ตอนที่แล้วTXV - 68 มือใหม่แล้วไง ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV  –  70 หมอจำเป็น !

TXV –  69 สั่งสอนมันซะ !


TXV –  69 สั่งสอนมันซะ !

          เนื่องจากโรงเรียนฝึกหวิงชุนอยู่ไม่ไกลจากอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปทำให้เซี่ยเหล่ยมาถึงในเวลาเพียงสิบนาที

 

          ก่อนจะจอดรถ เขาเห็นกลุ่มเด็กอันธพาลยืนอยู่หน้าอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป พวกเขาถือท่อโลหะและไม้กระบองไว้ในมือ หม่าเสี่ยวอันและคนอื่นๆในร้านก็ถือเครื่องมืออยู่เช่นกัน พวกเขาถือทั้งค้อนและประแจเพื่อจะปกป้องร้าน

 

          พื้นบริเวณหน้าร้านเต็มไปด้วยเศษก้อนอิฐและเศษแก้ว ดูเหมือนจะเกิดการปะทะกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

 

          เซี่ยเหล่ยรีบเหยียบเบรคและพุ่งออกจากรถโดยไม่แม้แต่จะถอดกุญแจออกไปด้วย เขารีบตะโกนออกไปว่า “พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่?”

 

          กลุ่มเด็กอันธพาลทั้งหมดหันมามองเขาด้วยท่าทางที่แสดงออกถึงความก้าวร้าว

 

          ขณะนั้นเองก็มีคนเดินออกมาจากกลุ่ม ลักษณะของเขาตอนนี้เป็นคนหัวล้านและสวมสร้อยคอเส้นใหญ่สีทองลักษณะคล้ายโซ่ เขาคือเฉินฉัวหู่ !

 

          “โอ๊ะ? นี่เซี่ยเหล่ยใช่ไหม…ผมหมายถึงหัวหน้าเซี่ย?” เฉินฉัวหู่พูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “คุณเพิ่งขโมยก้อนอิฐที่ไซต์ก่อสร้างของผมเมื่อไม่นานมานี้และคุณดันเป็นเจ้าของที่นี่อีก คุณนี่ทำให้ผมประหลาดใจได้จริงๆเลยนะ”

 

          เซี่ยเหล่ยจ้องเขม็งไปที่เฉินฉัวหู่ “คุณมาทำอะไรที่นี่?”

 

          หลังจากที่หลีชิงฮัวและเฉินฉัวหู่ถูกจับ เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้สนใจเรื่องของพวกเขาเลยนับตั้งแต่นั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทั้งคู่ถูกจับขังไว้ที่ไหน แต่จู่ๆ เฉินฉัวหู่กลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างไม่คาดคิด แถมยังมาพร้อมกับกลุ่มเด็กอันธพาลที่พร้อมจะสร้างความเสียหายให้กับบริษัทของเขาอีกด้วย!

 

          เมื่อหม่าเสี่ยวอันและคนอื่นๆเห็นเซี่ยเหล่ย พวกเขาก็พยายามจะเดินออกมาด้านนอกแต่กลับถูกกลุ่มเด็กอันธพาลขวางทางออกไว้

 

          เฉินฉัวหู่หัวเราะเยาะเย้ยใส่เขา “คุณคิดว่าเขาขังผมไว้นานแค่ไหน? สิบปี? แปดปี? คุณน่าจะพอใจนะถ้าผมถูกจับขังคุกไปตลอดชีวิต คุณจะได้ไม่ต้องจ่ายหนี้ 10,000 หยวนที่ค้างผมไว้ไง ใช่ไหมล่ะ?”

 

          “นั่นก็แปลว่าคุณมาที่นี่เพราะเรื่องเงิน?” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “ผมไม่สนใจเงินแค่ 10,000 หยวนหรอก ผมสามารถทำเงินได้ถึง 50,000 หยวนโดยการชนะไพ่นกกระจอกแค่ตาเดียว แต่ผมมาที่นี่เพราะคุณไปยุ่งวุ่นวายกับคนที่ไม่ควรยุ่ง คุณรู้ไหมว่าใคร?” เฉินฉัวหู่พูด

 

          เซี่ยเหล่ยนึกถึงสองคน กู๋เค่อเหวินและหล่าวฉี่ แต่คนระดับกู๋เค่อเหวินคงไม่เอาตัวเองมาเกี่ยวข้องกับพวกเศษสวะอย่างเฉินฉัวหู่เป็นแน่ ถ้าเธอต้องการที่จะทำลายบริษัทของเขาจริงๆก็น่าจะส่งบอดี้การ์ดส่วนตัวมา เธอไม่จำเป็นต้องใช้เฉินฉัวหู่ด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นหล่าวฉี่ล่ะ เฉินฉัวหู่เป็นแค่พวกมิจฉาชีพ สำหรับปลาใหญ่อย่างเขา เฉินฉัวหู่ก็เป็นพียงแค่ลูกปลาตัวเล็กๆ คงจะไม่แปลกถ้าเขาจะถูกหล่าวฉี่ส่งมาเพื่อสร้างปัญหาให้กับที่นี่...

 

          เมื่อคิดดังนั้นเซี่ยเหล่ยจึงเอ่ยถาม “ใช่หล่าวฉี่หรือเปล่า?”

 

          “ไอ้ฉิบหา--! คิดว่าชื่อของหล่าวฉี่เป็นสิ่งที่แกจะพูดออกมาได้?” เฉินฉัวหู่โบกมือและกลุ่มเด็กอันธพาลทั้งหลายก็มาล้อมรอบเซี่ยเหล่ย

 

          เมื่อหม่าเสี่ยวอันและคนอื่นๆเมื่อเห็นเซี่ยเหล่ยถูกล้อม พวกเขาก็วิ่งออกมาข้างนอกทำให้เกิดการปะทะกันกับกลุ่มอันธพาลและจูเสี่ยวหงก็ถูกตีด้วยแท่งโลหะและล้มลงไปกองกับพื้น

 

          อันธพาลชี้หม่าเสี่ยวอันด้วยแท่งโลหะและตะโกนใส่ “อยู่นิ่งๆหรือพวกมึงทั้งหมดอยากจะพิการ  ?”

 

          นอกจากหม่าเสี่ยวอันและอีกไม่กี่คนที่วิ่งออกไปสู้ คนอื่นๆที่เหลือต่างก็เป็นคนซื่อสัตย์ ทำงานหนักและใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบเท่านั้น พวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับใคร และแน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและไม่กล้าฝ่าออกไปข้างนอกอีก

 

          “เสี่ยวอัน พวกนายอยู่ข้างใน ไม่ต้องออกมา” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          หม่าเสี่ยวอันกระทืบเท้าด้วยความโมโห “ให้ตายเถอะ! ผมโทรไปหาตำรวจและตอนนี้พวกเขายังมาไม่ถึงที่นี่อีก!”

 

          “ตำรวจงั้นหรือ? ฮ่าๆๆ…” เฉินฉัวหู่หัวเราะเยาะ “สถานีตำรวจเป็นบ้านแกหรือไง? พวกเขาจะมาเพราะแค่แกโทรไปเนี่ยนะ? อย่ากังวลไปเลย พวกเขาก็แค่ได้รับเงินเล็กๆน้อยๆและตอนนี้คงกำลังไปจับพวกเล่นการพนันแถวๆนี้ล่ะมั้ง พวกเขาไม่มาที่นี่เร็วๆนี้หรอก”

 

          “พวกคุณวางแผนมาหมดแล้วสินะ คุณต้องการอะไร? พูดมา !”เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “ง่ายๆ บริษัทนี้หรือขาของคุณ เลือกมาสักอย่างหนึ่งสิ ถ้าคุณเลือกขาผมจะให้คนพวกนี้พังบริษัทซะ แต่ถ้าคุณเลือกบริษัท ผมจะหักขาคุณด้วยตัวผมเอง คุณจะเลือกอะไรล่ะ?” เฉินฉัวหู่พูด

 

          “ผมจะเลือกทั้งสองอย่าง เราจะทำยังไงต่อดีล่ะ?” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          “ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องพูดแบบนี้ ก็ดี ทางเราเองก็ต้องการทั้งสองอย่างเหมือนกัน” เฉินฉัวหู่ตะโกนบอกพรรคพวกทันที “จัดการเขาซะ!”

 

          กลุ่มอันธพาลต่างพุ่งเข้ามาหาเซี่ยเหล่ยราวกับฝูงหมาบ้า แท่งโลหะและประแจถูกกวัดแกว่งอยู่รอบๆตัวเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยตวัดมือไปจับแท่งโลหะที่กำลังจะตีลงบนศีรษะ เขาใช้เทคนิค การผสานผ่ามือรูปแบบที่ 2 และ 4 ผลักแท่งโลหะออกไปได้อย่างง่ายดาย และหยุดประแจที่พุ่งเข้ามาด้านหลังได้ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที หลังจากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากการที่คู่ต่อสู้จับแท่งโลหะไว้ดึงเขามาด้านหน้าและใช้ร่างของเขาขวางการโจมตีจากแท่งโลหะและประแจอันอื่นๆที่จะพุ่งเข้ามาทำร้ายตัวเอง

 

          เมื่อจัดการด้านหลังได้เซี่ยเหล่ยจึงเริ่มโจมต่อ เขาใช้หมัดต่อยไปที่หน้าอกของอันธพลาคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้ศัตรูถึงกับน้ำตาซึมและทรุดเข่าลงไปบนพื้น พวกเขานั่งกุมหน้าอกด้วยความเจ็บปวด  

 

          เซี่ยเหล่ยกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของศัตรูที่คุกเข่าอยู่บนพื้น จากนั้นจึงกระโดดเตะศัตรูอีกคนที่ยืนอยู่บนพื้น

 

          ตุ๊บ  ตุ๊บ ตุ๊บ ..... ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ !

 

          เซี่ยเหล่ยเคลื่อนที่ไปซ้ายและขวาราวกับปลาเคลื่อนที่ในน้ำ เหล่ากลุ่มอันธภาพแพ้ราบคาบและนอนเกลื่อนเต็มพื้นด้วยสภาพจมูกแตกและฟกช้ำ ใบหน้าที่บวมเป่ง และไม่สามารถพาร่างกายตัวเองขึ้นมาจากพื้นได้

 

          กลุ่มคนที่มาเพื่อโจมตีได้กลายเป็นกลุ่มที่ถูกโต้กลับจนแพ้ราบคาบ แม้ว่าเฉินฉัวหู่จะเป็นคนรวบรวมเด็กพวกนี้มา แต่พวกเขาก็ไม่เคยฝึกการต่อสู้และเป็นแค่เด็กเกเรทั่วๆไปเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ต่อสู้กับคนที่รู้ศิลปะป้องกันตัวอย่างเซี่ยเหล่ย กลุ่มอันธพาลเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเซี่ยเหล่ยผู้ที่สามารถเอาชนะลู่เชิง นักเรียนชั้นปีที่สามของโรงเรียนฝึกหวิงชุนได้ ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจำนวนคู่ต่อสู้จะเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่มีใครจะเร็วไปกว่าตาข้างซ้ายของเขาได้!   

 

          เซี่ยเหล่ยต่อยไปที่ท้องน้อยของหัวหน้ากลุ่มอันธพาลเฉินฉัวหู่ เขาทรุดเข่าลงและยกมือกุมหน้าท้องเอาไว้ เซี่ยเหล่ยใช้มือดึงผมเขาเอาไว้และผลักศีรษะลงไปกระแทกกับเข่า “ผลั๊ก !” เกิดเสียงดังและอันธพาลคนนี้ก็ล้มฟุบลงไปกับพื้น หน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขาจับใบหน้าที่เลือดกำลังไหลของตัวเองเอาไว้และนอนโอดครวญบนพื้นด้วยความเจ็บปวด

 

          ไม่มีคำว่าเมตตาสำหรับคนเหล่านี้ ถ้าพวกมันอำมหิต เขาจะต้องอำมหิตยิ่งกว่า!

 

          พวกอันธพาลเป็นคนบุกมาเพื่อสร้างปัญหาให้เขาก่อน ดังนั้นถ้าเขาทำให้พวกมันหวาดกลัวจนต้องกลับไปไม่ได้ ก็แค่ต้องปล่อยให้พวกมันเข้ามาเท่านั้น!

 

          เฉินฉัวหู่จ้องไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างตกตะลึง เหงื่อเย็นเยียบไหลออกมาเต็มหน้าผาก เซี่ยเหล่ยที่เขารู้จักไม่ใช่คนตรงหน้าเขาในตอนนี้ ! มันเหมือนกับว่าเซี่ยเหล่ยได้กลายเป็นคนละคนในขณะที่เขาต้องติดอยู่ในคุก!

 

          ลูกน้องที่เหลือของเฉินฉัวหู่ยังคงขวางประตูทางออกของอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปอยู่ พวกเขาต่างมองมาที่เซี่ยเหล่ยและสภาพกลุ่มคนที่นอนเกลื่อนพื้นด้วยความหวาดกลัว

 

          ก่อนหน้านี้พวกเขาได้จินตนาการว่าเซี่ยเหล่ยจะถูกทำร้ายปางตายราวกับลูกหมาตัวเล็กๆ แต่เขากลับยังคงยืนอย่างไม่เป็นอันตรายใดๆอยู่ต่อหน้าพวกเขา

 

          เซี่ยเหล่ยเดินตรงมาหาเฉินฉัวหู่ด้วยแววตาเย็นชา

 

          เฉินฉัวหู่รีบตะโกนสั่งลูกน้องอย่างรีบร้อน “ไอ้พวกโง่! พวกแกจะยืนล้อมมันอยู่ทำไม จัดการมันซะสิ!”

 

          เหล่าอันธพาลถือท่อนเหล็กและยกไม้กระบองขึ้นมาเพื่อเตรียมโจมตีที่ศีรษะของเซี่ยเหล่ย

 

          วินาทีต่อมาเขาก็ไปกองอยู่กับพื้นพร้อมไม้กระบองของเขา และมีรอยเท้าขนาด 14 นิ้วประดับอยู่บนเป้ากางเกง

 

          อวัยวะสุดพิเศษในการสร้างครอบครัวของเขาคงจะใช้งานไม่ได้อีก อย่างน้อยเป็นเดือนเลยทีเดียว.....

 

          “มึง ! ออกไป!” เฉินฉัวหู่คว้าแขนอันธพาลอีกคนและผลักไปตรงหน้าเซี่ยเหล่ย

 

          เพียงแค่เซี่ยเหล่ยแกว่งแขน อันธพาลคนนั้นถึงกับทิ้งแท่งโลหะลงพื้นดังเคร้งและหันหลังวิ่งหนีไปทันที

 

          อันธพาลอีกสองคนที่เหลือต่างหันมองหน้ากัน และทิ้งอาวุธในมือพร้อมกับวิ่งหนีไป เงินที่เฉินฉัวหู่ให้พวกเขามันก็แค่พอสำหรับซื้อบุหรี่ ดื่มเหล้า และเข้าร้านเกมเท่านั้น มันไม่ได้มากพอถึงขนาดที่พวกเขาจะต้องขายชีวิตของตัวเองให้กับเขา

 

          ตอนนี้เฉินฉัวหู่ก็หนีไปแล้วเช่นกัน เขาหันกลับไปที่หน้าประตูอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป เหล่าพนักงานที่กำลังโกรธจัดยืนอยู่ข้างหลังเขาพร้อมค้อนและประแจในมือ และพวกเขาก็พร้อมที่เข้ามาโจมตีเขาได้ทุกเวลา

 

          ด้วยฝูงหมาป่าที่อยู่ด้านหลังและเสื้อโคร่งที่อยู่ด้านหน้า เฉินฉัวหู่ไม่มีทางที่จะหลบหนีได้อีกแล้ว

 

          “มึงมันไอ้สารเลว!” หม่าเสี่ยวอันได้พยายามอดกลั้นความโกรธมานาน เขาตะโกนด่าและยกประแจขึ้นแกว่งไปมาเตรียมฟาดไปบริเวณหลังศีรษะของเฉินฉัวหู่

 

          แต่เซี่ยเหล่ยกลับเร็วกว่า เขาเตะไปที่บริเวณแก้มของเฉินฉัวหู่เพื่อทำให้เขาไม่โดนประแจในมือหม่าเสี่ยวอันฟาด

 

          “เหล่ย นี่นาย…” หม่าเสี่ยวอันไม่เข้าใจว่าเว่ยเหล่ยทำแบบนี้ไปทำไม

 

          “นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับมัน นายอย่าเพิ่งเข้ามายุ่ง” เซี่ยเหล่ยพูด

 

          เขาไม่ยอมปล่อยให้หม่าเสี่ยวอันโจมตีเฉินฉัวหู่ก็เพื่อไม่อยากให้พนักงานของบริษัทต้องพาตัวเองมาเข้ามามีปัญหากับคนเลวอย่างเฉินฉัวหู่ พวกเขาเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาที่ทำงานอย่างหนักและยังมีครอบครัวที่ต้องกลับไปดูแล พวกเขารับมือไม่ไหวแน่หากเฉินฉัวหู่กลับมาแก้แค้น นี่เป็นเหตุผลที่เขาให้หม่าเสี่ยวอันสั่งให้พวกเขาอยู่แต่ในบริษัท เพราะเขาจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยตัวเอง !

 

          เฉินฉัวหู่ตัวแข็งค้างไปแล้ว ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “มึงไม่กล้าทำร้ายกูหรอ ? คงกลัวว่ากูจะกลับมาแก้แค้น… ?”

 

          ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เซี่ยเหล่ยก็ชกไปที่หน้าเขา เฉินฉัวหู่โงนเงนไปมาครู่เดียวกับล้มลงไปกองกับพื้น

 

          เซี่ยเหล่ยแตะซ้ำไปที่เอวของเฉินฉัวหู่ทำให้เข้าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและขดตัวเหมือนกับกุ้ง

 

          “เสี่ยวอัน เรียกตำรวจอีกทีสิ” เซี่ยเหล่ยสั่ง

 

          หม่าเสี่ยวอันมองโทรศัพท์ของเขาและพบว่าหน้าจอแตกตอนโดนพวกอันธพาลใช้แท่งโลหะโจมตีก่อนหน้านี้

 

          ฉิ้วหยงหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและกดโทรหาตำรวจ

 

          เซี่ยเหล่ยนั่งลงข้างๆเฉินฉัวหู่และใช้มือดึงผมเขาขึ้นมา “เฉินฉัวหู่ คุณพูดว่าผมไม่กล้าทำร้ายคุณงั้นหรือ?”

 

          “กู…”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสพูด เขาต่อยหน้าเฉินฉัวหู่อีกครั้งทั้งซ้ายและขวา ตอนนี้หน้าของเฉินฉัวหู่บวมเป่ง

 

          “ใครส่งคุณมา?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “มัน…” เฉินฉัวหู่ปิดหน้าตัวเอง เขากลัวว่าเซี่ยเหล่ยจะต่อยเข้าอีกครั้ง

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้อยากต่อยเขาในเวลานี้ เขาเดาว่ามันต้องเป็นหล่าวฉี่ แต่มันก็เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้นแต่เขาต้องการคำตอบที่ชัดเจน

 

          “พูด!” เซี่ยเหล่ยง้างหมัดขึ้นมา

 

          “กูเอง!” เฉินฉัวหู่สารภาพออกมา “กูเอง! มึงจะทำอะไรกูล่ะ? ฆ่ากูงั้นหรือ ? เอาเลยสิ! มึงกล้าฆ่ากูงั้นหรอ ?”

 

          ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยใช้นิ้วมือของเขาเกี่ยวซี่โครงล่างของเฉินฉัวหู่และกระชากขึ้นมาด้านบน

 

          “อ๊ากกก!” เฉินฉัวหู่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

          เซี่ยเหล่ยไม่หยุดง่ายๆ เขายังคงดึงซี่โครงล่างขึ้นมาเรื่อยๆ

 

          สำหรับเฉินฉัวหู่มันเจ็บมาก เหงื่อไหลเต็มหน้าและหน้าของเขาเปลี่ยนสีด้วยความเจ็บปวด เขาอดทนอยู่ได้ไม่ถึงวินาทีก่อนที่เขาจะสารภาพและร้องไห้อย่างน่าเวทนา “ใช่ ใช่…เหว่ยฉี่!”

 

          เป็นเขาจริงๆสินะ…เหว่ยฉี่

 

          เซี่ยเหล่ยปล่อยมือจากกระดูกซี่โครงของเฉินฉัวหู่และจ้องมองเขา เฉินฉัวหู่ขดตัวบนพื้นราวกับสุนัข แต่เขายังคงรู้สึกไม่พอใจ

 

          เขากังวลว่ากู๋เค่อเหวินและหล่าวฉี่จะมาสร้างปัญหาเขาอีกหลังจากที่หลินบู่เหวินหลินหย่าหยู่เคยทำ นี่เป็นเหตุผลที่เขาไปโรงเรียนฝึกหวิงชุนของหลางเฉิงชุนเพื่อเรียนรู้หวิงชุน และมันเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก ถ้าเขาไม่ได้เรียนรู้เทคนิคของหวิงชุนและวิธีเพิ่มพลังขึ้นอย่างฉับพลัน คนที่นอนร้องไห้อยู่บนพื้นตอนนี้อาจเป็นเขาเองก็ได้

 

          แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เฉินฉัวหู่เป็นแค่ลูกปลาตัวเล็ก นายใหญ่ตัวจริงอย่างกู๋เค่อเหวินและหล่าวฉี่ยังคงไม่ปรากฏตัวออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับสองคนนี้ก็ตาม มันยังคงสร้างความกดดันให้เขาเป็นอย่างมาก เขาจะมีความสุขได้ยังไงในสถานการณ์แบบนี้ ?

 

          ในที่สุดตำรวจก็มาถึง พวกเขาสอบถามเหตุการณ์และจับเฉินฉัวหู่และกลุ่มเด็กอันธพาลขึ้นรถตรวจไป อย่างไรก็ตาม เซี่ยเหล่ยสามรถคาดเดาผลลัพธ์ของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ คนอย่างเฉินฉัวหู่จะสามารถกลับมาเดินอยู่บนถนนได้อีกครั้งในเวลาไม่เกินสองสัปดาห์… 

 

ติดตามตอนต่อไป....

         

 

         

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด