Chapter 49: รอพี่ก่อน
เจียงลู่ฉีผลักประตูอย่างระมัดระวัง เขานั้นกวาดตามองไปที่ประตูที่ถูกล็อคไว้และก็สังเกตว่ามันยังเป็นเหมือนเดิม มันไม่ได้ถูกเปิดโดยใช้ความรุนแรงโดยบุคคลภายนอกหรือซอมบี้ มีเพียงข้อสรุปนี้ที่มันขึ้นมาว่ามันนั้นไม่ได้ล็อคไว้อย่างจงใจ
เจียงลู่ฉีนั้นกังวลใจอย่างแท้จริงและตะโกนขึ้น “เจียงจู้อิง!”
มันไม่มีใครอยู่ในบ้านหลังนี้เลย เฟอนิเจอร์นั้นถูกดันไว้อยู่ด้านข้าง ในขณะที่มันยังมีกล่องอาหารและเสบียงอย่างอื่นอยู่ตรงกลางของห้อง
ในห้องนอน เจียงลู่ฉีนั้นเจอกับเสื้อเชิ้ตของเจียงจู้อิงบนเตียง มันไม่ใช่เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆ แต่มันเป็นเสื้อที่มีค่าของทั้งสองพี่น้อง ด้านหน้าของเสื้อนั้นคือการวาดแบบง่ายๆ ซึ่งมันเป็นตัวการ์ตูนเวอร์ชั่นของเขาและเจียงจู้อิงกำลังสู้กันอยู่ มันคือของขวัญวันเกิดที่เจียงจู้อิงมอบให้กับเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะใส่มันเพราะว่ามันเป็นลายที่ปัญญาอ่อนมาก ด้วยเหตุนี้เอง เจียงจู้อิงจึงดีใจที่จะได้เก็บมันไว้กับเธอเป็นเวลาหลายปี
เมื่อเขานั้นรำลึกถึงอดีต เขานั้นสังเกตเห็นบางอย่าง เขานั้นพลิกเสื้อขึ้นและเห็นประโยคบางอย่างอยู่ด้านหลัง
“พี่ชาย รอฉันก่อนนะ”
[อะไร?] เจียงลู่ฉีมึนงงในทันที เขากำเสื้อในมือแน่น และหลังจากนั้นเขาก็ตรวจสอบมันอีกครั้งและอีกครั้ง
[ตั้งแต่ที่เธอนั้นทิ้งข้อความไว้ให้ ทำไมเธอถึงไม่เขียนให้มากกว่านี้ละ? เพียงแค่คำพูดพวกนี้ไม่ทำให้ฉันนั้นรู้สึกดีเลย!]
เจียงลู่ฉีนั้นไม่ได้ต้องการที่จะบ่นเกี่ยวกับเจียงจู้อิงซักเท่าไหร่ เขานั้นเพียงแค่กังวล
[เจียงจู้อิงจะต้องรักษาสัญญาที่เธอให้ไว้อย่างแน่นอน เธอรู้ดีว่าเขานั้นกำลังจะมาหาเธอ ถ้ามันไม่ใช่เรื่องบางอย่างที่สำคัญมาก เธอคงจะรอที่นี่อย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้เธอนั้นหายไปเหลือเพียงแค่คำพูดบางคำเท่านั้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่?]
เจียงลู่ฉีกังวลอย่างมาก เขานั้นค้นหาบ้านทั้งหลังแต่เขาก็ไม่สามารถที่จะหาอะไรเจอที่ถูกทิ้งไว้โดยน้องสาวได้เลย เขาสามารถที่จะนำเสื้อเชิ้ตกลับไปที่รถMCVของเขาได้เพียงอย่างเดียว
แน่นอนว่าเนื่องจากกลิ่นของเลือด ซอมบี้บางตัวนั้นกำลังเดินเตร็ดเตร่ออกมาจากตึกอื่นๆ เจียงลู่ฉีนั้นพุ่งอย่างระมัดระวังไปที่รถMCV และหลังจากนั้นก็ไปขึ้นที่นั่งคนขับ
เขานั้นผิดพลาดในการตามหาน้องสาวของเขาและเธอนั้นก็ไม่ได้ทิ้งข้อมูลที่มีประโยชน์อื่นไว้ให้เลย เขานั้นจะต้องรอที่หอพักของเธอสักพักหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขานั้นจะกังวล แต่เนื่องจากเมืองหนานจิงนั้นใหญ่มาก เขานั้นไม่สามารถที่จะพุ่งไปอย่างมั่วๆเพื่อที่จะหาเธอ มันเป็นเรื่องที่เหมือนกันกับการงมเข็มในมหาสมุทร
ถ้าเธอนั้นไม่ปรากฏตัวขึ้นมาในอีกหลายวันต่อมา หลังจากนั้นเขาจะต้องออกไปและตามหาเธอ มันเป็นทางเดียวที่เขาจะต้องฆ่าซอมบี้ด้านนอกนั่น ซึ่งมันจะดึงดูดพวกมันมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเมินพวกมัน เขานั้นลุกขึ้นจากที่นั่งคนขับและเดินไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อที่จะพักผ่อนชั่วครู่หนึ่ง
ด้านนอกของรถMCV ซอมบี้ยังเดินวนไปทั่วๆ แต่มันไม่ได้เกี่ยวไรกับเจียงลู่ฉี เขาสามารถที่จะทำอาหาร ดูดราม่าและทำอย่างอื่นก็ได้ ตราบเท่าที่เขานั้นไม่ได้สร้างเสียงขึ้น มันก็ไม่มีทางที่ซอมบี้จะหาเขาเจอได้อย่างง่ายๆ
ทางที่พวกซอมบี้นั้นมันทำกับมือถือของเขานั้นทำให้เจียงลู่ฉีมั่นใจเลยว่าเขานั้นปลอดภัย ไม่ต้องพูดถึงว่ารถมินิบัสป้อมปราการที่แข็งแกร่งสำหรับซอมบี้พวกนี้ แต่เขาก็ยังคงระมัดระวังตัวสำหรับการป้องกันนิรภัยอยู่ดี
เขานั้นเพียงแค่กังวลเกี่ยวกับเจียงจู้อิง ถ้าเธอนั้นไม่ปรากฏตัวขึ้นละ เขาจะใช้วิธีไหนเพื่อที่จะหาเธอเจอได้ละ? มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะหาทีละที่ ทีละที่ บางทีการที่จะไปหาผู้รอดชีวิตคนอื่นและถามพวกเขาอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี และอาจจะต้องบันทึกคำพูดของเขาและก็ใส่โทรโข่งไว้ด้วยซ้ำ.....
เจียงลู่ฉีคิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆมากมาย ในขณะที่เขานั้นจ้องไปที่เสื้อเชิ้ตบนโซฟา เขานั้นคุ้นเคยกับนิสัยของน้องสาวของเขาเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะดูร่าเริง ตอนอยู่ที่บ้านเธอนั้นชาญฉลาดเป็นอย่างมาก
แต่เนื่องจากเจียงลู่ฉีนั้นดูแลเธอมาตลอด เธอนั้นจริงจังกับคำพูดของพี่ชายเธอมาก ถ้าเธอนั้นพบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เธอก็จะบอกพี่ชายเธอในทันที
หลังจากที่เหตุการณ์แผ่นดินสะเทือนเช่นนี้เกิดขึ้น เจียงจู้อิงไม่เชื่อฟังอีกแล้วงั้นหรอ? เจียงลู่ฉีไม่สามารถที่จะช่วยได้แต่นึกถึงเกี่ยวกับหยู่และแก๊งของเขา เมืองหนานจิงนั้นใหญ่มาก ซึ่งมันมีผู้รอดชีวิตจำนวนมากขึ้นอีก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจียงจู้อิงมีชะตาแบบเดียวกับเหวินลู่?
เจียงจู้อิงเริ่มที่จะรู้สึกกระวนกระวายและใจร้อน เขาไม่สามารถที่จะรอได้อีกต่อไป ก่อนที่เขาจะหยิบแผนที่ออกมา เจียงลู่ฉีเริ่มที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเสียงรอบข้าง ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะไม่สามารถที่จะใช้งานได้ เขาก็ได้โหลดรายละเอียดแผนที่เมืองหนานจิงไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่ร้านค้าด้านข้างถนนก็สามารถที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน
หลายชั่วโมงนั้นผ่านไป มันเริ่มที่จะดึกลงเรื่อยๆ เจียงลู่ฉีเตรียมพร้อมอาหารบางอย่างเพื่อที่จะกิน แต่ทันใดนั้นซอมบี้บางตัวก็คำรามออกมาจากด้านนอกหน้าต่าง เจียงลู่ฉีนั้นตกตะลึง ก่อนที่เขาจะได้ดึงม่านขึ้นและดูว่าอะไรเกิดขึ้น เขาก็ได้ยินเสียง “ชิ ชิ” ขึ้นรัวๆ และหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรที่ใหญ่นั้นตกลงกระแทกลงกับพื้น
เจียงลู่ฉีนั้นเดินไปที่หน้าต่างอย่างทันทีและได้ยินเสียงดังออกมาจากด้านนอก “หัวหน้า หัวหน้าทำได้ไงให้พลังนั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น? มันยอดเยี่ยมมากเลย หัวหน้าสามารถที่จะฆ่าซอมบี้ได้โดยการที่เหมือนกับแค่ปัดฝุ่น ร่างกายของซอมบี้ก็ถูกเผาไหม้เลย....”เสียงของผู้ชายดังขึ้น
และหลังจากนั้นเสียงหวานๆของเด็กสาวก็ดังขึ้น “นายมันน่ารำคาญ หยุดที่จะยอหัวหน้าได้แล้ว”
“อะไร? อะไรที่ฉันพูดมันก็คือความจริงปะละ!”
“รถยนต์คันนี้มันมาจากที่ไหนกันเนี่ย?”เสียงของผู้หญิงนั้นดูเหมือนขี้เกียจที่เถียงกับชายหนุ่มและหลังจากนั้นเธอก็จดจ่อไปที่รถมินิบัส
รถมินิบัสนั้นสามารถที่จะเห็นได้ง่าย แม้แต่คนตาบอดก็สามารถที่จะหามันเจอได้ ดังนั้นเจียงลู่ฉีจึงไม่แปลกใจที่เด็กสาวได้พูดถึงมัน แต่เขานั้นไม่รู้ว่าพวกเธอคือใคร อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่แน่ชัดว่าพวกเธอนั้นเคยอยู่ที่นี่มาก่อน บางที พวกเธออาจจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเจียงจู้อิงด้วยก็ได้
เจียงลู่ฉีจับไปที่ปืนพกที่เอวของเขา และค่อยๆเดินอย่างช้าๆไปที่ห้องคนขับ คนพวกนี้สามารถที่จะฆ่าซอมบี้ได้อย่างง่าย ดังนั้นพวกเธอนั้นไม่อ่อนแออย่างแน่นอน เจียงลู่ฉีไม่รู้ว่าพวกเธอนั้นเป็นศัตรูหรือไม่ โดยเหตุนี้เอง เขาจึงเตรียมพร้อมอย่างเต็มกำลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ ‘หัวหน้า’
“ใครที่บ้าขนาดนี้? มาที่แบบนี้นี่นะ?” ชายหนุ่มอุทานขึ้น