Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 32 – คำเชิญที่สวยงาม
Chapter 32 – คำเชิญที่สวยงาม
มีทะเลของผู้เล่นอยู่ที่ด้านหน้าของป่าแห่งความตาย ปัจจุบัน พวกเขาทั้งหมดกำลังรวมตัวกันอยู่ๆทางเข้าของดันเจี้ยน
สถานการณ์ดังกล่าวเกิดจากการกระทำของกิลด์ใหญ่ในย่านใบสีแดง ทีมชั้นสูงของกิลด์ใหญ่เหล่านี้ได้มาถึงป่าแห่งความตายแล้วทั้งหมด พวกเขาทั้งหมดกำลังเตรียมที่จะท้าทายดันเจี้ยน ซึ่งทีมเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าพวกปาร์ตี้ชั้นสูงที่สร้างขึ้นอย่างอิสระ อุปกรณ์ปกติปกคลุมไปทั่งทั้งร่างกายของพวกเขา มันมีกระทั่งชิ้นส่วนอุปกรณ์สัมฤทธิ์รวมอยู่ด้วย
“นั่นคือแกนหลัก MT ของมงกุฎสวรรค์ ภูเขาไร้เคลื่อนไหว ฉันไม่เคยจินตนาการเลยว่าแม้กระทั่งเขาจะมาถึงที่นี่ด้วย ซึ่งเป็นใครบางคนที่มั่นใจว่าจะสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้ในครั้งนี้”
“ฮึ่ม มงกุฎสวรรค์ก็เป็นเพียงแค่กิลระดับสามเท่านั้น มองไปที่นั่น กระทั่งรองผู้นำของพันธมิตรนักลอบสังหาร หัวใจที่ถูกจิ้มก็มาที่นี่ นอกจากนี้ยังมีอัศวินผู้พิทักษ์ที่ถูกตั้งชื่อว่าสงครามแห่งวิญญาณ ด้านข้างของเขาก็ยังเป็นท็อบ 5 ของอัศวินในพันธมิตรนักลอบสังหารอีกด้วย เขากระทั่งแข็งแกร่งกว่าภูเขาไร้เคลื่อนไหวด้วยซ้ำ” [หัวใจที่ถูกจิ้ม แทงหัวใจ Stapping Heart คนเดียวกันนะครับแต่ยังไม่เคลียร์จะเอาชื่อไหน]
ผู้เล่นในบริเวณรอบๆเริ่มการโต้เถียงท่ามกลางพวกเขาเอง พวกเขาได้มีทัศนคติที่ดีต่อกิลด์ใหญ่เหล่านี้ในการเคลียร์ป่าแห่งความตาย มันจึงเป็นที่คาดหวังเนื่องจากว่ามีกิลด์ใหญ่มากกว่าสิบกิลด์อยู่ในขณะนี้ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กท่ามกลางกิลด์เหล่านี้ กิลด์ที่เป็นรู้จักกันดีที่สุดจะเป็นกิลระดับสอง พันธมิตรนักลอบสังหาร ตามมาด้วยพวกกิลด์ระดับสาม มงกุฎสวรรค์ ส่วนกิลด์อื่นๆก็เป็นเพียงแค่กิลด์ที่ไม่มีใครรู้จักแต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถดูถูก นี่เป็นเพราะว่า Workshop อยู่หลังทุกกิลด์ Workshops เหล่านี้ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญทำให้ผู้เล่นธรรมดาไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขาได้
กิลด์ใหญ่แต่ละแห่งต้องการสร้างชื่อเสียงในย่านใบสีแดง การพิชิตดันเจี้ยนครั้งแรกในย่านใบสีแดงก็จะเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการทำเช่นนั้น เพราะฉะนั้นกิลด์ใหญ่ทั้งหมดได้มีการตระเตรียมเหลือเฟือสำหรับดันเจี้ยน พวกเขาใช้จ่ายสินทรัพย์เป็นจำนวนมากในการซื้ออุปกรณ์และยา พวกเขายังได้ทำการซื้อข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับดันเจี้ยนอีกด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงมั่นใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการพิชิตดันเจี้ยน
“หัวหน้าเวฟวิ่ง(ที่หาเรื่องซือเฟิงก่อนเข้าดัน) ทีมของกิลด์เหล่านี้มีอุปกรณ์ที่หรูหรา! พวกเขาจะเคลียร์ป่าแห่งความตายได้ในครั้งนี้อย่างแน่นอน” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำแสดงความคิดเห็นด้วยท่าทางที่เจ็บปวด
เวฟวิ่งสโลลี่บัตชัวร์ลี่กอดแขนของเขาไว้ที่ข้างหน้าของอก เขาพยักหน้าเล็กน้อยขณะพูดด้วยน้ำเสียงหมดหนทาง “ป่าแห่งความตายมันยากเกินไป เราถูกำจัดปาร์ตี้ก่อนที่พวกเราจะได้พบกับบอสด้วยซ้ำ ในท้ายที่สุด ปาร์ตี้ที่เหมือนกับพวกเราก็กลายเป็นเพียงแค่ลูกสำหรับกิลด์เท่านั้น”
“มีอะไรให้คุยโวกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญของกิลด์? หัวหน้า มันไม่ใช่ว่าทักษะของพวกเราไม่เพียงพอ แต่ดันเจี้ยนมันน่ากลัวเกินไปต่างหาก มันมีความต้องการของอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงเกินไป” นักรบโล่ ต่อสู้เพื่อจุดสิ้นสุดกล่าวด้วยความดูหมิ่น เขาได้ดูถูกผู้เชี่ยวชาญของกิลด์ลึกลงไปในใจของเขา และเขาก็มั่นใจว่ามีเพียงอุปกรณ์ของพวกเขาเท่านั้นที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนได้
“นั่นถูกต้องแล้ว หัวหน้า ถ้าปาร์ตี้ของพวกเรามีอุปกรณ์แบบนั้น เราก็คงจะเคลียร์ป่าแห่งความตายได้ตั้งนานแล้ว” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำ กล่าวด้วยความมั่นใจ
พูดถึงดันเจี้ยน ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำได้นึกถึงปาร์ตี้ของซือเฟิง เขาได้หัวเราะคิกคักขณะที่เขากล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้รับอะไรเลย พวกเราได้ฆ่าสองกระต่ายยามค่ำและแม้กระทั่งได้รับหนังสือสกิลของเบอร์เซิร์กเกอร์ เปรียบกับปาร์ตี้ที่นำโดยหัวหน้ามือใหม่ พวกเราแข็งแกร่งมากขึ้น พวกเขายังไม่ทันได้แสดงตัวเอง ผมเดาว่าพวกเขาคงจะเผ่นหนีไปด้วยความลำบากใจแล้ว มันแน่นอนว่าน่าสงสารสำหรับหิมะผู้โดดเดี่ยว ถ้าเขาติดตามหัวหน้า เขาก็ได้รับหนังสือสกิลเล่มนี้ ถ้าเขารู้เรื่องนี้ เขาคงจะเสียใจที่ไม่ได้ติดตามพวกเราเข้าไปในดันเจี้ยน”
“ถูกต้อง หิมะผู้โดดเดี่ยวไม่รู้จักซาบซึ้งถึงความมีน้ำใจที่มอบให้เขา ตอนนี้เขาจะต้องเสียใจที่ไม่ได้ติดตามหัวหน้าแน่นอน” ต่อสู้เพื่อจุดสิ้นสุดกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
“ทักษะของหิมะผู้โดดเดี่ยวยังค่อนข้างดี ฉันไม่รู้ว่ามือใหม่จัดการเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่าแบล็คกี้ได้ยังไง ไม่ว่าเทคนิคของผู้เชี่ยวชาญจะดีขนาดไหน แต่ด้วยความตายที่เขาแบกไว้บนหลัง พวกเขาก็ยังคงถูกกำจัดปาร์ตี้อยู่ดี เขาอาจจะอับอายเกินไปที่จะแสดงตัวเองในตอนนี้ ถ้าเกิดเขาไปพร้อมกับพวกเรา เราอาจจะเคลียร์ดันเจี้ยนได้แล้วตอนนี้” เวฟวิ่งสโลลี่ยินดีเงียบๆกับจุดจบของแบล็คกี้
“หัวหน้า กิลด์กำลังจะเข้าไปกันแล้วตอนนี้” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อกิลด์กำลังจะเข้าสู่ป่าแห่งความตาย ประตูเคลื่อนย้ายทันใดนั้นก็เปลี่ยนสี มันเปลี่ยนจากสีเงินเทาไปเป็นสีดำมืดทันที นอกจากนี้ยังมีหัวกะโหลกที่ไม่ชัดเจนที่กำลังคำราม
สมาชิกของกิลด์จำนวนมากก้าวถอยหลังไปไม่กี่ก้าวอย่างช่วยไม่ได้
“สถานการณ์นี้คืออะไร?”
คำถามดังกล่าวปรากฏอยู่ในหัวใจของทุกคน อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว
หกร่างทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นที่หน้าทางเข้าของดันเจี้ยน ซึ่งแต่ละคนในพวกเขาได้สวมใส่เสื้อผ้าที่เปล่งรัศมี เพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่น พวกทั้งหกคนก็ทำให้คนอื่นรู้สึกกดดันจนหน้ามืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครแมนเซอร์กับไม้เท้าสีดำ อุปกรณ์สีมืดเทาบนโครแมนเซอร์เห็นชัดเจนได้ว่ามันเป็นเซ็ต เพียงเหลือบมองครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะบอกพวกเขาว่าไม่ใช่ของธรรมดา วัสดุของมันนั้นดีกว่าอุปกรณ์สัมฤทธิ์อย่างมาก
“เอ๋? ทำไมมีคนจำนวนมากกัน?” ซือเฟิงมองไปที่สิ่งรอบตัวของเขา การค้นพบคนเหล่านี้ที่เป็นทีมชั้นสูงของกิลด์ใหญ่ เขาก็สับสนเงียบๆ ทำไมคนพวกนี้ทั้งหมดได้ปิดกั้นทางเข้าดันเจี้ยนกัน
สมาชิดปาร์ตี้ของซือเฟิงเริ่มเสียขวัญ แรงกดดันจากการถูกเฝ้ามองโดยคนจำนวนมากมันไม่ได้ด้อยกว่าการเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์บอสเลย
“หัวหน้าเวฟวิ่ง ดูนั่น มันไม่ใช่ไอ้มือใหม่นั้นหรอ” ค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำ ชี้ไปยังซือเฟิง
เวฟวิ่งสโลลี่ขมวดคิ้วของเขาเป็นปม ซือเฟิงไม่ใช่คนเดียวที่เขาจำได้ นอกจากนี้ยังมีหิมะผู้โดดเดี่ยว เขาถามซอกแซกว่า “พวกเขามาที่นี่ได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าพวกเขาหนีไปนานแล้วเหรอ?”
“ในมุมมองของฉัน ฉันคิดว่าพวกเขาไม่ได้เข้าสู่ดันเจี้ยน พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้ แต่พวกเขาก็กลัวที่จะอับอายด้วยตนเอง ดังนั้นพวกเขาขึงอยู่ที่นั่นจนกระทั่งตอนนี้” ต่อสู้เพื่อจุดสิ้นสุดหัวเราะ “แต่ตอนนี้พวกเขาบังเอิญติดอยู่พอดีหลังจากที่ได้ออกจากดันเจี้ยน เพียงแค่ดูการแสดงออกที่น่าเกลียดของหิมะผู้โดดเดี่ยวว่าเป็นอย่างไร”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ตามที่คาดไว้ไอ้มือใหม่ เขาไม่สามารถแม้แต่กล้าหาญเพื่อเข้าสู่ดันเจี้ยน”
เวฟวิ่งสโลลี่บัตชัวร์ลี่รู้สึกว่าคำพูดของค่ำคืนหน้าร้อนอันไร้ถ้อยคำนั้นสมเหตุสมผล ถ้าไม่ใช่ งั้นปาร์ตี้ของซือเฟิงได้กลับมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไร? เวฟวิ่งสโลลี่และคนอื่นๆในปาร์ตี้ได้มีประสบการณ์ความทุกทรมารจากป่าแห่งความตาย หลังจากที่เข้าสู่ป่าของดันเจี้ยน มันมีเพียงสองผลลัพธ์เท่านั้นที่เป็นไปได้: พวกเขาได้เคลียร์ดันเจี้ยนหรือพวกถูกกำจัดทั้งปาร์ตี้ มันไม่มีความเป็นไปได้ที่มีทางเลือกที่สาม ตอนนี้ปาร์ตี้ของซือเฟิงได้กลับมาอย่างปลอดภัย มันมีเพียงแค่ความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น คือพวกเขาไม่เคยเข้าสู่ดันเจี้ยนเลย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนได้
ในช่วงเวลาที่เวฟวิ่งสโลลี่และหมู่คณะเริ่มหัวเราะไปยังปาร์ตี้ของซือเฟิง ผู้เล่นที่ล้อมรอบซือเฟิงงก็ได้หัวเราะพวกเขาเองอย่างบ้าคลั่ง ฉากดังกล่าวทำให้เวฟวิ่งสโลลี่และปาร์ตี้สับสน ทำไมคนคนเหล่านี้ถึงได้หัวเราะกับปาร์ตี้ของซือเฟิง? พวกเขาโด่งดังจริงหรือเปล่า?
ปาร์ตี้ของเวฟวิ่งสโลลี่ไม่รู้ว่าปาร์ตี้ของซือเฟิงได้มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งป่าแห่งความตาย ปาร์ตี้ของซือเฟิงมีส่วนประกอบหลักๆ คือมือใหม่เลเวล 1 แต่พวกเขาก็เข้าสู่โหมดนรกของดันเจี้ยน ไม่มีการกระทำอะไรที่โง่ไปกว่านี้แล้ว มันเป็นเรื่องยากที่คนอื่นจะไม่สังเกตเห็นการกระทำดังกล่าว
ขณะที่พวกเขากล่าวว่า “ข่าวร้ายมีปีก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้เล่นแปลกประหลาดกลับมาแล้ว! ที่จริงฉันชื่นชมเขานะสำหรับการเข้าสู่โหมดนรกของป่าแห่งความตาย แต่เขาก็เป็นแค่ไอ้ตาขาว”
“ฉันไม่สามารถทำมันได้อีกต่อไปแล้ว ท้องของฉันเจ็บเกินไปจากการหัวเราะ”
ผู้เล่นที่ล้อมรอบปาร์ตี้ของซือเฟิงก็เข้าใจการกระทำของพวกเขา พวกเขาเป็นพวกโง่เขลาที่เข้าสู่โหมดนรกของดันเจี้ยน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าไปในดันเจี้ยน กลับกัน พวกเขาคอยอยู่รอบๆทางเข้าของดันเจี้ยนและมองหาเวลาที่จะออกมาจากดันเจี้ยนอย่างลับๆ โชคร้าย แม้กระทั่งพระเจ้าก็ช่วยพวกเขาไม่ได้ พวกเขาบังเอิญออกมาเพียงเพื่อจะถูกเห็นโดยกิลด์หลายๆกิลด์
“พี่เฟิง เกิดอะไรผิดปกติกับคนพวกนี้?” แบล็คกี้มองไปที่ผู้เล่นที่หัวเราะที่นอนแผ่บนพื้น เกาศีรษะของเขาขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงแปลก “สมองของพวกเขาไม่ดี? ทำไมพวกมันถึงกุมท้องแล้วหัวเราะบนพื้นกัน?”
“ใครจะไปรู้? บางทีสมองของพวกเขาคงเป็นตะคริว มันดูเหมือนว่าเราไม่ควรเล่น God's Domain นานเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นในครั้งแรก” ซือเฟิงไม่เคยคิดว่าการปรากฏตัวของพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ใดๆกับการกระทำของคนเหล่านี้ "เราออกไปกันดีกว่า นี่มันก็เป็นแค่การให้ครีพกับฉันเท่านั้น"
สมาชิกคนอื่นของปาร์ตี้พยักหน้าตกลง ผู้เล่นในป่าแห่งความตายแปลกประหลาดอย่างแท้จริง
“พี่ใหญ่ โปรดรอสักครู่”
ขณะที่ปาร์ตี้ของซือเฟิงกำลังจะออกไปจากทางเข้าของดันเจี้ยน เสียงเรียกที่ดังเข้าไปในหูของทุกคนก็ดังขึ้น เมื่อมองไปยังต้นกำเนิดของเสียงก็เป็นหญิงสาวที่สวยงามและบริสุทธิ์ที่สวมใส่ชุดคลุมยาวสีขาวบริสุทธิ์ของผู้วิเศษถูกมองว่ากำลังเดินไปยังปาร์ตี้ของซือเฟิง
ซือเฟิงจำเธอคนนี้ได้ เธอเป็นนักบวชท็อปร้อยของราชอาณาจักรดาราจันทรา , เซี่ยวหยูเอ๋อ
เซี่ยวหยูเอ๋อเดินมายังซือเฟิงด้วยท่าทีอึดอัดใจ ความอายได้ปรากฏขึ้นบนแก้มบรรจงสีขาวของเธอ เธอกระซิบว่า “ยินดีที่ได้พบคุณ ฉันเซี่ยวหยูเอ๋อแห่งอูโรโบรอส เราเคยพบกันแล้วก่อนหน้านี้ก่อนเข้าดันเจี้ยน หัวหน้าปาร์ตี้ของเราหวังว่าจะได้คุยกับคุณเกี่ยวกับดันเจี้ยนป่าแห่งความตาย ฉันสงสัยว่า ...... คุณจะสนใจในการแบ่งปันไหม?”
**ตอนกำลังแปลคิดว่ามันจะยิงยาวถึงตอนแบบทำให้คนอื่นตะลึง สรุปมาถึงแค่นี้ ไอ้พวกหน้าร้อนฟวยไร้นั่นบทเยอะกว่าพระเอกอีก แปลไปอยากตบมันไป