TWO Chapter 49 เทียนเหวินจิง
TWO Chapter 49 เทียนเหวินจิง
วันรุ่งขึ้น เมื่อโอหยางโชวออนไลน์ เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 10.00 น. แล้ว
วันหยุดฤดูหนาวของปิงเอ๋อเริ่มขึ้นเมื่อวาน และน้องสาวของเขาก็คลุกตัวอยู่รอบๆเขาทั้งวัน พวกเขาเดินเล่น กิน ดื่ม เพื่อผ่อนคลายในวันหยุด
จตุรัสหน้าคฤหาสน์มีผู้ชุมนุมกันทั้งหมู่บ้าน ฝ่ายคลังวัสดุได้แจกจ่ายสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ชาวบ้านบางส่วนหลังจากได้รับตั๋ว พวกเขามุ่งหน้าไปที่ธนาคาร เพื่อขอสินเชื่อบ้าน
โรงผลิตเหล้า โรงผลิตเครื่องปั้นดินเผา และร้านค้าต่างๆ มีราคาประมาณ 60 เหรียญเงิน แต่ทุกคนได้รับเงินเพียง 20 เหรียญเงิน ดังนั้น สินเชื่อที่ชาวบ้านผ่านเงื่อนไขมากที่สุดก็คือ สินเชื่อบ้าน
โอหยางโชวเชื่อว่า วันนี้ อสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะถูกขาย โชคดีที่ฝ่ายก่อสร้างได้ก่อสร้างบ้านเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้วกว่าร้อยหลัง มิฉะนั้น ต้องใช้เวลาอย่างมากกว่าจะสร้างได้ทันตามความต้องการเขาคำนวณคร่าวๆแล้ว รวมการออกตั๋วประเภทต่างๆแล้ว ต้นทุนรวมของการปฏิรูปมีมากถึง 600 เหรียญทอง เขาสงสัยว่าลอร์ดคนอื่นๆจะทำถึงขั้นนี้หรือไม่
โอหยางโชวเชื่อว่ามันคุ่มค่า เขามองไปที่ดัชนีทางเศรษฐกิจของดินแดน มันถึง 30 แต้มแล้ว และมันจะเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ นอกจากจำนวนประชากร และฟาร์มหม่อนแล้ว เขาได้ผ่านเงื่อนไขการอัพเกรดดินแดนเป็นเมืองขนาดเล็กแล้ว
เมื่อถึงเวลา 15.00 น. สวัสดิการขั้นพื้นฐานก็ถูกแจกจ่ายเสร็จสิ้น ต่อจากนี้ ผู้ที่อพยพมาใหม่จะเข้าไปรับสวัสดิการขั้นพื้นฐานได้โดยตรงที่ฝ่ายคลังวัสดุ
รอจนกระทั่งจนทุกอย่างจบลง โอหยางโชวเรียกหัวหน้าฝ่ายต่างๆมาประชุม เพื่อฟังรายงานของรางวัลจากการบุกโจมตีค่ายโจร
ในห้องประชุม เจ้าโหยวฟางรายงาน “ครั้งนี้ เราสามารถยึดธัญพืชได้ 11450 หน่วย, ไม้ 1200 หน่วย, หิน 500 หน่วย และเงินอีก 105 เหรียญทอง 45 เหรียญเงิน 72 เหรียญทองแดง รวมถึงแบบแปลนสิ่งก่อสร้างอีก 5 ฉบับ และไอเท็มพิเศษ ซึ่งก็คือ ยันต์อันเชิญ”
ไม้ หิน และแบบแปลนสิ่งก่อสร้างมาจากการทำลายค่ายโจร เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นผู้นำการบุกโจมตี เมื่อศัตรูทั้งหมดถูกกำจัด ค่ายโจรจึงถูกทำลายโดยอัตโนมัติ
นอกจากแบบแปลนคลังแสง แบบแปลนอื่นๆอีก 4 ฉบับ เขาสามารถขายออกไปที่ตลาดได้
สำหรับอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมด เขาไม่ได้สนใจ โอหยางโชวสั่งให้หลินยี่นำมันกลับไปที่ค่ายทหาร และแจกจ่ายเป็นรางวัลตามผลงานของทหารแต่ละคน
กู่ซิงเหวินรายงานเกี่ยวกับผู้ที่พวกเขาช่วยเหลือมาจากค่ายโจร “ครั้งนี้ พวกเราสามารถช่วยเหลือคนจากค่ายโจรได้ 125 คน ในหมู่คนเหล่านี้ มีพ่อครัว คนเลี้ยงสัตว์ ช่างตัดเย็บ และช่างตีเหล็กอยู่ด้วย พวกเขาทุกคนมีความสามารถพิเศษในระดับกลาง ยกเว้นคนเลี้ยงสัตว์ที่มีความสามารถพิเศษระดับสูง”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “หลังจากการปฏิรูป โรงครัวในหมู่บ้านจะถูกยุบ พ่อครัวจะถูกส่งไปที่ค่ายทหาร และรับผิดชอบจัดการอาหารเฉพาะในกองทัพ ช่างตัดเย็บจะถูกส่งไปที่ร้านของมู่ฉิงซี เพื่อช่วยพวกเขาทำงาน ช่างตีเหล็กส่งไปที่โรงผลิตอาวุธ เขาจะได้ช่วยหวังเกาฝึกอบรมเด็กฝึกงานได้ สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ให้เขารับผิดชอบงานปศุสัตว์ เรากำลังขาดคนจัดการงานนี้”
ในหมู่บ้านซานไห่ในตอนนี้ บุคลากรที่มีความสามรถไม่ใช่สิ่งที่หายากอีกต่อไป ดังนั้น โอหยางโชวจึงไม่ได้ตรวจสอบพวกเขาโดยละเอียดเหมือนเมื่อก่อน เขาเพียงพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ และส่งพวกเขาไปทำงานที่เหมาะสม
125 คนที่มาใหม่ จะช่วยย่นเวลาอพยพได้ถึง 8 วัน เมื่อรวมกับช่วงหลังจบเควสการรุกรานของสัตว์ร้าย ตอนนี้พวกเขามีประชากรเร็วกว่ากำหนดถึง 20 วัน มันจะช่วยให้พวกเขาอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กได้เร็วขึ้น
วันนี้วันที่ 10 กุมพาพันธ์ ในอีก 5 วัน หมู่บ้านซานไห่จะอัพเกรดอีกครั้ง จากหมู่บ้านระดับ 3 เป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 ใช้เวลาเพียง 13 วัน เป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์มาก ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครในประเทศจีนเปรียบเทียบกับตี่เฉินได้ เพราะเขามีสมุดเช็คที่ไร้ขีดจำกัด
โอหยางโชวได้เงินมามากกว่า 100 เหรียญทอง แบบแปลนสิ่งก่อสร้าง และไอเท็มพืเศษ อย่างยันต์อันเชิญ จากการทำลายค่ายโจร เงินส่วนที่เหลือเขามอบให้ฝ่ายการเงิน ธัญพืช และวัสดุ มอบให้ฝ่ายคลังวัสดุจัดการ
ก่อนที่จะใช้แบบแปลนสิ่งก่อสร้าง เขาได้ตรวจสอบมัน
คลังแสง : โกดังสำหรับเก็บอาวุธ
เงื่อนไขการก่อสร้าง : แบบแปลนคลังแสง, ไม้ 600 หน่วย, หิน 400 หน่วย, เวลาในการก่อสร้าง 3 วัน
โอหยางโชวบอกฝ่ายก่อสร้างให้เริ่มก่อสร้างคลังแสงในอีก 2 วันถัดไป ในตำแหน่งถัดจากค่ายทหาร ใกล้กับโรงผลิตอาวุธ
จากนั้น โอหยางโชวหยิบยันต์อันเชิญเข้ามาตรวจสอบ
ยันอันเชิญระดับกษัตริย์ : สุ่มเรียกบุคคลในประวัติศาสตร์ระดับกษัตริย์ เพื่อช่วยเหลือคุณในการทำงาน
แม้ว่าจะเป็นระดับต่ำสุดของยันต์อันเชิญ แต่มันก็มีค่ามากสำหรับโอหยางโชว เขาไม่คิดว่าเขาจะได้รับโชคเช่นนี้ ในการทำลายค่ายโจรขั้นกลาง เขาฉีกมันโดยไม่ลังเล มีแสงสีขาวสว่างขึ้นขึ้น และมีชายวัยกลางคนปรากฎออกมา
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เช่นฉีเยว่หวู่ยี่ ที่ประสบความสำเร็จในการอันเชิญบุคคลในประวัติศาสตร์ เทียนเหวินจิง(Tian Wenjing) รางวัลพิเศษ : คะแนนชื่อเสียง 50 แต้ม”
เมื่อเห็นโอหยางโชว นักวิชาการวัยกลางคนก็ก้มหน้าลงคำนับเขา “เทียนเหวินจิงคำนับนายท่าน!”
โอหยางโชวไม่ละเลย และรีบก้าวออกไป พยุงเขาขึ้น และกล่าวด้วยความจริงใจว่า “โปรดลุกขึ้นเถอะ ข้ามีความสุขยิ่งนักที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับท่าน และท่านไม่จำเป็นต้องก้มหน้าให้ข้า”
หลังจากทักทายกันแล้ว โอหยางโชวก็ตรวจสอบสถานะของเขา
ชื่อ : เทียนเหวินจิง[Tian Wenjing](ระดับกษัตริย์)
ฉายา : ข้าราชการต้นแบบแห่งซินเจียง(Xinjiang)
ราชวงศ์ : ราชวงศ์ชิง
อัตลักษณ์ : ชาวบ้านซานไห่
อาชีพ : ข้าราชการพลเรือน
ความจงรักภักดี : 75
ความเป็นผู้นำ : 40
กำลัง : 20
สติปัญญา : 70
การเมือง : 85
ความชำนาญ : ความชัดเจนของราชการ(ประสิทธิภาพการบริหารจัดการดินแดน เพิ่มขึ้น 20%)
แข็งดั่งเหล็ก(เกียรติยศของดินแดน เพิ่มขึ้น 20%)
สุจริตยุติธรรม(ความซื่อสัตย์สุจริตในดินแดน เพิ่มขึ้น 20%)
การประเมิน : เป็น 1 ใน 3 ขุนนางที่เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิหยงเจิ้ง(Yongzheng) แห่งราชวงศ์ชิง, เป็นที่รู้จักในเรื่องเล่ห์เหลี่ยมจัด, จัดเจนและใจเย็น, ในช่วงที่เขารับราชการ กฎหมายเข้มงวดมาก เกือบจะไม่มีโจร ขโมยในเขตรับผิดชอบของเขา และเขาก็เคร่งครัดในเรื่องกำหนดเวลาตามที่ได้รับมอบหมาย
ในแง่ของความสามารถในการบริหารงานราชการ เขาเก่งกว่าฟ่านจงหยาน เขาได้เป็นขุนนางเมื่ออายุ 22 ปี ประสบความสำเร็จในงานผู้พิพากษา เขาเคยทำงานในตำแหย่งผู้ว่าราชการ และตำแหน่งที่สำคัญอื่นๆ ในช่วงการทำงานของเขา เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการต้นแบบแห่งซินเจียง โดยจักรพรรดิหยงเจิ้ง
เหตุผลหลักที่ฟ่านจงหยานได้รับการย่งย่องเป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์ นอกจากเรื่องการบริหารงานของรัฐแล้ว เขาประสบความสำเร็จในเรื่องวรรณกรรม แต่เทียนเหวินจิงแตกต่างออกไป เขามีพื้นฐานด้านการปกครอง แม้ว่าเขาจะสะอาด และซื่อสัตว์ แต่เขาก็เป็นที่รู้จักในชื่อ ข้าราชการผู้เคร่งครัด
พวกเขาจะช่วยเสริมกันและกันได้ เมื่อหมู่บ้านซานไห่มีพวกเขาทั้ง 2 คน การทำงานของรัฐบาลจะสามารถดำเนินไปได้โดยที่เขาไม่ต้องกังวลใดๆ โอหยางโชวถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
เนื่องจากวันนี้สายมากแล้ว จึงไม่สะดวกที่จะกล่าวต่อ โอหยางโชวเรียกกู่ซิวเหวิน สั่งให้เขาจัดเตรียมที่พวักสำหรับเทียนเหวินจิง และแนะนำข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหมู่บ้านซานไห่ให้เขาฟัง กู่ซิวเหวินมีประสบการณ์มาแล้ว จึงไม่มีปัญหาที่จะให้เขาทำมันอีกครั้ง
นอกจากนี้ โอหยางโชวยังแจ้งให้หัวหน้าฝ่ายทุกคนทราบว่า พรุ่งนี้จะมีการประชุม เวลา 9.00 น. ในห้องโถงประชุมนี้
……………………………………………………………………………………………………………………………….
วันที่ 11 กุมพาพันธ์ ณ ห้องโถงประชุม
เจ้ากรมการบริหาร และหัวหน้าฝ่ายต่างๆพร้อมกันอยู่ที่นั่น โอหยางโชวนั่งลง แล้วแนะนำเทียนเหวินจิงอย่างเป็นทางการ
หลังจากทักทายกันเสร็จ โอหยางโชวกล่าวต่อว่า “หลังจาก 10 วัน ของความพยายาม การปฏิรูปประสบความสำเร็จในเบื้องต้นแล้ว วันนี้ เราจะประชุมหารือ 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรก หลักจากการปฏิรูป อุปกรณ์ทางทหารจะถูกแยกเก็บไว้โดยอิสระ นอกจากนี้ด้วยความร่วมมือของโรงไม้ ยานพาหานะในดินแดนจะต้องอยู่ในการควบคุม ดังนั้น ฝ่ายคลังวัสดุจะซับซ้อนมากขึ้น”
“ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจอัพเกรดฝ่ายคลังวัสดุ เป็นกรมคลังวัสดุอย่างเป็นทางการ ดูแลฝ่ายโลจิสติกส์ทางทหาร ฝ่ายขนส่ง และฝ่ายทรัพยากร”
“ฝ่ายโลจิสติกส์ทางทหารจะรับผิดชอบ คลังแสง และดูแลอุปกรณ์ทางทหาร รวมถึงความเป็นอยู่ของพวกม้า”
“ฝ่ายทรัพยากรจะรับผิดชอบ การจัดจำหน่ายวัสดุพื้นฐาน การดำเนินงานของร้านขายธัญพืช ร้านขายเนื้อ ร้านขายเสื้อผ้า และยังดูแล ลานไม้ เหมืองหิน เหมืองแร่ และทุ่งสำหรับเลี้ยงสัตว์ด้วย ทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้กรมคลังวัสดุ”
เจ้าโหยวฟางไม่ได้คาดหวังว่า โอหยางโชวจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ โดยการอัพเกรดฝ่ายคลังวัสดุเป็นกรมคลังวัสดุ
หน้าที่ของกรมคลังวัสดุ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน และซับซ้อนมากขึ้น ลานไม้ เหมืองหิน เหมืองแร่ และการปศุสัตว์ จะถูกโอนย้ายไปกรมคลังวัสดุ
ห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่สำรอง ถูกแยกออกจากกัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการครอบงำใดๆ ซึ่งเป็นความตั้งใจที่แท้จริงของโอหยางโชว
รอเวลาชั่วครู่ให้พวกเขาปรับตัว ให้เข้ากับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ โอหยางโชวกล่าวต่อไป “จะขอแต่งตั้งให้ท่านเทียนเหวินจิง ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมคลังวัสดุ เขาจะเป็นผู้ดูแลคลังวัสดุของดินแดนทั้งหมด”
เทียนเหวินจิงลุกขึ้น และคำนับเขาด้วยความเคารพ แล้วกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่าน! ข้าจะทุ่มเททำงานนี้ และจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง หรือมีความกังวลใดๆ”
ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆในการแต่งตั้งนี้ ด้วยสถานะของเขา เขาจึงเป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้แต่เพียงผู้เดียว แม้จะมีเจ้าโหยวฟางอีกคน แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมฝ่ายของเขาได้ในตอนนี้
“เจ้าโหยวฟางเป็นรองเจ้ากรมคลังวัสดุ และเป็นหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ทางทหาร, ผู้ดูแลเหมืองแร่เจิ้งซานเปาจะเป็นหัวหน้าฝ่ายขนส่ง และอดีตผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุจะเป็นหัวหน้าฝ่ายทรัพยากร” โอหยางโชวพูดเกี่ยวกับการแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ในกรมคลังวัสดุอย่างรวดเร็ว
เจ้าโหยวฟางไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ โอหยางโชวให้เขาดูแลฝ่ายโลจิสติกส์ทางทหาร ดังนั้น เขาจึงยอมรับมันได้ สำหรับเจิ้งซานเปา แม้ว่าผลงานของเขาจะไม่สะดุดตา แต่ก่อนหน้านี้ เขามุ่งเน้นไปที่การทำงานที่เหมืองแร่เท่านั้น โอหยางโชวใช้โอกาสนี้ เพื่อย้ายเขาไปที่ฝ่ายขนส่ง ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างง่าย ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นงานข้าราชการพลเรือนอย่างแท้จริง
ตู่เสี่ยวหลานเป็น 1 ในเด็กฝึกงานของขุ่ยหยิงหยูและเป็นคนสำคัญเมื่อขุ่ยหยิงหยูอยู่ในฝ่ายคลังวัสดุ เธอทำงานได้ดีในฐานะผู้ช่วยของขุ่ยหยิงหยู และเจ้าโหยวฟาง ดังนั้น เขาจึงให้เธอดูแลฝ่ายทรัพยากร ซึ่งเธอพอใจเป็นอย่างมาก