหยูมองอย่างงุนงงไปที่ชิเล่ย
ชิเล่ย กล่าวต่อว่า "เซี่ยหยู ถ้าฉันจะบอกเธอว่าฉันรู้จักเธอในชีวิตที่ผ่านมาเธอจะเชื่อฉันไหม?"
"ช่วงเวลาที่ฉันมองเธอ มีความรู้สึกภายในใจของฉัน นอกจากนี้ยังมีภาพที่ไม่คุ้นเคยก็โผล่ขึ้นมา"
"ในท่ามกลางภาพพวกนั้น หนึ่งที่ที่โผล่มามากที่สุดคือที่นี่ ทะเลสาบดวงจันทร์"
"เพื่อที่จะให้คิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเช่ากล้องวิดีโอเพื่อบันทึกภาพทิวทัศน์ของทะเลสาบดวงจันทร์"
"จากนั้น ผ่านคอมพิวเตอร์ ฉันสามารถเรียกคืนความจำภาพที่ฉันมีในใจของฉันขณะดูวิดีโอนี้อีกครั้ง"
"นั่นแหละ ฉันไม่คิดว่าจริงๆแล้ววันนี้ฉันจะต้องช่วยเธอ เซี่ยหยู"
"บางทีสิ่งเหล่านี้ได้กำหนดไว้ตามพระหัตถ์ของสวรรค์!"
หลี่เซี่ยหยูมองไปที่ชิเล่ยด้วยท่าทางที่น่าสงสัย เธอไม่รู้ว่าจะเชื่อคำอธิบายของชิเล่ย หรือไม่เชื่อดี
จากทุกสิ่งทุกอย่างที่ชิเล่ยเล่ามามันเป็นเรื่องแปลกประหลาดเกินไป สำหรับคนที่เชื่อว่าไม่มีพระเจ้าอยู่ในยุคปัจจุบัน มันส่งผลกระทบมากเกินไป
ชิเล่ย เข้าใจชัดเจนถึงท่างทางของหลี่เซี่ยหยู ถ้าเพียงแค่นี้และไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมใดๆ เธอจะไม่เชื่อเขาอย่างแน่นอน
"เซี่ยหยู ฉันรู้ว่าเธอไม่เชื่อฉัน"
หลี่เซี่ยหยูไม่เห็นด้วยหรือไม่ปฏิเสธเรื่องนี้ เธอปล่อยให้ชิเล่ยพูดต่อ
"เซี่ยหยู เธอเกิดวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1980 ใช่มั้ย?"
"นายรู้ได้ไง?"
หลี่เซี่ยหยูประหลาดใจ
ชิเล่ย เริ่มอธิบายของเขาต่อว่า "เซี่ยหยู บางทีการที่จะรู้วันเกิดของเธอมันอาจไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากนัก"
"ไฟล์โรงเรียนมีข้อมูลบัตรประชาชนของเธออยู่"
หลี่เซี่ยหยูพยักหน้า "สิ่งที่นายพูดมันเป็นความจริง"
เขาพูดต่อด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ "คุณเกิดมาในช่วง zi chi (ซึ ชี) ใช่มั้ย?"
(TL: zi chi หมายถึงเวลา 23.00 - 01.00น. ระบบแบ่งเวลาสองชั่วโมงที่ใช้ในสมัยก่อน)
"ในวันนั้นมันเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง"
"นี่เป็นที่มาของชื่อเธอใช่มั้ย?"
"ในตอนแรกเธอควรจะชื่อว่าหลี่ซิหยู แต่แม่ของเธอยืนยันที่จะตั้งชื่อเธอว่าหลี่เซี่ยหยู"
หลี่เซี่ยหยู ตาของเธอเบิกกว้าง แล้วจ้องเขม็งไปที่ชิเล่ยด้วยความรู้สึกทึ่ง
ถ้าชิเล่ยรู้เกี่ยวกับวันเกิดของเธอก็ยังสามารถทำได้โดยการตรวจสอบไฟล์โรงเรียน
แต่สิ่งที่เขาพูดตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ระบุไว้ในไฟล์!
ไม่ต้องพูดถึงไฟล์เลย คนที่รู้เรื่องนี้คือตัวเธอเองและพ่อกับแม่เท่านั้น!
หลี่เซี่ยหยูมั่นใจมากว่าพ่อแม่ของเธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชิเล่ย
เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เว้นแต่ว่าชิเล่ยจะเป็นแฟนของเธอและอยู่ในขั้นตอนของการกล่าวสุนทรพจน์ในงานแต่งงาน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้แน่นอน
"ชิเล่ย... . นายรู้ได้อย่างไร?"
ตอนนี้ใบหน้าของชิเล่ยแสดงรอยยิ้มลึกลับ
"เซี่ยหยู ฉันได้พูดไปแล้วว่า เรารู้จักกันและกันในชีวิตก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันรู้เรื่องนี้ "
ใบหน้าของหลี่เซี่ยหยูแดงขึ้นในตอนนี้ "ชีวิตที่แล้ว .... "
"ในชีวิตที่แล้ว ความสัมพันธ์ของเราเป็นอะไรกัน?"
ชิเล่ยก้าวไปสองก้าว ลดศีรษะริมฝีปากของเขาแนบกับหูของหลี่เซี่ยหยู
"เซี่ยหยู เธออยากรู้จริงๆ?"
ลมหายใจอันอบอุ่นพ่นไปที่หูของหลี่เซี่ยหยู ทำให้เลือดรมสูบฉีดในหูของเธอ
หลี่เซี่ยหยูส่งเสียงครางออกมา
[อย่าไปหลงกลมันนะลูก]
[ แค่นี้ก็ครางแล้วดูเหมือนว่าจะอ่อนไหวง่าย]
ชิเล่ยก้าวถอยหลังออกมาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "ในตอนนี้ ฉันจะยังไม่บอกเธอ"
จากนั้นชิเล่ยชี้ไปที่เจียงปันที่ยังไม่ได้สติบนพื้น "เซี่ยหยู เราจะจัดการกับเขายังไงดี?"
หลี่เซี่ยหยูลังเลอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอได้ทำสงครามกับสมองของเธอ "ปล่อยให้เขาไป!"
"หลังจากได้บทเรียนนี้แล้ว ฉันคิดว่าเขาต้องสำนึกและกลับตัวใหม่ได้!"
ตามที่คาดการณ์ไว้ชิเล่ยส่ายหัว
"ไม่เพียงแต่เขาจะไม่คิดที่จะสำนึก ฉันกลัวว่าเขาจะก้าวร้าวมากขึ้น เห็นด้วยไหม?"
"เซี่ยหยู เธอเข้าใจชัดเจนถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว ทำไมเธอถึงโกหกตัวเองอยู่ล่ะ?"
"เหตุผลที่เธอไม่ชอบเจียงปันก็คือ แม้ว่าภายนอกของเขาดูดี แต่หัวใจของเขามันดำมืดมากใช่มั้ย?"
หลี่เซี่ยหยูมองไปที่ชิเล่ยอีกครั้งด้วยความรู้สึกตกใจ
"นาย....นายก็รู้เรื่องนี้ด้วย?"
ชิเล่ยยิ้มไม่หยุด "เซี่ยหยู ฉันก็บอกไว้แล้วว่าเราสองคนรู้จักกันในชีวิตที่ผ่านมาของเรา"
หลังจากพูดจบ ชิเล่ยเอาโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาตำรวจ
"สวัสดีครับ ผมเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชวนกิ่ง ผมต้องการแจ้งความครับ"
ด้วยสายที่โทรเข้ามา ตำรวจเริ่มบันทึกทันที
"เอาละนักศึกษา จะแจ้งความว่าอะไร?"
"ที่ทะเลสาบดวงจันทร์ไกล้มหาวิทยาลัยชวนกิ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังพยายามจะทำให้เสียโฉมผู้หญิง โชคดีที่ผมหยุดมันได้ทันเวลา ผมหวังว่าตำรวจจะมาที่นี่โดยเร็วที่สุดเพื่อจัดการกับสถานการณ์ในตอนนี้"
ชิเล่ยกล่าวด้วยท่าทางสง่างาม
"ขอบคุณมากนักศึกษาที่โทรมาแจ้งตำรวจ เราจะรีบไปและจัดการกับมันทันที"
ในเวลาไม่ถึงห้านาทีรถตำรวจหยุดอยู่นอกทะเลสาบดวงจันทร์
ตำรวจสามนายเดินเข้ามาทะเลสาบดวงจันทร์อย่างรวดเร็ว หนึ่งในตำรวจที่เป็นผู้นำทีมโทรหาชิเล่ยขณะนำทาง
"สวัสดี? ยินดีที่ได้รู้จักนักศึกษา ฉันเฉินกวงเหลียงจากสำนักงานตำรวจแห่งเมืองชวงฮู"
"ตอนนี้คุณอยู่ตรงไหน?"
"สวัสดีครับ เจ้าหน้าที่เฉิน เราอยู่ไกล้กับทะเลสาบดวงจันทร์ เพียงแค่เดินไปตามทางเดินหิน คุณก็จะเห็นเราเอง"
หนึ่งนาทีต่อมาตำรวจสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของชิเล่ย
ชิเล่ยชี้ไปที่เจียงปัน ที่ไม่ได้สติบนพื้นและเริ่มอธิบายเหตุการณ์อีกครั้ง
ด้วยการที่ไม่ชอบมาพากลเฉินกวงเหลียงเหลือบมองไปที่ชิเล่ยและหลี่เซี่ยหยู
ทำไมชิเล่ยจะไม่เข้าใจการจ้องมองของเขาได้อย่างไร?
เป็นไปได้มากที่เฉินกวงเหลียงจะสงสัยชิเล่ยและหลี่เซี่ยหยูว่าทั้งสองคนร่วมมือกันเพื่อวางกับดักเจียงปัน!
ชิเล่ย หยิบกล้องวิดีโอของเขาออกมา "เจ้าหน้าที่เฉิน ผมบังเอิญถ่ายติดอาชญากรในขณะที่ผมกำลังพยายามถ่ายภาพทิวทัศน์ที่นี่"
ดวงตาของเฉินกวงเหลียงสว่างวาบ "นี่มันดีมาก!"
"ตราบเท่าที่มีวิดีโอเป็นหลักฐาน ก็ปิดคดีนี้ได้แน่นอนและเขาอาจถูกจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปีได้เลย!"
"นักศึกษาทั้งสองคน โปรดตามเรากลับไปที่สถานีตำรวจ เราต้องบันทึกคำให้การณ์ของพวกคุณ"
ชิเล่ยพยักหน้าและแย้งว่า "ผมเป็นนักศึกษาแต่เธอเป็นอาจารย์ประจำชั้นของผม อาจารย์หลี่"
เฉินกวงเหลียงยิ้มแก้เขิน
"เสี่ยวเต่า เสี่ยวฮัว ใส่กุญแจมือนายเจียงปันและพาเขากลับไปที่สถานีตำรวจ!"
เสี่ยวเต่าและเสี่ยวฮัวเป็นตำรวจสองคนที่มาพร้อมเฉินกวงเหลียง ชื่อของพวกเขาคือ เต่าจุนและฮัวเฉิน
ทั้งหกคนเดินไปที่ริมทะเลสาบดวงจันทร์และจากนั้นก็เข้าไปนั่งในรถก่อนที่จะขับรถออกไป
ภายในสถานีตำรวจอำเภอชวนฮู ชิเล่ยไม่ได้ให้วิดีโอทั้งหมดให้ตำรวจ แต่เขาทำสำเนาของวิดีโอเก็บเอาไว้
หากมีปัญหาใดๆ อย่างน้อยก็ยังคงมีหลักฐานบางอย่างอยู่ในมือ
หลังจากถูกสอบปากคำเสร็จ เฉินกวงเหลียงขับรถไปส่งชิเล่ยและหลี่เซี่ยหยูกลับไปที่มหาลัยชวงกิ่ง ด้วยตัวเอง
ก่อนจะขับรถออกไปเฉินกวงเหลียงพูดกับชิเล่ยว่า "ชิเล่ย ทางตำรวจจะบอกถึงความกล้าหาญของคุณให้กับโรงเรียนทราบ"
"นี่คือนามบัตรของผม ตราบเท่าที่มันไม่ผิดกฎหมาย โทรหาผมเพื่อขอความช่วยเหลือได้"
ชิเล่ยมองไปที่นามบัตร แล้วเขาก็รู้ว่าเฉินกวงเหลียงเป็นผู้บัญชาการตำรวจที่นี่
"โอ้หัวหน้าเฉิน ต้องขอโทษสำหรับความไร้มารยาทที่ไม่เหมาะสมของผมแล้ว!"
เฉินกวงเหลียงยิ้มโดยไม่ตั้งใจ
"เอาละ ผมจะกลับไปที่สถานีตำรวจแล้ว!"
ชิเล่ยและหลี่เซี่ยหยูทั้งสองเดินอย่างเงียบๆ ภายในเขตของมหาลัย ขณะที่ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกัน ทำให้บรรยากาศก็อึดอัดเล็กน้อย
"ชิเล่ย"
“เซี่ยหยู”
ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน
หลี่เซี่ยหยูชำเลืองมองที่ชิเล่ยอย่างเร็ว "นายพูดก่อน"
ชิเล่ย เกาหัวของเขาแล้วพูดว่า "เซี่ยหยู ฉันจะเดินไปส่งเธอ"
หลี่เซี่ยหยูลังเล "ชิเล่ย ตอนอยู่ที่มหาลัย นายอย่าเรียกฉันเซี่ยหยูได้ไหม?"
"ทำไมละ?" ชิเล่ยแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ แต่ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มออกมาแทน
หลี่เซี่ยหยูยกมือขึ้นมาและบิดไปที่เอวของชิเล่ย
“อ๊าก ~~~”
ชิเล่ยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลี่เซี่ยหยูตอบด้วยท่าทางน่ารักว่า "ตอนนี้ นายรู้แล้วใช่ไหม?"
"เพราะว่าฉันเป็นอาจารย์ของนาย!"
แต่ชิเล่ยก็ยังเย้าแหย่เธอต่อ "เซี่ยหยู แล้วถ้าเราอยู่นอกมหาวิทยาลัยกันละ"
หลี่เซี่ยหยูก็ได้เงียบไป
แม้ว่าเธอจะไม่เกลียดชิเล่ย แต่ตอนนี้เธออายุยี่สิบหกแล้ว สำหรับชิเล่ยเขาอายุแค่สิบเก้าเท่านั้น
ช่องว่างของอายุไม่เหมาะกันอย่างแน่นอน
"เซี่ยหยูเป็นไรไป?"
หลี่เซี่ยหยู ฝืนยิ้มออกมา "ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ ส่งฉันกลับบ้าน! "
ชิเล่ย ยิ้มตอบ "ได้เลย!"
"เซี่ยหยู ฉันรู้อยู่แล้วว่าบ้านเธออยู่ไหน!"
หลี่เซี่ยหยู ร้องคร่ำครวญเดินเคียงข้างไปกับชิเล่ย พวกเขามุ่งหน้าไปยังที่พักอาจารย์
ขณะที่เดิน ชิเล่ยก็ฮัมเพลงไปด้วย
ความเสียใจในอดีตของเขาในที่สุดเขาก็แก้ไขมันได้ในชีวิตนี้!