TXV – 76 สวมถุงเท้าให้ฉันสิ !
TXV – 76 สวมถุงเท้าให้ฉันสิ !
คลื่นทะเลสาดเข้าฝั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา...
เซี่ยเหล่ยและฉิงเสวียงนั่งอยู่บนโขดหินและมีกระป๋องเบียร์เปล่ากองอยู่ที่ปลายเท้าของพวกเขา
“คุณจะฆ่าหล่าวฉี่ในคืนนี้หรอ?” ฉิงเสวียงขว้างกระป๋องเบียร์เปล่าในมือทิ้งไปและถามขณะมองไปยังเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบ “ก่อนคุณจะมาที่นี่ ผมตั้งใจจะบุกเข้าบ้านของเขาและจัดการเขาซะ”
“แล้ว?” ฉิงเสวียงถาม
“แล้ว?” เซี่ยเหล่ยเงียบไปและส่ายหน้า “ผมไม่คิดว่าตัวเองในตอนนี้จะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ หม่าเสี่ยวอันยอมสละชีวิตเพื่อช่วยผม ผมยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่าถ้าไม่คิดจะแก้แค้นให้กับเขา ?”
“คุณไม่ต้องคิดมากหรอก ผมจะบอกอะไรให้นะ ถ้าคุณบุกไปฆ่าหล่าวฉี่จริงๆ กู๋เค่อเหวินจะเสียแค่สุนัขรับใช้เพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็จะได้กำจัดศัตรูแบบคุณไปด้วย และด้วยอำนาจของตระกูลกู๋ ถ้าคุณฆ่าหล่าวฉี่ นั่นแปลว่าจะไม่มีที่ไหนในโลกที่คุณจะหลบหนีพวกเขาได้ คุณจะถูกตามล่าและพวกเขาจะฆ่าคุณแน่ แล้วน้องสาวของคุณล่ะ ถ้าคุณตายเธอจะอยู่ยังไง? พนักงานที่เวิกค์ช็อปของคุณอีกล่ะ? คุณได้คิดถึงพวกเขาบ้างหรือเปล่า?” ฉิงเสวียงพูด
เซี่ยเหล่ยพูดด้วยความโกรธ “แต่เขาจะฆ่าผม หม่าเสี่ยวอันต้องตายเพราะช่วยผม หรือผมควรจะทำเป็นลืมเรื่องนี้ล่ะ?”
ฉิงเสวียงถอนหายใจ “คุณเป็นคนฉลาด มีตั้งหลายวิธีที่คุณจะสามารถแก้แค้นได้ ทำไมต้องเลือกวิธีการทำร้ายกันซึ่งๆหน้า ?”
‘มีตั้งหลายวิธีที่คุณจะสามารถแก้แค้นได้ ทำไมต้องเลือกวิธีการทำร้ายกันซึ่งๆหน้า ?’
สิ่งที่ฉิงเสวียงพูดดังสะท้อนอยู่ในหัวของเซี่ยเหล่ย เขาค่อยๆสงบสติอารมณ์ลง และใช่ การที่เขาจะบุกไปบ้านหล่าวฉี่และฆ่าเขานั้นจะเป็นการไปทำร้ายกันซึ่งๆหน้า คนชั่วอย่างหล่าวฉี่ต้องมีบาปกรรมติดตัวไปมากมายหลังจากเขาตาย แต่ตัวคุณเองล่ะ? เซี่ยเสวียจะอยู่ยังไงถ้าคุณตาย? เหล่าพนักงานของอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปอีกล่ะ? พวกเขากำลังมีชีวิตที่ดีขึ้น แล้วพวกเขาจะต้องกลับไปทำงานที่ไซต์ก่อสร้างอีกงั้นหรือ?
“ลองคิดทบทวนดูใหม่นะ” ฉิงเสวียงพูด “ผมเชื่อว่าคุณจะพบทางออกอื่นที่ดีกว่านี้”
ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยก็นึกถึงหลงบิง และคิดว่าถ้าเขาโทรบอกเธอว่าหล่าวฉี่ต้องการให้เขาตาย เธอจะช่วยเขาได้ไหม? แต่เขาไม่มีหลักฐานใดๆ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเขามีหลักฐาน
หลงบิงอาจจะช่วยได้ แต่ก่อนอื่นเข้าต้องหาหลักฐานบางอย่างก่อน
หล่าวฉี่เป็นคนเหลี่ยมจัดมากเขามักจะให้ลูกน้องก่ออาชญากรรมร้ายๆแทนตัวเองเสมอ มันไม่ง่ายที่จะหาหลักฐานยืนยันว่าเขาเป็นคนก่ออาชญากรรมเหล่านั้น
ฉิงเสวียงดูเหมือนจะสามารถรับรู้ความเจ็บปวดในใจของเซี่ยเหล่ยได้ เขาพูดอย่างปลอบโยน“ไม่ต้องเศร้าเสียใจมากกับเรื่องนี้และไม่ต้องกังวล อย่าทำอะไรโง่ๆอีก คุณต้องคิดและวางแผนให้รอบคอบมากกว่ากว่านี้”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ผมจะพยายาม ขอบคุณมาก”
ฉิงเสวียงตบไหล่เซี่ยเหล่ยเบาๆ “ไม่เป็นไร เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันไง”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าอีกครั้ง “ใช่ พวกเราเป็นเพื่อนกัน”
“ใช่สิ ในที่สุดผมก็ค้นพบตัวตนแท้จริงของหล่าวฉี่จากเพื่อนคนหนึ่ง” ฉิงเสวียงพูด
“ตัวตนแท้จริง ?” เซี่ยเหล่ยนิ่งไป
“หล่าวฉี่เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์มากและไม่เคยบอกชื่อจริงๆของเขากับใคร เขาไม่เคยให้ใครดูเอกสารประจำตัวของเขา พวกคนนอกกฏหมายต่างรู้จักเขาในชื่อหล่าวฉี่และมีคนแค่ไม่กี่คนที่รู้ชื่อจริงๆของเขา ผมหาชื่อจริงของเขาได้ เขาชื่อ ฮวงยี่หู่” ฉิงเสวียงพูด
“อย่างงั้นหรือ ?” เซี่ยเหล่ยรู้สึกสับสน “เขามีสองชื่อที่แตกต่างกัน ชื่อหนึ่งนามสกุล เห่อ อีกชื่อหนึ่งนามสกุล ฮวง คนๆเดียวจะมีถึงสองชื่อได้ยังไง?”
เป็นธรรมดาที่บางคนจะอยากเปลี่ยนชื่อของตัวเองถ้า เห่อ หล่าวฉี่ ไม่ใช่ชื่อจริงๆของเขา ก็น่าจะเป็นชื่ออื่นแต่นามสกุล เห่อ ไม่น่าจะเป็นฮวงยี่หู่ไปได้คนเราสามารถเปลี่ยนชื่อได้ แต่ไม่มีใครเปลี่ยนนามสกุล !
“ตอนแรกผมก็ตกใจเหมือนกับคุณ แต่เพื่อนของผมเขามั่นใจว่าชื่อจริงของ เห่อ หล่าวฉี่ คือ ฮวงยี่หู่” ฉิงเสวียงพูด
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างงุนงง “แต่จากข้อมูลที่คุณให้ผมมา ลูกชายของ เห่อ หล่าวฉี่ ชื่อ เห่อเจียฮ่าว ถ้านามสกุลของเขาเป็น ฮวง งั้นทำไมลูกชายเขาใช้ เห่อ”
ฉิงเสวียงยักไหล่ “ผมเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่ผมไม่ได้โกหกคุณ สาบานได้”
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่นี่มันแปลกมาก ผมต้องรีบกลับไป” เซี่ยเหล่ยพูด
“คุณกำลังคิดจะทำอะไร?” ฉิงเสวียงดูกังวลเล็กน้อย
“แค่พักผ่อน ผมไม่คิดจะทำอะไรโง่ๆตอนนี้หรอกน่า ผมจะไปหาเจียงหยูยี่ เธอเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจทางเหนือและเธอมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงระบบทะเบียนราษฏร์ได้ ผมต้องการให้เธอช่วยตรวจสอบว่ามีทรัพย์สินใดๆภายใต้ชื่อ ฮวงยี่หู่ หรือไม่” เซี่ยเหล่ยพูด
“คุณจะเริ่มสืบจากตัวตนจริงๆของเขา ?” ฉิงเสวียงถาม
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง และ เห่อ หล่าวฉี่เป็นแค่ตัวละครสมมุติ แสดงว่าเขาได้ก่อเรื่องชั่วร้ายมากมายและได้รับทรัพย์สมบัติมหาศาลในช่วงหลายปีมานี้ และทรัพย์สินเหล่านั้นจะต้องอยู่ภายใต้ชื่อของ ฮวงยี่หู่ เขาใช้วิธีนี้ทำให้เงินสกปรกของเขากลายเป็นเงินถูกกฏหมาย เขาเป็นคนที่น่ากลัวมาก มีทั้งตัวตนที่เป็นคนเลวนอกกฏหมายและเป็นนักธุรกิจที่ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาจนถึงทุกวันนี้ได้”
ฉิงเสวียงหัวเราะ “ผมเชื่อแล้วว่าคุณเป็นคนฉลาดมาก เอาล่ะ เราจะกลับกันเดี๋ยวนี้ล่ะ”
พวกเขากลับไปยังละแวกหมู่บ้าน เซี่ยเหล่ยกระโดดลงมายืนข้างๆรถมอเตอร์ไซค์ “คุณไปเถอะ ถ้าพบอะไรผิดปกติผมจะรีบแจ้งให้คุณรู้”
“คุณจะเป็นคนแรกที่ได้รู้เหมือนกันถ้าผมพบเรื่องอะไรผิดปกติ ระวังตัวด้วยล่ะ” ฉิงเสวียงพูด
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “คุณเองก็ระวังตัวเหมือนกัน”
“ลาก่อนเหล่ย” ฉิงเสวียงขี่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาออกไป
เหล่ย? เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขำๆขณะที่เขาส่ายหัว เขาไม่คุ้นเคยกับการที่ใครมาเรียกชื่อเขาอย่างสนิทสนม แต่หลังจากที่เขาเป็นเพื่อนกับฉิงเสวียงนั่นแปลว่าเขาต้องปรับตัวให้เขากับนิสัยแปลกๆบางอย่างของฉิงเสวียงให้ได้
เซี่ยเหล่ยยังไม่ได้กลับบ้านแต่เขากลับตรงไปบ้านของเจียงหยู่ยี่ เขาเช็คเวลาในโทรศัพท์มือถือขณะยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเธอ ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว มันดูไม่ค่อยเหมาะสมที่จะมาเคาะประตูบ้านผู้หญิงที่อยู่ตัวคนเดียวในเวลานี้ เขารู้สึกลังเลที่จะยกมือขึ้นเคาะประตู แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเคาะ....
เขาคิดว่าเจียงหยู่ยี่น่าจะเข้านอนแล้ว แต่เสียงของเธอกลับดังออกมาจากด้านหลังประตูหลังจากเคาะเรียกไปสามครั้ง “นั่นใคร?”
เซี่ยเหล่ยลดเสียงให้เบาลง “ผมเอง เซี่ยเหล่ย”
ประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วและเจียงหยู่ยี่ที่ปรากฏตัวอยู่หน้าประตู เธอสวมชุดนอนตัวบางและโปร่งแสง ชุดนอนบางมากจนสามารถมองเห็นเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นในแบบผูกเชือกภายใต้ชุดนั้นได้
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย “นี่มันดึกแล้ว ทำไมคุณยังไม่เข้านอน?”
เจียงหยู่ยี่กลอกตาและมองไปยังเซี่ยเหล่ย “เสี่ยวอันเพิ่งเสียไป ฉันยังรู้สึกเสียใจและยังกังวลว่าคุณจะทำอะไรโง่ๆ จนฉันนอนไม่หลับไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม และฉันเพิ่งจะหลับไปก่อนที่คุณจะมาเคาะประตู นี่คุณตั้งใจจะไม่ให้ฉันได้หลับได้นอนเลยหรือยังไง?”
เซี่ยเหล่ยไม่รอให้เธอพูดจนจบ เขาหมุนตัวเธอกลับเข้าไปในบ้าน
เจียงหยู่ยี่ตกใจ “นี่มันเที่ยงคืนแล้ว และคุณเข้ามาในบ้านของฉันโดยที่ฉันยังไม่อนุญาต คุณกำลังคิดจะทำอะไร?”
“อย่าเพิ่งโวยวายน่า ปิดประตูก่อนเร็วเข้า เพื่อนบ้านจะนินทาเอาได้นะถ้าได้ยินว่าผมมาทะเลาะกับคุณอยู่ในเวลาแบบนี้” เซี่ยเหล่ยพูด
“คุณกล้ามาที่นี่ในเวลานี้ แล้วยังจะกังวลอีกหรอว่าจะมีคนเอาไปนินทา?” เจียงหยู่ยี่ว่าเขาแต่เธอก็ปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“ไปที่ห้องของคุณเถอะ” เซี่ยเหล่ยพูด
“ฮะ? คุณนี่มันไร้ยางอายจริงๆ” เจียงหยู่ยี่หน้าแดงขึ้นมาทันที “ฉัน ฉันยังไม่พร้อม นี่มันกระทันหันเกินไป”
“คุณกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรอยู่? ผมอยากให้คุณช่วยตรวจสอบข้อมูลของคนๆหนึ่งให้หน่อย คอมพิวเตอร์คุณไม่ได้อยู่ในห้องหรอกหรือ?” เซี่ยเหล่ยพูด
ทันใดนั้นเจียงหยู่ยี่ก็หยิบหมอนอิงจากโซฟาปาใส่เซี่ยเหล่ยอย่างแรง
เซี่ยเหล่ยจับหมอนเอาไว้ได้และวางมันลงที่โซฟาอีกตัว “เลิกเล่นก่อน ! นี่มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นผมไม่มาบ้านคุณในเวลาแบบนี้หรอก”
เจียงหยู่ยี่เอาความคิดแปลกๆของตัวเองออกไป “คุณต้องการให้ฉันตรวจสอบข้อมูลของใคร?”
“ฮวงยี่หู่” เซี่ยเหล่ยพูด “ช่วยตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อนี้ หาทุกอย่างเกี่ยวกับคน คนนี้มาให้ผม”
“ฮวงยี่หู่? เหล่ย คุณจะตรวจสอบทรัพย์สินคนๆนี้ไปเพื่ออะไร?” นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงหยู่ยี่ได้ยินชื่อ ฮวงยี่หู่ เธอรู้จักคนเกือบทุกคนที่เซี่ยเหล่ยรู้จักดังนั้นเรื่องนี้มันจึงทำให้เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
เซี่ยเหล่ยบอกเธอเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาได้มาจากฉินเสวียง
“ทำไมคุณยังไม่ยอมแพ้?” เจียงหยู่ยี่พูด “ทำไมคุณยังสนใจเรื่องของหล่าวฉี่? คุณต้องการแก้แค้นให้เสี่ยวอันงั้นหรือ? นี่มันอันตรายมากนะ ฉันไม่ยอมให้คุณทำเรื่องโง่ๆแบบนี้แน่”
เซี่ยเหล่ยลุกขั้นไปจับไหล่เจียงหยู่ยี่ไว้ และจ้องเข้าไปในตาเธอ “หยู่ยี่ เรารู้จักกันมานานแล้วนะ คุณจะไม่ช่วยผมงั้นหรือ?”
“ไม่ใช่นะ ฉันกำลังปกป้องคุณอยู่ ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ ?” สายตาของเซี่ยเหล่ยก้าวร้าวจนทำให้เธอกลัว
“หล่าวฉี่ต้องการให้ผมตาย หม่าเสี่ยวอันต้องตายเพราะช่วยผม คิดว่าผมจะโชคดีรอดตายได้อีกในครั้งต่อไปงั้นหรือ? ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ? มันไม่ใช่เพราะผมต้องการแก้แค้น เขาจะไม่เลิกราจนกว่าผมจะตาย ถ้าผมไม่ทำอะไรสักอย่าง นี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับการนั่งรอความตาย แล้วใครจะมาต่อล้อต่อเถียงกับคุณอีกถ้าผมตายไป?” เซี่ยเหล่ยพูด
“ไร้สาระน่า! เลิกพูดถึงแต่เรื่องความตายตลอดเวลาได้แล้ว มันเป็นลางไม่ดี” เจียงหยู่ยี่พูด “แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะดีที่สุดถ้าคุณส่งเรื่องนี้ให้ตำรวจ…”
เซี่ยเหล่ยพูดตัดบทเธอ “ช่วยผม แล้วผมจะโอนกรรมสิทธิ์รถของผมให้คุณ”
เจียงหยู่ยี่นิ่งค้างและยิ้มออกมา “จริงๆคุณน่าจะบอกฉันให้เร็วกว่านี้นะ” เธอเงียบและพูดต่อ “เลี้ยงอาหารอิตาเลี่ยนฉันด้วย”
“คุณมันเป็นหมูจอมตะกละ! ตกลง !”
“ไปเอาชุดเครื่องแบบในห้องของฉันมา เราต้องไปจัดการเรื่องนี้ที่สถานีตำรวจ เราเข้าถึงระบบเครือข่ายของสถานีจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านฉันไม่ได้” เจียงหยู่ยี่นั่งอยู่บนโซฟาทำตัวราวกับตำรวจชั้นสูงที่รอให้คนอื่นมารับใช้
เซี่ยเหล่ยอยากจะเตะก้นเธอ แต่เขาก็เดินไปที่ห้องของเธอเพื่อหยิบชุดเครื่องแบบ รองเท้าและถุงเท้ามาให้เธอ
เจียงหยู่ยี่ยกขาขาวราวกับหยกของเธอขึ้นมากลางอากาศ “สวมถุงเท้าให้ฉันด้วยสิ !”
“คุณเลิกเล่นแบบนี้สักทีได้ไหม?” เซี่ยเหล่ยเหน็บแนม
“คุณจะสวมมันให้ฉัน หรือไม่สวม?” เจียงหยู่ยี่ยืดขาของเธอออกไปและใช้ปลายเท้าสะกิดที่เข่าของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจและคุกเข่าลงเพื่อสวมถุงเท้าให้เธอ….
เจียงหยู่ยี่วางเท้าของเธอลงบนเข่าของเขา ทำให้มองเห็นกางเกงในแบบผูกเชือกที่อยู่ภายใต้ชุดนอนตัวบาง เซี่ยเหล่ยดูท่าทางเกร็งๆแต่เจียงหยู่ยี่ก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเห็นอะไรและเหมือนเธอจะรู้สึกสนุกกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ขอบคุณพระเจ้าที่เจียงหยู่ยี่ไม่ได้สั่งให้เขาสวมกางเกงหรือเสื้อผ้าให้เธอด้วย
ไม่กี่นาทีต่อมา เจียงหยู่ยี่ก็พาเซี่ยเหล่ยออกมาข้างนอก และไปยัง เกรทส์วอร์ H6 พวกเขาขับรถออกมานอกหมู่บ้านและตรงไปยังสถานีตรวจที่อยู่ทางเหนือทันที...
ติดตามตอนต่อไป.....