ตอนที่แล้วEternal Martial Sovereign ตอนที่ 33 – ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าได้อย่างไรกัน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEternal Martial Sovereign ตอนที่ 35 – พิษชั่วร้าย?

Eternal Martial Sovereign ตอนที่ 34 – โจมตี


Chapter 34 – โจมตี

 

"เด็กเหลือขอขอบเขตต้นกำเนิดกล้าที่จะพ่นคำที่เย่อหยิ่งเช่นนั้น" ดวงตาของหัวหน้าส่องประกายขณะที่เขาคำราม “ฆ่าเขา! อย่าปล่อยให้เขาทำลายช่วงเวลาอันรื่นเริงของข้า” หลังจากกล่าวเช่นนี้ หัวหน้าคนนั้นได้หันกลับไปมองหญิงสาวผิวขาว

 

“มีคนมา?” ดวงตาของหญิงสาวผิวขาวได้เปิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็นว่าคนที่มาถึงเป็นแค่เด็กหนุ่ม ร่องรอยของความผิดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของนางและถอนหายใจอยู่ข้างใน “เขาคิดว่าเขาสามารถหยุดคนชั่วเหล่านี้และช่วยข้าได้?”

 

หญิงสาวผิวขาวปิดดวงตาของนางด้วยความผิดหวัง สำหรับนาง โลกได้สูญเสียความหมายทั้งหมดไปแล้ว ทุกคนที่เห็นความสิ้นหวังนี้จะรู้สึกโศกเศร้า

 

เซี่ยวหยุนที่เห็นการแสดงออกของหญิงสาวแล้วหัวใจของเขาก็ถูกบีบรัด เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังเห็นน้องสาวตัวน้อยของเขาที่กำลังเจ็บช้ำ แล้วเปลวไฟแห่งโกรธก็ปะทุออกมาจากภายในของเขา เขาจะอนุญาตให้พวกผู้ชายเหล่านี้ล่วงเกินหญิงสาวที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้อย่างไร?

 

“อย่าเอาจมูกของเจ้ามาติดกับธุรกิจของคนอื่น แล้วก็ไปตายได้แล้ว!” ก่อนที่เซี่ยวหยุนจะโจมตี นักผจญภัยคนแรกก็ได้จู่โจมไปยังเขา

 

สำหรับตัวหัวหน้า เขาเดินไปยังหญิงสาวผิวขาวต่อการแสดงออกที่มีตัณหา มือหยาบกร้านของเขาฉีกชิ้นส่วนเสื้อผ้าของหญิงสาวขาด เพื่อให้มีแค่เสื้อผ้าไหมท่อนบนบางๆเท่านั้นที่ปกคลุมหน้าอกที่ใหญ่และอุดสมบูรณ์ของหญิงสาวเท่านั้น ภาพของหน้าอกนางที่กระเพื่อมนั้นช่างเย้ายวนเป็นพิเศษ

 

“ไอ้เศษสวะ!” รูปลักษณ์ของความโกรธปรากฏขึ้นภายในดวงของเซี่ยวหยุนและจิตสังหารก็กวาดออกมาจากภายในเขา เขามองไปรอบๆขณะที่พลังวิญญาณอันไร้ที่สิ้นสุดปกคลุมพวกนักผจญภัยและในเพียงชั่วขณะ จิตวิญญาณของผู้ฝึกตนขั้นหลอมร่างกายก็กระจัดกระจายและเหือดหายไป ซึ่งสังหารพวกเขาในทันที

 

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดทั้งห้ายืนอยู่ที่นั่นด้วยรูปลักษณ์ที่พูดไม่ออกบนใบหน้าของพวกเขา

 

ตาย!

 

ดวงตาของเซี่ยวหยุนเต็มไปด้วยร่องรอยของความเหี้ยมโหดขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้าที่เหมือนมังกรงูที่เร่งความเร็วทะลวงผ่านน้ำขณะที่เขาแทงออกไปกระบี่

 

ชวิ้ง! ชวิ้ง!

 

แสงกระบี่ได้เริงระบำขณะที่เลือดปะทุออกมา และผู้เชี่ยวชาญภายขอบเขตต้นกำเนิดภายในกลุ่มนักผจญภัยภูกสังหารทันที

 

ตามมาด้วยสิ่งนี้ ร่างกายของเซี่ยวหยุนกระพริบเมื่อเขาฉีกอากาศขาดแล้วปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของหัวหน้ากลุ่มนักผจญภัย

 

เจตนาสังหารที่ทำให้หนาวเหน็บที่ไหลออกมาจากเซี่ยวหยุนนั้นรู้สึกเหมือนกับสายลมหนาวใน เหมันต์ฤดู มันไหลซึมเข้าไปในกระดูกของเขาทำให้หัวหน้าของกลุ่มนักผจญภัยสั่นสะท้าน เขารีบมองไปและเห็นว่านั้นเป็นเด็กหนุ่มอายุ 15 หรือ 16 ปีที่ปรากฏขึ้นด้านข้างเขาโดยกะทันหัน ซึ่งทำให้รูม่านตาของเขาหดเกร็ง “เจ้าทำได้อย่างไ...”

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะพูดจบ รังสีของแสงกระบี่ได้พุ่งเข้ามายังเขา แสงกระบี่ใช้เวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น และชายคนนั้นก็รู้สึกหนาวเย็นภายในหัวใจของเขา ขณะที่เขาสูญเสียสติและล้มลงบนพื้น

 

“เขาตายแล้ว?” หญิงสาวที่ก่อนหน้านี้ปิดกั้นตัวเองและสูญเสียความหวังในโลกนี้ ได้รู้สึกว่าหัวใจของนางได้กระโจนเข้าสู่สุขใจ ด้วยสัมผัสที่เฉียบแหลมของนาง นางได้ค้นพบว่ากลิ่นอายของชายคนนั้นได้หายไปแล้ว และหลังจากที่เปิดตาของนาง นางก็ได้ค้นพบว่าเขากำลังนอนลงบนพื้น

 

เมื่อนางเห็นเช่นนี้ ความหวังก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนางและรอยย่นบนคิ้วของนางก็หมดไป แล้วนางก็ได้ตระหนักว่าเด็กหนุ่มจากก่อนนี้กำลังยืนอยู่ถัดไปข้างขวาและมองมายังนาง

 

เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ นางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยควาามโล่งอก นี่เป็นเพราะว่านางพบว่าเด็กหนุ่มคนนี้มองมายังนางแตกต่างไปจากผู้ชายคนนั้นอย่างสมบูรณ์

 

ในความจริง ภายในดวงตาสีเข้มของเด็กหนุ่ม นางเห็นความสงสารและความเห็นอกเห็นใจ ราวกับว่าเขารู้สึกทรมานใจกับสมาชิกในครอบครัวหรือสหายได้รับบาดเจ็บ

 

เซี่ยวหยุนมองไปยังหญิงสาว และรู้สึกถึงสำนึกที่แปลกประหลาดจากการความปวดร้าวใจภายในตัวเขา หญิงสาวคนนี้พึ่งจะอายุประมาณ 18 ปีเท่านั้นแต่นางก็มีใบหน้าที่บริสุทธิ์และไร้ที่ติ นางนั้นสวยงามอย่างมากจนใครก็ตามที่เห็นจะต้องรู้สึกหอบหายใจ

 

นางเหมือนกับเทพธิดาที่มาจากเก้าสวรรค์ และไม่ด่างพร้อยจากแดนมรรตัย[1]ความรู้สึกที่นางปล่อยออกมานั้นสูงส่งและไม่อาจล่วงล้ำได้

 

อย่างไรก็ตาม กลิ่นอายงดงามนี้อ่อนแออย่างเหลือเชื่อและเสื้อผ้าของนางก็รุ่งริ่ง ทำให้ทุกคนต้องการสงสารนาง แต่อย่างแปลกประหลาด เด็กหนุ่มกลับรู้สึกปรารถนาที่จะปกป้องนาง

 

ทำไมผู้หญิงเช่นนี้ได้รับบาดเจ็บอย่างนี้? เซี่ยวหยุนเดินไปหาหญิงสาวและนั่งขัดสมาธิลง

 

หญิงสาวแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และปากของนางก็ยังคงถูกยัดไว้โดยเศษผ้า เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขาเหยียดมือออกไปยังหญิงสาว

 

การกระทำที่กะทันหันนี้จากเด็กหนุ่มทำให้หญิงสาวสวยงามคนหนึ่งที่เพิ่งจะผ่อนคลาย ได้ขมวดคิ้วและความตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง นางรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อดิ้นให้หลุด หน้าอกของนางได้กระเพื่อมด้วยความกังวล

 

หลังจากได้รับการดูแลอย่างไร้ยางอายโดยพวกผู้ชายเหล่านั้นแล้ว หญิงสาวก็กลายเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อทุกคนที่มายังถึงนาง

 

“ข้าแค่ต้องการช่วงเจ้าเอาผ้าออกจากปากของเจ้า” เซี่ยวหยุนตระหนักว่ากระทำของเขานั้นผลีผลามและรีบเก็บมือของเขากลับ

 

ราวกับว่านางได้สังเกตเห็นความอึดอัดใจของเขา ผู้หญิงผิวขาวก็ค่อยๆสงบลงขณะที่ความลำบากใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ประณีตของนาง นางไม่ได้หลบอีกต่อไปและอนุญาตให้เด็กหนุ่มถอดผ้าออก

 

หลังจากที่เซี่ยวหยุนหยิบผ้าออก หญิงสาวก็สูดลมหายใจเข้าลึกขณะที่นางค่อยๆ สงบลง

 

หญิงสาวผิวขาวกระพริบตาขณะที่นางเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่ม “ขอบคุณที่ช่วยข้า”

 

“ไม่เป็นไร” เซี่ยวหยุนยิ้มขณะที่เขาตอบกลับและโบกมือของเขา

 

“เจ้าช่วยข้าให้ลุกขึ้นได้ไหม?” หญิงสาวผิวขาวถามและรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย

 

“ช่วยเจ้าลุกขึ้น?” เซี่ยวหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และเห็นความขี้อายบนใบหน้าของนาง เขาจึงได้เว้นช่องว่างสักครู่

 

หญิงสาวผิวขาวพยักหน้าขณะที่นางตอบว่า “อาการบาดเจ็บของข้าค่อนข้างรุนแรง และข้าก็ไม่มีกำลังเหลืออยู่เลย”

 

นางได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและเนื่องจากการที่ชายคนนั้นหยุดนางจากการฆ่าตัวตายอย่างเฉียบพลัน อาการบาดเจ็บของนางก็ได้แย่ลงอีก

 

เซี่ยวหยุนมองดูและตระหนักว่าเสื้อผ้าของหญิงสาวฉีกขาดมากแค่ไหน สายตาของเขาถูดดึงดูดไปยังก้อนเนื้อสีขาวบนหน้าอกของนาง การยกขึ้นและลดลงของหน้าอกนางทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะเบือนหน้าหนี เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายและรู้สึกสูญเสีย ในความเป็นจริง เขาได้ลืมหายใจขณะที่เขาจ้องไปยังหญิงสาวที่คล้ายกับเทพธิดาเช่นนี้

 

ใบหน้าของหญิงสาวได้เป็นสีแดงเลือดขณะที่นางจ้องไปยังเด็กหนุ่มคนนี้ อย่างไรก็ตามสายตาของเด็กหนุ่มไม่ได้ผลักไสนาง เพราะว่ามันไม่มีความชั่วร้ายหรือตัณหาภายในดวงตาของเขาเหมือนกับพวกผู้ชายคนอื่นเลย – มันเป็นเพียงแค่ความหลงใหลและอยากรู้อยากเห็นของชายหนุ่ม

 

หลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยวหยุนก็ตระหนักว่าเขาได้ห่างออกไปขณะที่จ้องมองนาง และรีบมองลงไปและกล่าวว่า “เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่เป็นไร?”

 

หญิงสาวผิวขาวพยักหน้าเบาๆ และเซี่ยวหยุนก็นั่งขัดสมาธิลง วางแชนของเขาไปรอบๆเอวที่เหมือนงูของนาง

 

เช่นเดียวกับมือของเซี่ยวหยุนที่แตะหญิงสาว ร่างกายของนางก็สั่นเครือและนางก็ปล่อยเสียงร้องอ่อนนุ่มออกมา ราวกับว่าฟ้าแลบทำให้นางผวา เซี่ยวหยุนไม่รู้ว่าต้องทำอะไรเมื่อนางตอบสนองเช่นนี้

 

การแสดงออกของหญิงสาวผิดขาวกลายเป็นอึดอัดใจมากขึ้นขณะที่นางกล่าวว่า “อย่ากังวล เจ้าสามารถทำต่อได้”

 

เช่นนี้ เซี่ยวหยุนจึงช่วยหญิงสาวลุกขึ้นมาและพามานางมานั่งอยู่ที่ต้นวิลโลว์

 

“อาการบาดเจ็บของเจ้ารุนแรงมาก!” เซี่ยวหยุนกล่าวหลังจากให้หญิงสาวนั่งลง

 

หญิงสาวผิวขาวขมวดคิ้ว เดิมทีนางมีขวดยารักษา แต่พอนางกำลังกินมันไปบางส่วน นางก็ถูกโจมตี และสูญเสียขวดยาไป แม้ว่านางต้องการจะหามัน แต่นางก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มหาจากตรงไหน ปราศจากขวดยารักษาของนาง นางจะฟื้นฟูความแข็งแกร่งได้อย่างไร?

 

“อย่ากังวล ตราบเท่าที่เจ้าพักผ่อน อาการบาดเจ็บของเจ้าจะหายเป็นปกติแน่นอน” เซี่ยวหยุนปลอบโยนนาง

 

หลังจากพักชั่วคราว หญิงสาวก็ดูเหมือนจะยอมรับสถานการณ์ของนาง หลังจากเห็นเลือดบนเสื้อผ้าของนาง นางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่นางถามเด็กหนุ่ม "เจ้าสามารถช่วยข้าล้างเลือดออกไปได้หรือไม่?"

 

กลิ่นของเลือดนี้ทำให้นางรู้สึกค่อนข้างอึดอัด

 

เซี่ยวหยุนรู้สึกประหลาดใจทีเดียว แต่ตอบกลับว่า "แน่นอน ข้าทำได้"

 

“ขอบคุณสำหรับปัญหาของเจ้า” หญิงสาวผิวขาวลดใบหน้าของนางลง ความขี้อายปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเด็กหนุ่มคนนี้พึ่งจะอายุเพียง 15 หรือ 16 ปีเท่านั้นและยังไม่ได้โตเป็นผู้ชาย นางก็รู้สึกไร้กังวล นางคงไม่ได้อยู่ที่นาน ดังนั้นนางจึงไม่ได้ขุ่นเคืองนัก

 

หลังจากมั่นใจในตัวนางเองเช่นนี้ หญิงสาวก็รู้สึกดีมากขึ้น

 

หลังจากตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว นางไม่ได้เป็นหญิงสาวที่สูงส่งและเกรียงไกรเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป มิฉะนั้น เหตุใดนางจึงถูกบังคับให้เข้าสู่สถานการณ์นี้โดยพวกขอบเขตต้นกำเนิดที่หยาบคายเหล่านั้น

 

หลังจากได้รับการร้องขอเช่นนี้โดยหญิงสาว เซี่ยวหยุนก็ไม่ได้ถอยหลังอีก แล้วช่วยนางถอดเสื้อผ้าที่ฉีกขาดและเต็มไปด้วยรอยเลือดขณะที่เขาใช้น้ำเพื่อชะล้างนาง

 

หญิงสาวที่เหมือนกับเทพธิดาคนนี้ ผิวหนังของนางเหมือนกับเปล่งประกายและโปร่งแสง นางดูเหมือนจะแผ่รัศมีอันศักดิ์สิทธิ์รอบๆตัวนาง นางยังสวยมากจนทุกคนต้องหลงเสน่ห์และถูกดึงดูดโดยรูปลักษณ์ของนาง โดยไม่สามารถละสายตาได้

 

เซี่ยวหยุนใช้ความสามารถในการควบคุมตัวเองที่ดีของเขาและความแข็งแกร่งทางใจขณะที่ทำความสะอาดร่างกายของนาง ในขณะที่ทำเช่นนั้น มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะแตะไปโดนบางส่วนของร่างกายนางโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งทำให้หัวใจเต้น

 

“ขอบคุณ” หญิงสาวผิวขาวยังคงรู้สึกอักอ่วน หลังจากที่รางกายของนางไม่เคยได้รับการทำความสะอาดโดยผู้ชายมาก่อน ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นผู้ชายเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น นางก็ยังคงรู้สึกอายมาก

 

โชคดีที่กระบวนการนี้เสร็จสิ้นค่อนข้างรวดเร็ว หญิงสาวได้ส่งความคิดของนางเข้าไปในแหวนมิติบนนิ้วของนางและเอาเสื้อผ้าของนางออกมา นางยังได้ค้นพบขวดยารักษาที่สามารถทำความสะอาดเส้นลมปราณของตนเองและรักษาบาดแผลกายเนื้อได้

 

หลังจากที่นางเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ผู้หญิงผิวขาวก็ได้เอาเม็ดยารักษาและเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บของนาง หลังจากนั้นสักครู่ กลิ่นอายของนางก็เริ่มดีขึ้น แม้ว่าจะเป็นทั้งหมด

 

นางได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป – ตอนแรกรากฐานของนางได้รับบาดเจ็บโดยนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ และจากนั้นเส้นลมปราณของนางก็ได้ฉีกขาดโดยพวกนักผจญภัย มันเป็นไปไม่ได้ที่นางฟื้นฟูได้สมบูรณ์ภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น เว้นแต่ว่านางจะได้รับสมุนไพรปาฏิหาริย์บางอย่าง

 

หลังจากนั้นชั่วครู่ หญิงสาวผิวขาวก็ขมวดคิ้วขณะที่นางถามเด็กที่อยู่ข้างๆนาง "เจ้าสามารถพาข้าไปที่ไหนสักแห่งที่ข้าสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้ไหม?"

 

เซี่ยวหยุนตอบกลับ “แน่นอน ควรมีถ้ำอยู่ใกล้ๆ ที่ซึ่งเราสามารถลี้ภัยจากองค์ประกอบต่างๆได้”

 

เซี่ยวหยุนส่งพลังวิญญาณของเขาออกไปและก็ได้ค้นพบภ้ำอย่างรวดเร็วมาก ถึงแม้ว่าหญิงสาวผิวขาวจะได้รับเม็ดยาแล้ว แต่การบาดเจ็บภายในของนางรุนแรงเกินไป ทุกครั้งที่นางขยับตัว นางจะรู้สึกราวกับว่าอวัยวะของนางจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เช่นนี้ นางจึงต้องพิงเซี่ยวหยุนไปตลอดทาง

 

ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้มาถึงถ้ำที่กว้างใหญ่ที่มีรูเล็กอยู่ที่เพดานถ้ำ ซึ่งมีแสงแดดลอดผ่านและส่องสว่างภายในถ้ำ สำหรับ 2 วันถัดไป หญิงสาวผิวขาวได้ใช้ความมานะทั้งหมดของนางในการฟื้นฟู เซี่ยวหยุนในทางกลับกันก็เริ่มก่อกองไฟขึ้นที่ทางเข้าของถ้ำ ซึ่งเป็นที่เขาย่างเนื้อของสัตว์อสูรอยู่

 

ตามเวลาที่เนื้อสัตว์อสูรถูกย่างจนเป็นสีน้ำตาลทองและกลิ่นของมันก็กระจายไปทั่ว เซี่ยวหยุนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าบางอย่างจากข้างหลังของเขา เซี่ยวหยุนเงยขึ้นและได้พบกับหญิงสาวผิวขาวที่เดินมาหาเขาอย่างช้าๆ

 

“อาการบาดเจ็บของเจ้าได้รับการรักษารึยัง?” เซี่ยวหยุนถามขณะที่เขายิ้ม

 

“ยังเลย” หญิงสาวผิวขาวพูดด้วยเสียงที่น่าเบิกบานใจของนาง มันฟังดูเหมือนมาจากส่วนลึกของหุบเขาและบางส่วนก็มืดสลัว ราวกับว่ามันเป็นเสียงที่ไม่ได้อยู่ในแดนมรรตัย ทุกคนที่ได้ยินมันจะไม่สามารถลืมเลือนมันได้ อย่างไรก็ตาม มันยังมีร่อยรอยของความกังวลภายในดวงตาของนาง

 

ถึงแม้ว่าเส้นลมปราณของนางจะหายเป็นปกติแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่ามันไม่ง่ายสำหรับนางที่จะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

 

“กินอะไรบางอย่างก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อที่เจ้าจะได้ไม่หิวเกินไป” เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขายิ้มและส่งมอบชิ้นเนื้อสีน้ำตาลทองไป

 

มองไปที่รอยยิ้มที่ชัดเจนและสดใสของเซี่ยวหยุน หญิงสาวผิวขาวจ้องมองชั่วครู่ ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่เกิดขึ้นภายในตัวนาง เมื่อนางตกอยู่ในปัญหา คนอื่นมักจะพยายามซ้ำเติมนางเมื่อนางล้มลง มีเพียงแค่เด็กหนุ่มคนนี้เท่านั้นที่ปฏิบัติกับนางอย่างอ่อนโยนและจริงใจ ความแตกต่างนี้ทำให้นางอ่อนไหวอย่างมาก

 

________________________________________

จากผู้แปลไทย

**[1] แดนมรรตัย โดยคำว่า มรรตัย แปลว่าผู้ที่ต้องตาย ได้แก่ พวกมนุษย์ และสัตว์ดิรัจฉาน ซึ่งรวมกับคำว่าแดน จะได้ความหมายว่าแดนของผู้ที่ต้องตายครับ

 

*** ถ้าหากใช้คำพวกนี้แล้วไม่โอเคนะครับจะใช้คำที่ง่ายกว่านี้ให้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด