Chapter 54: การให้ของที่น่าโปรดปราน
หลังจากเวลาไม่นานเจียงลู่ฉีก็ปักหลักลง เจียงจู้อิงเคาะประตูเรียกเขาไปให้กินข้าว
ประตูของโรงจอดรถนั้นเชื่อมต่อเข้ากับคฤหาสน์โดยตรง และเขาก็เป็นคนเดียวที่มีกุญแจของประตูนั่น โรงจอดรอดรถนั้นมีสภาพแวดล้อมที่ปิดและตัดขาดกับผู้รอดชีวิตคนอื่น
คฤหาสน์นี้มันใหญ่มากทำให้มีผู้รอดชีวิตยี่สิบคนอาศัยอยู่และดูไม่อึดอัด เพิ่มเติมไปว่า ยกเว้นเจียงจู้อิงแล้ว คนที่ทำหน้าที่เป็นยามที่ฐานนั้นสลับกัน คนที่หนุ่มและมีสุขภาพดีนั้นจะต้องออกไปหาอาหาร
ส่วนคนที่ปราศจากความสามารถในการต่อสู้ ซึ่งคนที่บาดเจ็บหรือผู้หญิงที่มีร่างกายที่อ่อนแอ จะอาศัยอยู่เพื่อทำอาหารและทำความสะอาดบ้าน มีผู้คนจำนวนมากมายอาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าการทำความสะอาดบ้านไม่มีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นมันก็จะกลายเป็นแหล่งส่องซุ่มแขยะ
เพิ่มเติมนอกจากนี้ มันมีหมอที่อยู่ในทีม เจียงลู่ฉีอ้าปากค้างในความชื่อชนว่าพวกเขามีการจัดการองค์กรที่ดีเยี่ยม
ในตอนนี้เอง ผู้รอดชีวิตส่วนมากอยู่ในห้องโถง และกำลังจัดระเบียบเสบียงที่พวกเขาได้รวบรวมมาในวันนี้
เมื่อเจียงจู้อิงปรากฏขึ้นกับพี่ชายของเธอ ทุกคนก็มองไปที่เธอ
“นั่นคือ หัวหน้าของบอสแล้วหรอ?”
“เขาถูกเรียกว่า เจียงลู่ฉีใช่ไหม?”บางคนก็ถามหยางฉิงฉิงยืนอยู่ต่อจากเขา
“ใช่”หยางฉิงฉิงพูดด้วยเสียงต่ำ
“อ่า...”ชายคนนี้สามารถที่จะบอกได้ว่าหยางฉิงฉิงผิดหวังในตัวเจียงลู่ฉี ถ้าหยางฉิงฉิงไม่ได้บอกเขาว่าให้ปฏิบัติตัวกับเจียงลู่ฉีเหมือนกับคนแปลกหน้า สำหรับความประทับใจแรกพบ
พวกเขานั้นเห็นว่าเจียงลู่ฉีนั้นออกมาจากประตูโรงจอดรถ หยางฉิงฉิงนั้นพูดต้อง ลู่ฉีนั้นอาศัยอยู่ในโรงจอดรถ ในรถเคลื่อนที่ของเขา
ในช่วงเวลาที่เจียงลู่ฉี ‘กำลังทำตัวให้เหมือนอยู่กับที่บ้าน’หยางฉิงฉิงและคนอื่นนั้นบอกเรื่องของเขากับที่เหลือ พูดอย่างชัดเจนว่าเขานั้นมีพฤติกรรมที่ ‘เลวทราม’ผู้รอดชีวิตส่วนมากนั้นไม่เคยเห็นเจียงลู่ฉี แต่ก็มีความประทับใจแย่ๆใส่เขาไปแล้ว
คนที่บ้านนอกและแปลกประหลาดเช่นนี้....
“สวัสดี ทุกคน นี่คือพี่ชายของฉัน เจียงลู่ฉี”เจียงจู้อิงแนะนำเขาอย่างภาคภูมใจ ในทางที่เธอนั้นทำมันเหมือนกับว่า “ดูสิ พี่ชายของฉันแม่งโคตรหล่อเลย”
นั้นทำให้ทุกคนต้องการที่จะกรอกตาไปมา
“พี่ชายเจียง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“คุณมาจากเจียงเบยจริงๆหรอ? มันไม่น่าเชื่อจริงๆ”ทุกคนนั้นทักทายเขาอย่างกระตือรือร้น
เจียงลู่ฉีก็ทักทายกลับไป
“เอาละ มากินข้าวเย็นกันเถอะ” เจียงจู้อิงพูดและเชิญพี่ชายของเธอ “พี่มาทานกับฉัน”คำพูดของเธอนั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจ
หยางฉิงฉิงและผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนอื่นนั้นประหลาดใจและจ้องไปที่เจียงจู้อิง
ในกลุ่มของผู้รอดชีวิต พวกเขาเป็นพวกมีพลังเหนือธรรมชาติทั้งสี่คน รวมไปทั้งเจียงจู้อิงด้วย คนที่ปราศจากความสามารถพิเศษนั้นทานอาหารในห้องโถงและพวกมีพลังเหนือธรรมชาตินั้นจะใช้ห้องครัวเพื่อสนุกสนานกับมื้ออาหารของพวกเขา
หยางฉิงฉิงไม่สามารถที่จะช่วยได้ ดังนั้นเธอก็ยิ้มและพูดขึ้น “จู้อิง มันไม่เหมาะสมนะ พี่ชายเจียงไม่มีความสามารถพิเศษ ดังนั้นมันจึงไม่ค่อยจะมีเหตุผลซักเท่าไหร่...”
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิดรวมไปทั้งพวกที่ไม่มีพลังพิเศษ
“ดีกว่าไม่ได้กินอะไรเลย”เจียงจู้อิงปฏิเสธ เธอนั้นแบ่งปันสิ่งของดีๆกับพี่ชายของเธอเสมอมา
คนอื่นก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธกลับไปอย่างไร เนื่องจากการตอบกลับเมื่อกี้มันก็ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
“ฉันไม่สามารถงั้นหรอ ตามบทบัญญัติเดิมละก็ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำหรือเรื่องของผลงาน ฉันเป็นที่หนึ่งในทุกๆเรื่อง แต่ฉันส่วนมากใช้ในการแลกเปลี่ยนอาวุธกับกองกำลังทหาร แต่พวกคุณทั้งหมดได้รับใช้งานของพวกมัน ในตอนนี้ฉันต้อการที่จะแบ่งปันของฉันกับพี่ชายของเธอ มีใครที่ไม่ตกลงอย่างงั้นหรอ”ตาของเจียงจู้อิงกวาดมองไปรอบๆใบหน้าของผู้รอดชีวิต
เจียงลู่ฉีสามารถที่จะรู้สึกถึงความคมในดวงตาของน้องสาวเธอ ผู้รอดชีวิตไม่กล้าที่จะจ้องตากับเจียงจู้อิงโดยตรงได้และก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
ถ้าเจียงจู้อิงไม่ได้พูดไปถึงเรื่องนี้ พวกเขาก็คงลืมเกี่ยวกับมันไป เธอนั้นมีสิทธิที่จะใช้มันแต่เธอไม่ได้ใช้มันเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว ดังนั้นผู้คนที่เหลือนั้นก็ลืมไปเกี่ยวกับมันและคิดว่าเธอนั้นยอมแพ้ที่จะใช้มันกับพวกเขา พวกเขานั้นไม่คิดว่าการกระทำของเจียงจู้อิงนั้นเป็นการมอบให้ โดยใช้แต้มของเธอเพื่อซื้ออาวุธ ในตอนนี้เธอตัดสินใจที่จะใช้แต้มของเธอเพื่อตัวของเธอเอง
พวกเขาไม่กล้าที่จะไม่ยินดีกับผู้นำของพวกเขา แต่พวกเขานั้นรำคาญเจียงลู่ฉีซึ่งได้รับผลประโยชน์โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
หยางฉิงฉิงหยุดพูดไปชั่วครู่หนึ่งและหลังจากนั้นก็ยิ้มปลอมๆขึ้น “มันไม่ได้สำคัญอะไร ถ้าเธอต้องการที่จะทำมันละก็ หลังจากนี้พวกเราก็จะไม่มีข้อโต้แย้งกับมัน”
“พี่ชาย เราไปกินกันเถอะ”เจียงจู้อิงพูดและผลักหลังพี่ชายของเธอ การกระทำของพวกนี้นั้นทำให้เจียงลู่ฉีสงสัยเกี่ยวกับพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ ว่าอาหารพวกนั้นจะเป็นอย่างไร
เมื่อเห็นคนธรรมดาเข้าร่วมกลับพวกมีพลังเหนือธรรมชาติทั้งสี่คน ผู้รอดชีวิตที่เหลือก็มองไปที่ทิศทางของพวกเขาและรู้สึกขมขื่น
มันรู้สึกที่ถูกต้องถ้าพวกมีพลังเหนือธรรมชาตินั้นมีสิทธิ พวกเขานั้นเป็นพวกที่ต่อสู้มากที่สุด แต่พวกเขารู้สึกไม่สะดวกสบายกับอีกคนหนึ่งที่เป็นเพียงแค่ ‘คนธรรมดาทั่วไป’ ได้รับการแบ่งปันสิทธิพวกนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม เขาเป็นพี่ชายของหัวหน้าของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาทำได้เพียงแค่อิจฉาอย่างเงียบๆใส่เขาและสาปแช่งในความโชคดีของเขา ที่มีน้องสาวที่มีความสามารถในการต่อสู้และรับผิดชอบที่น่ามหัศจรรย์
“พี่ชายเจียง สิ่งที่พี่กำลังจะได้กินนั้นอาจจะเป็นมื้ออาหารที่ดีที่สุดที่พี่เคยได้กินมาในชีวิตนี้เลยละ”จางไฮ่พูด
หยางฉิงฉิงไม่ได้พูด แต่เธอนั้นเหยียดหยามเขา [มื้ออาหารนี้นั้นมีผลประโยชน์ที่มากมายกับพวกเรา แต่เขาไม่ได้รับผลประโยชน์ไปซะทั้งหมด มันไร้ค่ามาก!]
เมื่อฟังคำพูดของจางไฮ่ เจียงลู่ฉีก็สงสัยมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ [มันอาจจะมีเชฟห้าดาวอยู่ในทีมนี้งั้นหรอ?]
หลังจากชั่วครู่หนึ่ง อาหารก็ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ เจียงจู้อิงรีบหยิบชิ้นเนื้อมาวางไว้ในจานของเจียงลู่ฉี เจียงลู่ฉีกัดมันไปและเคี้ยวและหลังจากนั้นเขาก็หยุดลงในทันที
[รสชาตินี้...และความรู้สึกที่อุ่นๆนี้.... มันไม่ใช่เนื้อสัตว์กลายพันธุ์อย่างงั้นหรอ?]เจียงลู่ฉีรีบที่จะกัดอีกคำหนึ่ง ในเวลานี้เขานั้นลิ้มรสมันอย่างระมัดระวังและยืนยันกับสิ่งที่เขาคาดเดา
เมื่อเห็นเจียงลู่ฉีรีบกัดไปอีกคำหนึ่งโดยปราศจากการกลืนชิ้นเนื้อชิ้นสุดท้ายไป หยางฉิงฉิงและคนอื่นก็เยาะเย้ยอย่างเย็นชา
ไม่สำคัญว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าเขากินอย่างตะกละตะกลามไปงั้นหรอ?
ไม่แน่ว่าระหว่างทางจากหนานจิง อาหารที่เขาได้กินนั้นอาจจะเป็นแค่บะหมี่สำเร็จรูปหรือไม่ก็เลวร้ายไปกว่านั้น
“เป็นอย่างไรบ้าง พี่ชายเจียง? รสมันดีไหม ใช่ไหมละ?”หยางฉิงฉิงถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
เจียงลู่ฉีพยักหน้า “ไม่เลว”เขาไม่รู้ว่าเนื้อนั้นมาจากสัตว์ประเภทไหนก็ตาม แต่มันก็ยังอร่อยน้อยกว่าเนื้อของหมูป่ากลายพันธุ์อยู่ดี
คำพูดของเจียงลู่ฉีที่พูดว่า “ไม่เลว”ทำให้หยางฉิงฉิงนั้นมึนงง เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
[เจียงลู่ฉีจะรู้ถึงคุณค่าของเนื้อสัตว์นี้ไหม?]เธอคิด
“นี่ไม่ใช่เนื้อธรรมดาทั่วไป มันคือเนื้อของสัตว์กลายพันธุ์ โดยปกติแล้วมันถูกเตรียมไว้สำหรับพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ มันสามารถที่จะฟื้นฟูพลังงานที่ใช้ไปและพัฒนาพลังของพวกเขาได้หลังจากที่กินมันไป มันก็ยังคงสามารถที่จะนำไปแลกเปลี่ยนอาวุธกับกองทัพ แต่การใช้งานสำหรับคนธรรมดาทั่วไปนั้นมันไม่ยังกระจ่างชัดซักเท่าไหร่...”หยางพูด
[วิวัฒนาการ?]เจียงลู่ฉีไม่ได้สนใจกับคำพูดคำสุดท้ายของเธอสักเท่าไหร่ แน่นอนว่ามันมีประโยชน์กับคนธรรมดาทั่วไป
อย่างไรก็ตามเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นถึงเกี่ยวกับลักษณะพิเศษในการวิวัฒนาการเกี่ยวกับมัน มันบอกว่าพลังงานปกติแล้วมันก็จะวิวัฒนาการอยู่ดี แต่กระบวนการวิวัฒนาการของมันนั้นไม่ชัดเจน
“ไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะ? พวกมีพลังเหนือธรรมชาติสามารถที่จะวิวัฒนาการได้ พร้อมทั้งความสามารถและการกินเนื้อกลายพันธุ์สามารถที่จะวิวัฒนาการให้ดีขึ้นได้”หยางก็ยังคงพูดต่อไป
[หลังจากรู้ทั้งหมดแล้ว เขาก็รู้ว่ามันไร้ประโยชน์กับเขาที่จะกินเนื้อต่อไป ถ้าเขาไม่ได้หน้าด้านเพียงพอละก็ หลังจากนั้นเขาก็ไปจากพวกเราและไปยังโถงและกินข้าวกับคนอื่น]เธอคิด
แต่อย่างงั้นเธอก็ประหลาดใจ เนื่องจากเจียงลู่ฉีพยักหน้าและหลังจากนั้นก็หยิบชิ้นเนื้อชิ้นต่อไปขึ้น เขาพูดแก่เธอ “ฉันรู้แล้ว มันน่าสนใจมาก เล่าต่อสิ”