ตอนที่แล้วTWO Chapter 50 กำแพงเมือง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 52 เมืองขนาดเล็ก

TWO Chapter 51 ฝ่ายการเกษตร


TWO Chapter 51 ฝ่ายการเกษตร

กลับไปที่คฤหาสน์ของลอร์ด โอหยางโชวไม่ได้ออกไปที่ไหนต่อ เขาตั้งใจอ่านหนังสือในสำนักงานของเขา

กู่สานเหนียงเคาะประตูเรียกเขา “นายท่าน! มีคนขอให้ข้ามาเรียกท่าน เขาให้บอกว่าหวังเอ๋อมาขอพบ”

“หวังเอ๋อ?” โอหยางโชวถามกลับไปด้วยความงุนงง

“ใช่ เขาเป็นช่างก่อสร้าง เขาบอกว่านายท่านบอกให้เขามาหาท่าน”

โอ้ เขาจำได้ว่าบ่ายวันก่อน เขาได้พบชายหนุ่มและบอกเขาว่า เขาจะไปเป็นพยานในงานแต่งงานของชายหนุ่ม เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรวดเร็วเช่นนี้

“ข้ารู้ว่าเขาเป็นใคร ให้เขาเข้ามาได้” โอหยางโชวบอกกู่สานเหนียง

“ค่ะ”

ไม่นานจากนั้น ก็มีเสียงคน 2 คนใกล้เข้ามา หลังจากกู่สานเหนียงเปิดประตูสำนักงาน ชายหนุ่มอีกคนที่ตามมาก็กล่าวด้วยความเคารพว่า “สามัญชนหวังคำนับนายท่าน”

โอหยางโชวหยักหน้า ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเจ้ามาหาข้าทำไม เจ้ามาเพื่อบอกข้าเรื่องการแต่งงานของเจ้าใช่หรือไม่?”

“นายท่าน งานแต่งงานเล็กๆของข้าจะจัดในเย็นพรุ่งนี้” หวังเอ๋อกล่าวอย่างระมัดระวัง

“เอาล่ะ เย็นพรุ่งนี้ข้าจะอยู่ที่นั่น เจ้ามั่นใจได้เลย”

เมื่อได้ยินโอหยางโชวกล่าวเช่นนั้น หวังเอ๋อก็คำนับเขาอย่างมีความสุข พร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่าน ขอบคุณ”

โอหยางโชวโบกมือ กู่สานเหนียงคำนับแล้วพาหวังเอ๋อออกไป

ในช่วงเย็นสานโก่วฉีแห่งฝ่ายข่าวกรองก็ได้เข้ามาแจ้งข่าวดีให้กับเขา

“นายท่าน หลังจากฝ่ายข่าวกรองของเราได้ทำงานอย่างหนัก ในที่สุดเราก็ค้นพบต้นกล้าหม่อนอยู่ที่ด้านนอกดินแดน” สานโก่วฉีกล่าวอย่างรีบเร่ง หลังจากเขาเข้ามาในสำนักงานของโอหยางโชว

โอหยางโชวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดพวกเขาก็พบมัน! พวกมันนั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการอัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 ถ้าพวกเขาไม่พบมันในเร็ววัน พวกเขาอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันการจัดอันดับได้

สานโก่วฉียิ้มกว้างแล้วกล่าวต่อ “ข่าวดีไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ทหารม้ายังได้ค้นพบร่องรอยของแพะป่าอีกด้วย ตอนนี้ขุนพลซีได้ออกไปพร้อมกับกองทหารม้า เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่พลาดอีก พวกเขาวางแผนว่าจะไปค้นหาพวกมันตลอดทั้งคืน”

“สิ่งดีๆมาพร้อมกันเป็นคู่เลยหรือ? นำต้นกล้าหม่อนไปให้เกษตรกร” โอหยางโชวสั่งเขาด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้กังวลกับทหารม้าที่ออกไปตลอดทั้งคืน เพราะหน่วยข่าวกรองได้สำรวจแล้วว่าไม่มีอันตรายใดๆที่เขาต้องเป็นกังวลรอบๆดินแดนของเขา ค่ายโจรที่พบก่อนหน้านี้ก็ถูกกำจัดไปแล้ว

วันที่ 13 กุมพาพันธ์ เวลา 10.00 น.  มีฝูงแพะป่าหลายร้อยตัวถูกต้อนเข้ามาในหมู่บ้าน โดยทหารม้ากว่า 50 นาย

เมื่อเห็นแพะป่า หัวหน้าฝ่ายก่อสร้างเจ้าเต๋อหวังก็กระโดดขึ้น เขาสาบแข่ง แล้วรีบสั่งให้คนงานก่อสร้างของเขารีบสร้างคอกแพะอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่แพะป่าเป็นสัตว์ที่เชื่อง พวกมันไม่ลนลานวิ่งกระจายไปทั่ว แต่จับกลุ่มกันอยู่อย่างเงียบๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น ตู่เสี่ยวหลานสั่งให้คนจากฝ่ายทรัพยากรนำอาหารสัตว์มาเลี้ยงพวกมันในทันที ตั้งแต่พวกเขาเริ่มทำปศุสัตว์ คลังสินค้าได้สำรองอาหารสัตว์ไว้เป็นจำนวนมาก และมันถูกใช้ประโยชน์ในครั้งนี้

ในช่วงบ่าย คอกแพะถูกสร้างขึ้น โอหยางโชวมองไปที่แพะป่า ก่อนที่เขาจะคิดไอเดียขึ้นมาได้ เขากลับไปที่คฤหาสน์ แล้วเรียก ฟ่านจงหยาน เทียนเหวินจิง ขุ่ยหยิงหยู และเจ้าเต๋อเสี้ยน มาที่สำนักงานของเขา เพื่อคุยรายระเอียดงาน

ฟ่านจงหยาน เทียนเหวินจิง และขุ่ยหยิงหยู ทั้ง 3 ถูกเรียกว่า ‘สามเสาหลัก’ โดยเจ้าหนัาที่ในดินแดน เมื่อต้องร่วมงานกับสามเสาหลัก เจ้าเต๋อเสี้ยนรู้สึกกังวล

โอหยางโชวไม่เสียเวลา เขาเข้าประเด็นทันที “ด้วยการขยายตัวของปศุสัตว์ในดินแดน รวมถึงต้นกล้าหม่อนที่กำลังถูกปลูก หมู่บ้านซานไห่ของเรากำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ ตอนนี้ข้าต้องตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อประสานงานและจัดการพวกมัน”

หัวใจของเจ้าเต๋อเสี้ยนเต้นถี่ และกระตือรือร้น สิ่งที่โอหยางโชวกล่าว หมายความว่า เขาจะจัดตั้งฝ่ายใหม่ที่เข้มแข็งขึ้น ในด้านการเกษตร การป่าไม้ การประมง และปศุสัตว์ เมื่อมองไปที่คนอื่นๆ พวกเขาต่างก็มีตำแหน่งที่สำคัญอยู่แล้ว ตำแกน่งใหม่นี้จะเป็นของเขาหรือไม่?

ฟ่านจงหยานหันหน้าไปทางเทียนเหวินจิงแล้วกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “นายท่านหมายความว่า ท่านกำลังจะย้ายปศุสัตว์ออกจากกรมคลังวัสดุใช่หรือไม่?”

“ตามรูปแบบขอบเขตอำนาจทั่วไป อุตสาหกรรมและปศุสัตว์ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของกรมการบริหาร”

กรมคลังวัสดุเติบโตมากในช่วงการบริหารของขุ่ยหยิงหยู และโอหยางโชวก็ไว้ในเธอ ตอนนั้นปศุสัตว์ยังอ่อนแอ จึงยังไม่มีใครพูดอะไร แต่นอนนี้มันเติบโตขึ้นมาก จึงกลายเป็นประเด็นสำคัญ

หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งเจ้ากรมการบริหาร ฟ่านจงหยานพิจารณาแล้วว่าเขามีอำนาจ แต่ก็ไม่สามารถขยายออกไปได้มากขึ้น ด้วยศักยภาพของแพะป่า เมื่อโอหยางโชวหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เขาจึงกล่าวถึงประเด็นขอบเขตอำนาจ เพื่อเพิ่มเชื้อเข้าไปในกองไฟ

เจ้ากรมคลังวัสดุคนใหม่ยังคงแสดงสีหน้าเฉยชา เหมือนกระจกที่ว่างเปล่า ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

โอหยางโชวแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วกล่าวต่อ “ไม่ใช่แค่นั้น การประมงก็จะถูกย้ายออกจากกรมคลังวัสดุ เนื่องจากหน้าที่หลักของของกรมคลังวัสดุ คือ การจัดการและการจัดเก็บวัสดุ ไม่ใช่ควบคุมการผลิตจากแหล่งที่มา”

เทียนเหวินจิงพยักหน้าอย่างสงบ แล้วกล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยกับความเห็นของนายท่าน เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของดินแดน การจัดตั้งหน่วยงานที่เป็นมืออาชีพไม่อาจจะรอช้าได้”

ขุ่ยหยิงหยู่นั่งอยู่ด้านข้าง และมองดูพวกเขาเล่นการเมืองกัน เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญของปัญหาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอ

แต่เมื่อเห็นเทียนเหวินจิงถอนตัว ขุ่ยหยิงหยูยิ้มแล้วถามว่า “จากคำกล่าวของพี่ใหญ่ ฝ่ายที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ จะใช้ชื่อว่าอะไร? และจะให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ?” เธอถามขณะเขาหันหน้าไปทางเจ้าเต๋อเสี้ยน

“โดยทั่วไปแล้ว หน่วยงานที่ทำหน้าที่รับผิดชอบการเกษตร การป่าไม้ การประมง และปศุสัตว์ จะถูกเรียกว่า ฝ่ายการเกษตร และไม่จำเป็นต้องจัดตั้งฝ่ายใหม่ เพียงเปลี่ยนจากฝ่ายฟื้นฟูดินเป็นฝ่ายการเกษตร และผู้รับผิดชอบก็ยังให้เจ้าเต๋อเสี้ยนรับผิดชอบเช่นเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ” โอหยางโชวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ขุ่ยหยิงหยูพยักหน้า การที่เขาจัดการแบบนี้ไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจ เมื่อถึงจุดนี้ ฝ่ายการเกษตรจะกลายเป็นหน่วยงานที่สำคัญที่สุด หน่วยงานหนึ่งของกรมการบริหาร

เจ้าเต๋อเสี้ยนลุกขึ้นคำนับเขา แล้วกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่าน สำหรับความไว้ใจของนายท่าน”

โอหยางโชวโบกมือให้เขา “ผู้อาวุโส ความสามารถของท่านในฐานะหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างและหัวหน้าฝ่ายฟื้นฟูดินในก่อนหน้านี้ ท่านทำได้ดีมาก ข้าหวังว่าฝ่ายการเกษตรใหม่นี้ ท่านจะจัดการมันได้เป็นอย่างดีเช่นกัน”

“ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง” เจ้าเต๋อเสี้ยนกล่าวอย่างสงบและมั่นคง

ในการฝึกอบรมข้าราชการพลเรือนของซานไห่  เจ้าเต๋อเสี้ยนเป็นรองเพียงขุ่ยหยิงหยู และกู่ซิวเหวินเท่านั้น เขายังดีกว่าเจ้าโหยวฟาง และเจ้าเต๋อหวัง หลังจากทำหน้าที่ผู้นำแล้ว โอหยางโชวได้ตัดสินใจว่า ตอนนี้เขาจะทำให้เวทีเปิดกว้างมากขึ้น

เย็นวันนั้น โอหยางโชวพาเอ่อหว้าฉีไปขตที่อยู่อาศัย เพื่อร่วมงานแต่งงานของหวังเอ๋อและขุ่ยฮัว

งานแต่งงานสมัยโบราณประกอบด้วยพิธี 6 ขั้นตอน ที่สำคัญที่สุดคือการต้อนรับเจ้าสาว เจ้าบ่าวจะเปิดประตูเกี้ยวเพื่อรับเธอ ก่อนที่ผู้อาวุโสจะถูกทั้งสองไว้ด้วยกันด้วยเชือกสีแดง

ทั้ง 2 ถือเชือกสีแดง เดินเข้าไปในห้องโถงโดยก้าวข้ามธรณีประตู ธรณีประตูอยู่ตรงด้านล่างของประตู เจ้าสาวต้องก้าวข้ามมัน เพื่อนเจ้าสาวจะส่องปกระจกเงาไปที่พวกเขา ด้วยหวังว่าพวกเขาจะมีความสุข

ชาวบ้านส่วนใหญ่ในซานไห่จะอยู่กันตามลำพัง หรือครอบครัวเล็กๆ ไม่มีพ่อแม่ หรือผู้อาวุโส ดังนั้น การแต่งงานทั้งหมดจึงไม่เคร่งครัดตามพิธีทั้ง 6 ขั้นตอน

โชคดีที่กรมคลังวัสดุได้รับคำสั่งจากโอหยางโชว ให้พวกเขานำผ้าไหมสีแดง ข้าว ผลไม้ และอุปกรณ์ต่างๆมาช่วยงาน ทำให้ฉากงานแต่งงานไม่ดูทรุดโทรมมากจนเกินไป

โอหยางโชวและเอ่อหว้าฉีมาถึงที่บ้านของหวังเอ๋อ และรอเขาที่หน้าประตู

เมื่อเห็นโอหยางโชวมาถึง หวังเอ๋อรีบออกมาตอนรับ แล้วกล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นายท่านมาเยี่ยมบ้านของเรา” เขาได้ไปที่คฤหาสน์เมื่อเช้า เพื่อให้กู่สานเหนียงสอนมารยาทที่ถูกต้องให้

โอหยางโชวพยักหน้าอย่างมีความสุข พร้อมทั้งส่งของขวัญให้กับหวังเอ๋อ มันคือผ้าไหมที่เขาซื้อมาจากตลาด ในฐานะลอร์ด เขาไม่สามารถมอบของขวัญที่น่าอับอายได้

บ้านใหม่ของหวังเอ๋อเป็นที่อยู่อาศัยขนาดเล็กทั่วไป ผ่านประตูหน้ามาเป็นลานขนาดเล็ก มีต้นพุทราถูกปลูกไว้ที่นี่ ด้านทิศตะวันออกและด้านทิศตะวันตก มีห้องครัวและเล้าไก่ตามลำดับ ในตัวบ้านมีห้องเพียง 3 ห้อง ตรงกลางเป็นห้องโถงใหญ่ ใช้เป็นสถานที่สำหรับทานอาหาร ห้องด้านซ้ายและขาวเป็นห้องนอน

บ้านของเขาสะอาดมาก หวังเอ๋อเป็นคนทำความสะอาดบ้าน เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมรู้สึกสบายใจ

ภายในบ้านมีเหล้าวางอยู่บนโต๊ะ คนที่อยู่ในงานเป็นภรรยาของเขา และเพื่อนร่วมงานของพวกเขา จำนวนคนในงานกำลังพอดี

หวังเอ๋อนำโอหยางโชวไม่ที่ห้องโถง และให้เขานั่งอยู่ด้านบน เอ่อหว้าฉีไปหาสถานที่ของตัวเองในลาน

เมื่อเห็นโอหยางโชว เจ้าเต๋อหวังรีบลุกขึ้นทักทายในทันที หวังเอ๋อเป็นช่างไม้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายก่อสร้าง เขากล้าได้กล้าเสียเชิญหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างมาร่วมงานของเขา

ก่อนที่เขาจะมา เจ้าเต๋อหวังไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะพบกับโอหยางโชวที่นี่ มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมาก แต่เขาก็ดีใจที่เขาได้เห็นโอหยางโชวที่นี่ ยิ่งเจ้านายใส่ใจลูกน้องของเขามากเท่าไหร่ ลูกน้องของเขาก็จะยิ่งตอบแทนเขามากเท่านั้น

ความจริงโอหยางโชวก็รู้สึกโล่งใจที่เขาเห็นเจ้าเต๋อหวัง อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีคนให้พูดคุยด้วย ไม่ต้องนั่งอยู่ตรงนี้อย่างเบื่อหน่าย

ก่อนที่พิธีจะเริ่ม หวังเอ๋อได้พาเจ้าสาวของเขาขุ่ยฮัวไปพบโอหยางโชว เพื่อรับพรจากเขา โอหยางโชวกล่าวคำมงคล แล้วปล่อยให้เจ้าสาวกลับไปที่ห้องของเธอ ในงานแต่งงานโบราณ เจ้าสาวจะไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยใบหน้าของเธอโดยง่าย เนื่องจากเขาเป็นลอร์ด เขาจึงได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไป

งานแต่งงานกำลังคึกคักรอบๆบริเวณนั้น

หลังจากจบพิธี โอหยางโชวก็ได้กล่าวบางอย่าง จากนั้นเขาก็ลุกออกไป เขารู้ว่าหลังจากฟังคำพูดของเขา ไม่มีใครตื่นเต้นและสนุกสนานกับมัน มันจะดีกว่าที่เขาจะออกมา และปล่อยให้เจ้าบ่าวได้ใช้เวลาร่วมกับเจ้าสาวในคืนนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด